แม่ร่ำไห้ปล่อย “ลูกสาว วัย18” ดื่มน้ำมนต์ แต่ชักดับอนาถ ต่อหน้าต่อตา
แม่ร่ำไห้ปล่อย “ลูกสาว วัย18” ดื่มน้ำมนต์ แต่ชักดับอนาถ ต่อหน้าต่อตา
แม่ร่ำไห้ปล่อย “ลูกสาว วัย18”
ดื่มน้ำมนต์ แต่ชักดับอนาถ ต่อหน้าต่อตา
คดีที่ได้รับความสนใจจากประชาชนมากมาย ทางโหนกระแสวันนี้ คดีสาว 18 ที่ถูกทักจากพระธุดงค์ว่าถูกทำคุณไสยมนต์ดำ ต้องทำพิธีโดยการดื่มน้ำมนต์ในบาตรพระให้หมด 2 บาตร
พ่อแม่ก็คล้อยตามปรากฏว่าหลังดื่มไปก็เกิดอาการอาเจียน สุดท้ายชักตาตั้ง ดับอนาถ ด้านพระธุดงค์หลังทราบข่าวการเสียชีวิตก็หนีหายไป
กองบรรณาธิการ medhubnews.com เว็บไซต์สุขภาพของคนรุ่นใหม่ และ เพจ sasook รายงานว่า วันนี้ “กฤต เจนพานิชการ ทำหน้าที่ดำเนินรายการแทน “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” ได้เปิดใจ “คุณขาน เชิดจอหอ” พ่อผู้เสียชีวิต “คุณดวงจิต คณาเขว้า” แม่ผู้เสียชีวิต
“ทนายสงกานต์ อัจฉริยะทรัพย์” ประธานเครือข่ายต่อต้านการบ่อนทำลายชาติศาสนา พระมหากษัตริย์ และโฟนอิน “พ.ต.ท. คม คุ้มโนนคร้อ” รอง ผกก.สอบสวน สภ.แก้งคร้อ จ. ชัยภูมิ ถึงความคืบหน้าคดี
ทนายสงกานต์: “เขาบอกว่าโดนของ โดนคุณไสย์ ต้องขับไล่” แต่พ่อแม่บอกว่าอาการเด็กไม่มีอะไรผิดปกติ? ทนายสงกานต์ : “นี่แหละน่าสนใจ” ถามท่านรอง ตอนนี้คืบหน้าเป็นอย่างไรบ้าง?
พ.ต.ท. คม: “ตอนที่มาแจ้งตำรวจ ก็ตกลงว่าทางพระจะช่วยเหลือค่าทำศพ หลังจากตกลงกันไว้แล้ว หลายวันผ่านไปก็ไม่เห็นมาตามที่ตกลงกันไว้” ล่าสุดทางเจ้าหน้าที่ได้เข้าไปที่วัดร้างแห่งนั้นดูหรือยังครับ?
ท่านรอง : “หลังจากที่เขามาแจ้งก็รีบไปที่วัดร้างแห่งนั้น ไม่มีพระอยู่แล้ว ออกจากวัดไปหลายวันแล้ว จากการสืบสวนก็ทราบว่าพระที่ก่อเหตุหนีไปทางอยู่แถวจ.เลย”
ทนายสงกรานต์ : “ท่านรองครับ ในเรื่องนี้เนื่องจากตัวผู้ตายตายผิดธรรมชาติ ท่านรองได้ส่งศพไปทำการผ่าชันสูตรตามวิธีการของสำนักงานตำรวจแห่งชาติหรือยังครับ”
พ.ต.ท. คม : “การตายนี่อยู่ท้องที่อำเภอเมือง รพ.ชัยภูมิต้องชันสูตรพลิกศพ ส่วนของเราไม่ใช่ท้องที่ ที่ตาย แล้วก็แจ้งให้ทราบแล้วว่าชันสูตรหรือยัง ถ้ายังก็ต้องส่งศพไปให้ทางนิติเวชทางมหาวิทยาลัยของแก่นหรือนิติเวชอื่นก็ได้ แต่ญาติยืนยันว่าไม่ต้องส่ง”
ทนายสงกานต์ : “ต้องเรียนว่า ความผิดนี้เป็นความผิด ไม่อาจยอมความได้ ตามกฎหมายอาญา มาตรา 291 จำคุกไม่เกิน 10 ปี ทีนี้ ตัวของพนักงานสอบสวน เรียนท่านรองว่า ได้มีการสอบปากคำ บิดามารดาของผู้ตายหรือยัง แล้วก็พยานหรือยัง” ?
พ.ต.ท. คม : “สอบแล้วครับ” ทนายสงกานต์ : “มีการส่งสำนวนหรือยังครับ จะเสนอศาลออกหมายจับ หรือยังครับ” พ.ต.ท. คม : “ต้องรอผลชันสูตรพลิกศพของทางรพ.ก่อนว่าสาเหตุการตายแท้จริงเกิดจากอะไร
ถึงจะสามารถออกหมายจับได้ทันที ถ้าเกิดว่ามีสาเหตุจากโรค ไม่ใช่สาเหตุกินน้ำมนต์ที่ให้ไป มีสารอะไรหรือเปล่า ต้องรอผลชันสูตรที่แน่ชัดว่าการตายเกิดจากสาเหตุอะไรถึงจะสามารถดำเนินการขั้นต่อไป”
ขออนุญาตท่านรอง ช่วยเล่าสำนวนตอนนี้ที่ได้บันทึกไว้เป็นอย่างไรบ้าง? พ.ต.ท. คม : “เราก็รวบรวมพยานหลักฐาน สอบปากคำทางญาติทีมาแจ้งความ เราพยายามติดตามพระที่หลบหนีไป เพื่อมาสอบปากคำเช่นกัน ว่าท่านได้ทำอะไรไปแล้ว แต่ตอนนี้ผลีผลามยังไม่ได้ เป็นขั้นตอนการรวบรวมพยานหลักฐาน และรอผลการชันสูตรจากรพ. มาประกอบกันถึงจะรู้ว่าเป็นสาเหตุอะไรกันแน่”
ตอนนี้เบาะแส น่ากบดานที่ จ.เลย แนวทางในการสืบสวนต่อไป เจ้าหน้าที่ทำอย่างไร ? พ.ต.ท. คม: “ก็ประสานกับทางจ.เลย ทางตร.ท้องที่ว่ามีญาติอยู่ตรงไหนบ้าง เราจะได้ตามไป ให้ชุดสืบสวนตามไป”
“คุณดวงจิต คณาเขว้า” แม่ผู้เสียชีวิต เล่าด้วยความเศร้าใจ
ทนายสงกานต์: “ท่านรองมีภาพพระภิกษุผู้ต้องสงสัยในเวลานี้หรือไม่ครับ” ? พ.ต.ท. คม : “มี เป็นภาพที่เราเอามาจากข้อมูลทางทะเบียนครับ”
ทนายสงกานต์ : “ถ้าเกิดกรณีเป็นพระจริง ยิ่งถึงความตายต้องดำเนินคดีครับ ถือว่าปราชิกตอนนี้ศพอยู่ที่ใดครับ ส่งเข้าไปผ่าชันสูตรหรือยังครับ” ? พ.ต.ท. คม : “ตอนนี้ญาติเขาดำเนินการฌาปนกิจไปแล้ว”
ในเมื่อศพฌาปนกิจไปแล้ว จะตรวจสอบยังไงต่อ? พ.ต.ท. คม : “เราก็ต้องสอบปากคำ ผู้ที่ชันสูตรท่านแรก ผลการชันสูตรเป็นยังไง” ทำไมถึงมาอยู่วัดร้างที่ชัยภูมิ ? พ.ต.ท.คม : “ถิ่นกำเนิดเขาอยู่ที่นี่ครับ” พฤติกรรมพระทั้งสามรูป เคยอวดอุตริ รู้เรื่องมนต์ดำคุณไสย์มั้ยครับ?
พ.ต.ท. คม : “ก็มีเรื่องบ้างครับ แต่ไม่เคยทำให้ใครถึงแก่ความตาย” ทนายสงกานต์ : “ ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ท่านโฆษก ท่านผู้บัญชาการภูธรภาค ท่านมาดูเรื่องนี้หรือยังครับ”
พ.ต.ท. คม : “ท่านทราบแล้วครับ” ทนายสงกานต์ : “ถามท่านรองมั้ยว่าจะได้ตัวเมื่อไหร่” พ.ต.ท.คม : “ก็คงต้องรีบดำเนินการ คงบอกไม่ได้ว่าจะได้ตัววันไหน”
ทนายสงกานต์ : “สิ่งหนึ่งที่เรากังวลมากคือชาวบ้านเขาไม่รู้กฎหมาย จริงๆ ตำรวจควรให้ความรู้เขา เช่นตายผิดธรรมชาติ ต้องมีการผ่าชันสูตร กฎหมายต้องอำนวยความยุติธรรมแก่เขา นี่คือจุดบกพร่องที่จะทำยังไงให้ประชาชนรู้สิทธิ์ตามกฎหมาย”
คุณแม่ผู้เสียชีวิต อยากให้คุณแม่เล่าว่าพาน้องไปเจอพระธุดงค์ได้อย่างไร?
แม่ : “พอดีพาพ่อไปอาบน้ำมนต์ค่ะ แล้วน้องโดนทักว่าน้องถูกมนต์ดำ แม่ไม่ได้รู้จักพระมาก่อนค่ะ พอดีเราได้ยินว่าเป็นพระ เราจะไปอาบน้ำมนต์ ให้ชีวิตดีขึ้นค่ะ ไม่รู้มาก่อนค่ะว่าพระองค์นี้เป็นยังไง มายังไงค่ะ”
สถานที่ตรงนั้นรู้ได้ยังไงว่ามีพระอยู่ เป็นวัดร้างมาก่อน? แม่ : “แม่ก็ไม่ทราบค่ะ พอดีชาวบ้านเขาคุยกันก็เลยไปค่ะ เหมือนพาไปพรมน้ำมนต์ สะเดาะเคราะห์ค่ะ พอดีเขาทักลูกสาวว่าถูกมนต์ดำ เขาเลยบอกให้ลูกสาวกินน้ำมนต์ จะได้ล้างตัวนี้ค่ะ โดนของ”
เรารู้มาก่อนมั้ยว่าน้องจะโดนของ? แม่ : “ไม่ค่ะ น้องไปกับแม่กับพ่อธรรมดา พอดีเขาทักว่าต้องกินน้ำมนต์ ถึงจะหาย เขาก็ทำน้ำมนต์มาให้กิน แก้วแรกก็อ้วก แก้วสองก็อ้วก”
เป็นน้ำในบาตรหรือมีการเอามาใส่ใหม่แล้วเอามาทำพิธี? แม่ : “เขาเอาน้ำมาใส่บาตรแล้วทำพิธีค่ะ ไม่รู้เขาทำอะไรเหมือนกันค่ะ แล้วก็เอามาให้น้องกินค่ะ” ทนายสงกานต์ : “คุณพ่อดื่มน้ำเหมือนน้องมั้ย”
แม่ : “ดื่มค่ะ แต่ไม่มีอาการอะไรเลยค่ะ เขาให้น้องเข้าไปข้างในค่ะ” ทนาย : “น้ำในบาตรมีการใส่สารหรือวัตถุอะไรลงไปมั้ย” แม่ : “ไม่รู้เหมือนกันค่ะ แม่ไม่เห็นค่ะ” คุณพ่อบอกมั้ยรสชาติน้ำเป็นยังไง? แม่ : “ตอนพ่อจะอาบน้ำมนต์ เขาเอาตัวนี้ให้คุณพ่อดื่มค่ะ แต่ของน้องคนละตัวค่ะ เขาไปทำใหม่ เอาน้ำมาใหม่ มาทำใหม่”
ทนายสงกานต์ : “ขณะทำพิธีกรรม มีใครเห็นเหตุการณ์” แม่ : “ลูกศิษย์เขาค่ะ ฝ่ายแม่มีแค่แม่กับพ่อ” มีการถ่ายภาพมั้ย? แม่ : “แม่ไม่เคยถ่ายภาพอะไรเลยค่ะ”
คุณพ่ออาบเสร็จแล้วเขาบอกว่าน้องโดนมนต์ดำ เขาก็มาเอาตัวน้องไปที่ไหน? แม่ : “พาเข้าไปในห้องค่ะ แต่ทำให้เราเห็น ตอนน้องอ้วกแม่ก็เห็น แก้วแรกแม่ก็เห็นว่าน้องอ้วก ตอนเขาเอานำมนต์ให้น้องกิน แม่ก็อยู่ค่ะ”
คุณพ่อก็ปกติ? แม่ : “ค่ะ แม่ก็นั่งดูเหมือนกันค่ะ อ้วกแก้วแรก เขาบอกแม่ว่ายังไม่ออกค่ะ ต้องล้างเยอะๆ เขาบอกแบบนี้ค่ะ” ทนายสงกานต์ : “ตอนนั้นอาการหายใจรวยรินหรือยังครับ” แม่ : “อาการเหมือนเหนื่อยค่ะ” ทนายสงกานต์ : “ตอนน้องหมดสติ มีการนำส่งรพ.ทันทีทันใดเลยมั้ย”
แม่ : “ยังค่ะ เขาให้กินบาตรที่สองค่ะ ซึ่งน้องก็มีอาการเหนื่อยล้า แล้วก็ชักเลยค่ะ ก็เริ่มตั้งแต่แก้วที่สอง” เห็นลูกดิ้นทุรนทุราย ทำไมไม่ห้าม?
แม่ : “ตอนนั้นหมดบาตรพอดี แม่เลยส่งตัวเขาไปอนามัย เขาเลยบอกให้ส่งรพ.” อนามัยรับไม่ไหวแสดงว่าอาการแย่ คุณหมอบอกว่าอาการเป็นยังไง?
แม่ : “เขาถามว่าน้องมีโรคประจำตัวหรือเปล่า แม่บอกว่าไม่มี ปกติเขาไม่มีอาการอะไร ไม่เคยไปรักษาที่ไหน รพ.ก็ไม่เคยไปรักษา” ทนายสงกานต์ : “คุณแม่ได้มีการส่งศพน้องไปตรวจมั้ยครับ” แม่ : “ไม่ค่ะ” ทนายสงกานต์ : “มีใครแนะนำมั้ย ทำไมไม่ส่งตรวจ” แม่ : “ไม่มีค่ะ” ทนายสงกานต์ : “ตร.บอกมั้ยว่าตัวน้องตายผิดธรรมชาติ ต้องทำการส่งตรวจผ่าชันสูตรพลิกศพ”
แม่ : “ไม่เห็นมี เขาก็บอกเหมือนกันว่าจะให้ไปตรวจ แต่แม่ไม่ยอม มันนานค่ะแม่กลัวลูกนั่น เพราะอยู่รพ.สามวัน มาอยู่บ้านอีก 3 วัน” ทนายสงกานต์ : “ใครแนะนำให้เผา” แม่ : “แม่เผาเองค่ะ ไม่มีใครแนะนำให้เผา”
ทนายสงกานต์ : “ตำรวจมีการสอบปากคำคุณแม่มั้ยว่าจะมีการดำเนินคดีกับตัวพระผู้กระทำความผิด” แม่ : “ถามค่ะ ตร. ถามว่าจะให้แม่ดำเนินคดีกับเขามั้ย”
คุณพ่อก็ดื่มน้ำเหมือนกัน น้ำที่พระให้คุณพ่อดื่ม เป็นน้ำจากบาตรไหน รสชาติเป็นยังไง ดื่มแล้วเป็นยังไง? พ่อ : “ดื่มแล้วก็เหมือนน้ำธรรมดา” ตอนที่ลูกสาวเราดื่ม พระบังคับ หรือบอกคุณพ่อยังไง ว่าต้องดื่ม ? พ่อ : “ก็บอกว่าน้องโดนของ”
ระหว่างอาเจียน น้องเริ่มชักคุณพ่อได้เข้าไปห้ามบ้างมั้ย? พ่อ : “ไม่ได้ห้ามครับ คิดว่าอ้วกธรรมดา”
คุณพ่อดื่มไป ลูกก็เริ่มทำพิธี มีอาการผะอืดผะอมจะอาเจียนมั้ย? พ่อ : “ไม่เป็นไร น้ำมนต์คนละอย่างกัน” ระหว่างน้องอาเจียน พ่อถามมั้ยว่าลูกเป็นยังไง ? พ่อ : “ไม่มีเวลาจะถาม พอน้องกินเข้าไปก็อ้วก ลูกศิษย์เขาตักน้ำรอเลย ให้กินต่อเนื่องเลยครับ”
น้องหายใจติดขัดมั้ย ? พ่อ : “ก็มีอ้วก เกร็ง” คุณแม่มาพร้อมหนังสือรับรองการตาย และใบมรณบัตร ซึ่งท่านรองบอกว่าต้องรู้สิ่งนี้ก่อนถึงจะดำเนินการต่อได้?
ทนายสงกานต์ : “ตอนนี้ก็ทราบแล้ว ทำไมไม่ออกหมายจับ ซึ่งตามกฎหมาย จะโดนจำคุก 3 ปี ถ้ามีพยานหลักฐานเชื่อได้ว่าผู้ต้องหากระทำความผิด ก็สามารถเสนอศาลออกหมายจับได้”
ไม่อยากรู้เหรอน้องดื่มอะไรเข้าไปทำไมมีอาการชัก เป็นสารพิษหรือเปล่า? แม่ : “พอดีเขาถามจ๊ะ ว่าจะให้ผ่าพิสูจน์น้องหรือเปล่า แต่ตอนที่ยังไม่เผา ไม่มีใครมาพูดอะไร แต่แม่อยากให้เผาเพราะเขาอยู่ที่รพ.ก็นานแล้ว อยู่บ้านก็นาน ไม่อยากให้น้องอยู่นาน กลัวเรื่องนั้นเรื่องนี้ ด้วยความเชื่อ อยากให้เสร็จสิ้นเร็วๆ สงสารน้อง เพราะอยู่รพ.ก็นานแล้ว”
ทีมทนาย : “คือวันนั้นตอนที่น้องกินน้ำ นอกจากพระธุดงค์ มีลูกศิษย์ ทุกคนที่แจ้งเราว่ามีคุณไสย์ ทุกคนโน้มน้าวให้ลูกกินทุกคนใช่มั้ย” แม่ : “ลูกศิษย์ด้วยค่ะ ทั้งจับทั้งตักให้ แม่ถายอะไรไม่เป็น โทรศัพท์มีแค่รับกับโทร ถ่ายอะไรไม่เป็นเลย”
ทีมทนาย : “เบื้องต้นก็น่าจะร่วมกันประมาท ทำให้บุคคลอื่นถึงแก่ความตาย มีโทษสิบปี” ทนายสงกานต์ : “แล้วเราจะไปช่วยเขายังไง”
ทีมทนาย : “เบื้องต้นทีมทนายก็จะไปติดตามสำนวนที่ตร. ว่ามีอะไรบ้าง สอบสวนถึงไหน ต้องไปสอบข้อเท็จจริงเบื้องต้นจากคนที่อยู่ในที่เกิดเหตุทั้งหมด แวดล้อมเป็นยังไง ที่ฟังมา ไม่ทราบพระธุดงค์กลุ่มนี้ มีพฤติการณ์แบบนี้ มีผู้เสียหายรายอื่นหรือเปล่า”
คุณแม่จำรูปพรรณสัณฐาน ? แม่: “จำได้แค่คนที่เขาเอาน้ำมนต์ให้ลูกกิน รูปร่างจะเล็กนิดหนึ่งค่ะ เดินไม่ค่อยคลอง ขาข้างขวาเดินเป๋ อายุไม่มากค่ะ ประมาณ 40-50 สององค์แม่ไม่ได้ดูค่ะแต่องค์นี้แกทักลูกสาวแม่เลยจำได้แค่องค์นี้”
ตร.บอกพระยินดีจ่ายค่าทำศพ แล้วอยู่ดีๆ ก็หายไปเลย ? แม่ : “ไม่มีค่ะ วันแรกที่นองเข้ารพ เขาสอบถามว่าน้องอาการเป็นยังไง แม่บอกน้องยังไม่ได้สติ หลังจากนั้นเขาก็ไม่ได้ติดต่อเลยค่ะ แม่ก็เลยโทรถามพระองค์ที่อยู่ด้วย เขาบอกว่าเขาหนีไปแล้วค่ะ แล้วไม่มารับผิดชอบ ไม่มาอะไรเลยจนวันเผาน้อง”
แม่ค่อนข้างเชื่อ เรื่องมนต์ดำ คุณไสย ? แม่ : “ก็เชื่อค่ะ เขาเป็นพระ เขาทักมาก็กลัว” คุณแม่อยากให้ดำเนินการอย่างไร? แม่: “ก็อยากให้เขามาดูน้อง ให้มาช่วยรับผิดชอบหน่อย ว่าครอบครัวน้องเป็นยังไง ครอบครัวแม่ก็หาเช้ากินค่ำ รับจ้างทั่วไปค่ะ”
ทีมทนาย : “คดีนี้ ทั้งแพ่งและอาญา ทางแพ่งก็ละเมิด สามารถเรียกให้รับผิดชอบได้ ทีนี้เรารู้จักเขามาก่อนมั้ย”
แม่ : “ไม่รู้ค่ะ แค่ชาวบ้านบอกว่าดีค่ะ” อยากบอกอะไรน้อง? แม่ : “ถ้ารู้ว่าจะทำให้น้องเป็นแบบนี้แม่จะไม่พาไปเลยค่ะ ( ร้องไห้ )”
สำนักข่าว เมดฮับ นิวส์ medhubnews.com
เว็บไซต์ข่าวสุขภาพ ของคนรุ่นใหม่
05 มกราคม 2562
ผู้ชม 1964 ครั้ง