"แจ๊ค เชิญยิ้ม" เปิดใจ "อาการป่วยซูบผอม" จนคนคิดว่าเป็นเอดส์ ด้านสาธารณสุขเผยแผนยุติ “เอดส์ และวัณโรค” ชี้ตายสูงมาก
"แจ๊ค เชิญยิ้ม" เปิดใจ "อาการป่วยซูบผอม" จนคนคิดว่าเป็นเอดส์ ด้านสาธารณสุขเผยแผนยุติ “เอดส์ และวัณโรค” ชี้ตายสูงมาก
กรณี นักแสดงตลก แจ๊คเชิญยิ้ม ที่ดูเหมือนว่าเจ้าตัวต้องเจอกับปัญหาสุขภาพมากมาย แถมตรวจพบเป็นวัณโรคปอด ทำเอาซูบผอมอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งหวานใจหญิง อภิสรา ก็ป่วยด้วยโรคไต แถมยังมีประเด็นต่างๆ ตามมามากมาย
ล่าสุด เว็บไซต์สุขภาพ medhubnews.com รายงานว่า แจ๊ค เชิญยิ้ม ควงหวานใจหญิง อาภัสรา มาเคลียร์ประเด็นต่างๆ ผ่านทางรายการ คุยแซ่บ Show ทางช่อง one31 ที่มีหนิง ปณิตา, ธัญญา ธัญเรศ และเป็กกี้ ศรีธัญญา เป็นพิธีกร
น้ำหนักลดไปเยอะมาก?
แจ๊ค : น้ำหนักลดไป 10 กิโล ภายในไม่ถึง 15 วัน เพราะว่ามันเป็นผลข้างเคียงของคนที่เป็นโรคนี้ วัณโรคปอด ปอดติดเชื้อ ปอดอักเสบ แล้วน้ำท่วมปอดด้วย
มันเกิดจากอะไร?
แจ๊ค : การใช้ชีวิตปัจจุบัน ในการที่เราหายใจเข้าไป ฝุ่น มลพิษต่างๆ ที่เราหายใจเข้าไป
หญิง : คือคนทั่วไปก็เสี่ยงเป็นโรคนี้ได้ เหมือนภูมิต้านทานเราต่ำเวลาเป็นไข้แล้วปล่อยให้มันเรื้อรังเชื้อมันก็จะลงไปที่ปอด
ที่ผ่านมาแจ๊คทำงานค่อนข้างหนัก?
แจ๊ค : เยอะ แจ๊คทำงานมาตั้งแต่เด็ก ประมาณ ม.2 -3 เล่นตลกคาเฟ่มาตั้งแต่เด็ก เข้าวงการตั้งแต่ปี1 ก็ทำงานมีงานเยอะมาตลอด พอมันมีงานเยอะมันก็แลกมากับการที่เราพักผ่อนน้อย พอวันนึงที่เราภูมิต้านทานต่ำโรคข้างในที่มันรอจะปะทุขึ้นมามันก็พร้อมมาก ทีนี้ก็เรียบร้อยเลย
ตอนแรกที่อากาศออก มันเป็นยังไงบ้าง?
แจ๊ค : แจ๊คมีไข้สูง 38-39 องศาติดต่อกันทุกวันเป็นแบบนี้มาเกือบเดือน เราก็แก้ไขด้วยการกินยาแล้วไปทำงาน พอดื้อยาก็ไปฉีดยาแทนเพื่อให้ไปทำงานไหว พอวันนึงตื่นเช้ามาพบว่าเรามีปัญหาเรื่องระบบการหายใจ โดยเราอาบน้ำ สระผม แต่งตัว เดินขึ้น-ลงบันไดบ้าน แล้วรู้สึกเหนื่อยขึ้น ก็เลยไปตรวจพอเอ็กซเรย์ในปอดเราจะมีจุดสีขาวเต็มเลย
หมอบอกว่ามันเป็นเชื้อโรค เชื้อราทั้งหมด บริเวณปอดมีน้ำมากกว่าปกติต้องดูดออกด่วน แล้วก็ให้แอดมิทเลย คือปอดของคนปกติเอ็กซเรย์ออกมาจะเป็นสีดำทั้งหมด ของแจ๊คแทบไม่มีสีดำ อีกอย่างนึงของแจ๊กมีน้ำอยู่ข้างใต้ต้องเจาะข้างหลังแล้วดูดน้ำออก คือเขาเจาะสดเลย แล้วเจาะเลือดตรวจทุกวัน
พอได้ยินแบบนั้นรู้สึกยังไง?
แจ๊ค : รู้สึกว่ามันงงก่อนว่าเราเป็นได้ไง คือบุหรี่เราก็ไม่สูบ ซึ่งเราคิดว่าเราเป็นไข้ธรรมดา พอมาวันนึงมันไม่เตือนเราเลย มาถึงก็เหนื่อยเลยแล้วก็แอดมิทเลย งานทั้งหมดเราก็ไม่ได้เคลียร์ แต่ถ้าเราออกไปทำงานต่อมันก็จะมีผลต่อเราด้วย ถ้าเราไปทำอะไรหนักๆ เราก็อาจจะช็อกได้
ระหว่างอยู่โรงพยาบาลคุณหมอบอกอะไรเราบ้าง? แจ๊ค : เขากักตัวเราไว้
ความร้ายแรงที่เป็นมันขนาดไหน?
แจ๊ค : เสียชีวิตได้ คือคนที่เป็นโรคปอดแล้วเป็นคนใกล้ตัวไม่ถึงสัปดาห์เขาเสียชีวิตเลยก็มี และบางคนที่เป็นโรคนี้รักษาตัวดีๆ 6 เดือน ปีนึง ปีครึ่งหายขาดเลยก็มี ซึ่งเราพอแอดมิท เราไม่ได้อยู่ห้องที่เขารักษาทั่วไป เราไปอยู่ในห้องกักตัว กักเชื่อ เป็นห้องสี่เหลี่ยม ตอนนั้นเราอยู่โรงพยาบาลเป็นเดือนเพื่อที่จะแน่ใจว่าเราไม่มีเชื้อที่จะไปแพร่คนอื่นแล้วถึงออกมารักษาข้างนอก
ตอนนั้นหญิงทำยังไง?
หญิง : หญิงเสร็จงานก็ไปเยี่ยมตลอด ห้ามเฝ้า เพราะที่โรงพยาบาลไม่ให้เรานอน เขาก็ให้คาดแมส ส่วนตัวเราก็ไม่สบายเขาก็กลัวเชื่อจะมาติดเรา ก็ให้กำลังใจเขา พอเห็นสภาพเขาเราก็กลัวก็ไปไหว้พระ ขอพร ขออย่าให้เขาเป็นอะไรไปมากกว่านี้นะ กลัวโรคแทรกซ้อน กลัวอะไรหลายๆ อย่าง ยิ่งเราป่วยแล้วไปอยู่ในสภาพแวดล้อมแบบนั้นก้ยิ่งทำให้เราจิตตกไปด้วย
แล้วแจ๊คออกมาจากโรงพยาบาลนานหรือยัง?
แจ๊ค : น่าจะ 5 เดือน กลับไปอยู่บ้านช่วงแรกๆ ไม่สามารถทำอะไรเองได้เลยแม้กระทั่งอาบน้ำ สระผม คือด้วยความที่น้ำหนักลดลงสิบโล พอมันผอมมากทำให้เราไม่ชินแล้วร่างกายมันก็รับน้ำหนักตัวได้ไม่มาก ขาเรามันไม่มีแรงเดิน มันทำให้เรานอนติดเตียงอยู่แบบนั้น สิ่งที่เราคิดแล้วเรามองเห็นมันคือวันนึงเราทำงานมาตั้งเยอะ เรามองเห็นเงินอยู่ตรงหน้า แต่เราไม่สามารถหยิบมาใช้ได้
เมื่อกี้ที่บอกว่าโดนเจาะเลือดทุกวันกลัวมากโดยเฉพาะโรค HIV มันเกิดไรขึ้นทำไมถึงกลัวตรงนั้น?
หญิง : คือหมอเขาบอกว่าโรคพวกนี้มีโอกาสเสี่ยงที่จะเป็นเหมือน HIV อาการมันจะผอมลง คุณหมอเขาบอกว่า ดูน่าเป็นห่วง เขาผอมซูมน่ากลัว เขาก็เลยเจาะเลือดเพื่อหาเชื้อ แต่สุดท้ายก็ไม่เจอ
ตัวคุณหญิงก็ป่วยด้วย?
หญิง : หญิงเป็นนานแล้ว ฟอกไตมา 3 ปีแล้วค่ะ หมอเขาก็ไม่รู้สาเหตุ แต่มีอยู่ช่วงนึงที่หญิงทำรายการความสวยความงามแล้วกินพวกอาหารเสริม กินเยอะ แล้วหมอบอกว่าอาจจะไปโดนสเตอรอยด์ แล้วมันไปสะสมทำลายไตเรา
พอป่วยคู่แล้วเรื่องเงินทำยังไง?
แจ๊ค : จริงๆ แล้วเราทำงานมาเราก็มีเก็บ แจ๊คกับหญิงเป็นคนที่ไม่ฟุ่มเฟือยอะไรมากมาย อีกอย่างหนึ่ง ตอนนั้นหญิงป่วยก่อนเราก็ทำงานมีงานทุกวัน แล้วก็มีเงินเก็บที่เราเก็บมาของหญิงค่าใช้จ่ายไม่เยอะเท่าไหร่ ของแจ๊คก็ไม่เท่าไหร่ สำหรับเรามันน้อย แต่สิ่งที่เราหนักใจก็คือการทำยังไงให้มันฟื้นตัวเร็วที่สุด
สมมุติวันนี้กลับมาทำงานไหวกี่เปอร์เซ็นต์?
แจ๊ค : หญิงรับงานตั้งแต่ สามเดือนแล้ว ต้องขอบคุณผู้ใหญ่ทุกท่าน คือมันมีงานก่อนที่เราจะป่วย เราก็ต้องลาเขาเพราะเราป่วยทำงานให้เขาไม่ไหว เขาก็ยังรอเรา แล้วก็มีงานใหม่ๆ เข้ามาตลอดเวลา แจ๊คก็ลองงานเบาๆ ก่อน ตอนนี้เข้าเดือนที่ 5-6 ก็มีกำลังใจเยอะขึ้น
ป่วยแบบนี้ใช้ค่ารักษาทั้งหมดเท่าไหร่?
แจ๊ค : จริงๆ การรักษาแต่ละโรคมันก็มีราคาที่เป็นแสนอยู่แล้ว แล้วแต่โรคแล้วแต่อาการ ของแจ๊คก็หมดไปเยอะเหมือนกัน เราพลาดอย่างนึงคือเราไม่ได้ทำประกันสุขภาพเอาไว้
หลายคนเม้าท์ว่าคุณกลายเป็นลูกตลกตกอับ?
แจ๊ค : คำว่าตกอับของแต่ละคนมันไม่เหมือนกัน อย่างของแจ๊คคือเราป่วย ไม่สามารถรับอะไรได้ แต่ก็ยังมีงานที่เราถ่ายเอาไว้ก่อนแล้วแล้วมาออนแอร์ก็มี เราไม่ได้คิดมาก เพราะเราทำงานมาตลอด ทำจนป่วย
แจ๊ส ชวนชื่น มีให้กำลังใจยังไงบ้าง?
แจ๊ค : เขาก็มีส่งข้อความมา มีคอมเมนต์ในโซเชียลต่างๆ ด้วยต่างคนต่างทำงาน ซึ่งเขางานเยอะเวลาเจอครอบครัวยังน้อยเลย เราเป็นเพื่อนโอกาสเจอมันก็น้อยกว่า
เราก็รู้อยู่แล้วว่าคนที่เป็นเพื่อนกันก็เป็นห่วงกันอยู่แล้ว ก็เลยไม่ซีเรียสเรื่องที่เป็นข่าว ซึ่งประเด็นต่างๆ ก็ไม่รู้มาได้ไง ทั้งแบบเข้าวงการมาพร้อมกันแต่คนนึงดังกว่า มีงานเยอะกว่า เอาจริงๆ เราเป็นเพื่อนกันต่างคนต่างยินดีกันมากกว่า
สำหรับ วัณโรคปอดนั้น บางคนเข้าใจผิดว่าผู้ป่วยต้องติดเชื้อ HIV ซึ่งความจริงแล้วไม่ใช่เสมอไป แต่ที่เชื่อมโยงกันเป็นเพราะในผู้ติดเชื้อเอชไอวีจะมีสถิติเป็นวัณโรคปอดร่วมด้วย และเป็นสาเหตุการตายในผู้ป่วย HIV ( อ่าน สถิติสูงต่อเนื่อง เตือนภัย "วัณโรคปอด" ติดต่อง่ายสุด แค่ "ไอ จาม และ หายใจ" )
ทั้งนี้ เว็บไซต์สุขภาพ medhubnews.com รายงานว่า จากการประชุมบริหารจัดการเชิงนโยบายเร่งรัดการดำเนินงาน เพื่อยุติปัญหาวัณโรคและเอดส์ ครั้งที่ 2/2561 เพื่อติดตามความก้าวหน้าการบูรณาการฐานข้อมูลโรค
ความจำเป็นการในเอกซเรย์ทรวงอกประจำปีในผู้ติดเชื้อเอชไอวี และการให้ยาป้องกันวัณโรคในผู้ติดเชื้อเอชไอวี ที่ผ่านมานั้น กระทรวงสาธารณสุขให้ความสำคัญปัญหาการติดเชื้อวัณโรค ในผู้ที่มีเชื้อเอชไอวี
เพราะประเทศไทยเป็น 1 ใน 14 ประเทศที่พบวัณโรคร่วมกับเอดส์สูงจึงร่วมมือกันทำงาน สำนักโรคเอดส์ฯ และสำนักวัณโรค เพื่อยุติวัณโรคและเอดส์
เนื่องจากวัณโรค เป็นโรคติดเชื้อฉวยโอกาสที่พบบ่อยที่สุด 1 ใน 3 ในผู้ป่วยเอดส์ เป็นเหตุให้เสียชีวิตมากที่สุดโดยผู้ติดเชื้อเอชไอวีที่ป่วยเป็นวัณโรคจะมีอัตราการเสียชีวิตร้อยละ 13–14 หรือทุก 7 คนมีเสียชีวิต 1 คน
ในขณะที่ผู้ติดเชื้อวัณโรคที่ไม่มีเชื้อเอชไอวีจะมีอัตราการเสียชีวิตเพียงร้อยละ 7 เท่านั้น ดังนั้นหากวัณโรคถูกวินิจฉัยและเริ่มการรักษาที่รวดเร็ว จะลดอัตราการเสียชีวิต
ลดโอกาสการแพร่กระจายเชื้อวัณโรคในชุมชน รวมทั้งการค้นหาผู้สัมผัสร่วมบ้านรวดเร็วจะช่วยยับยั้งการแพร่กระจายเชื้อวัณโรคป้องการระบาดในวงกว้างได้สำเร็จ
สิ่งที่ต้องเร่งรัดดำเนินการเพื่อยุติเอดส์และวัณโรค มี 2 เรื่องสำคัญคือ การพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารเพื่อบูรณาการเชื่อมโยงให้เป็นโปรแกรมเดียว
ข้อมูลชุดเดียวกัน ลดความซ้ำซ้อนของการบันทึกข้อมูล รวมถึงให้มีคืนข้อมูล ให้พื้นที่ได้ใช้ประโยชน์ โดยประสานกับสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติอย่างใกล้ชิด และการเอกซเรย์ในผู้ติดเชื้อเอชไอวี เพื่อคัดกรองวัณโรค
เว็บไซต์ข่าวสุขภาพ สาธารณสุข ธุรกิจบริการสุขภาพ การท่องเที่ยว ฯ
Thailand Health and Wellness News
15 มกราคม 2562
ผู้ชม 4472 ครั้ง