วิกฤติปัญหาฆ่าตัวตายทั่วโลก ! ชี้ "นักข่าวตัวดี" เจาะลึกรายงานเกินความเหมาะสม
วิกฤติปัญหาฆ่าตัวตายทั่วโลก ! ชี้ "นักข่าวตัวดี" เจาะลึกรายงานเกินความเหมาะสม
กรณีเกิดเหตุสามีภรรยาทะเลาะวิวาทบริเวณหน้าโรงเรียนแห่งหนึ่งที่ย่านถนนนนทบุรี 1 อ.เมือง จ.นนทบุรี ระหว่างมาส่งลูกทั้ง 2 คนเข้าโรงเรียน โดยพ่อยิงแม่บาดเจ็บอาการสาหัส และยิงตัวเองเสียชีวิตต่อหน้าลูกชายทั้ง 2 คน อายุ 6 ขวบและ 9 ขวบ เหตุเกิดเมื่อ 25 ธันวาคม 2560 ) นั้น
กองบรรณาธิการ ข่าวเว็บไซต์สุขภาพ medhubnews.com รายงานว่า ความคืบหน้าในเรื่องดังกล่าว วันนี้ ( 26 ธันวาคม 2560 ) นาวาอากาศตรีนายแพทย์บุญเรือง ไตรเรืองวรวัฒน์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต ให้สัมภาษณ์ว่า ในระยะเร่งด่วนกรมสุขภาพจิตได้ส่งจิตแพทย์ นักจิตวิทยา พยาบาลจิตเวช นักสังคมสงเคราะห์ จากโรงพยาบาลศรีธัญญา สถาบันสุขภาพจิตเด็กและวัยรุ่นราชนครินทร์ ศูนย์สุขภาพจิตที่ 4 ลงเยียวยาจิตใจเด็กทั้ง 2 คน
รวมทั้งแม่ที่อยู่ระหว่างพักรักษาตัวที่รพ.เกษมราษฎร์ ร่วมกับทีมสุขภาพจิตเอ็มแคทของสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนนทบุรีแล้ว ซึ่งมีการประสานการดูแลร่วมระหว่างครูประจำชั้นของโรงเรียนอย่างใกล้ชิด
เพื่อปฐมพยาบาลบาดแผลทางใจของเด็กทั้ง 2 คน ป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาบาดแผลทางจิตใจหรือโรคเครียดสะเทือนขวัญ ซึ่งอาจมีผลกระทบต่อพัฒนาพัฒนาการทางสมอง บุคลิกภาพ อารมณ์ การปรับตัว ขาดสมาธิในการเรียนของเด็ก พร้อมทั้งให้การดูแลครอบครัวทั้งฝ่ายบิดาและฝ่ายมารดาของเด็กด้วย
โดยทีมจะวางแผนดูแลในระยะยาวร่วมกับโรงเรียนอย่างเป็นระบบในวันที่ 28 ธันวาคม 2560 นี้ ซึ่งจะประเมินผลกระทบทางจิตใจทั้งนักเรียน ครู และกลุ่มผู้ปกครองด้วย
ด้าน แพทย์หญิงมธุรดา สุวรรณโพธิ์ ผู้อำนวยการสถาบันสุขภาพจิตเด็กและวัยรุ่นราชนครินทร์ กทม. กล่าวว่า เหตุที่เกิดขึ้นมีผลกระทบต่อสภาวะจิตใจของเด็กทั้ง 2 คน เนื่องจากอยู่ในเหตุการณ์ และสูญเสียบิดา ซึ่งเด็กทั้ง 2 คนอยู่ในช่วงวัยที่มีพัฒนาการเต็ม สามารถรับรู้เหตุการณ์ได้ทั้งการเสียชีวิตและความรุนแรงในครอบครัว
ประเด็นที่จิตแพทย์จะเน้นหนักคือการป้องกันผลกระทบรุนแรงทางจิตใจหลังเกิดเหตุการณ์สะเทือนขวัญโดยตรงที่พบบ่อย 2 เรื่องคือ 1. โรคเครียดเฉียบพลันหรือโรคเอเอสดี ( Acute Stress Disorder :ASD )
อาการโรคนี้มีตั้งแต่ ช็อก ตกใจ หวาดผวา มีนงง สับสน ภาพเหตุการณ์ผุดขึ้นมาซ้ำๆในใจ ฝันร้าย นอนไม่หลับ กระวนกระวาย ซึมเศร้า เด็กอาจรู้สึกผิด รู้สึกว่าตนเองเป็นสาเหตุให้แม่บาดเจ็บหรือไม่สามารถช่วยเหลือพ่อหรือแม่ได้ เด็กจะต้องได้รับการดูแลเยียวยาอย่างเร่งด่วนและใกล้ชิดจากทุกฝ่ายทั้งครู จิตแพทย์ และครอบครัว เพื่อคลี่คลายอาการเครียดให้เด็ก เกิดความรู้สึกอบอุ่น มั่นใจ และค่อยๆปรับตัวยอมรับกับสภาพเป็นจริงในปัจจุบันได้ ซึ่งทีมจิตแพทย์จะติดตามเป็นเวลา 1 เดือน โดยอาการจะค่อยๆดีขึ้น การดูแลในช่วงนี้จะเน้นให้เด็กได้ใช้ชีวิตตามปกติที่สุด คือไปโรงเรียน เล่นกับเพื่อนๆ ไม่ต้องให้หยุดเรียน
สำหรับโรคที่ 2 คือโรคเครียดภายหลังเหตุการณ์สะเทือนขวัญหรือโรคพีทีเอสดี(Post-Traumatic Stress Disorder : PTSD) ซึ่งโรคนี้มีความรุนแรงเรื้อรัง
มักเกิดภายหลังเหตุการณ์ผ่านไปแล้ว 3-6 เดือน ซึ่งเด็กทั้ง2 คนนี้จัดว่ามีความเสี่ยงเกิดโรคนี้เพราะอยู่ในเหตุการณ์ โรคนี้มีลักษณะอาการสำคัญอย่างใดอย่างหนึ่งใน 3 อย่างนี้ คือ 1.นึกถึงเหตุการณ์เก่าๆ 2. ไม่ยอมไปโรงเรียน หลีกเลี่ยงการดูข่าวประเภทเดียวกัน
และ 3. ฝันร้าย โรคนี้เมื่อเกิดขึ้นในวัยเรียนจะมีผลกระทบต่อพัฒนาการทางสมอง ทำให้เด็กขาดสมาธิในการเรียน มีปัญหาในการจำอาจมีบุคลิกภาพเก็บตัว อารมณ์อาจซึมเศร้า ขาดความสามารถในการสร้างสัมพันธ์ที่ดีกับคนอื่นและการปรับตัวในอนาคตได้
“2 ประเด็นที่ต้องระมัดระวังและขอความร่วมมือกับทุกฝ่ายรวมทั้งเพื่อนๆนักเรียนด้วยคือ ไม่ควรถามความรู้สึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับเด็กทั้ง 2 คน
เนื่องจากจะเป็นการกระตุ้นให้เด็กคิดถึงเหตุการณ์ขึ้นมาซ้ำอีก สิ่งที่ควรทำคือชวนเด็กเล่น ชวนพูดคุยในเรื่องที่ทำให้เด็กสนุกสนานและให้กำลังใจ จะช่วยให้เด็กมีพลังใจ จิตใจเข้มแข็งและก้าวผ่านวิกฤติครั้งนี้ได้ และไม่ควรตำหนิผู้เสียชีวิต” แพทย์หญิงมธุรดากล่าว
อย่างไรก็ตาม กระแสการฆ่าตัวตายนั้นได้มีการวิพากษ์วิจารณ์สื่อมวลชนจำนวนมากที่นำเสนอภาพความรุนแรง เช่น ในเกาหลีใต้ก็มีการออกคู่มือจรรยาบรรณการรายงานข่าวฆ่าตัวตาย โดยสมาคมผู้สื่อข่าวเกาหลีใต้
เช่น การไม่ทำให้การฆ่าตัวตายดูเป็นเรื่องสวยงาม ( romanticize) ไม่พูดถึงสถานที่หรือวิธีการฆ่าตัวตาย รวมถึงงดการใช้คำว่าฆ่าตัวตายในพาดหัวข่าว และไม่ทำให้การฆ่าตัวตาของดาราเป็นข่าวหลักของวัน
ส่วน Media Us ก็เคยวิจารณ์การนำเสนอข่าวของสื่อเกาหลีใต้ไว้เมื่อว่าสื่อมักจะนำเสนอเรื่องดาราเสียชีวิต "ราวกับเป็นพิธีมอบรางวัลออสการ์" แต่เฮยุนกังก็เปิดเผยว่าในช่วงหลังๆ สื่อเกาหลีใต้ก็รายงานข่าวเรื่องการเสียชีวิตของดาราดีขึ้น
และมีกรณีที่สื่อวิพากษ์วิจารณ์กันเองรวมถึงมีการล่ารายชื่อเอาผิดสื่อที่รายงานเรื่องดาราเสียชีวิตในแบบใส่สีตีไข่กระตุ้นเร้าอารมณ์แบบไม่มีความรับผิดชอบ
03 ธันวาคม 2561
ผู้ชม 2503 ครั้ง