กรณ์ณรงค์เดช โล่ง ศาลตัดสิน “เกษม” ถูกปลอมลายเซ็นจริง และไม่เคยเป็นนอมินีคุณหญิงกอแก้ว

บทความ

กรณ์ณรงค์เดช โล่ง ศาลตัดสิน “เกษม” ถูกปลอมลายเซ็นจริง และไม่เคยเป็นนอมินีคุณหญิงกอแก้ว

กรณ์ณรงค์เดช โล่ง ศาลตัดสิน “เกษม” ถูกปลอมลายเซ็นจริง และไม่เคยเป็นนอมินีคุณหญิงกอแก้ว

 

ครอบครัว "ณรงค์เดช"โล่ง ศาลตัดสิน “เกษม” ถูกปลอมลายเซ็นจริง และไม่เคยเป็นนอมินีคุณหญิงกอแก้ว ซื้อหุ้นวินด์ ทีมทนายจ่อลุยคดีเกี่ยวเนื่องอีก 10 คดี ระบุการนำเอกสารไปใช้ทั้งก่อนและหลังคำตัดสินมีความผิด กฤษณ์-กรณ์ ย้ำดูแลธุรกิจตระกูลแค่ 2 คน

 

จากกรณีที่สำนักงานอัยการสูงสุดเป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายณพ ณรงค์เดช และคุณหญิงกอแก้ว บุณยะจินดา กับพวกในช้อหาปลอมเอกสาร และใช้เอกสารปลอม ต่อศาลอาญากรุงเทพใต้ ตั้งแต่ปี 2564 เป็นคดีหมายเลขดำที่ 1 703 /2564 กรณีที่นายณพ อ้างว่านายเกษม (บิดา) เป็นตัวแทนให้คุณหญิงกอแก้ว (แม่ยาย) ในการซื้อหุ้นบริษัท วินด์ เอนเนอยี โฮลดิ้ง จำกัด และการโอนหุ้นวินด์

เอนเนอยีไปให้บริษัทโกลเด้น มิวสิค ซึ่งตั้งอยู่ในเขตปกครองพิเศษฮ่องกง ซึ่งเป็นหนึ่งใน

สาเหตุหลักที่ครอบครัวมีแถลงการณ์ประกาศตัดนายณพ ออกจากตระกูลตั้งแต่ปี 2561

 

ทั้งนี้ ที่ผ่านมานายเกษม ได้ถูกข้าใจผิดมาตลอดระยะเวลาหลายปีว่า การที่นายเกษม และครอบครัวฌรงค์เคช ออกมาพูดเรื่องการถูกปลอมลายมือชื่อเพื่อโอนหุ้นของนายเกษม ไปให้แก่คุณหญิงกอแก้ว เป็นเรื่องไม่จริง

 

ทั้งที่มีการตรวจพิสูจน์ลายมือชื่อของนายเกษม ในเอกสารปัญหาดังกล่าวโดยหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นกองพิสูจน์หลักฐาน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม ที่ผลปรากฏจากการตรวจสอบจาก 2 สถาบันล้วนยืนยันออกมาตรงกันว่าเป็นลายมือชื่อปลอม

 

ครอบครัวณรงค์เดช ใช้ความอดทนเพื่อรอการพิสูจน์โดยกระบวนการยุติธรรมเรื่อยมา ล่าสุด เมื่อวันที่ 28 กันยายน 2566 ที่ผ่านมา ศาลอาญากรุงเทพใต้ ได้มีคำพิพากษาเป็นคดีหมายเลขแดงที่ 0 1753/2566 โดยศาลมีคำสั่งพิพากษาว่า เอกสารจำนวน 5 ฉบับเป็นลายเซ็นปลอม กล่าวคือ

 

1.สัญญาซื้อขายหุ้นวินด์ ที่นายเกษม ทำกับบริษัท เคพีเอ็น เอนเนอยี (ประเทศไทย) จำกัด

2.หนังสือแต่งตั้งตัวแทน ที่นายเกษม รับเป็นตัวแทนของคุณหญิงกอแก้วในการซื้อหุ้นวินด์

3.ตราสารการโอนหุ้น ที่นายเกษม โอนหุ้นของบริษัทโกลเค้นมิวสิด ให้แก่คุณหญิงกอแก้ว

4.ใบซื้อขายหุ้น ที่นายเกษม ขายหุ้นบริษัทโกลเด้นมิวสิคให้แก่คุณหญิงกอแก้ว

5.คำประกาศเจตนารมณ์ในการเป็นทรัสต์ ที่นายเกษม ประกาศว่า หุ้นบริษัทโกลเด้นมิวสิคเป็นของคุณหญิงกอแก้ว และผลประโซชน์ใดๆ ที่เกิดขึ้นจากหุ้นต้องตกเป็นของคุณหญิงกอแก้ว

 

ขณะที่นายพิชา ป้อมค่าย ทนายความของครอบครัวณรงค์เดช ชี้แจงว่า "ทั้งนี้เอกสาร 5 ฉบับที่มีลายมือชื่อนายเกษม ที่ศาลมีคำพิพากษาว่า เป็นลายมือชื่อปลอม จึงถือว่าเป็นเอกสารปลอม ซึ่งศาลมีคำพิพากษาให้ริบเอกสารทั้ง 5 ฉบับดังกล่าว ซึ่งการริบตามความหมายในคำพิพากษาศาลเพราะเอกสารปลอมถือเป็นทรัพย์ที่มีไว้เป็นความผิดหรือโดยนำไปใช้จะมีความผิด

 

**นายณพ ณรงค์เดช และคุณหญิงกอแก้วรอดผิด**

อย่างไรก็ตาม คดีนี้ศาลได้ยกฟ้องจำเลย

เนื่องจากฝ่ายโจทก์ (นายเกษม) ไม่สามารถยืนยันระบุได้ว่าจำเลยคนใดเป็นผู้ทำเอกสารปลอม

 

**ศาลตัดสินเกษมไม่เคยเป็นนอมินีคุณหญิงกอแก้ว**

แต่ด้วยผลแห่งคำพิพากษาของศาลอาญากรุงเทพใต้ดังกล่าวที่พิพากษาอย่างชัดเจนว่าเอกสารทั้ง 5 ฉบับเป็นเอกสารปลอม จึงถือได้ว่านายเกษม ไม่เคยเป็นตัวแทนหรือนอมินีของคุณหญิงกอแก้ว ในการซื้อหุ้นวินด์ เอนเนอยี ตามที่นายณพ และคุณหญิงกอแก้ว ได้กล่าวอ้างมาตลอด และเมื่อเอกสารเกี่ยวกับการโอนหุ้นบริษัทโกลเด้นมิวสิค ระหว่างนายเกษม และคุณหญิงกอแก้ว เป็นเอกสารปลอมการโอนหุ้นจึงไม่มีผลทางกฎหมาย ตกเป็นโมฆะ"

**ยืนยันครอบครัวณรงค์เดชบริสุทธิ์**

การที่ครอบครัวณรงค์เดช ได้แถลงข่าวกับสื่อมวลชนในวันนี้ เพราะเพิ่งได้รับสำเนาคำ

พิพากษาจากศาล และได้ตรวจสอบข้อความในคำพิพากษาทั้งหมดแล้ว จากคำพิพากษาของศาลอาญากรุงเทพใต้ดังกล่าวเป็นเครื่องพิสูน์แล้วว่าสิ่งที่นายเกษม และครอบครัวณรงค์เคชได้พูดกับสื่อมวลชนมาตลอดตั้งแต่ปี 2561 ว่านายเกษม ถูกปลอมลายมือชื่อเพื่อ โอนหุ้นวินเอนเนอยี ของครอบครัวออกไป เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริงที่ได้รับการพิสูจน์แล้ว จึงขอนำเอาความจริงที่ศาลได้พิพากษามาแถลงแก่สื่อมวลชน เพื่อทำความเข้าใจกับสาธารณชน

**กฤษณ์-กรณ์ดูแลธุรกิจตระกูลแค่ 2 คน**

ทั้งนี้ ครอบครัวณรงค์เดช ประกอบอาชีพโดยสุจริต ไม่เคยคิด โกงใคร และนายเกษม เอง เป็นนักธุรกิจที่มีชื่อเสียง ไม่มีทางยินยอมเป็นนอมินี หรือเป็นตัวแทนให้แก่คุณหญิงกอแก้วอย่างแน่นอน และธุรกิจในเครือของ

ครอบครัวณรงค์เคช ทั้งหมดได้แบ่งการบริหารงานโดยนายกฤษณ์ และนายกรณ์ ทายาทของครอบครัวที่เหลืออยู่เพียง 2 คนเท่านั้น

 

**ใครนำเอกสารไปใช้มีความผิด**

นายพิชา ป้อมค่าย ทนายความของครอบครัวณรงค์เดช กล่าวว่า จากคำพิพากษาชัดเจนแล้วว่าถ้ามีการนำเอกสารนี้ไปใช้ทั้งก่อนหน้าและหลังคำตัดสินจะถือว่ามีความผิด ต่อจากนี้ทีมกฎหมายจะมีการพิจารณาว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไปเพราะมีคดีที่เกี่ยวข้องอีก 10 คดี โดยเบื้องต้นต้องมีการประสานไปยังฝ่ายกฎหมายของบริษัทโกลเด้นมิวสิคที่ฮ่องกงก่อนว่าจะทำอย่างไรหลังจากมีคำตัดสินนี้ออกมา ธุรกรรมเกี่ยวกับหุ้นที่มีปัญหาจะต้องทำอย่างไร

 

**เปิดทางพร้อมเจรจา*

สำหรับระยะเวลาดำเนินการของคดีอาจจะต้องใช้เวลานานตามกระบวนการของศาล แต่มีแนวทางในการไกล่เกลี่ยเพื่อให้ได้ข้อสรุป ซึ่งตัวกลางน่าจะเป็นฝ่ายกฎหมายของแต่ละฝ่ายที่จะต้องนัดทั้ง 2 ฝ่ายเข้ามาเจราจากันแต่ตอนนี้ยังไม่มีกำหนดเวลาที่ชัดเจนว่าจะมีขึ้นเมื่อไร

 

ส่วนจะดำเนินคดีกับผู้ได้รับประโยชน์หรือเกี่ยวข้องหรือไม่ต้องรอทางครอบครัวชี้แจงแต่ถ้าต้องทำหรือเป็นประโยชน์ต่อคดีก็พร้อมดำเนินการ

21 ตุลาคม 2566

ผู้ชม 847 ครั้ง

Engine by shopup.com