นี่ขนาดเชื้อเจ้านะ คุณหญิงแมงมุม หม่อมราชวงศ์ศรีคำรุ้ง แฉ โรงพยาบาล เเถวถนนเพชรบุรี เอาเปรียบคนไข้ แพทยสภาจัดการด่วน
นี่ขนาดเชื้อเจ้านะ คุณหญิงแมงมุม หม่อมราชวงศ์ศรีคำรุ้ง แฉ โรงพยาบาล เเถวถนนเพชรบุรี เอาเปรียบคนไข้ แพทยสภาจัดการด่วน
News Update วันจันทร์ที่ 27 มกราคม 2563 : ก่อนหน้านี้ ได้นำเสนอข่าว คุณหญิงแมงมุม หม่อมราชวงศ์ศรีคำรุ้ง ยุคล ลูกสาวของ หม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคล ซึ่งหม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม เป็นพระโอรสในพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอนุสรมงคลการ
คุณหญิงแมงมุม หม่อมราชวงศ์ศรีคำรุ้ง ป่วยด้วยโรคหลอดเลือดในสมองตีบ (stroke) เนื่องจากออกซิเจนไม่ไปเลี้ยงสมอง ซึ่งมีอาการปวดหัวข้างขวาอย่างรุนแรงคล้ายกับไมเกรน
แถมยังมีโรคประจำตัวคือ โรค SLE (Lupus) ทำให้การรักษาโดยรวมเป็นไปอย่างยากลำบาก
ล่าสุด เว็บไซต์ medhubnews.com ข่าวสังคม สุขภาพ สาธารณสุข ท่องเที่ยว วาไรตี้ และ เพจ sasook รายงานว่า คุณหญิงแมงมุม ถึงกับอดรนทนไม่ไหว
ออกมาแฉโรงพยาบาลชื่อดัง ทั้งเรื่องของการเอาเปรียบคนไข้ เลี้ยงไข้มานาน อยู่มา 2 ปี ให้แต่ยาแก้ปวด ไม่ยอมหาสาเหตุหรือพยายามรักษา ค่าใช้จ่าย 15 วัน 1 ล้านบาท
แม้แต่แก้วยาพลาสติกเล็ก ๆ ก็ยังคิดเงิน แถมเจ้าหน้าที่ทำงานแบบไม่ใส่ถุงมือ ไม่ใส่ใจเรื่องการติดเชื้อ โกหกคนไข้ประจำ หมอพูดเหมือนเดิมทุกวันเหมือนหุ่นยนต์
ที่สำคัญคือมีการใช้ยาที่สกัดจากฝิ่นในการรักษาตนแบบเกินขนาดและติดต่อกันนาน ซึ่งหมอไม่บอกคนไข้แม้แต่น้อย แถมพอให้เลิกยาไม่สำเร็จ กลับมาโยนความผิดให้คนไข้ว่าไม่ให้ความร่วมมือ
โดยคุณหญิงแมงมุมได้เล่ารายเอียดเต็ม ๆ ดังนี้... จะเอาเปรียบคนไข้ไปถึงไหน แก้วใส่ยาพลาสติกเล็กยังคิด 5 บาท ห้ามใช้ซ้ำด้วย อยู่มา 2 ปี ให้แต่ยาแก้ปวดแต่ไม่คิดที่จะรักษาหรือหาเหตุผล เลี้ยงไข้ไปเรื่อยๆ 15 วันล้านนึง
เป็นเเค่ค่าห้องกับค่ายาเเก้ปวดพยาบาลก็ไม่ใส่ถุงมือจ๊ะ เรื่องติดเชื้อคือไม่สนเลย ห้องอาบนำ้ก็มีแต่น้ำเย็น นี่ขนาดเป็นตึกใหม่นะ ต้องไปใช้ห้องของพยาบาลซึ่งเล็กเท่าตู้ไม้กวาด เรื่องโกหกนี่ประจำเลย พูดอย่าง ทำอีกอย่าง ตกลงกันเเล้วว่าจะมีเเพทย์ดูเเล มีเวรเช้า-เย็น พอถึงเวลาจริง เวลาวิกฤติไม่เคยตามได้ ติดเคสบ้างล่ะ ไม่สะดวกพูดบ้างล่ะ สรุปคนไข้ปวดทรมาณไป ความดันพุ่ง 170 -180
ช่างมันป่วยนิดหน่อยก็ส่งขึ้น icu อ้างเพื่อความปลอดภัย รวยไม่พออีกหรอ เราเป็นคนไข้ ไม่มีปากไม่มีเสียงก็ต้องทำตามที่รพ.บอก เคยหาเส้น iv โดนไป 25 ครั้ง เข็มปักคาคอ สุดท้ายก็ไม่ได้เส้น นี่ขนาดหมอวิสัญญีนะ ถ้ารู้ว่าคนไข้ไม่มีเส้นก็ควรหาทางเลือกอื่นมาให้มั้ย คนไข้ก็ได้แต่นอนตามยถากรรมเพราะรอให้ยา ก็ทนไปสิ สุดท้ายโดนแทงฟรี ยาก็ไม่ได้ แล้วยังต้องเจ็บตัวอีก อันนี้เล่าขำๆนะ
หมอกายภาพคนนึงมาทุกวัน พูดเหมือนเดิมทุกวันเหมือน robot แต่เขามาแต่ละทีก็ได้เงินไง เลยมาทุกคืนเลย ที่สำคัญที่สุดคือสาเหตุใหญ่ของการล้มป่วยคือการใช้ยาที่สกัดมาจากฝิ่นจนเกินขนาดเเละเป็นเวลายาวนาน
โดยเเพทย์ที่สั่งใช้ไม่คำนึงถึงผลเสียที่จะเกิดขึ้น เเละไม่บอกคนไข้เเม้เเต่น้อยถึงความเสี่ยงต่อการติดยาหรือโรคที่จะตามมา ในกรณีนี้ได้เเก่โรค medication over-use headache หรือการปวดหัวเเบบเรื้อรังที่มีสาเหตุมาจากการใช้ยาเกินขนาด ทำกับคนไข้ขนาดนี้เเต่ไม่เคยเเสดงความรับผิดชอบใดๆทั้งสิ้น
พอต้องเลิกยาเเพทย์ที่นี่ก็ทำไม่สำเร็จ กว่าจะผ่านกระบวนการเลิกยาทั้งหมดได้ก็เเทบเอาตัวไม่รอด สุดท้ายกลับมาสั่งยาตัวเดิมให้ เลยกลับไปติดอีก ต้องกระเสือกกระสนไปพึ่งรพ. จุฬาฯ จนเลิกได้เด็ดขาด ทำคนไข้ป่วยไม่พอ ยังมาเอาเปรียบกันอีก
พอรักษาไม่ได้ โยนความผิดให้กับคนไข้ว่าไม่ให้ความร่วมมือบ้างล่ะ ไม่ปฏิบัติตามกฏระเบียบของรพ. บ้างล่ะ โกหกสิ้นดี ถามว่าคนไข้สั่งยาเองได้ไหม ทุกอย่างถ้าหมอไม่สั่งคนไข้จะทำได้อย่างไร เวรกรรม นอกจากไม่มีจรรยาบรรณแล้วยังหน้าด้านอีก
ขอแนะนำว่าอย่าไปเลยรพ.นี้ถ้ามีทางเลือก นี่โง่ไปหลายปี พอไปรพ.ใหม่เห็นความแตกต่างอย่างสิ้นเชิง พยาบาลทุกคนล้าง alcohol เเละใส่ถุงมือทุกครั้งที่ทำหัตถการ หมอมีการวางแผนให้คนไข้ มีเมตตาธรรม มีจรรยาบรรณไม่เหมือนรพ.เก่า ดีใจมากที่ได้ย้ายมา
อุ้ย ลืมบอก รพ. นี้อยู่เเถวถนนเพชรบุรีจ๊ะ
ที่สำคัญที่สุดคือสาเหตุใหญ่ของการล้มป่วยคือการใช้ยาที่สกัดมาจากฝิ่นจนเกินขนาดเเละเป็นเวลายาวนาน โดยเเพทย์ที่สั่งใช้ไม่คำนึงถึงผลเสียที่จะเกิดขึ้น เเละไม่บอกคนไข้เเม้เเต่น้อยถึงความเสี่ยงต่อการติดยาหรือโรคที่จะตามมา
ในกรณีนี้ได้เเก่โรค medication over-use headache หรือการปวดหัวเเบบเรื้อรังที่มีสาเหตุมาจากการใช้ยาเกินขนาด ทำกับคนไข้ขนาดนี้เเต่ไม่เคยเเสดงความรับผิดชอบใดๆทั้งสิ้น พอต้องเลิกยาเเพทย์ที่นี่ก็ทำไม่สำเร็จ กว่าจะผ่านกระบวนการเลิกยาทั้งหมดได้ก็เเทบเอาตัวไม่รอด
สุดท้ายกลับมาสั่งยาตัวเดิมให้ เลยกลับไปติดอีก ต้องกระเสือกกระสนไปพึ่งรพ. จุฬาฯ จนเลิกได้เด็ดขาด ทำคนไข้ป่วยไม่พอ ยังมาเอาเปรียบกันอีก พอรักษาไม่ได้ โยนความผิดให้กับคนไข้ว่าไม่ให้ความร่วมมือบ้างล่ะ ไม่ปฏิบัติตามกฏระเบียบของรพ. บ้างล่ะ โกหกสิ้นดี ถามว่าคนไข้สั่งยาเองได้ไหม ทุกอย่างถ้าหมอไม่สั่งคนไข้จะทำได้อย่างไร เวรกรรม นอกจากไม่มีจรรยาบรรณแล้วยังหน้าด้านอีก
ขอแนะนำว่าอย่าไปเลยรพ.นี้ถ้ามีทางเลือก นี่โง่ไปหลายปี พอไปรพ.ใหม่เห็นความแตกต่างอย่างสิ้นเชิง พยาบาลทุกคนล้าง alcohol เเละใส่ถุงมือทุกครั้งที่ทำหัตถการ หมอมีการวางแผนให้คนไข้ มีเมตตาธรรม มีจรรยาบรรณไม่เหมือนรพ.เก่า ดีใจมากที่ได้ย้ายมา
ทั้งนี้ คุณหญิงแมงมุม ระบุด้วยว่า ในมุมมองของสามี มีดังนี้ บังอาจนัดเราไปบอกว่าขอปฏิเสธการรักษา ทั้งๆที่เราพาภรรยาย้ายหนีออกมาเป็นเวลาได้ 9 วันเเล้ว เพราะทนต่อความเสื่อมโทรมล้มเหลวของระบบ เเละเเนวทางการรักษาของโรงพยาบาลนี้ไม่ได้
เราก็พาซื่อนึกว่าจะขอนัดพื่อหารือหาเเนวทางเพื่อจะปรับปรุงการรักษาเเละการบริหารจัดการ ที่ไหนได้ นัดเราเพื่อจะมาบอกว่าโรงพยาบาลนี้ไม่ต้องการรักษาภรรยาของเราเเล้ว
อ้างเหตุผลว่ารักษามา 2 ปีไม่สำเร็จ เพราะ 1. คนไข้ไม่ให้ความร่วมมือกับหมอในเรื่องเเนวทางการรักษา 2. คนไข้ไม่ปฏิบัติตามกฏระเบียบของโรงพยาบาล
ซึ่งทั้ง 2 ข้อนี้เป็นการโกหกมดเท็จอย่างไร้ยางอาย ข้อที่ 1. ถามว่าคนไข้ที่ป่วยปางตายจะไม่ให้ความร่วมมือกับหมอได้อย่างไรเเละเพื่ออะไร
ไม่เคยมีเหตุการณ์ใดเกิดขึ้นเเม้เเต่ครั้งเดียวที่คนไข้ขัดขืนดื้อดึงต่อคำเเนะนำของเเพทย์หลังจากที่ได้พูดจาหารือกันจนได้ข้อตกลงเเล้วทุกครั้ง ข้อที่ 2. คนไข้จะไม่ปฏิบัติตามกฏของโรงพยาบาลได้อย่างไร
ถ้าจะฝ่าฝืนจะเอาเรี่ยวเเรงที่ไหนมาทำ หรือถ้าเป็นความจริง ทำไมเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลไม่ห้ามปราม เรื่องของเรื่องคือ การโกหกเพื่อนำมาอ้างปัดความรับผิดชอบเท่านั้นเอง
ทั้งๆที่ตลอดเวลาที่ผ่านมา ถึงเเม้จะรู้ว่าการรักษาที่นี่มันห่วย เเละโรคที่เป็นอยู่ก็เกิดมาจากการใช้ยาที่เกินขนาดของหมอที่นี่ เเต่ก็ไม่เคยคิดที่จะโทษหรือคิดที่จะฟ้องร้องกับโรงพยาบาล เพราะเห็นว่าหมอส่วนใหญ่ที่ร่วมให้การรักษามีเจตนาดีถึงเเม้จะใช้วิธีการที่ไม่ถูกต้องมาตั้งเเต่เเรก
เเละด้วยความสัมพันธ์ส่วนตัวที่มีกันมาเเต่ก่อน การเรียกเรามาประชุมเพื่อเเจ้งปฏิเสธการรักษาให้กับภรรยาของเรานอกจากจะเป็นการกระทำที่ถ่อยเเละหน้าด้านเเล้ว ยังผิดกฏหมายอีกด้วย ดัจริตทำมาเป็นลายลักษณ์อักษร คงให้ทนายร่างมา กันโดนฟ้อง มีเเถมติ่งท้ายด้วยว่า จะยอมให้การรักษาต่อเมื่อในกรณีเป็นอันตรายถึงชีวิต
เราตอบทันที่ว่าปฏิเสธมา เรารับฟังได้ เราย้ายหนีไปก่อนอยู่เเล้วเพราะขืนปล่อยไว้ต่อไป คงตายเเน่ เเละเราก็มีศักดิ์ศรี ถึงเเม้จะเป็นประชาชนตัวเล็กๆ
ไม่ใช่มหาเศรษฐีผู้มากบารมี เเต่ถ้าถูกรังเเกถูกกระทำก็จะต้องมีการตอบโต้อย่างเหมาะสม ดังนั้นเราบอกว่าเรารับฟังได้ เเต่เราไม่ยอมรับในเนื้อหาทั้งหมดของหนังสือฉบับนี้ เพราะเป็นความเท็จทั้งสิ้น
มาถึงตอนนี้ ก็ไม่จำเป็นต้องเกรงใจกันอีกต่อไป จึงต้องเอาความจริงมาพูด เพื่อไม่ให้เพื่อนฝูงที่อาจจะใช้บริการทางการเเพทย์ที่นี่ต้องมาเจอสภาพเดียวกับเรา
04 กุมภาพันธ์ 2563
ผู้ชม 5041 ครั้ง