"คลิปดัง" แชร์กระฉ่อนเน็ต ใครผิดใครถูก ? สาวบุกโรงพัก อัดคลิป "ด่าตำรวจ"
"คลิปดัง" แชร์กระฉ่อนเน็ต ใครผิดใครถูก ? สาวบุกโรงพัก อัดคลิป "ด่าตำรวจ"
จากกรณีที่หญิงสาวรายหนึ่งอัดคลิปขณะบุกเข้าโรงพัก สภ.เกาะยาว ต.เกาะยาวน้อย อ.เกาะยาว จ.พังงา เพื่อถามความคืบหน้าคดีที่เธอถูกทำร้ายร่างกาย และอ้างว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม
ก่อนจะระเบิดอารมณ์ใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจนายหนึ่ง ถึงขนาดตร. เดินเข้ามาปัดโทรศัพท์มือถือไม่ให้ถ่ายคลิป และมีการลงไม้ลงมือ ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ชาวเน็ตถกเถียงกันสนั่น
ผู้สื่อข่าวกองบรรณาธิการ medhubnews.com เว็บไซต์สุขภาพของคนรุ่นใหม่ และ เพจ sasook รายงานว่า รายการโหนกระแส วันที่ 16 ม.ค. ทางช่อง 28
ได้เชิญ “คุณกมลพรรณ ชาดพันธุ์อินทร์”หรือ “คุณเปิ้ล” หญิงสาวในคลิป มาพูดคุยถึงที่มาที่ไป พร้อม “คุณชัยณรงค์ บุญสันติ์”หรือ“ทนายโต้ง” ก่อนจะโฟนอินสัมภาษณ์สดทางโทรศัพท์ “พ.ต.อ. โชติ ชิดไชย” รองผบก.ภ.จว.พังงาถึงกรณีดังกล่าว
เรื่องราวก่อนหน้านี้เป็นยังไง คุณไปไหนมาก่อนไปที่สภ.นี้ ?
เปิ้ล: “คือเมื่อวันที่ 3 พ.ย. วันลอยกระทง มีนางสาวเอ คนหนึ่งซึ่งเหมือนเป็นนางนกต่อ แล้วจะติดต่อให้เราคบหาดูใจกับผู้ชายคนหนึ่ง เราก็ถามว่าเขามีเมียหรือยัง เขาบอกว่าเขาไม่มี เขาบอกว่าจะพาเราไปกินข้าวแต่ไม่ได้ไปกินข้าวเขาพาไปเกาะไข่ใน ซึ่งเป็นเกาะปิด ห้าโมงหกโมงเขาก็ปิดหมดแล้ว จะเหลือเราเป็นผู้หญิง และนางสาวเอ ที่พาเราไปสองคน นอกนั้นเป็นผู้ชายสี่ห้าคน เราก็กลัวเราโดนรุมโทรม เราก็ขู่เขาว่าจะไปส่งเรามั้ยถ้าไม่ไปส่งเราจะไปหาตำรวจนะ”
ผู้ชายไปกี่คน ?
เปิ้ล: “ผู้ชายที่ไปมี 2 คนแต่มีบนเกาะอีกค่ะ”
คุณเลยหวาดกลัว ?
เปิ้ล: “ใช่ค่ะ ก็บอกนางสาวเอ หนูบอกว่าหนูจะกลับ เพราะมันมืด แต่นางสาวเอยังไม่กลับ เหมือนรออะไรสักอย่างหนึ่ง เขาต้องการอะไรจากผู้ชายคนที่จะติดต่อให้เปิ้ล ซึ่งเปิ้ลไม่รู้ เปิ้ลก็ถามเขาว่าจะไปส่งเปิ้ลมั้ยถ้าไม่ส่งเปิ้ลจะไปหาแม่เปิ้ลและจะโทรหาตำรวจ เขาก็เลยยอมไปส่ง”
ต้องนั่งเรือกลับ ?
เปิ้ล: “นั่งเรือกลับที่เกาะยาวใหญ่ จากเกาะไข่ในไปเกาะยาวใหญ่ แล้วเรือยังจอดไม่ทันสนิท ไปเจอภรรยาผู้ชายคนนั้นรออยู่ แล้วเขาก็วิ่งมาพร้อมกระเป๋า ซึ่งเราไม่รู้ว่าในนั้นมีปืน เอากระเป๋ามาตบหน้าเราก่อนที่ข้างซ้าย พอตบหน้าเสร็จเขาก็หยิบกระเป๋า เอาปืนมาจ่อหน้าอกเราค่ะ ระยะเผาขน
หลังจากนั้นเห็นเขาก็ห้ามกันแล้วก็ดึงกันไปคนละทิศคนละทาง เขาก็ลากหนูไปอีกที่หนึ่งเพื่อความปลอดภัย ผู้หญิงคนนั้นก็ดิ้นๆ จะให้หลุดจากคนที่ล็อกเขาเพื่อมาทำร้ายเรา พอเรากลับมาถึงท่าเรือปลอดภัยเราก็กลับห้องพักเรา ตอนเที่ยงคืนกว่าแล้วเราไม่ต้องเข้าโรงพักหรอก ค่อยไปพรุ่งนี้เช้า
วันที่ 4 พ.ย. เราเลยเข้าไปแจ้งความที่สน.เกาะยาวน้อย เขาก็ให้เปิ้ลไปรพ. ไปตรวจร่างกาย เปิ้ลก็ไปตรวจ หมอเขาก็มีใบชันสูตรว่าบาดแผลมีตรงไหนบ้าง ซึ่งตร.เขาบอกว่าเขาจะให้จบภายในเดือนเดียว เขาสัญญากับเปิ้ล แล้วผู้หญิงคนนี้ทำแบบนี้มาหลายครั้งแล้ว เขามีคดีอาญา รอลงอาญาอยู่แล้ว แล้วเหมือนสารวัตรเขาบอกว่าผู้หญิงคนนี้มีคดีอาญาอยู่ เดี๋ยวผมจะทำคดีเขาเอง เดี๋ยวผมจะเรียกมาไกล่เกลี่ย ซึ่งเขาไม่เคยเรียกมาเจอสักครั้งหนึ่ง ไม่เคยให้คู่กรณีมาเจอกับเราเพื่อเคลียร์หรือไกล่เกลี่ยอะไร”
เขารับแจ้งมั้ย?
เปิ้ล: “เขาก็รับแจ้งและลงบันทึกประจำวัน ลงว่าเป็นคดีข่มขู่ให้ตกใจกลัว”
คุณต้องการให้เขาลงเป็นอะไร?
เปิ้ล: “อยากให้ลงว่าข่มขู่พยายามฆ่า”
นี่คือทำให้คุณไม่พอใจจนต้องบุกไปโรงพัก?
เปิ้ล: “ใช่ค่ะ ไปถามว่าทำไมถึงลงว่าข่มขู่เพื่อให้ตกใจกลัวเฉยๆ ใจเราอยากให้เป็นข่มขู่และพยายามฆ่าแต่เขาไม่ลงอย่างนั้น เขาบอกกับเราว่าหนึ่งเดือนจบเรื่องนี้ แต่นี่มันไม่ใช่หนึ่งเดือนแล้ว เลยต้องไปตามคดี”
ไปวันไหน ?
เปิ้ล: “วันที่ 9 ม.ค. ที่ผ่านมา พอไปถึงก็เจอผู้กำกับพอดี ที่สภอ.เกาะยาวน้อย ผู้กำกับเขาเดินลงมาก็เลยถามว่าใช่ผู้กำกับมั้ย จะไปไหนคุยกับเปิ้ลก่อน เปิ้ลก็เสียงดังแบบนี้ แต่ผู้กำกับเดินหนีเปิ้ลค่ะเปิ้ลก็ก้าวขึ้นบันไดไปเรื่อยๆ จนไปเจอตำรวจสองนาย เขานั่งคุยกันอยู่สองคน เปิ้ลเดินไปถึง เปิ้ลถามว่าผู้กำกับหนีทำไม มาสิ มาคุยก่อน”
เดือดเต็มที่ ?
เปิ้ล: “ใช่ค่ะ ตอนนั้นอารมณ์มันพีคสุดๆแล้วค่ะ แล้วเปิ้ลเห็นมันมีกระดาษและกรรไกร อันเล็กนิดเดียว เปิ้ลเลยไปคว้ากรรไกรตรงนั้นมาและชี้ไปที่ตำรวจ แล้วบอกว่าถ้าเปิ้ลชี้ไปอย่างนี้ คุณตำรวจจะแจ้งข้อหาพยายามฆ่ามั้ยตำรวจวิ่งค่ะ กระโดดกันหมด เปิ้ลก็บอกมาสิ อย่าหนี
หลังจากนั้นไมมีใครคุยกับเปิ้ลเปิ้ลก็พูดเสียงดังขึ้น บันดาลโทสะว่าตำรวจว่าเฮงซวย คุณทำงานเฮงซวยมาก คุณกินภาษีประชาชน คุณทำได้แค่นี้เหรอ ทำเ-ยอะไรไม่ได้เลย แล้วหลังจากนั้นตำรวจที่อยู่ตรงบันไดชั้น 2 เขาพยายามพูดในทางที่ว่ายั่วยุอารมณ์เรา ว่าเครื่องแบบซื้อเอง ปืนซื้อเองหมดเลย”
ประมาณว่าไม่ได้เกี่ยวกับภาษีใคร ?
เปิ้ล: “ใช่ค่ะ แล้วเหมือนมีคอมเมนต์เป็นเมียตำรวจคนหนึ่งไปโพสต์แล้วถามว่าไม่ทราบว่าคุณทำงานอะไรคะ คุณทำอาชีพอะไร คุณเสียภาษีให้ตำรวจ หมายถึงถามเปิ้ล คนนั้นเป็นเมียตำรวจ เปิ้ลก็ตอบไปว่าอาชีพอะไรก็ได้ที่กูไม่ได้ขอมึงแดก”
ข้อย้อนกลับมาเหตุการณ์ที่คุณตะโกนด่า มีตำรวจคนหนึ่งมาตบ ?
เปิ้ล: “ตำรวจคนนั้นเขาจะมาแย่งกรรไกรจากเรา ตำรวจคนนั้นรู้สึกจะเป็นนายสิบ ที่นั่งอยู่สองคน เขาก็เดินมาแล้วบอกว่า มึงทำไม มึงเป็นใคร มึงอะไรนักหนา เปิ้ลเลยถามว่าทำไมเมื่อกี้มึงไม่บ้าอย่างนี้ เขาบอกว่ามึงคิดว่ามึงบ้าเป็นคนเดียวเหรอ เขาก็ตอบเปิ้ลมาว่ามึงคิดว่ามึงบ้าเป็นคนเดียวเหรอ แล้วเขาก็ตบเลย ตะลุมบอนแล้วภาพก็หายไปเลย”
เขาทำอะไรคุณในช่วงภาพหายไป ?
เปิ้ล: “แย่งกรรไกร พยายามบิดมือ หลายนายมาก ซึ่งเราเป็นผู้หญิงตัวคนเดียว คือไม่กดกับพื้น บิดข้อมือ แย่งกรรไกรไปได้ พอหลังจากนั้นก็มีตำรวจหลายนายบอกว่าลงมาให้หมดเลย ไม่ต้องสนใจมัน เขาให้ตำรวจเดินไปร้านข้าวไม่ต้องสนใจเปิ้ลเปิ้ลก็เดินตามไปได้ครึ่งทาง แล้วมีตำรวจนายหนึ่งด่าว่า เ-ดแม่ มึงยังไม่พออีกเหรอ
เดี๋ยวกูจับมึงเข้าคุก มีคลิปเสียงอยู่ในนั้นเต็มๆ เลยค่ะ เขาเดินกลับมาสวนกับเปิ้ลพอดี เปิ้ลก็ถามว่าเมื่อกี้ตบทำไม เขาก็บอกว่าใครตบมึง แล้วก็ตบเอาโทรศัพท์เฉี่ยวหน้าเราไปเลย”
ทนายโต้ง ข้อแรก เขาถูกเอาปืนจ่อ ข้อนี้เข้าพยายามฆ่ามั้ย ?
ทนายโต้ง : “เรื่องพยายามฆ่ามันจะต้องถึงคำว่าใกล้จะถึงความตาย ซึ่งตรงนี้อยู่ที่ดุลยพินิจตำรวจนะ ว่าเขาจะคิดยังไง แต่เมื่อกี้ฟังข้อหามันเป็นการขู่เข็นให้ตกใจ เพราะอะไรรู้มั้ย เพราะจะติดคุกหนึ่งเดือน เป็นความผิดลหุโทษ
แต่ผมดูแล้วมันไม่น่าใช่หนึ่งเดือนนะ การที่เขาเอากระเป๋าตบ เป็นการทำร้ายเรา ชักปืนจ่อเป็นการข่มขู่เพื่อไม่ให้ไปไหน โทษ 3 ปี คนละเรื่องแล้วนะ ตรงนี้ก็อยู่ที่ดุลยพินิจของพนักงานสอบสวนในการตั้งข้อหา เพราะฉะนั้นผมให้สิทธิ์กับพนักงานสอบสวน การใช้ดุลยพินิจเป็นเรื่องของเหตุและผล และต้องตามกฎหมาย”
เรื่องที่สองบุกขึ้นไปหยิบกรรไกร ?
ทนายโต้ง : “คุณเปิ้ลไม่ควร แต่ตำรวจก็ไม่ควรทำแบบนั้นกับคุณเปิ้ล ดูพฤติการณ์แล้วเขาไม่ได้ตั้งใจจะทำร้ายกับตำรวจ หลักการเจรจาให้เขาวางกรรไกร ผมว่ามันง่ายกว่าที่เขาไปตะลุมบอนแบบนี้”
ทนายโต้งมองว่าสามารถเจรจาได้ไม่ควรลงไม้ลงมือขนาดนั้น ?
ทนายโต้ง : “ใช่ ไม่ควรหนักขนาดนั้น แต่เรื่องที่เขาจับกรรไกร รุนแรงไป”
หลังจากนั้นคุณลงคลิปแล้วมีคนมาว่าอะไร ?
เปิ้ล: “มีคนแชร์ไปแล้วมีคนมาคอมเมนต์ว่าตำรวจคนนี้แหละเป็นคนยิงพี่ชายเขา ตำรวจคนที่ตบ เป็นคนยิงพี่ชายเขาตาย เขาคอมเมนต์มาในเฟซบุ๊กค่ะ ที่อ.กะพงค่ะ”
ตำรวจคนนี้ถูกจับมั้ย ?
เปิ้ล: “ทางญาติผู้ตายได้มาคุยกับเปิ้ล เขาก็ตกใจ เพราะตำรวจที่พังงา ที่ตะกั่วป่าบอกว่าเขาอยู่ในเรือนจำ แล้วศาลคัดค้านการประกันตัว แล้วอยู่ดีๆ เมื่อวันที่ 9 ม.ค. มาโผล่ตรงนี้ได้ยังไง เลยกลายเป็นเรื่องใหญ่ ไม่ใช่เรื่องเล็กๆ ของเปิ้ล กลายเป็นสองเรื่องแล้ว”
ต่อมา หนุ่มสายตรงถึง “พ.ต.อ. โชติ ชิดไชย” รองผบก.ภ.จว.พังงาท่านรอง
พ.ต.อ. โชติ : “เมื่อวานตอนร้องทุกข์ในเรื่องดูหมิ่นเจ้าพนักงานครับ แต่เรื่องแจ้งข้อกล่าวหายังไม่ได้แจ้ง ผมยังไม่ได้รับรายงานมา”
ตัวน้องบอกว่าโดนออกหมายจับ ?
พ.ต.อ. โชติ: “ออกหมายจับก็ต้องออกหมายเรียกก่อน หมายจับที่เกาะยาวหรือเปล่า ไม่น่าเป็นไปได้”
ท่านมองยังไง ที่ทางตร.ท่านนั้นไปตบยื้อแย่งกรรไกรและโทรศัพท์ของน้อง ?
พ.ต.อ. โชติ : “คนถ้าขึ้นไปโรงพัก ปกติต้องไม่ขึ้นไปถ่ายคลิป ไม่ไปด่าตำรวจ ไม่ไปหยิบกรรไกร นึกออกมั้ยครับสภาพ มันคงไม่เหมือนคนอื่นแหละครับ ในเมื่อมีการหยิบกรรไกรก็มีการยื้อแย่ง อาจจะโดนอะไรกันบ้าง ซึ่งจากการสอบสวนเบื้องต้นที่ผมทราบมาก็ไม่มีการตบทำร้ายร่างกาย ตอนนี้รวบรวมหลักฐาน”
แต่ในคลิปค่อนข้างมีหลักฐานชัดเจน ว่าตำรวจท่านนั้นมีคำพูดไม่เหมาะสม มีการยื้อแย่ง สังคมถามว่าสามารถเจรจาก่อนได้มั้ย ก่อนเข้าไปชาร์ตแบบนั้น ?
พ.ต.อ. โชติ: “ในคลิปก็มีที่ตำรวจพูดว่าใจเย็นก็มีนะครับ แต่ว่าคลิปที่ออกไปอาจไม่ตลอด ออกไม่หมด หรืออะไรผมไม่ทราบ ถูกตัดต่อก็เป็นไปได้ เราก็กำลังตรวจสอบ ถูกตัดต่อหรือร้อยเปอร์เซ็นต์ผมก็ยังไม่ฟันธง ต้องตรวจสอบก่อนครับ”
น้องต้องไปรับทราบข้อกล่าวหาและมีการเจรจากันมั้ย ?
พ.ต.อ. โชติ: “เท่าที่ผมทราบคือดูหมิ่นเจ้าพนักงาน เรื่องเจรจาก็คงเป็นไปตามกฎหมาย เพราะการเจรจาก็คงเป็นเรื่องส่วนตัว มันคงไม่เกี่ยวกับอาญา”
อีกประเด็นการตั้งคำถามว่าตำรวจท่านที่เข้ามาแย่งโทรศัพท์น้อง ตบมือน้องเพื่อชิงกรรไกรน้องไป เขาบอกว่าตำรวจท่านนี้น่าจะติดคดีอยู่ มีการฆ่าคนตาย และติดอยู่ในเรือนจำ ทำไมอยู่ดีๆ มาอยู่ตรงนี้ได้ ?
พ.ต.อ. โชติ: “ถ้าไม่อยู่ในเรือนจำก็ต้องมีการประกันตัวออกมาแหละครับ”
เขาไม่พ้นสภาพเป็นตำรวจเหรอครับ ?
พ.ต.อ. โชติ : “อยู่ระหว่างการสอบสวน”
ท่านยอมรับว่าตร.ท่านนี้มีเรื่องราวของการฆ่าคนตายจริงๆ ?
พ.ต.อ. โชติ : “มันเป็นขั้นตอนของการสอบสวน เป็นคดีอยู่ที่อื่น ไม่ได้อยู่ที่เกาะยาว ถ้าเป็นตร.ท่านนั้นก็อยู่ที่กะพง อยู่ระหว่างดำเนินคดีพิจารณาของอัยการของศาลอยู่ เขาได้รับการประกันตัว”
เขายังสามารถเป็นตำรวจแบบนี้ได้เหรอ?
พ.ต.อ. โชติ : “ครับ ก็ตามวินัยก็อยู่ระหว่างการสอบสวน”
ไม่มีการพักราชการเหรอครับ ?
พ.ต.อ. โชติ : “ผู้บังคับบัญชาเขาสั่งให้ไปช่วยราชการที่เกาะยาวครับคดียังไม่เสร็จสิ้น ยังไม่มีคำสั่งให้ออกจากราชการ เพราะว่าขั้นตอนพิจารณาอยู่ที่ศาล ก็อยู่ในดุลยพินิจของผู้บังคับบัญชาถ้าชัดเจนว่าเขาผิด ก็อยู่ในดุลยพินิจของผู้บังคับบัญชา ตอนนี้สอบสวนยังไม่เสร็จ”
แต่ญาติผู้ตายบอกว่าเห็นคาตาว่าตร.คนนี้ยิงจริงๆ ?
พ.ต.อ. โชติ : “เรื่องสำนวนการสอบสวนเราก็ไม่ก้าวล่วงกันครับ”
ทนายโต้ง : “ก็เป็นไปได้ ขั้นตอนประกันตัวเกิดขึ้นได้ โดยปกติเป็นข้าราชการจะไม่พักราชการซะเสียทีเดียว แต่จะย้ายเพื่อไม่ให้เกี่ยวข้องกับประชาชน พยานหลักฐาน ส่วนใหญ่จะเป็นอย่างนั้น ตราบใดที่ศาลยังไม่พิพากษาว่าเขาทำความผิด เขาก็ยังบริสุทธิ์อยู่ แต่อย่างที่บอกว่ามีคนเห็นอันนั้นเป็นความรู้สึก ต้องแยกความรู้สึกกับการรับโทษทางคดีความออกจากกัน”
เปิ้ล: “มันมีหลายคอมเมนต์มาทางฝ่ายกะพง ว่าตร.คนนี้ยิงคนตายมาหลายคน ไม่มีใครกล้าเป็นพยาน”
หลังจากนี้น้องต้องทำยังไง ?
ทนายโต้ง : “น้องต้องไปรับทราบข้อกล่าวหา เมื่อกี้ดูแล้วทำร้ายร่างกายมันไม่เข้ากลายเป็นเรื่องดูหมิ่น อันนี้อาจจะเข้า แต่ก็ขึ้นอยู่ดุลยพินิจของศาล ศาลจะดูว่าคุณพูดทำไม ทำยังไง คุณต้องไปชี้แจงว่าเพราะอะไรถึงเกิดเหตุการณ์แบบนี้ อยู่ดีๆ ทำไมไปด่าตำรวจ”
เรื่องนี้ยังไงต่อ?
ทนายโต้ง : “ก็ต้องแจ้งข้อหาเพิ่ม พยายามฆ่าอาจไม่เข้า แต่หน่วงเหนี่ยวกักขังอาจจะเข้า เพราะมีการตบ มีการทำร้าย ที่บอกว่าทำให้หวาดกลัวโทษมันแค่นี้ ต้องหาพยานหลักฐานให้เขาดู แสดงให้เขารู้”
มีทนายมั้ย?
เปิ้ล: “ไม่มีค่ะ คาใจที่เขาบอกว่าจะเสร็จในเดือนเดียว เราอยากให้เป็นคดีพยายามฆ่ามากกว่าข่มขู่เพื่อตกใจกลัว”
ทนายโต้ง : “แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเรื่องการใช้กฎหมายกับดุลยพินิจ ต้องอยู่ในเรื่องของเหตุและผล ต้องสมเหตุกับผลที่เกิดขึ้นจริงๆ ฝากตำรวจไว้นะครับ แต่เรื่องคดีตำรวจฆ่าคนตายก็คงเป็นประเด็นในสังคมต่อไปแล้วแหละ”
เปิ้ล: “อีกเรื่องหนึ่ง เขาบอกว่าศาลคัดค้านประกันตัว”
ทนายโต้ง : “อันนี้ไม่เกี่ยวแล้ว คัดค้านได้แต่ก็อยู่ที่ดุลยพินิจของศาล”
05 มกราคม 2562
ผู้ชม 2079 ครั้ง