"แห่ศพประท้วงพยาบาลให้ดมยาสลบลูกชายช็อคเสียชีวิต" พร้อมข้อความ ประจาน "พยาบาลไทย"

กรณี ผู้เสียชีวิตจากประสบอุบัติเหตุถูกรถแท็กซี่ชนที่ย่านบางนา เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม ปี 60 หลังนำตัวส่งโรงพยาบาลแห่งหนึ่งพบว่ามีอาการขาซ้ายหัก และเสียชีวิตในเวลาต่อมา

แพทย์ระบุลูกชายเสียเลือดมาก ทราบภายหลังเจ้าหน้าที่พยาบาลให้ดมยาสลบ จนลูกชายเกิดอาการช็อก โดยมีหลักฐานเป็นคลิปเสียง ขณะแพทย์ผู้ทำการรักษาคุยกับพยาบาลเกี่ยวกับอาการของลูกชายว่าความดันต่ำ

และ พูดถึงการให้ดมยาสลบ ระหว่างผ่าตัดไม่มีแพทย์วิสัญญีประจำอยู่ ปล่อยให้พยาบาลดูแลคนเดียว

อีกทั้ง สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม ศูนย์ธรรมศาสตร์รังสิต ได้ระบุผลชันสูตรว่า เลือดมาเลี้ยงหัวใจไม่ทัน ทำให้หัวใจวายตาย อวัยวะภายในปกติดี จนตอนนี้ได้รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อต่อสู้คดี เพราะต้องการให้ทางโรงพยาบาลชี้แจงการเสียชีวิตที่แท้จริง และออกมารับผิดชอบการกระทำดังกล่าว 

ขณะที่ ทางครอบครัว พร้อมด้วยทนายความนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรม นำศพลูกชายแห่ไปหน้าโรงพยาบาล เพื่อยื่นหนังสือต่อผู้บริหารโรงพยาบาล ให้ชี้แจงและทวงหาความรับผิดชอบ

ด้าน สหภาพพยาบาลแห่งประเทศไทย โพสต์ข้อความในเพจ ระบุว่า “งานดมยาสลบ คือ อีก 1 งาน ที่พยาบาลไทยทำมานาน อบรม 1 ปี ไร้ความก้าวหน้า แต่ก็ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความทุ่มเท ใช้ศักยภาพที่ตนมี

หลายโรงพยาบาลมีวิสัญญีพยาบาลเพียงคนเดียว ที่เป็นผู้รับผิดชอบงานดมยาสลบคนไข้ผ่าตัดทั้งหมด เช่นนี้มานานแล้ว แต่สังคมไม่ได้รับรู้เลย 

แม้จะมีคุณวุฒิปริญญาโท เป็นผู้ปฏิบัติการพยาบาลขั้นสูง แต่ไร้ความก้าวหน้า ค่าตอบแทน ทำทุกอย่างในการดูแลคนไข้ดมยาสลบเพื่อผ่าตัด และทำมาหลายสิบปีแล้ว

ความสำเร็จของงาน ไม่เคยยกให้พยาบาล เมื่อเกิดผลลัพธ์ จากการกระทำที่สุดวิสัย....มีใครเข้าใจ และเห็นใจพยาบาลบ้าง” ?? 

รายงานพิเศษ จากใจ กองบรรณาธิการ medhubnews.com  เว็บไซต์สุขภาพ