แรงศรัทธา ไม่เชื่ออย่าลบหลู่ ! พญานาคนาคีให้โชค “โป๊งเหน่ง เชิญยิ้ม” ตลกชื่อดัง สร้าง "พญานาค 7 สี" หลังถูกหวย 4 งวด 140 คู่ เว็บไซต์สุขภาพ medhubnews.com

บทความ

แรงศรัทธา ไม่เชื่ออย่าลบหลู่ ! พญานาคนาคีให้โชค “โป๊งเหน่ง เชิญยิ้ม” ตลกชื่อดัง สร้าง "พญานาค 7 สี" หลังถูกหวย 4 งวด 140 คู่

โหนกระแส วันที่ 22 ม.ค.2561 เป็นเรื่องราว“คุณโป๊งเหน่ง เชิญยิ้ม” ที่ถูกสลากกินแบ่งรัฐบาลติดต่อกัน 4 งวด 140คู่ ทำให้ประชาชนแห่ไปรดน้ำมนต์ กับฤาษีเณรล้นวัด

ความศักดิ์สิทธิ์ของ “พญานาค” ที่บูชา รวมถึง "ของดี" ที่พกติดตัวมีอะไรบ้าง มีพุทธคุณอย่างไร ?

ล่าสุดวันนี้ ผู้สื่อข่าวกองบรรณาธิการ www.medhubnews.com  เว็บไซต์สุขภาพของคนรุ่นใหม่ และ เพจ  sasook  รายงาน หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย ได้เชิญ “คุณปรีชา จิตบริสุทธิ์” หรือ“ฤๅษีเณร”และ“ คุณพงษ์ศักดิ์ โสภักดี” หรือ“โป๊งเหน่ง เชิญยิ้ม” มาร่วมพูดคุยกันในรายการ

คุณโป๊งเหน่ง อยู่ดีๆ อารมณ์ไหน เห็นมีข่าวลงทุกช่อง ไปถูกล็อตเตอรี่แล้วเอาเงินไปแจกชาวบ้านคนละร้อย?

โป๊งเหน่ง: “การถูกล็อตเตอรี่เหมือนไปดู ไปที่สำนักอาจารย์ เพราะฝากตัวเป็นลูกศิษย์อาจารย์สองปีแล้ว เขามีงานไปบวงสรวงที่ไหนก็ติดตาม  เราไปเจอของดีเขาเข้า เขาก็ไปเจอของดีหลายๆ อย่าง”

หาที่พึ่งเป็นโรคซึมเศร้า?

โป๊งเหน่ง : “ถูกต้องครับ ไม่สบายเพิ่งหาย ช่วงนั้นผมไม่สบาย งานก็ลดน้อยถอยลง ปอดเป็นรู 5 รู หมดเป็นแสนกว่าไม่หาย กลับบ้านมาหาอาจารย์ หาย จริงๆ ไปหาหมอชาวบ้าน”

ไม่งั้นต่อไปไม่ต้องมีหมอ ?

โป๊งเหน่ง : “หมอเหมือนกัน แต่หมอคนละอย่างกัน หมอในกรุงกับหมอบ้านนอก หมอบ้านนอกเห็นเป็นคลินิกเล็กๆ แต่รักษาหาย”

พอไปรักษาคุณบอกว่าแพง ไปเจอฤาษี เขารักษาให้หายหมื่นกว่าบาท?

โป๊งเหน่ง : “ฤาษีแนะนำให้ไปหาหมออีกท่านหนึ่ง เขาเป็นคนแนะนำไป ถ้าไม่ได้เขาก็แย่เหมือนกัน ก็ไปรักษาแล้วหาย เหมือนดวงชะตาผมกับดวงชะตาฤาษีเณรต้องกัน ผมไปรับใช้เขา 2 ปี มีอยู่วันหนึ่งอาจารย์ทำน้ำมนต์กลางหาว”

ฤาษี: “เป็นน้ำมนต์โบราณ สมัยก่อนวิชาการสืบทอดน้ำมนต์กลางหาวเวลาเขาจะมีวิธีราษฎร์หรือวิธีหลวงเขาก็จะใช้น้ำมนต์ส่งนี้เพื่อเสริมมงคลและขับไล่อวมงคล หรือสิ่งที่ไม่ดี น้ำมนต์กลางหาวคือเป็นการรองน้ำค้างทุกวันพระ ขึ้น 15 ค่ำข้างขึ้น อย่างน้อยก็ 3 วันพระ 5 วันพระ 7 วันพระ 9 วันพระ แล้วมาผสมกับน้ำที่เราคิดว่าศักดิ์สิทธิ์ ตามตำราโสฬสสะระตะ

ก็อยากตอบคำถามที่คนไม่เชื่อเหมือนกัน หลายๆ เรื่อง ทั้งเรื่องเกี่ยวกับความงมงายเพราะเดี๋ยวนี้สื่อต่างๆ ที่ออกมาไม่ขอกล่าวว่าสื่อไหน ถ้าเอาคนไม่มีความรู้มาพูดกับคนที่มีความรู้ ก็ทำให้วงการความเชื่อเสื่อมไปเยอะแล้ว”

ใช้คำว่าวงการความเชื่อ ?

โป๊งเหน่ง : “ครับ”

ฤาษี: “มีสิครับ คนที่เขามีความเชื่อ อย่างสมมติเป็นพระเกจิอาจารย์ที่เขาอยู่ในโลกใบนี้ อยู่ในประเทศเรา ส่วนมากเขาเป็นสหธรรมมิตร ภาษาธรรมดาคือเพื่อนที่อยู่ร่วมกัน สมมุติ อย่างผมกับหลวงพ่อวัดสว่างอารมณ์ หรือว่ากับหลวงพ่อวัดไหนๆ นี่เรียกวงการๆ หนึ่ง อาจมีหลายวงการ สายที่คนอยากดังก็มี”

ไปเรียนวิชามาจากไหน ?

ฤาษี : “ต้องบอกก่อนว่าผมเป็นเด็กวัด บ้านเก่าอยู่ไม่ไกลจากวัด เดิน 20-30 ก้าวก็ถึง แล้วผมเนี่ยเป็นลูกศิษย์ หลวงปู่สด วัดโพธิ์แตงใต้ ซึ่งเป็นพระอาจารย์ที่วัดบวรฯ ทีนี้ผมไปเป็นลูกศิษย์อยู่ พระทำวัตรเช้าวัตรเย็นเราก็มีความชอบส่วนตัวแหละก็ศึกษาเกี่ยวกับการไหว้พระสวดมนต์บูชา เพราะหลวงปู่สดท่านเป็นเกจิพระอาจารย์

เราก็ซึมซับตรงนี้มา พอดีมีอยู่ครั้งหนึ่ง ไปเจอหลวงปู่มิตร ซึ่งเป็นศิษย์เอกหลวงพ่ออี๋ สัตหีบ ผมก็เลยเรียนมา เริ่มเรียนวิชาอักขรขอมจนแตกฉานได้ซักอายุ 8 ขวบกว่าถึง 9 ขวบ เข้าบวชในพระพุทธศาสนาตั้งแต่ 10 ขวบ ธุดงค์อยู่ 8 ปี เป็นฤาษีต่ออีก 12 ปี”

ทำไมไม่บวชต่อมาเป็นฤาษีทำไม ?

ฤาษี: “การที่เราอยู่ในเพศบรรพชิต บางสิ่งบางอย่าง การช่วยเหลือคนไม่สามารถทำได้ เช่นการแตะเนื้อต้องตัวผู้หญิง”

อดไม่ได้ ?

ฤาษี: “บางครั้งเป็นกฎปราชิก เป็นฤาษีแตะได้ คิดว่าเป็นฤาษีดีกว่า”

ละไม่ได้ ?

ฤาษี: “ทุกวันนี้ผมก็ถือเพศบรรพชิตเหมือนกัน”

ทำไมมาปลุกเสกของได้ ?

ฤาษี: “อันนั้นเป็นอำนาจของจิต ถ้าเราว่างมงาย แล้วที่เขาบอกว่าพระพุทธเจ้าของเราเกิดมาเดินได้ 7 ก้าว เชื่อมั้ย เดิน 7 ก้าวปุ๊บชูนิ้วขึ้นเลย แปลเป็นไทยว่าตัวอาตมาจะนำสัตว์ทั้งหลายข้ามห่วงแห่งนิพพาน หรือวัฎสงสาร สมมติเรามาพูดกันแบบคนเดี๋ยวนี้ก็ไม่ต้องเชื่อ”

แต่อันนั้นเป็นพุทธประวัติ ?

ฤาษี แล้วคิดมั้ยว่าพุทธประวัติที่เขาเขียนไว้เรื่องอิทธิ ฤทธิก็มี กระสินแบ่งย่อยเป็น 40 กอง กระสินถ้าเราศึกษาตามพระพุทธเจ้าพูด เอามาทำอะไร เอามาสำแดงฤทธิ์ สำแดงให้เห็นก่อน แล้วค่อยเอามาปฏิบัติ”

คนด่าเยอะมั้ย ?

ฤาษี: “ด่าเยอะแต่ไม่สนใจ เพราะคนเราในโลกใบนี้ พระพุทธเจ้าบอกว่าไม่มีใครไม่โดนนินทาหรือดูถูก แต่สิ่งนั้นทำให้เรามีกำลังใจสู้ต่อมากกว่า”

มุมหนึ่งมองไปทางพุทธ อีกมุมก็ละไม่ได้ มีรักโลภโกรธหลง ดูย้อนแย้งหรอเปล่า ?

ฤาษี: “ถ้าพูดว่ามีรักโลภโกรธหลง ผมถามว่าพระอรหันต์กับตัวผมแตกต่างกันแค่ไหน ใครตอบได้บ้าง พระอรหันต์ เรามีเกิดขึ้น ตั้งอยู่ดับไป อารมณ์ไง โกรธ 20 ปีไม่ยอมอโหสิซึ่งกันและกัน แต่พระอรหันต์กับผม แตกต่างกันแค่ตั้งอยู่เท่านั้น สมมุติผมอยู่ๆ ถือไม้มาตีหัวคุณหนุ่มปั้ง โกรธมั้ย ตั้งอยู่ โกรธนานมั้ย แต่พระอรหันต์ไม่โกรธ ต่างกันแค่นี้ แค่ตั้งอยู่นานหรือไม่นานแค่นั้น”

 คุณโป๊งเหน่งถูกล็อตเตอรี่กี่ใบ ?

โป๊งเหน่ง : “งวดล่าสุดล็อตเตอรี่ 2 ตัว 140 ใบ ถูกมางวดที่ 4  ไปได้มาที่สำนักอาจารย์ ไปดูสิ”

ถูกมาร้อยกว่าใบ เอาไปแจกคนละร้อยบาท?

โป๊งเหน่ง : “เขาเรียกเงินขวัญถุง บางครั้งได้มาก็อย่าเก็บไว้คนเดียว ก็ต้องแจกบ้าง ทำบุญบ้าง แจกที่สำนัก อาศรมฤาษี”

วันนี้จะมีการสร้างพญานาค ?

โป๊งเหน่ง : “ผมสร้างเสร็จ สำเร็จรูปแล้วเอาเงินไปจ่ายก็ยกมาเลย”

กำลังจะถอนทุนคืน ?

โป๊งเหน่ง : “ไม่ๆ ไม่ใช่กระแส พูดถึงพญานาค กระแสมาแล้ว ตั้งแต่คำชะโนด ที่อาศรมอาจารย์เณรมีปู่ศรีสุทโธ กับแม่ย่าปทุมมา ผมก็เลยไปบนตรงนี้เอาไว้ ถ้าถูกนิดๆ หน่อยๆ ก็จะเอาพญานาคมาถวาย 1 ตัว ก็หุ้นกับเพื่อน 3 คน ถูกไม่มากหรอก สร้างมา 580,000 หุ้นกัน 3 คน”

 ทำไมต้องสร้าง 7 สี?

โป๊งเหน่ง : “เพราะไม่เหมือนตัวอื่นเขา พญานาคส่วนใหญ่มีสีเขียว ผมตัวเดียวครบ 7 สีเลย”

 ไปมาอยู่อย่างนี้ 2 ปีกว่า?

โป๊งเหน่ง : “ครับผม ไม่ไปไหนแล้ว มาเจอของดีที่นี่แล้ว ผมเป็นลูกศิษย์ดูแล”

 เห็นมีคนบอกว่าทางฤาษีสร้างกระแสเรื่องความเชื่องมเอาความเชื่อมาปรุงแต่ง ?

ฤาษี: “ทำไมไม่คิดว่าทางอาศรมเราเป็นกำลังใจให้คนที่ขาดสติ ฤาษีเณรไม่ได้บอกว่ามาทำนี่เก็บตังค์มาทำโน่นเก็บตังค์”

เก็บตังค์มั้ย ?

ฤาษี: “บางครั้งก็มีเก็บเพราะการทำพิธีเปิดดวง ลงนะ หน้าทอง พูดตรงไปตรงมา อาศรมก็มีค่าน้ำคาไฟค่าโน่นค่านี่เยอะแยะมากมายเหมือนกัน ก็เอาส่วนนี้มาใช้จ่าย”

 เก็บเท่าไหร่ ?

ฤาษี: “ไม่ได้มีราคาค่างวด คือสมมติงานไหว้ครู เขาก็มีพานครู ก็ 500 กว่า เขาเรียกว่าเป็นการถือเคล็ด ถือลาง ถือพิธีกรรม ถ้าคนไม่รู้ก็พูดไปต่างๆ นานาคนโบราณที่เขาคุยกันว่าอาจารย์คาถานี้แปลว่าอะไร บางครั้งเขาก็ตอบว่าบางครั้งไม่จำเป็นต้องรู้ เพราะถ้ารู้แล้วจะไม่ขลัง แต่บางครั้งรู้แล้วขลังก็มี คาถาอาคมไม่เหมือนกัน การใช้ชีวิตก็ไม่เหมือนกัน”

ออกมาพูดแบบนี้ไม่กลัวคนด่า ?

ฤาษี: “ไม่กลัว ทุกวันนี้จริงๆ ก็กินข้าวแค่มื้อสองมื้อ”

ถ้าโดนร้องเรียนว่าหลอกลวง ?

ฤาษี: “โหย เยอะแล้ว ร้องอีกก็ไม่ได้ว่า”

ถ้าเขามาตรวจสอบ ?

ฤาษี: “ได้ เต็มที่ ลองไปสิ จะยากอะไร”

 มีใครไปตรวจสอบหรือยัง?

ฤาษี: “โห เยอะ กรมพุทธศาสน์ก็เข้าไป อะไรก็เข้าไป แต่ทุกอย่าง ผมบอกก่อนนะ ใครก็แล้วแต่ที่กำลังเป็นทุกข์ คนเราแพ้อย่างเดียวคือความดี และความเมตตา หลายๆ คนอาจมองฤาษีเณร สิ่งที่สร้างเยอะแยะมากมาย แต่หลายๆ คนอาจไม่เคยเห็น ฝั่งที่เขาทำความดี

เช่น ผมตั้งเป็น มูลนิธิพลังพุทธคุณ เงินเข้าออกมูลนิธิหมด ที่ผ่านมากฐิน 9 วัดก็หลายบาท ช่วยวัด ช่วยโรงเรียน เลี้ยงอาหารกลางวันทุกเดือน จ้างครูพิเศษมาสอนครูทุกเดือน สาธารณประโยชน์ โรงพัก เยอะมาก แล้วมูลนิธิไม่เรี่ยไรทั่วไป อาจารย์เณรหาเงินคนเดียว สร้างคนเดียว ทำคนเดียว ถึงได้บอกว่าไม่กลัวใครมาตรวจสอบไง”

เป็นไปได้มั้ย สิ่งที่อาจารย์เณรพูด บางกลุ่มอาจมองว่าหว่านพืชหวังผลให้เห็นว่าเรามีบารมีแล้วค่อยมาเก็บดอกทีหลัง ?

ฤาษี: “ถ้าคิดอย่างนั้นก็เป็นประเภทอลัชชี คือมารนอกศาสนา พระพุทธเจ้าบอกจงอย่าหลงกับธรรมของเรา ดูก่อนอานนท์”

 พระพุทธเจ้าบอกว่าอย่าอวดอุตริเป็นผู้วิเศษ?

ฤาษี: “พระเวสสันดรชาดกมีจริงมั้ย มันอยู่ในตำราของพระพุทธเจ้า คนไม่เข้าใจก็ต้องอธิบาย ไม่ใช่ไปอาฆาตเขา ถ้ามองว่าดูย้อนแย้งการปฏิบัติที่ถูกต้อง พระพุทธเจ้าบอกว่าตนเองคือผู้เห็นตนเอง แต่ความผิดของภิกษุหรือผู้ทรงศีล ผิดเพราะโลกติเตียน”

 หยุดทำแบบนี้ได้มั้ย ดูไม่น่าศรัทธา?

ฤาษี :“มีเหตุผลอะไรให้ผมหยุด การที่เราแผ่เมตตาหรือโปรดสัตว์พระพุทธเจ้าก็บอกวิธีไว้ ถ้าให้หยุดปลุกเสก ก็เหมือนให้ผมหยุดปฏิบัติธรรม เพราะอย่างที่เล่าให้ฟังว่ากระสิน10 คือการสำแดงฤทธิ์”

 ณ วันนี้ถ้ามีคนพูดว่าปัจจุบันสังคมไทยขายดีมี 3 อย่าง ความสวย สองสุขภาพ สามความเชื่อ?

ฤาษี: “อาหารเสริมปรุงยังไงก็ได้ แต่ถ้าวงการความเชื่อประกอบด้วยความศรัทธา ความศรัทธาคือความเชื่อ ความเชื่อคือปาฏิหาริย์ สิ่งที่เราจับต้องไม่ได้ แต่เกิดขึ้นได้”

 คิดอยู่ฝ่ายเดียว?

ฤาษี: “ก็คงคิดกันทั่วโลก”

เวลาไปข้างนอกแต่งชุดแบบนี้?

ฤาษี: “ผมแต่ง 2 แบบคือชุดแบบนี้กับชุดม่อฮ่อม ส่วนมากใส่แบบนี้ เวลาออกจากอาศรมต้องไปพิธีการพิธีกรรมเท่านั้น”

หยิ่งด้วย เชิญไม่ค่อยไป?

ฤาษี: “ไม่ใช่หยิ่งหรอก อยากจะไปนะ ตามวัดตามวาตามพิธีการ แต่ว่างานตัวเรามันเยอะ”

ณ วันนี้สำนักพุทธมาบอกแล้วว่าห้ามขาย ห้ามให้เช่าวัตถุมงคล ห้ามให้หวย ห้ามให้เลข ทุกอย่างทำไมยังทำ?

ฤาษี: “ก็อย่างที่บอกว่าผมไม่ได้ให้  โป๊งเหน่งผมก็ไม่ได้ให้ เขาไปดูของเขาเอง น้ำมนต์กลางหาวเขาไปดูกับตาเขาเอง หาวในบาลีคือท้องฟ้า คือน้ำค้างนั่นแหละ”

หลังออกรายการ สังคมพิพากษาว่าทำแบบนี้ไม่เหมาะไม่ควร ย้อนแย้ง ขอให้คนเข้าไปตรวจสอบ ?

ฤาษี: “ยินดีต้อนรับ ผมไม่หยุด”

ถ้ามีข้อกฎหมายว่าหลอกลวง ?

ฤาษี: “ข้าราชการก็มีสิทธิ์ที่เขาจะตรวจสอบ และเราให้เขาตรวจสอบ อะไรทำให้ฤษีเณรหยุด หยุดเพราะอะไร สังคมจะประณามคนดีคนหนึ่งให้จมแผ่นดินไม่ได้”

โป๊งเหน่ง : “เราทำเพื่อช่วยสังคม”

ฤาษี: “การสร้างความดี สมมติคุณหนุ่มไม่ชอบอาจารย์เณร จ้างคนพันคน คนละหนึ่งร้อย ให้ลงมติว่าอาจารย์เณรเป็นคนชั่ว ผมก็โดนคนไม่ดีทำร้ายง่ายๆ  สรุปนะ บุคคลที่จะรู้ได้ว่าฤาษีเณรเก่งจริง หรือปลอม บุคคลนั้นต้องมีปัญญา เมื่อมีปัญญาก็มาที่อาศรมและมาทดสอบปัญญาผมเท่านั้น คริสตจักรก็มีรูปแบบคริสตจักร อิสลามก็มีรูปแบบอิสลาม ปัญญาในการตีวิชาให้แตกฉาน”

ไม่ใช่มาเสก?

ฤาษี: “เรื่องวิชาอาคมก็ถามได้”

วันนี้ทำอะไรบ้าง?

ฤาษี: “ที่เราศึกษามาก็สารพัดเรื่อง อยากทราบเรื่องอะไรก็เข้าไปถามผม ผมตอบได้ทุกอย่างด้วย”

ถ้าสังคมส่วนใหญ่มองว่าให้ไปตรวจสอบแล้วไปเจอ แบบนี้หลอกลวงให้หยุด?

ฤาษี: “ขออนุญาตนิดหนึ่ง คำว่าพระพุทธเจ้าที่ห้ามภิกษุอยู่ในที่ลับหูกับลับตา คำว่าลับหูคือเห็นอยู่แต่ไม่ได้ยิน ที่ลับตา เราไม่เห็นแต่ได้ยินเสียง ภิกษุกล่าวหาภิกษุด้วยกัน คือปราชิกนะ”

สังคมมีกระแสย้อนแย้งกลับมา อยากรู้ว่าแบบนี้ได้เหรอ?

ฤาษี: “สมมุติมีมีดอยู่เล่มหนึ่ง เราสามารถประหารคนได้ แต่จะประหารโดยใช้ความคิด จะลงโทษใครก็ได้เหรอถ้ามีมีด  ทุกวันนี้ผมก็กำลังแจงเรื่องความถูกต้องให้สังคมเห็น”

เสกปลัดขิกให้ชาวบ้านมีของดีติดตัว ค้าขายดี?

ฤาษี: “มันเป็นความเชื่ออีก คนไม่มีความเชื่อเอาไปแค่ไม้ธรรมดา โยนเมื่อไหร่ก็โยนได้ แต่ถ้ามีความเชื่อสิ่งนี้มันขลัง ศักดิ์สิทธิ์ และเราต้องทำความเข้าใจกับมันด้วย ผมไม่ใช่ผู้วิเศษทำให้ใครรวยก็ได้”

คนด่า ? ฤาษี: “ก็แล้วแต่ ไม่สนใจ”

โป๊งเหน่ง : “ให้เขาด่าไปครับ ผมก็ยังนับถืออาจารย์เณรของผมอยู่”

ฝากอะไร ?

โป๊งเหน่ง : “ที่อาศรมฤาษีเณรเขาจะมีการไหว้ครู 3-4-5 กพ ถ้าเชื่อก็ไปดูให้เห็นกับตา ไม่เชื่อก็ไม่ต้องไป แค่นั้นเอง ใครอยากไปตรวจสอบก็ไปเลย”

ถ้าเขาชี้ว่าผิด?

ฤาษี: “ผิดก็ยินดีรับผิด ลูกผู้ชายไง แต่ถ้าถูกจะแก้อะไรให้ผม”

โป๊งเหน่ง : “ถ้าถูกสังคมจะให้อะไรเรา หรือไปสำนักกันเยอะๆ  อยากรู้มานานแล้วไอ้สังคมเป็นใคร”

ฤาษี: “จริงๆ ผมไม่ต้องการความศรัทธาจากคน คนที่เขาศรัทธาเพราะเขาเห็นแล้วศรัทธา ไม่ต้องแห่กันไปแต่ไมเชื่อ มันก็เท่านั้นแหละ มันไม่มีประโยชน์”

www.medhubnews.com เว็บไซต์ข่าวสุขภาพ ของคนรุ่นใหม่

"Health News Leader Thailand and Health Data Science" 

https://www.facebook.com/Dr.sasook 

05 มกราคม 2564

ผู้ชม 2566 ครั้ง

Engine by shopup.com