สธ. แจม กระแส โตโน่ - หมอริท ชู “รพ.นครพนม” เป็น ศูนย์กลางบริการสุขภาพลุ่มน้ำโขง  R8- Medical Hubรพ.จังหวัดคู่ขนาน “แขวงคำม่วน” ได้รับงบฯ พัฒนาศักยภาพต่อเนื่อง

บทความ

สธ. แจม กระแส โตโน่ - หมอริท ชู “รพ.นครพนม” เป็น ศูนย์กลางบริการสุขภาพลุ่มน้ำโขง  R8- Medical Hubรพ.จังหวัดคู่ขนาน “แขวงคำม่วน” ได้รับงบฯ พัฒนาศักยภาพต่อเนื่อง

สธ. แจม กระแส โตโน่ - หมอริท ชู “รพ.นครพนม” เป็น ศูนย์กลางบริการสุขภาพลุ่มน้ำโขง  R8- Medical Hubรพ.จังหวัดคู่ขนาน “แขวงคำม่วน” ได้รับงบฯ พัฒนาศักยภาพต่อเนื่อง รองรับการเป็นศูนย์กลางบริการสุขภาพลุ่มน้ำโขงและระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประตูสู่อินโดจีน

 

10/24/2022 : 12:50:16

 

สธ.

นพ.ปราโมทย์ เสถียรรัตน์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เขตสุขภาพที่ 8 กล่าวถึงกรณีมีการตั้งคำถามถึงการบริหารจัดการงบประมาณด้านสาธารณสุขของภาครัฐ หลังมีการจัดกิจกรรม One Man & The River หนึ่งคนว่าย หลายคนให้ เพื่อระดมทุนจัดหาเครื่องมือแพทย์ให้แก่โรงพยาบาลนครพนม

และโรงพยาบาลแขวงคำม่วน สปป.ลาว ว่า กระทรวงสาธารณสุขไทย และสปป.ลาว มีการลงนามว่าด้วยความร่วมมือด้านสาธารณสุข ตั้งแต่ปี 2559 ใน14 ประเด็น เช่น การป้องกันควบคุมโรค การเฝ้าระวังโรคติดต่อ การพัฒนาศักยภาพห้องปฏิบัติการ ระบบบริการสุขภาพ ศักยภาพของบุคลากร เป็นต้น

สำหรับ one man and the river หนึ่ง คน ว่า ย หลาย คน ให้ โดย โตโน่-ภาคิน คำวิลัยศักดิ์ กับ “ONE MAN AND THE RIVER หนึ่งคนว่าย หลายคนให้” ว่ายน้ำข้าม 2 ฝั่งโขง (ไทย-ลาว) เพื่อระดมทุนจัดหาอุปกรณ์การแพทย์ให้โรงพยาบาลทั้งสองฝั่งไทย ลาว โดยมี ดราม่า กระแสวิพากษ์วิจารณ์ ทั้ง โตโน่-ภาคิน คำวิลัยศักดิ์ และ หมอริท นายแพทย์เรืองริท หรือ ริท เดอะสตาร์

หมอริท

ซึ่งประชาชนถามว่า หมอริท อยู่โรงพยาบาลไหน, หมอริท เรียนหมออะไร, หมอริทเป็นหมออะไร, หมอริท ทำงานที่ไหน, ประวัติหมอริท

โดยคำตอบนั้น ปัจจุบัน หมอริท ได้ลาออกจากระบบราชการแล้ว ซึ่งหมอริท เรียนจบสาขาอายุรแพทย์ และใช้ทุนสองปี ที่โรงพยาบาลศูนย์ธรรมศาสรตร์ จากนั้นหมอริท เรียนต่อทางด้านศัลยกรรมความงงาม และ เปิดคลินิกเสริมความงามเอง

ทั้งนี้ มีการจับคู่จังหวัดชายแดนของไทย กับสปป.ลาว โดยจังหวัดนครพนมเป็นจังหวัดคู่ขนานกับแขวงคำม่วน ในปีงบประมาณ 2565 มีความร่วมมือดำเนินงานสาธารณสุขชายแดนหลายเรื่อง ทั้งการเฝ้าระวังและป้องกันควบคุมโรคติดต่อ การรักษาพยาบาลและการส่งต่อผู้ป่วย

ตลอดจนการพัฒนาศักยภาพของบุคลากร กระทรวงสาธารณสุขจึงจัดสรรงบประมาณให้กับสถานบริการในจังหวัดนครพนมอย่างต่อเนื่องเพื่อรองรับการให้บริการ รวมถึงการพัฒนาเป็นศูนย์กลางบริการสุขภาพลุ่มน้ำโขง ( R8- Medical Hub) และระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประตูสู่อินโดจีน

ปราโมทย์

นพ.ปราโมทย์กล่าวต่อว่า ในปีงบประมาณ 2565 จังหวัดนครพนมได้รับการจัดสรรงบลงทุนเพื่อพัฒนาศักยภาพการให้บริการทางการแพทย์ จำนวน 137 ล้านบาท และปีงบประมาณ 2566 อีก 138 ล้านบาท เฉพาะโรงพยาบาลนครพนม ปีงบประมาณ 2565 ได้รับการจัดสรรงบลงทุนจำนวน 4,730,000 บาท เพื่อใช้ในการพัฒนาเตียงผ่าตัดด้านศัลยกรรมออร์โธปิดิกส์และกระดูกสันหลังชนิดเอกซเรย์ผ่านได้, กล้องส่องตรวจทางเดินหายใจ ชนิดโค้งงอได้ ชนิดวิดีทัศน์ พร้อมอุปกรณ์แสดงผลที่จอภาพ เพื่อช่วยในการตรวจทางเดินหายใจและใส่ท่อช่วยหายใจ และเตียงผู้ป่วยสำหรับไอซียูปรับด้วยไฟฟ้าชนิด 4 มอเตอร์

รวมถึงได้รับการจัดสรรงบค่าเสื่อมครุภัณฑ์อีก 9.83 ล้านบาท ส่วนปีงบประมาณ 2566 ได้รับการจัดสรรงบลงทุน 1,500,000 บาท เป็นเครื่องตรวจกล้ามเนื้อด้วยคลื่นไฟฟ้า (EMG) และงบค่าเสื่อมครุภัณฑ์อีก 9.3 ล้านบาท

และยังมีครุภัณฑ์ทางการแพทย์ที่อยู่ระหว่างรอการพิจารณาอนุมัติจากรายการงบลงทุนโรงพยาบาลอีกหลายรายการ ขณะที่สถานการณ์เงินบำรุงของโรงพยาบาลในปีงบประมาณ 2565 มีความมั่นคงทางการเงินในระดับปกติ เงินบำรุงคงเหลือหลังหักหนี้แล้วอยู่ที่ราว 11.28 ล้านบาท

นพ.ปราโมทย์กล่าวต่อว่า โรงพยาบาลนครพนม มีแผนพัฒนาศักยภาพการให้บริการโดยใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ทันสมัย ซึ่งจะดำเนินการควบคู่ไปกับการพัฒนาความรู้ความเชี่ยวชาญของบุคลากรทางการแพทย์ โดย ปี 2566-2567

จะพัฒนาศูนย์โรคหัวใจและหลอดเลือดชายแดน ศูนย์ฉายรังสีรักษาโรคมะเร็ง ศูนย์แพทยศาสตร์ศึกษาชั้นคลินิก (โดยความร่วมมือของ สถาบันพระบรมราชชนก และมหาวิทยาลัยนครพนม) และแผนกผู้ป่วยในด้านจิตเวชและยาเสพติด

สำหรับการจัดกิจกรรมระดมทุนของบุคคลหรือองค์กรต่างๆ ถือเป็นความตั้งใจดีที่ต้องการทำความดีช่วยเหลือสังคมผ่านการสนับสนุนให้กับโรงพยาบาล ซึ่งเงินบริจาคส่วนนี้จะถูกนำมาสมทบกับงบประมาณที่โรงพยาบาลได้รับจัดสรร เพื่อใช้จัดหาครุภัณฑ์ทางการแพทย์ตามความประสงค์ของผู้บริจาคและตามแผนการพัฒนาระบบบริการของโรงพยาบาลต่อไป

24 ตุลาคม 2565

ผู้ชม 546 ครั้ง

Engine by shopup.com