หนุ่มร้องสื่อ "ถูกมีดฟัน-ป้องกันตัว" แต่ติดคุก หลังถูกลูกค้าเอามีดเข้ามาฟันในร้านอาหาร
หนุ่มร้องสื่อ "ถูกมีดฟัน-ป้องกันตัว" แต่ติดคุก หลังถูกลูกค้าเอามีดเข้ามาฟันในร้านอาหาร
รายการโหนกระแส วันที่ 19 มี.ค. ทางช่อง 28 ได้เชิญ “คุณมนูญ แก้ววิจิตร” ส่งเรื่องราวขอความเป็นธรรมให้เพจแหม่มโพธิ์ดำ หลังถูกลูกค้าเอามีดเข้ามาฟันในร้านอาหาร และเกิดการป้องกันตัว ถูกศาลตัดสินให้ติดคุก เรียกค่าเสียหาย 6 ล้านบาท และตอนนี้ร้านอาหารก็ถูกปิดไปแล้ว ดังกล่าว
ผู้สื่อข่าวกองบรรณาธิการ medhubnews.com เว็บไซต์สุขภาพของคนรุ่นใหม่ และ เพจ sasook รายงานว่า อยากตำรวจ และ ท่านผู้อ่าน พิจารณาเหตุการณ์ดังกล่าว ??
มนูญ: “เรื่องเกิดเมื่อวันที่ 15พ.ค. 59 วันเกิดเหตุเข้าร้านประมาณ 5 ทุ่ม มา 2 คน ช่วงจังหวะนั้นเขาลวนลามพนักงาน น้องเขาร้องไห้วิ่งมาบอกผม ผมก็บอกให้เขาหลบแล้วถูกลวนลามอีก เด็กพยายามหลบหนี แล้วลูกค้าไม่พอใจ ลูกค้าอายุประมาณ 35 ช่วงที่เขาไม่พอใจ เขาขว้างแก้วลงพื้น ผมเลยเรียกเด็กมาถามว่ามีอะไร แล้วก็ให้เด็กเก็บค่าแก้ว 100 บาทค่าเสียหาย”
ตอนเขาเขวี้ยงแก้ว มีใครไปเคลียร์กับเขา?
มนูญ: “มีครับเป็นพนักงานบอกว่าพี่ทำแก้วแตกนะ ทางร้านขอเก็บค่าเสียหาย เขาก็โวยวายหาเรื่อง ตอนนั้นผมไม่ได้ยินครับ ผมอยู่ไกลมาก พนักงานเขาเห็น คนเมาครับ หลังจากนั้นผมเห็นท่าไม่ดีก็ถึงเวลาปิดร้าน ผมเลยให้เขากลับไป เขาก็ออกจากร้านไปแล้ว”
ทางคุณอ้วนไปบอกเขาเอง?
มนูญ: “ผมให้พนักงานไปบอกว่าร้านปิดแล้วนะ ให้ลูกค้ากลับได้แล้ว ซึ่งผมไม่ได้เจอกับเขาครับ”
เขารู้มั้ยว่าคุณคือเจ้าของร้าน?
มนูญ: “ไม่น่าจะทราบครับ หลังจากนั้นเขาก็ออกจากร้านไปยืนที่รถ ผมก็ได้ยินพี่ชายมาเล่าให้ฟังว่าลูกค้าคนนี้ไปฉี่ใส่รถ พี่ชายเลยให้กลับบ้านไป ไม่มีการกระทบกระทั่งกัน เขาฉี่ใส่รถผม ก็ไม่ทราบ เขาคงเมาและคงไม่รู้ว่าเป็นรถของผม”
บังเอิญ?
มนูญ: “ครับหลังจากนั้นเขาก็ขับรถออกมาจากลานจอดรถ กำลังจะเลี้ยวออกไปแต่คนขับรถเขาถอยหลังกลับมาอีกทีและจอดตรงข้ามกับร้านสักระยะหนึ่งเขาก็เหยียบเครื่องยนต์เสียงดังมาก ผมเห็นท่าไม่ดีเลยโทรศัพท์แจ้ง 191ทางโน้นจะส่งเจ้าหน้าที่มาดู ประมาณสัก 5 นาที คนขับรถเดินข้ามถนนมาทำทีมาต่อบุหรี่กับลูกค้าที่อยู่ในร้าน
ตอนนั้นตำรวจยังไม่มาสักพักหนึ่งผมก็กลัวจะมีเรื่อง ผมก็เลยเดินเข้าไปดูว่ามีอะไรกัน ก็เห็นว่าไม่มีอะไร น่าจะคุยกันได้ ผมแค่เดินไปดู ไม่ได้คุยกับเขา เขาก็ยังไม่รู้ หลังจากนั้นผมก็เดินกลับมาจะทำงานต่อ ซักพักหนึ่งเด็กที่ร้านก็ตะโกนมาบอกผมว่าพี่อ้วน มีด ผมหันไปเห็นพอดี เขาเงื้อมีดฟันข้างหลังผม ฟันช่วงศีรษะ แต่ผมเห็นทันก่อนเลยหลบทัน ผมเลยวิ่งไปหยิบถังใบเล็กๆ สำหรับให้ลูกค้านั่ง เขาฟันเข้ามา ผมก็เลยฟาดป้องกันตัว”
เป็นถังอะไร?
มนูญ: “ถังใช้สำหรับนั่งครับ ใบเล็กๆ ปี๊บอ่ะครับกันเพื่อให้เขาออกไป แต่เขาไม่ออก เขาฟันเลย ผมก็ใช้ถังใบนี้ยกขึ้นรับ และใช้ถังอีกใบฟาด เขาก็เซ แล้วเขาก็เดินเข้ามาจะฟันอีก แล้วพี่ชายผมวิ่งเข้ามาชาร์ต เข้ามากระแทก พอเขาล้มลง พี่ชายก็เตะมีดให้ไปไกลๆ เพื่อนเขาที่มาด้วยกันก็วิ่งจะเข้าไปหยิบมีด ก็วิ่งไปเหยียบมีดไม่ให้เขาหยิบ แล้วพี่ชายผมก็เข้าไปเอาไม้ท่อนมาตีขากับตีที่ไหล่เขาไม่ให้เขาลุกขึ้น เป็นสากกะเบือที่ใช้ตำส้มตำ”
ใหญ่มั้ย?
มนูญ: “ก็กลางๆ ครับ ก็ตีให้เขานั่งลง ตีที่ขาก่อน เขาไม่นั่งเลยตีที่ศีรษะตรงกลาง ก็ไม่แตก แต่พอเห็นตีแล้วเขานั่งลงไป ทุกอย่างก็สงบ เรียบร้อย ไม่มีอะไร พอดีตำรวจมา เรื่องเกิดขึ้นเป็นยังไง ก็ให้ผมไปถ่ายรูปเก็บเอาไว้ ตำรวจก็เอารถไปที่โรงพัก แล้วก็เอาคนเจ็บไปโรงพยาบาล”
ย้อนกลับมาถามนิดหนึ่ง เขาฟันคุณทำไม?
มนูญ เขาฟันผมทำไม ผมไม่ทราบครับ ผมไม่รู้จักและไมได้มีเรื่องกันมาก่อนหน้านี้”
เขารู้ว่าคุณเป็นคนสั่งให้เก็บตังค์ค่าแก้วหรือเปล่า?
มนูญ: “ไม่ทราบครับ ผมไม่รู้สาเหตุว่าเขาจะฟันผมเพื่ออะไรเขาอาจไม่พอใจที่ผมเก็บค่าแก้วเขาหรือเปล่า ซึ่งเขาก็ไม่น่าจะรู้ครับ”
แล้วทำไมต้องฟันคุณ?
มนูญ: “ไม่ทราบสาเหตุครับ”
ฟังดูแล้วแปลกๆ มั้ยพี่เกิดผล?
ทนายเกิดผล: “โดยส่วนตัวก็แปลก จะว่าเมาก็ใช่ สำหรับคนที่ใช้มีดฟัน แต่ทำไมต้องเจาะจงว่าเป็นคุณอ้วนเท่านั้นเอง ทั้งที่คนเยอะแยะ ก็น่าสงสัยวาเกิดเหตุอะไร โดยธรรมดาคนฆ่าแกงกันต้องมีเหตุโกรธเคืองพอสมควร ก่อนหน้านั้นมีปากเสียงกันหรือเปล่า แต่ทางพี่อ้วนบอกว่าไม่ได้มีปากเสียงอะไร ก็สงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น”
มีคลิปเขาเงื้อมือฟัน ?
มนูญ: “มีแต่ไม่ชัดเจนเท่าไหร่เพราะมันมืดหลังจากนั้นผมก็ไปแจ้งความที่โรงพัก แต่ผมไปไม่เจอร้อยเวร ผมเลยมาแจ้งความในวันรุ่งขึ้น ในเวลา 15.00 น. ร้อยเวรบอกว่ายังไม่รับแจ้งความนะ รอคนเจ็บก่อน ประมาณ 15.30 น. มีญาติคนเจ็บมาแจ้งความว่าน้องชายเขาถูกทำร้ายร่างกาย โดยผมเป็นคนกระทำ”
คนไหนที่ไปแจ้ง คนเอามีดแทงหรือคนมาช่วยทีหลัง ?
มนูญ : “เป็นพี่สาวคนเจ็บ นายอุทัย เป็นคนได้รับบาดเจ็บ เป็นคนที่เอามีดฟันผม คนโดนสากตีหัวเป็นเพื่อนคนที่มาด้วยกัน ก็บาดเจ็บเล็กน้อย”
พี่สาวนายอุทัยแจ้งความว่าคุณไปทำร้ายน้องเขา ?
มนูญ: “ครับ หลังจากนั้นผมก็ไปติดต่อร้อยเวรอีก เพื่อเอาพยาน หลักฐานไปให้ แต่ทางร้อยเวรไม่รับแจ้งความ จนผมถูกออกหมายจับ วันที่ผมถูกจับ ตำรวจท้องที่ก็ไม่ได้มาจับ ตำรวจที่มาจับเป็นตำรวจสืบภาคสอง มากันสองสามนาย พอผมสอบถามก็บอกว่าได้รับคำสั่งมาจากผู้ใหญ่ในกองบัญชาการตำรวจภูธรภาคให้มาจับกุม
ซึ่งผมก็ยังสงสัยว่าทำไมตำรวจในท้องที่ไม่มีจับ ทำไมให้ตำรวจภาคมาจับ ทั้งๆ ที่ตำรวจท้องที่อยู่ใกล้ที่สุด หลังจากนั้นก็เป็นคดีความกัน ผมก็ขอประกันตัวมาต่อสู้คดี ส่วนพี่ชายผมถูกจำคุกอยู่ในเรือนคำ ตอนนี้ยังติดคุกอยู่ครับ เราไม่มีหลักทรัพย์ประกันเพียงพอ ทั้งๆ ที่เขาไม่รู้เรื่องเลย เขามาช่วยน้อง ช่วยผมจากกความตาย ถ้าวันนั้นผมถูกฟัน ผมเชื่อเลยว่าผมตายแน่ ถ้าพนักงานไม่เห็นก่อน โชคดีที่พนักงานในร้านเห็นก่อน ผมก็เลยรอดมาจากตรงนั้น”
ปัญหาคือพี่ชายคุณติดคุก โดนยังไง?
มนูญ: “ศาลพิพากษาจำคุก 2 ปี 8 เดือน ข้อหาป้องกันตัวเกินกว่าเหตุ”
ทนายเกิดผล : “คือถูกตั้งข้อหาพยายามฆ่า ศาลก็พิพากษาว่าทั้งสองคนนี้ได้กระทำป้องกันตัวจริง แต่กาป้องกันตัวเกินกว่าเหตุ เป็นเหตุให้นายอุทัยได้รับบาดเจ็บสาหัสหรือพิการ”
นายอุทัยพิการจริงหรือเปล่า?
มนูญ: “ตอนนี้ผมได้ไปติดตามคดี เพราะผมได้ร้องเรียนไปทุกที่ ที่สนง.นายกรัฐมนตรี ตำรวจภูธรภาค 2 ผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้กำกับ ผู้การตร.ชลบุรี ร้องไปทุกที่ จนได้รับแจ้งความเมื่อวันที่ 9 ม.ค.ปี 60 นานมากถึงได้รับแจ้งความ พอได้รับแจ้งความแล้วผมก็ติดตามคดีมาตลอด ผู้บาดเจ็บให้ออกหมาเยรียกเขาก็ไม่มา ครั้งที่สองไม่มา แต่ผมก็ไม่เห็นมีที่ไหนจับ ผมก็เลยสงสัยในการทำงานของตำรวจในพ้นที่ว่าทำไมถึงไม่ติดตามผู้ต้องหามาดำเนินคดี พอรู้อีกที เขาอ้างว่าได้รับบาดเจ็บ ผมเลยอยากให้ร้อยเวรพิสูจน์ดูว่าเขาบาดเจ็บจริงมั้ย แล้วร้อยเวรก็ออกหนังสือให้ไปพิสูจน์ที่สำนักงานนิติวิทยาศาสตร์ของกระทรวงยุติธรรม แต่ทางนายอุทัยเขาไม่ยอมไป”
ฝั่งคุณอุทัยเขาอ้างว่าบาดเจ็บถึงขั้นพิการ เขาเลยไม่สามารถให้ปากคำได้ ?
ทนายเกิดผล : “คือตำรวจออกหมายเรียกไปสองครั้งแล้ว เขาก็ปฏิเสธไม่เข้ามาพบ เนื่องจากญาตินายอุทัยเขาอ้างว่าตัวนายอุทัยได้รับการกระทบกระเทือนทางสมอง ไม่สามารถที่จะต่อสู้คดีได้ เพราะไม่สามารถเข้าใจและโต้ตอบได้ ทางคุณอ้วนก็มีการโทร.ถาม จนทางตำรวจผู้กำกับในสภ.นั้นก็ขอให้ส่งตัวนายอุทัยไปตรวจที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ของกระทรวงยุติธรรมว่าเขารับรู้เรื่องราวต่อสู้คดีได้มั้ย โดยมีการทำหนังสือส่งตัวไปที่ผอ. วิทยาศาสตร์การแพทย์
แต่ทราบจากพี่อ้วนว่านายอุทัยไม่ไป คำถามคือสิ่งที่เขาร้องเรียนมาหลายที่ยังไม่ได้รับคำตอบ เมื่อนายอุทัยปฏิเสธไม่ไป มีหนังสือส่งตัวแล้ว แต่ไม่ไปแล้วจะยังไงต่อ ทางโรงพักต้องสามารถตอบคำถามได้ว่า ทำไมนายอุทัยไม่ไป แล้วตำรวจทำยังไงต่อ เขาถึงขนาดไปไม่ได้เลยเหรอ เพื่อให้ตรวจว่าระบบประสาทและสมองเขาสามารถเข้าและต่อสู้คดีได้มั้ย”
ตัวคุณเองไม่เคยไปเจอเขา?
มนูญ: “ผมเคยไปครั้งหนึ่งที่รพ.ศรีราชา ผมไปเจอแม่เขากับลูกสาว ตอนนั้นก็เล่าให้ฟังว่าเกิดอะไรขึ้นและจะเข้าไปช่วยเหลือ แต่ทางนั้นเขาไม่รับการช่วยเหลือ ผมโทรศัพท์หาพี่สาวเขาขอเบอร์จากแม่ พี่สาวเขาบอกว่าไม่ไปคุยกันที่ศาลอย่างเดียว”
ทีนี้ประเด็นที่เกิดขึ้นคือตัวคุณเองกับพี่ชายถูกแจ้งข้อกล่าวหา?
มนูญ: “ร่วมกันพยายามฆ่า”
ทนายเกิดผล : “แต่ฝ่ายคุณอ้วนเขาต่อสู้ป้องกันตัว ซึ่งศาลชั้นต้นว่าป้องกันตัวเกินกว่าเหตุ มันเลยโทษน้อยกว่าที่กฎหมายกำหนดไว้”
โดนพยายามฆ่าได้ไง?
ทนายเกิดผล : “คือข้อหาพยายามฆ่าเหมือนเขาไปหาหมอล่าสุดเขาไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองในระบบหายใจได้เลย ถ้าไปหาหมอไม่ทันเขาต้องตายแน่นอน ผมอ่านในคำพิพากษานะครับ”
ตอนคุณตี คุณตีลักษณะยังไง?
มนูญ: “เหวี่ยงถังใส่ไม่ได้ตีครับ โดนช่วงไหล่ ไม่โดนหัว”
แล้วทำไมกลายเป็นคนพิการ เลือดคั่งในสมองใช่มั้ย?
ทนายเกิดผล : “คือในที่เขาฟ้อง เขาใช้คำว่าได้รับการกระทบกระเทือนทางศีรษะ ก็ไม่รู้ว่าผลเลือดคั่งหรือเปล่า ไม่แน่ใจนะครับ”
ตอนนี้ยังไม่มีใครรู้ว่าเขาเป็นยังไงกันแน่?
มนูญ: “เคยเจครั้งล่าสุดเขามาที่โรงพัก แต่ตำรวจไม่รับแจ้งข้อกล่าวหา เพราะเขาไม่รับทราบข้อกล่าวหา เขาก็ถือหนังสือที่จะส่งไปสถาบันนิติวิทยาศาสตร์แค่แผ่นเดียว แล้วก็กลับบ้าน”
สภาพที่เห็นเป็นยังไง?
มนูญ: “เขานั่งรถเข็น เขาบอกเขาพิการ แขนขาอ่อนแรง แต่วันที่ผมเห็นเขาที่ศาล เขาสามารถถอดหมวกได้ หยิบหมวกได้ ซึ่งหมวกน้ำหนักมากกว่าปากกาแท่งหนึ่ง แต่เขาอ้างว่าเขาหยิบปากกาไม่ได้ เขาใส่หมวกแก๊ป”
คุณเลยมั่นใจว่าสิ่งที่เขาพูดไม่ตรงข้อเท็จจริง?
มนูญ: “ครับ”
มันขาดแรงจูงใจไปมั้ยพี่เกิดผล เพราะไม่เคยมีเรื่องกันมาก่อน?
ทนายเกิดผล : “ถามว่าขาดมั้ยก็ขาด แต่ว่าโดยปกติทั่วไปก็เกิดขึ้นได้ กรณีคนเมา เพราะคนเมาขาดสติ หรือไม่พอใจ แค่สงสัย ทำไมต้องเป็นคุณอ้วนแค่นั้นเอง”
เหมือนเตรียมการ ตอนแรกจะไปแล้วแต่กลับมาใหม่ ขอต่อบุหรี่ ชักมีดมาจะฟัน มันเหมือนเจตนาที่จะกลับมาทำร้ายเขา?
ทนายเกิดผล : “คือถ้าเป็นคนทั่วไป ผมมองว่าอาจจะแค่กลับมาหาเรื่องเพราะไม่พอใจ ถ้าเจาะจงเป็นพี่อ้วน ผมก็เกิดความสงสัยว่า พี่อ้วนไม่ได้ไปเผชิญหน้ากับคุณอุทัย เพราะจุดเริ่มต้นคือลวนลามเด็กเสิร์ฟ ไมได้เจอกัน ไปเก็บค่าแก้วที่แตก พนักงานก็ไปเก็บหรือไปปัสสาวะรถคุณอ้วนอีก ทั้งหมดไม่ได้เผชิญหน้ากันเลย แล้วทำไมเจาะจงมาฟัน”
ณ วันนี้คุณคาใจเรื่องอะไร?
มนูญ: “คาใจเรื่องคดีครับ คือ ณ วันนี้ ทำไมเจ้าหน้าที่ตำรวจถึงไม่สามารถเอาตัวนายอุทัยมาดำเนินคดีตามกฎหมาย ทั้งที่ออกหมายเรียกก็แล้ว ออกหนังสือให้ส่งตัวไปพิสูจน์ก็แล้ว แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่มีการติดตามคดีให้เป็นรูปธรรม เหมือนมีอะไรบางอย่าง”
คุณจะบอกว่าเขามีอิทธิพลเหรอ?
มนูญ: “ประมาณนั้นครับ ผมสืบทราบมาว่าเขามีตำรวจระดับนายพลคอยอยู่เบื้องหลัง”
คุณไปสืบจากไหน?
มนูญ: “บรรดาเพื่อนๆ ที่เป็นตำรวจด้วยกันครับ”
คุณไปออกรายการ คุณโฟนอินหารองผู้กำกับท่านหนึ่ง มันเป็นยังไง?
มนูญ: “ก็เกี่ยวกับคดีความครับ ว่าทำไมยังดำเนินคดีไม่ได้ มันเป็นไปตามระบบ มีคนเขาพูดมา ประมาณนี้ เขาสั่งมาไม่ได้เป็นลายลักษณ์อักษร ก็คงจะยาก”
รองผู้กำกับเป็นคนพูด?
มนูญ: “พูดเข้าข่ายว่ามีคนอยู่เบื้องหลัง ดำเนินคดีแบบช้าๆ ปล่อยไปเรื่อยๆ ประมาณนั้น”
ทนายเกิดผล : “คือไม่ต้องรีบ ไม่ต้องเร่งรัด”
คลิปนั้นยังอยู่มั้ย?
มนูญ: “โดนลบไปแล้วครับ ตอนที่ผมเอาไปให้นักข่าว นักข่าวก็ลบไป”
สิ่งที่ต้องการ?
มนูญ: “ผมอยากให้ผู้ใหญ่ที่อยู่ระดับสูงกว่าตำรวจภูธรภาคสอง เข้ามาดูคดีนี้ว่าทำไมถึงล่าช้า ซึ่งผมร้องเรียนไปทุกที่ เรื่องก็มาจบที่ตำรวจภูธรภาคสอง พอมาถึงที่นี่เรื่องก็ไม่ไปไหน เรื่องกลับมาที่นี่แล้วก็เงียบ”
ถ้าศาลอุทธรณ์ยืนตามชั้นต้น?
มนูญ: “ก็ต้องฎีกาต่อไปครับ”
ณ วันนี้คุณมีสิทธิ์ติดคุก?
มนูญ: “ครับ”
พี่เกิดผลอธิบายให้ฟังหน่อย?
ทนายเกิดผล : “คือข้อเท็จจริงมันชัดเจนนะครับว่าบุคคลทั้งสี่คน ฝ่ายคุณอุทัยและคุณอ้วน ทั้งสองฝ่ายต่างคนต่างทำร้ายร่างกายกัน ถูกดำเนินคดีทั้งสองฝ่าย ยกเว้นคุณอุทัยคนเดียวที่ไม่ถูกดำเนินคดี ในความผิดฐานพยายามฆ่าทั้งสองฝ่าย เพื่อนคุณอุทัยถูกศาลพิพากษาสั่งจำคุก 6 ปี 8 เดือน”
คนที่เป็นเพื่อน แค่วิ่งมาหยิบมีดเฉยๆ?
ทนายเกิดผล : “ครับ ร่วมกับนายอุทัย พี่อ้วนกับพี่ชายก็ถูกดำเนินคดี 2 ปี 8 เดือน กลุ่มพี่อ้วนศาลพิพากษาชัดเจนว่าป้องกันตัว และพวกนายอุทัยมีส่วนกระทำความผิด แต่การป้องกันตัวของพี่อ้วน มันรุนแรง เขาเรียกว่าป้องกันเกินกว่าเหตุ เขามองว่าพี่อ้วนร่างกายแข็งแรง ใหญ่โต พวกคุณอุทัยตัวเล็ก ตัวคุณอ้วนได้ใช้ถังตีจนมีดหลุดแล้ว น่าจะพอแล้ว แต่ศาลเหมือนมองว่าพี่ชายเขาไปซ้ำ เขาเลยได้รับบาดเจ็บ ศาลเขามองว่าเมื่อมีดหลุดแล้วเหมือนควบคุมได้แล้วแต่ไม่หยุดเนี่ย ศาลมองว่าเป็นการป้องกันเกินกว่าเหตุเลยลงโทษ”
ทำไมนายอุทัยไม่ถูกดำเนินคดี?
ทนายเกิดผล : “ปัญหาตรงนี้ต้องถามทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ว่าทำไมไม่ดำเนินคดีกับนายอุทัย นี่แหละครับ ถือว่าแปลก ตอนนี้ทางตำรวจก็ออกหมายเรียก และให้นายอุทัยไปพบผู้อำนวยการวิทยาศาสตร์การแพทย์ของกระทรวงยุติธรรมเพื่อตรวจสอบว่าเขาสามารถสู้คดีได้มั้ยก็ไม่ไป แล้วทำไงต่อ ก็ไม่เห็นจะทำยังไงต่อ ทางตำรวจผู้รับผิดชอบคดีก็ต้องตอบคำถามนี้ก่อน เป็นเพราะอะไรทำไมไม่ทำอะไรต่อไป”
ทางเราได้ติดต่อสภ.หนองขามที่ศรีราชา แต่เขาบอกว่าไม่ขอตอบแล้วกัน ให้มาถามทางคุณเอง เพราะคุณรู้ดีที่สุด?
มนูญ: “ผมก็ต้องถามกลับว่าแล้วผมต้องทำยังไง ผมป้องกันตัวแต่ติดคุก”
ทนายเกิดผล : “คือในทางคดีคุณอ้วนกับพี่ชายได้ต่อสู้ไปตามกระบวนการแล้ว เพื่อนคุณอุทัยก็ต่อสู้จนถูกดำเนินคดีไปแล้ว เหลือแต่คุณอุทัยในเมื่อศาลพิพากษาว่าคุณมีส่วนผิดแล้ว หน้าที่ต่อไปคือคุณต้องมาต่อสู้ในศาล ก่อนมาต่อสู้ในศาล ตำรวจต้องดำเนินคดีไปก่อนสิครับ ทุกฝ่ายต่อสู้ไปหมดแล้วเนี่ย มาถามว่าคุณอ้วนรู้ดี ผิดถูกอย่างไรศาลตัดสินไปแล้ว ไม่มีใครหลบหนี ไม่มีใครไม่ต่อสู้ เหลือแต่คุณอุทัยคนเดียว ตอนนี้อยู่ที่ตำรวจนั่นแหละจะทำยังไง เพราะสามคนเขาได้ไปต่อสู้ในศาลจนรับโทษไปตามกระบวนการแล้ว ส่วนคดียังไม่ถึงที่สุด สุดท้ายศาลจะยกฟ้องหรือไม่ยกฟ้องก็ว่ากันไป แต่ทางตำรวจทำอะไรอยู่”
เรียกไปสองครั้งแต่ก็ไม่มา?
ทนายเกิดผล : “หมายจับก็ไม่ออก ส่งตัวก็ไม่ไป แล้วจะทำยังไง จะนิ่งเฉยแบบนี้คงไม่ใช่”
นี่เป็นประเด็นที่คุณเองตั้งข้อสงสัย ว่าอาจมีเรื่องการช่วยเหลือกัน?
มนูญ: “ใช่ครับ เขาอาจมีนายตำรวจระดับสูงคอยช่วยเหลือ หลักฐานมีทั้งจากคำบอกเล่าและจากที่ผมไปสอบถามจากเพื่อนที่เป็นตำรวจด้วยกัน”
วันนี้คุณต้องการให้พี่ชายถูกปล่อยตัว และคุณหลุด?
มนูญ: “ต้องการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเอาตัวนายอุทัยเข้ามาต่อสู้กันในกระบวนการยุติธรรม ถ้าเกิดเขามั่นใจว่าเขาไม่ได้ทำความผิด ขอแค่นั้น”
ถ้าวันนี้ตัวคุณเองจะถูกตัดสินว่าป้องกันตัวเกินกว่าเหตุ คุณยอมรับได้?
มนูญ: “ครับ”
ทนายเกิดผล : “แต่ช่วยเอาเขามาพิสูจน์หน่อย เพราะทุกคนก็ผ่านกระบวนการยุติธรรมและถูกดำเนินคดีไปแล้ว มีประเด็นเดียวนี่แหละ แค่เชิญตัวมา แต่ถ้าสมมติว่าพิสูจน์แล้วว่านายอุทัยได้รับความกระทบกระเทือนทางศีรษะโดยวิทยาศาสตร์การแพทย์ หน่วยงานราชการรับรองจริง คุณอ้วนก็จะไม่ติดใจใช่มั้ย”
มนูญ: “ใช่ครับ ถ้าเขาต่อสู้คดีไม่ได้ มีหนังสือจากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์บอกว่าเขาต่อสู้ไม่ได้ก็จะไม่ติดใจ”
แต่เรื่องการป้องกันตัวเกินกว่าเหตุ ก็สงสัยเหมือนกันนะครับ?
ทนายเกิดผล : “เวลาเราต่อสู้ ในการป้องกันตัวคือต้องไม่มีส่วนร่วมในการกระทำความผิด สองผู้ที่เราป้องกันตัวต้องฝ่าฝืนกฎหมาย และอันสุดท้ายทำอย่างไรก็ได้เพื่อป้องกันให้เภทภัย อันตรายนั้นระงับไป ถ้ามันระงับไปแล้วก็หยุดเพียงแค่นั้น แต่กรณีนี้ศาลมองว่าภัยอันตรายระงับไปแล้วแต่ยังไปซ้ำ”
คุณซ้ำมั้ย?
มนูญ: “ไม่ได้ซ้ำครับ”
ทนายเกิดผล : “ศาลมองว่าทำแรงเกินกว่าที่จะมองว่าป้องกันตัว เพราะตัวนายอุทัยก็ตัวเล็กกว่า และอยู่ในสภาวะมึนเมา คุณอ้วนกับพี่ชายก็น่าจะป้องกันตัวหรือยับยั้งได้ ไม่น่าจะรุนแรงถึงขนาดศีรษะได้รับความกระทบกระเทือน ประมาณนี้
การป้องกันตัวเอาแค่ว่าเพียงพอให้ภยันตรายระงับลงไป เอาแค่นั้น มันติดใจแค่ถูกดำเนินคดีไปแล้วสามแล้วทำไมคุณอุทัยถึงไม่ถูกดำเนินคดีมันมีแค่นี้”
23 ธันวาคม 2565
ผู้ชม 1323 ครั้ง