เฝ้าระวัง วัยรุ่น นักเที่ยวราตรี ปาร์ตี้ “Club Drugs” ทั้งคอนโด และ ผับ ใช้ “ยาเค ยาอี”
เฝ้าระวัง วัยรุ่น นักเที่ยวราตรี ปาร์ตี้ “Club Drugs” ทั้งคอนโด และ ผับ ใช้ “ยาเค ยาอี”
สถานการณ์ยาเสพติดในประเทศไทยในปัจจุบัน พบว่ามีการแพร่ระบาดของยาเสพติดอย่างกว้างขวาง และรุนแรงมากขึ้น
โดยเฉพาะ ในหมู่วัยรุ่นและนักท่องราตรีที่นิยมใช้ Club Drugs ซึ่งหมายถึงยาและสารเสพติดที่ใช้ในสถานบันเทิงที่มีการเต้นรำ มีการแพร่ระบาดตามเมืองใหญ่ เมืองท่องเที่ยว และแถบชายทะเลของประเทศ
กองบรรณาธิการ medhubnews.com เว็บไซต์สุขภาพและ เพจ sasook รายงานว่านายแพทย์สุขุม กาญจนพิมาย อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข
สำหรับไทย Club Drugs ที่ใช้ได้แก่ ยาอี ( ecstacy ) และยาเค หรือ คีตามีน ( ketamine ) เป็นส่วนใหญ่
ทั้งนี้ คีตามีน จัดเป็นวัตถุออกฤทธิ์ประเภทที่ 2 ตามพระราชบัญญัติวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท พ.ศ.2518 มีข้อบ่งใช้ในทางการแพทย์เพื่อเป็นยาสลบ
นอกจากนี้ยังใช้บรรเทาอาการหอบหืดในผู้ป่วยโรคทางเดินหายใจตีบเรื้อรัง ใช้บรรเทาอาการปวดหลังเข้ารับการผ่าตัดและช่วยลดการใช้ยามอร์ฟีน ใช้บำบัดอาการซึมเศร้าในโรคอารมณ์สองขั้ว เป็นต้น
ปัจจุบันมีการผลิตคีตามีนรูปแบบ ยาผงสีขาวมาจำหน่าย โดยคีตามีนจะออกฤทธิ์หลอนประสาทอย่างรุนแรง เมื่อเสพเข้าไปจะรู้สึกเคลิบเคลิ้ม กระบวนการทางความคิด การรับรู้และตอบสนองต่อสิ่งแวดล้อมทั้งภาพ แสง สี เสียงเปลี่ยนแปลงไป ร่างกายเคลื่อนไหวไม่สัมพันธ์กัน
หากใช้คีตามีนในปริมาณมากจะทำให้เกิดการกดการหายใจ และหากใช้ติดต่อกันเป็นเวลานานจะทำให้เกิดอาการทางจิต ประสาทหลอน หูแว่ว กลายเป็นคนวิกลจริตได้
นอกจากนี้ยังมีการศึกษาที่พบว่า การใช้คีตามีนปริมาณมาก จะทำให้เป็นโรคกลั้นปัสสาวะไม่อยู่ ปวดแสบปวดร้อนเมื่อรู้สึกปวดปัสสาวะ จนถึงขั้นต้องผ่าตัดเปลี่ยนกระเพาะปัสสาวะเพื่อใส่กระเพาะปัสสาวะปลอม
ในปัจจุบันถึงแม้จะมีมาตรการทางกฎหมายออกมาควบคุมคีตามีนอย่างเข้มงวด แต่ยังพบว่ามีการนำคีตามีนไปใช้ในทางที่ผิดเพิ่มมากขึ้น ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ที่ 6 ชลบุรี มีการเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของการใช้คีตามีนในทางที่ผิด
จึงทำการศึกษาโดยการรวบรวมข้อมูลตัวอย่างคีตามีนที่ส่งตรวจวิเคราะห์จากสถานีตำรวจในภาคตะวันออกของปีงบประมาณ 2557 – 2560 จำนวน 87 ตัวอย่าง
แบ่งเป็น 2 รูปแบบคือ ผงละเอียดสีขาวจำนวน 64 ตัวอย่าง (73.6%) และของเหลวใสบรรจุในขวดยาฉีดแก้วปริมาตร 8 - 10 ml จำนวน 23 ตัวอย่าง (26.4%) ดำเนินการตรวจพิสูจน์เอกลักษณ์ด้วยวิธี Thin Layer Chromatography (TLC) และตรวจวิเคราะห์ปริมาณสารบริสุทธิ์ด้วยวิธี Gas Chromatography (GC)
ผลการตรวจวิเคราะห์ ตรวจพบคีตามีน 85 ตัวอย่าง (97.7%) และมีความบริสุทธิ์อยู่ในช่วง 68.1 – 99.9%
นอกจากนี้ยังพบว่า ตัวอย่างสารละลายคีตามีนที่พบในปัจจุบัน มักจะบรรจุอยู่ในขวดที่มีฉลากที่แปลกไปจากเดิม เช่น ฉลากระบุว่าเป็นคอนแทคเลนส์ น้ำยาละลายขี้หู เป็นต้น
เพื่อให้ง่ายแก่การลักลอบขนส่ง ขาย และนำไปใช้ในทางที่ผิด ข้อมูลนี้จึงเป็นประโยชน์ต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อนำไปใช้ในการสนับสนุนการป้องกันและเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท
ทั้งนี้จากการตรวจสอบเพิ่มเติมของ medhubnews.com พบว่าพื้นที่ตามที่มีการแจ้งเบาะแสเข้ามาทาง ตำรวจท่องที่ ส่วนมากจะเป็นพื้นที่ภาคตะวันออก ที่มีทะเล
เช่น พัทยา บางแสน เกาะเสม็ด ฯลฯ บรรดาวัยรุ่น นักท่องเที่ยวราตรีบางกลุ่ม มักจะนำไปเป็นอุปกรณ์สร้างความสนุกสนาน เคลิบเคลิ้ม เหมือนได้ขึ้นสวรรค์
ขณะที่วงการแพทย์ มีแพทย์ไม่ประสงค์ออกนาม ขอความกรุณานักข่าว medhubnews.com ออฟเรคคอร์ด ( ห้ามเผยชื่อ สกุล ) แต่สามารถให้ความรู้ได้
ซึ่งพบว่า คีตามีน ใช้บำบัดอาการซึมเศร้า ในโรคอารมณ์สองขั้ว หรือ ผู้ป่วย “ไบโพลาร์” เป็นต้น ซึ่งการตรวจทางปัสสาวะเพื่อหาสารเสพติดจึงต้องกระทำในโรงพยาบาลที่มีนักวิทยาศาสตร์ และ นักเทคนิคการแพทย์
เพราะอุปกรณ์ทดสอบเบื้องต้นอาจจะส่งผลให้เกิดการคลาดคลื่อนได้ และแพทย์ผู้นี้ยังได้ให้ข้อมูลถึงสมุนไพรกัญชา ใบกระท่อมด้วย ซึ่งทางการแพทย์ในนานาชาติ ถือเป็นนวัตรกรรมทางเลือกเพื่อสุขภาพ มีกาารควบคุมอย่างถูกกฏหมาย เปลี่ยนมาบำบัดรักษาโรคมะเร็ง และ ใช้ประโยชน์ด้านอื่นๆ แล้ว
เมดฮับ นิวส์ medhubnews.com
เว็บไซต์ข่าวสุขภาพ สาธารณสุข การท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพ วาไรตี้ ฯลฯ
Thailand Health and Wellness News
ติดตามข่าวสารจาก medhubnews.com
24 ธันวาคม 2561
ผู้ชม 5073 ครั้ง