เว็บไซต์สุขภาพ สาธารณสุข แนะ 5 สัญญาณที่บอกว่า คุณเริ่มเป็น ออฟฟิศซินโดรม Office Syndrome กลุ่มอาการปวดกล้ามเนื้อ
เว็บไซต์สุขภาพ สาธารณสุข แนะ 5 สัญญาณที่บอกว่า คุณเริ่มเป็น ออฟฟิศซินโดรม Office Syndrome กลุ่มอาการปวดกล้ามเนื้อ
เว็บไซต์สุขภาพ สาธารณสุข แนะ 5 สัญญาณที่บอกว่า คุณเริ่มเป็น ออฟฟิศซินโดรม Office Syndrome กลุ่มอาการปวดกล้ามเนื้อ
30 กันยายน 2564
Last updated: Sep 30, 2021 at 21:39 hrs, News Update - ข่าว 30 กันยายน 2564 ออฟฟิศซินโดรม (Office Syndrome) หรือกลุ่มอาการปวดกล้ามเนื้อและเยื่อพังผืดเป็นโรคที่มีรูปแบบการทำงานที่ใช้มัดกล้ามเนื้อมัดเดิมซ้ำ ๆ เป็นเวลาต่อเนื่องกัน
ทั้งยังเป็นโรคยอดฮิตที่มาพร้อมกับมนุษย์เงินเดือนอย่างพวกเราซึ่งดูเป็นเรื่องใกล้ตัวที่น่ารำคาญใจไม่น้อยเลยใช่ไหมคะ? นั่งทำงานอยู่วันดีคืนดีอาการปวดคอ บ่า ไหล่ หลังก็ถาโถมเข้ามาซะอย่างนั้นสาเหตุที่เห็นได้ชัด
เป็นเพราะพฤติกรรมในการทำงาน สภาพแวดล้อม อิริยาบถในการทำงานที่ถูกทำซ้ำกันเป็นเวลานานอย่างการนั่งหลังค่อมหน้าจอคอม ความเครียดสะสม
หรือแม้แต่การก้มหน้าเล่นมือถือนานก็มีส่วนทำให้เกิดโรคนี้ได้เช่นกัน เว็บไซต์ medhubnews.com ข่าวสังคม สุขภาพ ท่องเที่ยว วาไรตี้ และ เพจ sasook ทวิตเตอร์ @medhub_news รายงานว่า เราสามารถเริ่มสังเกตพฤติกรรมการใช้ชีวิตของตนเองได้ว่าเข้าข่ายหรือไม่ วันนี้เราจึงมีห้าสัญญาณแรกเริ่มมาให้ลองเช็คกันค่ะ
เริ่มมีอาการปวดหัวบ่อย ๆ
หากรู้สึกว่าพักนี้อาการปวดหัวมีมาไม่พักและมีปวดแบบไมเกรนร่วมด้วยลากยาวจนกลายเป็นปวดหัวเรื้อรังแล้วล่ะก็สันนิษฐานก่อนได้เลยว่าเข้าข่าย
เพราะอาการเหล่านี้ส่วนใหญ่มีผลพวงมาจากความเครียดในการทำงานหรือมีการใช้สายตาเป็นเวลานานเกินไปอย่างลักษณะงานที่ต้องใช้ตาจ้องจอคอมตั้งแต่เช้ามืดจนถึงเที่ยงคืนอยู่ในที่ที่แสงสว่างไม่เพียงพอ
หรือประชุมลากยาวไปห้าชั่วโมงแล้วออกมาคิดงานต่อจนทำให้เกิดอาการเครียดสะสมไปเรื่อย ๆ พฤติกรรมเหล่านี้ส่งผลโดยตรงต่อสุขภาพทั้งนั้น
ปวดตึง คอ บ่า ไหล่เป็นระยะเวลานาน
ถ้าคุณยกมือรัวกับการเป็นชาวออฟฟิศที่ต้องนั่งจ้องหน้าจอคอมมากกว่า 8 ชั่วโมงขึ้นไปแล้วละก็ ใช่เลยค่ะมัดกล้ามเนื้อบริเวณคอ บ่า ไหล่ของคุณคงเส้นยึดไปตาม ๆ กัน
บางทีปวดจนถึงขั้นหันคอลำบากจนกลายเป็นปวดแบบเรื้อรังไปแล้ว ความรู้สึกเหมือนเส้นยึดแข็งเป็นพังผืดบริเวณที่ปวด เวลานอนก็รู้สึกหงุดหงิดรำคาญใจ
เพราะอาการปวดมันเริ่มรบกวนกิจกรรมการใช้ชีวิตของคุณให้คิดไว้เลยว่าเป็นสัญญาณเตือนชั้นดีที่คุณต้องเริ่มปรับพฤติกรรมการทำงานใหม่แล้วละค่ะ
อาการปวดหลัง
อาการคลาสสิคของโรคออฟฟิศซินโดรมอย่างอาการปวดหลังที่ลุกก็ร้องโอย เงยก็ร้องโอย เรียกได้ว่าสาเหตุหลักที่เราก็รู้กันดีว่าเกิดจากการนั่งหรือยืนเป็นเวลานาน
โดยไม่มีการขยับปรับอิริยาบถให้เหมาะสมกับตำแหน่งของระดับร่างกายให้สอดคล้องกับอุปกรณ์นั่งโต๊ะ ระดับสายตาต่อจอคอม
ระดับเก้าอีกที่นั่งกับโต๊ะทำงาน ตำแหน่งของระยะการวางแขนกับมือที่ต้องใช้พิมพ์แป้นคีย์บอร์ดตลอดเวลา แม้กระทั่งสาว ๆ ที่ใส่ส้นสูงแล้วลักษณะงานต้องยืนตลอดเวลาอาการปวดหลังเรื้อรังถามหาอย่างแน่นอนค่ะ
ปวดแขน มือชา นิ้วล็อค
สาเหตุอีกหนึ่งอย่างของอาการออฟฟิศซินโดรมซึ่งเกิดจากการอักเสบของปลอกหุ้มเอ็นข้อมือและเอ็นนิ้วมือเป็นเหตุมาจากการใช้นิ้วพิมพ์คอมพิวเตอร์และจับเมาส์ในท่าเดิมเป็นเวลานาน
นั่งเขียนงานแบบไม่พัก ยกแบบจัดทำเอกสารที่ต้องใช้กล้ามเนื้อบริเวณนั้นแล้วทำให้เส้นประสาทบริเวณนั้นเกิดเป็นพังผืดแล้วเกิดอาการนิ้วล็อค มือและแขนชา
บางรายมีการปวดปลายประสาทร่วมด้วย บางรายมีอาการปวดร้าวลงขา ซึ่งอาการเหล่านี้เป็นหนึ่งในสาเหตุที่จะทำให้เรากลายเป็นโรคนี้แบบเรื้อรังด้วยเช่นกัน
ปวดตึงขาหรือเหน็บชา
ความรู้สึกขาไม่มีเรี่ยวแรงบางทีก็มีอาการเหน็บชา ปวดตึงที่ขาแล้วละก็คุณไม่ได้คิดไปเองอย่างแน่นอนเพราะมันคืออีกหนึ่งในอาการของคนเป็นออฟฟิศซินโดรม เกิดจากการที่นั่งท่าเดิมแล้วทำให้เส้นเลือดดำถูกกดทับและส่งผลให้เลือดไหลเวียนผิดปกติบางรายเกิดการชาลามไปถึงเท้าแทบลุกเดินไม่ไหว
ต้องให้คนช่วยพยุงหรือต้องนั่งพักใหญ่เพื่อให้เส้นเลือดคลาย อาการเหล่านี้เกิดจากพฤติกรรมของร่างกายที่ถูกใช้ในท่าเดิมซ้ำกันนาน ๆ แล้วไม่ได้มีการผ่อนคลายรวมถึงสาว ๆ ที่ชอบนั่งไขว่ห้างเวลาทำงานนาน ๆ ด้วยเช่นกันโดยไม่ได้ลุกออกไปยืดเส้นยืดสายเลยก็ทำให้เกิดอาการเหล่านี้ได้ด้วย
สาเหตุหลักที่เราได้พบเจอล้วนเป็นผลพวงมาจากพฤติกรรมการทำงานของเราทั้งนั้น วิธีการหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดขึ้นง่ายนิดเดียวเพียงแค่หมั่นปรับเปลี่ยนอิริยาบถของคุณบ้าง
หาเวลาสั้น ๆ ในการออกมาผ่อนคลายอย่างเล่นเกมส์ออนไลน์ เว็บ เครดิดฟรี ยืนยันเบอร์ล่าสุดหรือระหว่างการทำงานก็ควรออกมายืดเส้นยืดสาย
หากมีเวลาก็ออกกำลังกายแนวยืดเส้นและยืดมัดกล้ามเนื้ออย่างโยคะหรือพิลาทิสก็เป็นการช่วยให้ร่างกายได้ผ่อนกล้ามเนื้อมัดเล็ก ๆ มีการใช้งานทำให้ไม่ยึดตึงเป็นพังผืด
หากรู้สึกว่าปวดมากจนทำให้กระทบกับการใช้ชีวิตประจำวันควรรีบไปพบแพทย์เพื่อหาวิธีรักษาซึ่งเดี๋ยวนี้การรักษาไม่ได้มีเพียงแค่แพทย์แผนปัจจุบันอย่างเดียวยังมีทั้งแบบแพทย์แผนไทย แพทย์แผนจีน แพทย์แผนไทยประยุคที่ใช้ศาสตร์การนวดแผนโบราณมาร่วมด้วย
หากชอบวิธีการรักษาแบบไหนแนะนำให้ลองเข้าไปปรึกษาเพื่อหาวิธีการรักษาได้อย่างตรงจุดเพราะสุขภาพเป็นสิ่งสำคัญสำหรับเราที่ต้องดูแลรักษาให้ปลอดภัยและแข็งแรง
หากวันไหนที่ต้องลาออกจากงานบริษัทยังหาคนมาแทนคุณได้แต่ถ้าอวัยวะส่วนหนึ่งของเราหายไปอาจจะไม่สามารถหาอะไหล่มาแทนให้เหมือนเดิมได้อีก !
24 ตุลาคม 2564
ผู้ชม 960 ครั้ง