ย้อนอ่านชีวิต "เจ๊ติ๋ม ทีวีพูล" เกือบพัง วิกฤตทีวีดิจิตอล ส่งผลกระทบต่อคนข่าว วอน กสทช. กำหนดค่าเยียวยา ก่อนคืนเงินชดเชย
ย้อนอ่านชีวิต "เจ๊ติ๋ม ทีวีพูล" เกือบพัง วิกฤตทีวีดิจิตอล ส่งผลกระทบต่อคนข่าว วอน กสทช. กำหนดค่าเยียวยา ก่อนคืนเงินชดเชย
ย้อนอ่านชีวิต "เจ๊ติ๋ม ทีวีพูล" ชีวิตเกือบพัง เจ๊ติ๋มทีวีพูลอายุ 55 ปี ฝ่าวิกฤตทีวีดิจิตอล ส่งผลกระทบต่อคนข่าว วอน กสทช. กำหนดค่าเยียวยา ก่อนคืนเงินชดเชย
News Update : คืนใบอนุญาตทีวีดิจิตอล จากกรณีที่ผู้ประกอบการทีวีดิจิตอลทั้ง 7 ช่อง ได้ยื่นหนังสือขอคืนใบอนุญาตต่อกสทช. ได้แก่ ช่อง 3 Family (ช่อง 13), MCOT Family (ช่อง 14), Spring News ( ช่อง 19 )
ไบร์ททีวี (ช่อง 20), Voice TV (ช่อง 21), Now สปริง 26 ( ช่อง 26) และ ช่อง 3 SD (ช่อง 28) นั้น
กองบรรณาธิการ medhubnews.com รายงานว่า วิกฤตทีวีดิจิตอล ในครั้งนี้ส่งผลกระทบต่อบุคลากรคนข่าวจำนวนมาก เนื่องจากแต่ละช่องมีนักข่าว ช่างภาพ โปรดิวเซอร์ บรรณาธิการข่าว ตลอดจนผู้ช่วยช่างภาพที่ต้องตกงานเป็นจำนวนสองพันคน
เหตุการณ์ครั้งนี้ ถือเป็น วิกฤตทีวีดิจิตอล ครั้งที่สอง หลังจากเมื่อปี 2558 บริษัท ไทยทีวี จำกัด เลิกกิจการ จนเกิดการฟ้องร้อง ซึ่งต่อมาชนะคดี กสทช.
ที่ขอให้ศาลมีคำสั่งให้การประมูลคลื่นความถี่เพื่อให้บริการโทรทัศน์ในระบบดิจิตัลของบริษัท ไทยทีวี เป็นโมฆะทั้งหมด
กองบรรณาธิการ medhubnews.com และ เพจ sasook รายงานว่า วันนั้นจนถึงวันนี้ 5 ปี ยังจำได้ดี เพราะวิกฤตทีวีดิจิตอลในครั้งนั้นได้สร้างบาดแผลให้คนข่าว บางคนถึงกับต้องเปลี่ยนอาชีพเลยทีเดียว
โดยมีผู้สื่อข่าวของ medhubnews.com ก็โดนพิษทีวีดิจิตอลเล่นงานด้วยเหมือนกัน ทั้งๆ ที่หลายคนกำลังจะเริ่มต้นชีวิตในฐานะผู้สื่อข่าวภาคสนามที่รายงานสดนอกสถานที่
ช่วงนั้น “พันธุ์ทิพา ศกุนต์ไชย” หรือที่รู้จักกันดีในนามของ “ติ๋ม ทีวี พูล” ซึ่ง เจ๊ติ๋มทีวีพูลอายุ 55 ปี ได้เปิดคอร์สอบรมนักข่าวให้สามารถเปิดหน้ารายงานข่าวเข้ามาสถานี ซึ่งทำให้นักข่าวหลายคนมีความหวัง
แต่ความหวังในครั้งนั้นทำให้หลายๆ คนต้องไปยึดอาชีพใหม่ บางคนได้อ่านข่าวในสตูดิโอเพียงสองอาทิตย์ก็ต้องหางานใหม่ ขณะที่เพื่อนสื่อด้วยกันเลือกสถานีที่มีเงินทุนหนา ปัจจุบันได้นั่งแท่นอ่านข่าวหน้าจอแล้ว เป็นการพลิกชีวิตเลยทีเดียว
อย่างไรก็ตาม หากมองกันอย่างเป็นธรรมจริงๆ “ติ๋ม ทีวี พูล” ไม่ได้บริหารงานผิดพลาดเลยแม้แต่น้อย แถมยังเป็นผู้นำก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้อีก
“ติ๋ม ทีวี พูล” ก็ต้องบอกว่า ชีวิตเกือบพัง เป็นการพลิกชีวิตของเจ้าแม่สื่อบันเทิง เพราะหาก “ติ๋ม ทีวีพูล” ไม่ประมูลช่องทีวีดิจิตอลสองช่อง ธุรกิจต่างๆ สามารถพัฒนาไปได้อย่างดี
พูดกันตรงๆ คือ ปัญหาที่เกิดขึ้นมาจาก กสทช. “เราไม่ใช่คนที่อ่อนแอ หรือไม่มีสายป่าน ขาดทุนแล้วจึงเลิก เราเป็นคนเก่ง เป็นคนมีความสามารถ เพียงแต่สิ่งที่ กสทช.ทำไม่ได้เอื้อ และเป็นอุปสรรคจนทำให้เกิดความเสียหาย
ทำธุรกิจเกือบ 40 ปีไม่เคยขาดทุนแม้แต่บาทเดียว ทำไมเราจึงจะมาโง่วันนี้ กลายเป็นคนมองธุรกิจไม่เป็น อ่อนแอ เป็นเรื่องที่กระทบภาพลักษณ์มาก
ตอนนี้ช่องอื่นๆ ก็ลำบากหมด บางคนครอบครัวแตกแยก ถึงขนาดเกือบฆ่าตัวตาย ล้วนเกิดจากการกระทำของ กสทช.ทั้งสิ้น”
ข้อความข้างต้น คือคำสัมภาษณ์ของหญิงเหล็กแห่งวงการสื่อบันเทิง ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นผู้ทรงอิทธิพลอย่างยิ่ง ในวงการบันเทิง
ช่วงที่ “ติ๋ม ทีวีพูล” ประสบปัญหา เจ้าตัวได้พบเพื่อนแท้ เพื่อนเทียมมากมาย จากที่ทุกๆ วัน ดารา ผู้จัดละคร รายการ จะต้องหิ้วกระเป๋าราคาแพงๆ มาฝาก หรือ มาไหว้ก่อนเข้าวงการบันเทิง ....สิ่งเหล่านี้ “ติ๋ม ทีวีพูล” บอกว่าทำให้เรียนรู้ “จิตใจมนุษย์”
ชีวิตเกือบพัง จากวิกฤตทีวีดิจิตอล ทำให้พลิกชีวิตของเจ้าแม่สื่อบันเทิง “ติ๋ม ทีวีพูล” ในวันนี้ ไม่ออกงานสังคม ไม่แต่งตัวเหมือนสมัยก่อน
แต่พี่ติ๋มจะใส่ชุดขาว เป็นลูกไม้ เน้นขาวทุกวัน เตรียมถ่ายทอดธุรกิจพันล้าน ที่ล้วนเกิดจากการบริหารด้วยความสามารถ ให้ลูกๆ
โดยพี่ติ๋ม จะเดินสายพูดเรื่องธรรมะ เพื่อสอนการใช้ชีวิตให้มีความสุข ไร้ความทุกข์ ช่วยเหลือผู้ประสบปัญหา ให้ทุนการศึกษาเยาวชน และส่งเสริมด้านศิลปวัฒนธรรม
คนวงนอกส่วนใหญ่ยังไม่มีคนรู้ว่า “ติ๋ม ทีวีพูล” สร้างคุ้มเตวะดา จ.ลำปาง เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ไว้สอน เรื่องธรรมะ
คืนใบอนุญาตทีวีดิจิตอล
นั่นหมายถึง “ติ๋ม ทีวีพูล” จะเดินสายพูดเรื่องธรรมะ เข้าใจธรรมชาติ ธรรมดาของชีวิต เพราะธรรมชาติของชีวิต..คือ..ชีวิตธรรมดา
แต่ชีวิตธรรมดาของบุคลากรคนข่าวสองพันกว่าคน กสทช.ต้องใช้วิธีเยียวยาที่ฉลาด โดยกำหนดกฏเกณฑ์เรื่องเงินชดเชย เพราะตอนนี้เงินยังอยู่ที่ กสทช.หากเงินชดเชยหลายพันล้านบาทไปอยู่ในมือนักธุรกิจแล้ว
ชีวิตของ บุคลากรคนข่าวพันกว่าคน คงไม่ได้รับความเป็นธรรมแน่นอน !
เว็บไซต์ข่าวสุขภาพ สาธารณสุข การท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพ วาไรตี้ ฯลฯ
Thailand Health and Wellness News
07 กุมภาพันธ์ 2565
ผู้ชม 6467 ครั้ง