พ้นคุกจะแต่งงานกัน ! "สาวใจสลาย" แฟนหนุ่มถูกผู้คุมซ้อมตายคาคุก อธิบดีกรมราชทัณฑ์ร่วมงานศพ ยันเรื่องซ้อมทรมาน ไม่มีอยู่ในสารบบ - Thailand Health and Wellness News

บทความ

ตายคาคุก "สาวใจสลาย" แฟนหนุ่ม ถูกผู้คุมซ้อมเสียชีวิตในเรือนจำ

กรณีหญิงสาวรายหนึ่งเขียนร้องเรียนไปยังเฟสบุ๊ค “แหม่มโพธิ์ดำ” ข้องใจการเสียชีวิตของแฟนหนุ่ม ซึ่งเป็นนักโทษเรือนจำกลางสมุทรปราการ เสียชีวิตเมื่อวันที่ 18 เมษายนที่ผ่านมา

เพราะคาดว่าอาจถูกผู้คุมซ้อมจนเสียชีวิต เหตุพบร่องรอยถูกทำร้ายตามร่างกายเป็นจำนวนมาก ด้านอธิบดีกรมราชทัณฑ์ถึงกับรับไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น สั่งสอบข้อเท็จจริง เด้งผบ.เรือนจำ 4 ผู้คุม เซ่นนักโทษตาย

เมดฮับ นิวส์ medhubnews.com เว็บไซต์ข่าวสุขภาพ  สาธารณสุข การท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพ วาไรตี้ รายการโหนกระแส วันที่ 27เม.ย. ทางช่อง 28

ได้เปิดใจสัมภาษณ์ “เดียร์” แฟนสาวผู้เสียชีวิต พร้อม ทนายสงกานต์  อัจฉริยะทรัพย์” ประธานเครือข่ายต่อต้านการบ่อนทำลายชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

คุณเดียร์รู้จักผู้เสียชีวิต แต่งงานกันหรือเปล่า?

เดียร์: “ไม่ได้แต่งค่ะ คบดูใจกัน 5 ปี”

 คุณเนมมีลูกติดด้วย?

เดียร์: “ค่ะ มีลูกติด 3 คน เขาต้องคดียาเสพติดค่ะ”

โดนกี่ปี?

เดียร์: “3 ปี 9 เดือน”

รู้จักกันมาก่อน?

เดียร์: “รู้จักก่อน ตอนแรกเขาโดนจับไป มีการประกันตัวออกมาสู้คดี ก็รู้จักกันตอนประกันออกมา”

ช่วงนั้นถึงวันนี้ 5 ปี?

เดียร์: “ค่ะ”

ระหว่างรอต่อสู้คดี คุณเคยเห็นเขาเกี่ยวพันยาเสพติดอื่นๆ อีกมั้ย?

เดียร์: “ไม่มีค่ะ ยืนยัน เขาบอกว่าเขาไม่อยากทำแล้ว เขาอยากอยู่กับลูกอยากอยู่กับพ่อแม่ พ่อแม่เขาแก่แล้ว”

หลังคุณเนมสู้คดีแพ้ ถูกจำคุก ติดได้กี่ปีถึงเสียชีวิต?

เดียร์: “2 ปีค่ะ วันที่ 18  เม.ย. ทางเรือนจำโทร.มาแจ้งญาติว่าผู้ต้องขังคนนี้เสียชีวิตแล้วที่รพ.บางบ่อ ทีแรกก็ตกใจ แต่ยังไม่เชื่อ เพราะเพิ่งไปเยี่ยมมาวันที่ 17เม.ย. พูดคุยกันปกติ ไม่มีการสั่งเสีย”

คำพูดคำสุดท้ายที่คุย?

เดียร์: “เขาบอกว่าเดี๋ยวก็ได้กลับบ้านแล้ว อีกปีกว่า ให้หนูรอ คุยกันตอนเช้า 8-9 โมง”

วันรุ่งขึ้น 18 เม.ย. ได้รบข่าวตอนไหน?

เดียร์ : “เกือบหนึ่งทุ่มค่ะ เขาให้เบอร์ร้อยเวรของคดีมา ก็โทร.ไปถามว่าชื่อนี้ นามสกุลนี้ เสียชีวิตจริงๆ ใช่มั้ย เขาอกว่าใช่ ตอนนี้อยู่รพ. บางบ่อ เดี๋ยวจะส่งไปนิติเวช ที่รพ.ตำรวจ หนูก็ตามไป เขาแจ้งว่ายังไม่ได้ส่วไป ต้องรออัยการ รอปลัด รอตำรวจเข้าไปดูศพพร้อมกัน เลยกลับไปรพ.บางบ่อ เลยได้เข้าไป”

 

สภาพศพที่เห็นเป็นยังไง?

เดียร์: “มีรอยช้ำตามตัว แขนขา ที่หลัง และมีรอยเหมือนโดนมัดที่ข้อมือ เป็นรอยช้ำที่ข้อมือ แล้วมีที่ขา แข้ง มีรอยเป็นแผล เหมือนโดนอะไรตี”

หลังจากนั้นทำยังไง ถามทางเรือนจำมั้ย?

เดียร์: “ถามผู้คุมที่มาวันนั้น เขาบอกว่าโดนซ่อมค่ะ เขาบอกโดนทั้งหมด 18 คน เนื่องจากมีจดหมายส่งเข้าไปข้างใน แต่ระบุชื่อคนที่ไม่มีอยู่ข้างใน เป็นจดหมายเหมือนเวลาญาติเขียนเข้าไปหาปกติ แต่จดหมายฉบับนี้เขาบอกว่ามียาเสพติดอยู่ข้างใน ซึ่งไม่รู้ส่งให้ใคร  เขาบอกส่งไปที่แดน 5 ซึ่งมีนักโทษ 18 คน เป็นนักโทษชั้นดีหมดแล้ว ใกล้จะพ้นโทษ มีแค่ 18 คน”

แล้วส่งมาให้ใคร?

เดียร์: “เขาบอกว่าเอาไปวางไว้แล้วหายไป แล้วให้เจ้าหน้าที่ไปค้นดู ก็เจอไปวางบนโต๊ะหน้าห้องน้ำ เขาเลยเรียกทั้งหมด 18 คนไปซ่อม”

ผู้คุมเปิดดูก่อนแล้ว ข้างในไม่ใช่แค่จดหมาย มียาเสพติดซุกซ่อนอยู่ในนั้น เขาก็เก็บไว้ อยู่ดีๆ ผู้คุมจะมาดูอีกที ก็หาย ไปเดินตามหา ไปเจอจดหมายฉบับนี้วางอยู่หน้าห้องน้ำ เลยเรียกผู้คุมทั้ง 18 คนมาซ่อม?

เดียร์: “ค่ะ เขาก็บอกว่าซ่อมประมาณสิบโมงถึงเที่ยง พี่เขาก็เหมือนเป็นลมแดด เลยหามมารพ. ข้างในเรือนจำ แต่เหมือนอาการไม่ดีขึ้น เลยปั๊มหัวใจ แล้วส่งไปรพ.บางบ่อ ตอนประมาณสามโมง”

ที่เหลืออีก 17 คน?

เดียร์: “หนูถาม เขาบอกว่าไม่มีใครต้องส่งมา เพราะไม่ได้เป็นหนักขนาดนั้น”

เขาไม่ได้บอกว่าจดหมายส่งไปให้คุณเนม?

เดียร์: “เขาไม่ได้บอกค่ะ ในจดหมายชื่อก็ไม่ใช่ชื่อพี่เขาอยู่แล้ว เขาไม่ได้ระบุชื่อ”

มีหลักฐานมั้ย?

เดียร์: “วันนั้นเขาเอาให้ดู แต่เขาบอกว่าตัวจริงส่งไปที่สถานีตำรวจแล้ว”

เป็นไปได้มั้ย ทางผู้คุมอาจสืบรู้เชิงลึกว่าเป็นของเนม?

เดียร์: “อันนี้รายละเอียดไม่ทราบค่ะ แต่ผิดหรือไม่ผิดก็ควรว่ากันไปตามกฎหมาย ไม่น่าจะมาทำรุนแรง ซ่อมนี่ทำเกินกว่าเหตุไปหรือเปล่า”

เรื่องที่ติดใจมาก?

เดียร์: “บาดแผลตามร่างกายพี่เขาค่ะ”

ความเห็นของแพทย์ รพ.บางบ่อ มีการเขียนว่าสภาพของศพมีร่องรอยบาดแผลถูกกระทำหลายตำแหน่งบริเวณร่างกาย อาจเป็นเหตุให้เสียชีวิตได้ รพ.ตำรวจต่างกัน ต่างกันยังไง?

เดียร์: “เขาบอกว่าสันนิษฐานขาดอากาศหายใจจากการสำลักเศษอาหาร และพบบาดแผลบริเวณร่างกายจำนวนมาก”

 

ทำไมในบางบ่อไม่แจ้งอย่างนั้น งงมั้ย?

เดียร์: “งงค่ะ”

เป็นเหตุหนึ่งที่ทำให้คุณทำเรื่องส่งไปเพจแหม่มโพธิ์ดำ?

เดียร์: “ใช่ค่ะ หลังจากนั้นก็เข้าไปพูดคุยกับทางผบ. เรือนจำ เขาแจ้งว่าเดี๋ยวเขาต้องสอบสวนก่อนว่าใครเป็นผู้กระทำ ผู้คุมมีใครบ้าง ถ้ามีความคืบหน้าเขาจะแจ้งมา”

โฟนอิน หา “พ.ต.อ.ดร.ณรัชต์ เศวตนันทน์”อธิบดี กรมราชทัณฑ์ ญาติผู้เสียชีวิตเขามีข้อติดใจเรื่องจดหมายส่งเข้าไปในเรือนจำ?

พ.ต.อ.ดร.ณรัชต์: “ต้องเรียนก่อนว่า เรื่องการลักลอบนำยาเสพติดเข้าไปในเรือนจำ ถือเป็นเรื่องร้ายแรง ผู้ลักลอบเข้าไปมีโทษทางกฎหมาย และเจ้าหน้าที่มักจะถูกพิจารณาข้อบกพร่อง

เพราะฉะนั้นทางกรมราชทัณฑ์ให้ความสำคัญเรื่องนี้มาก ก่อนอื่นก็ขอแสดงความเสียใจอีกครั้งไปยังครอบครัวผู้เสียชีวิต ไม่ว่าจะเป็นคุณพ่อ คุณแม่ ภรรยา พี่ชาย พี่สะใภ้ที่ผมได้พบแล้วในงานศพ และยอมรับผิดว่าเจ้าที่หน้าที่น่าจะกระทำเกินเลยไป

ในส่วนการลักลอบนำยาเสพติดเข้าไปทำไมสงสัยรายนี้ ก็เป็นดุลยพินิจของเจ้าหน้าที่ ซึ่งเขาก็มีกระบวนในการตรวจสอบ คือไม่อยากพูดให้เสียหายกับผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว แต่เอาเป็นว่ามีเหตุอันควรสงสัยตามสมควร แต่เจ้าหน้าที่ได้เรียกตัวมาทำโทษ ซักถาม สอบสวนขยายผล ซึ่งก็ต้องยอมรับตรงไปตรงมาวาเกินเลย

สาเหตุที่พูดได้ว่าเกินเลยเพราะคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงที่ผมได้ตั้งไป สรุปมาเป็นลายลักษณ์อักษรแล้ว วันนี้ก็ได้ตั้งกรรมการวินัยร้ายแรง ผู้คุม 2 ราย และตั้งไม่ร้ายแรง ผู้คุมอีก 4 ราย อยู่ในระหว่างการดำเนินการตามวินัย

ทั้งนี้ทั้งนั้นไม่ได้ไปขัดขวางหรือทำให้เกิดข้อไม่สอดคล้องกับสำนวนคดีอาญาหากเกิดเป็นคดีอาญา คือต้องเข้าใจก่อนว่าการเสียชีวิตในขณะอยู่ระหว่างควบคุมของเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ก็ดี การถูกวิสามัญฆาตกรรมยิงต่อสู้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ดี

ทางราชการโดยหลักกฎหมาย เราให้การคุ้มครองเป็นพิเศษ ต้องมีการสอบสวน ทำสำนวนกันอย่างชัดเจน มีการส่งศาลซึ่งตรงนี้เป็นเรื่องพนักงานสอบสวน ของจังหวัดสมุทรปราการท้องที่สถานีตำรวจภูธรบางบ่อ ที่เป็นเจ้าของสำนวน ซึ่งก็ต้องตรวจสอบให้ได้ข้อเท็จจริงว่าผู้ตาย ตายที่ไหน อย่างไร เวลาใด อาการขณะเสียชีวิตเป็นอย่างไร มีใครทำให้ตายหรือไม่เป็นประเด็นสำคัญ หากสำนวนที่ตร. ดูประกอบกับเอกสารชันสูตรพลิกศพของแพทย์ ระบุว่าถูกทำร้าย ถูกใช้กระบองตี อะไรต่างๆ เหล่านี้

เจ้าหน้าที่จะโดนทางอาญาด้วย เจ้าหน้าที่หลายรายนอกจากโดนวินัยแล้วโดนอาญาได้ถ้าข้อเท็จจริงเป็นอย่างนั้น ซึ่งขณะนี้ผมมี 3 ขั้นตอนในการดำเนินการ หนึ่งปกครองผมดำเนินการตั้งแต่วันสองวันแรกที่เกิดเหตุ คือย้ายท่านผบ. มาประจำกรมก่อน ย้ายเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง 4 คนออกไปชลบุรี 2 ฉะเชิงเทรา 2 และย้ายเพิ่มอีก 2 ราย ย้ายไปอีสานเลย เพื่อไม่ให้ไปยุ่งเกี่ยวกับพยาน หลักฐาน

อันที่ 2 ส่งทางเรื่องวินัยเข้าไปตรวจสอบข้อเท็จจริง ซึ่งเสร็จแล้วออกมาชี้ว่ามีมูลเป็นวินัยร้ายแรง 2 คน และวินัยไม่ร้ายแรง 4 คน วินัยร้ายแรงมีโทษแค่ไล่ออก กับปลดออก ซึ่งเป็นโทษรุนแรงที่สุดสำหรับข้าราชการพลเรือน ส่วนที่สามไม่ได้อยู่ในมือผม เป็นเรื่องของพนักงานตำรวจท้องที่ ถ้าตำรวจท้องที่ดูแลการชันสูตรแล้ว จะแจ้งข้อหา ก็เป็นเรื่องของทางราชการที่ต้องดำเนินการไป”

ในกรณีนักโทษที่อยู่ในเรือนจำไปกระทำความผิด สมมตินายเนมเป็นคนนำเข้าไปจริงๆ จดหมายฉบับนั้นมียาเสพติด โทษนายเนมต้องมีการถูกลงโทษ ด้วยการตี ซ่อม ทุบเหรอครับ?

พ.ต.อ.ดร.ณรัชต์ : “มันเป็นเรื่องที่ต้องดำเนินการตามอาญา หรือถ้าจับไม่ได้ไล่ไม่ทัน หรือน่าสงสัย เข้าข่ายความผิดทางวินัยดำเนินการตามวินัย ผมเรียนคุณหนุ่มอย่างนี้ โทษเฆี่ยน โบย ตี ซ้อมทรมาน ไม่มีอยู่ในสารบบของกรมราชทัณฑ์ กฎหมายไทย กฎหมายสากล อนุสัญญาต่างๆ ที่ไทยเป็นภาคี ก็ต่อต้านเรื่องเหล่านี้

กระทรวงยุติธรรมเองก็กำชับ เพราะท่านนายก พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ประกาศว่าให้วาระแห่งชาติวาระหนึ่งคือเรื่องการคุ้มครองสิทธิมนุษย์ชน เป็นวาระแห่งชาติ เป็นมติครม.เมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมานี้เอง กรมราชทัณฑ์ ก็สนองตอบรับ

ผมก็มีหนังสือคำสั่งส่งมาเมื่อ 2 ก.พ. ตอกย้ำไปอีกที ว่าถ้ายังมีอยู่ก็ให้เลิก ให้ดูแลผู้ต้องขังให้มีมาตรฐานในระดับสากล ให้สอดคล้องกับกฎระเบียบมาตรการต่างๆ ที่เรามีเขียนระบุไว้ ซึงยืนยันได้ว่าไม่มีการใช้อาวุธ กระบองทำร้าย ที่เป็นการลงโทษ ทรมาน อันนี้ไม่เกี่ยวกับกรณีผู้ต้องขังแหกหลบหนีหรือทำร้ายเจ้าหน้าที่ อันนั้นก็อีกเรื่องหนึ่ง”

ทนายสงกานต์ ทำไมผลสองทีมไม่เหมือนกัน?

ทนายสงกานต์ : “ของรพ.บางบ่อเขามีความเห็นที่ค่อนข้างละเอียด เดี๋ยวต้องรอดูอย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่ง รอดูผลผ่าชันสูตรเรื่องการตายผิดธรรมชาติอย่างละเอียด มีทุกส่วน นัดเมื่อไหร่ครับ”

เดียร์: “45 วัน”

ทนายสงกานต์ : “อันนี้นัดเบื้องต้น เขาบอกว่าสันนิษฐานขาดอากาศหายใจจากการสำลักเศษอาหาร และพบบาดแผลบริเวณร่างกายจำนวนมาก ตรงนี้สอดคล้องกับที่รพ.บางบ่อ แต่เดียร์เป็นแฟนผู้ตาย แต่ไม่ได้จดทะเบียนสมรส ก็เลยบอกวิธีเยียวยาเบื้องต้น ให้เขารีบไปกระทรวงยุติธรรม ยื่นขอเงินช่วยเหลือผู้เสียหายคดีอาญา เดิมเท่าที่ทราบ สูงสุดไม่น่าเกิน 1 แสนบาท ให้พ่อแม่ไปยื่นพิจารณา

ถ้าเข้าหลักเกณฑ์ กระทรวงยุติธรรมจะเข้าหลักเกณฑ์พิจารณา ส่วนที่สองทางกรมราชทัณฑ์ เมื่อสักครู่ได้ฟังท่านอธิบดีก็ค่อนข้างสบายใจ แต่อยากให้ท่านอธิบดีพิจารณาว่าทางราชทัณฑ์จะช่วยเหลือเยียวยาครอบครัวเขาอย่างไร เนื่องจากผู้ตายมีลูก 3 คน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องอาศัยพ่อแม่ของนักโทษเป็นผู้ดูแล ตัวน้องก็เข้าไปดูแลด้วย”

กรณีแบบนี้ จดหมายไม่มีการระบุว่าเป็นของใคร ผู้คุมเรียก 18 คนจากแดน 5 มาทำโทษ 17 คนไม่เป็นอะไร แต่คุณเนมน่วมเลย ตาย?

ทนายสงกานต์ : “เห็นน้องบอกว่ามีร่องรอยการทำร้ายร่างกาย ทีนี้ถ้าปรากฏผู้คุมเป็นผู้ลงมือกระทำ ก็ต้องโดนคดีอาญาเช่นเดียวกัน ติดคุกครับ โทษจำคุกตั้งแต่ 3 ปีถึง 15 ปี ในกรณีที่ว่าเขาไม่น่าจะเจตนาฆ่า แต่เผอิญผู้ตายถึงแก่ความตาย ถ้าเป็นไปได้ กรมราชทัณฑ์รีบมาดูแลและเยียวยา”

มีคุณหมอผู้หญิงท่านหนึ่งที่เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านนิติเวชวิทยาศาสตร์มาชันสูตรด้วย?

เดียร์: “มาดูเบื้องต้น”

มีการติดต่อท่านไป?

เดียร์: “ค่ะ ท่านก็บอกว่ามาจากการโดนทำร้ายแน่นอน ดูจากสภาพแผลแล้ว”

ทนายสงกานต์ : “ก็สอดคล้องกับของรพ.ตำรวจ พบบาดแผลบริเวณร่างกายจำนวนมาก คือทำร้ายร่างกายแน่นอน แต่ต้องรออีก 45 วัน”

มีอะไรสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้?

เดียร์: “ปกติเวลาส่งจดหมายเข้าไปหา เจ้าหน้าที่เขาต้องแกะดูก่อนอยู่แล้ว ดูว่ามีอะไรอยู่ในจดหมาย แต่ทำไมจดหมายฉบบนี้เข้าไปถึงแดนห้าแล้ว ก็แปลกใจตรงนี้”

ทนายสงกานต์ : “ก็น่าสงสัย พนักงานสอบสวนท้องที่ไหนครับ”

เดียร์: “โรงพักบางบ่อ”

ทนายสงกานต์ : “ได้เข้าไปสอบปากคำพยานหรือยัง”

เดียร์: “ยังไม่ทราบค่ะ”

ทนายสงกานต์ : “ตร.ต้องรีบเข้าไปสอบปากคำ ยิ่งตัวผู้ต้องสงสัยมีการย้ายไป เดี๋ยวการสอบปากคำจะลำบาก ต้องรีบสอบพยานทั้งหมดเพื่อนรวบรวมหลักฐาน และดำเนินคดีแจ้งข้อกล่าวหาผู้คุมรายนั้น สมมุติเป็นผู้กระทำความผิด ต้องโดนคดีอาญาเช่นเดียวกัน ถ้านักโทษทำความมิด เขาก็ต้องโดนดำเนินคดี ไมใช่ไปทุบ ไปตี ไม่มีอำนาจครับ”

ในเมื่อการส่งจดหมายเข้าเรือนจำ ต้องมีการดูก่อน?

ทนายสงกานต์ : “ก็ต้องเซ็นเซอร์ทุกฉบับ”

แต่อันนี้เข้าแดน 5 แล้ว?

ทนายสงกานต์ : “อันนี้น่าสงสัยมาก แล้วพอเกิดเรื่อง ทางตำรวจไปสอบสวนบ้างมั้ย เราเป็นห่วง คดีแบบนี้ บางทีร้อยเวรคนเดียวก็กลัวเหมือนกัน ต้องบอกก่อนเลยว่าเวลาไปสอบกรมราชทัณฑ์ ถ้าผู้บัญชาการระดับสูงของโรงพักนั้นๆ ไม่ไปดูและไม่ไปกำกับ ผมว่าคดียาวแน่นอน”

ไม่มีระบบลงไม้ลงมือเฆี่ยนตี?

ทนายสงกานต์ : “ไม่มีหรอกครับน่าจะพลาดพลั้งไป ไม่มีเจตนาฆ่า แต่ลงมือจนทำให้นักโทษถึงแก่ความตาย”

เขาวาดความหวังว่าออกมาจะแต่งงานกัน อยู่กับลูกอีก 3 คน ชีวิตเหมือนหมดสิ้น?

เดียร์: “ค่ะ ก็ไม่รู้จะไปไหนต่อ”

พ่อแม่คุณเนมเป็นอย่างไรบ้าง?

เดียร์: “สภาพจิตใจย่ำแย่เหมือนกันค่ะ เสียลูกชาย”

ทนายสงกานต์ : “ต้องดำเนินคดีตามกฎหมาย บางทีลุแก่อำนาจบ้างในบางราย”

ท่านอธิบดีมีการบอกว่ามีโทษร้ายแรง 2 รายอาจถึงไล่ออก โดนอาญาก็ไปว่ากันอีกที อีก 4 รายไม่ร้ายแรง มีการสั่งย้าย ผบ.ด้วย ถูกต้องมั้ย?

ทนายสงกานต์ : “ถูกต้องแล้วครับ แต่สิ่งที่อยากเห็นมากที่สุดคือการที่ราชทัณฑ์มาเยียวยาตัวผู้เสียหาย คือตัวพ่อแม่ยังมีชีวิตลูกๆ ค่อนข้างลำบาก”

แนะนำให้ไปกระทรวงยุติธรรม?

ทนายสงกานต์ : “ไปยื่นคำร้องประจำวันที่รพ.บางบ่อ ให้ทางกระทรวงยุติธรรมดูแล ส่วนที่สอง พนักงานสอบสวนต้องรายการผู้บังคับบัญชาเพื่อให้ไปช่วยกำกับเรื่องการสอบปากคำ และเร่งรัดเรื่องการส่งสำนวน แจ้งข้อกล่าวหา สามท่านอธิบดีต้องดูและเยียวยา อย่าไปฟ้องร้อง เดี๋ยวจะนาน ซึ่งท่านก็ไปงานศพเอง เห็นแล้วก็น่าชื่นใจ เป็นลักษณะตรงไปตรงมา เราก็จะลองดูครับ เป็นห่วง”

ถ้าคุณเนมมองอยู่ อยากบอกอะไร?

เดียร์: “ก็บอกว่าจะสู้ให้ถึงที่สุด จะอยู่ข้างๆ เสมอไป ไม่ไปไหนแน่นอน”

เมดฮับ นิวส์ medhubnews.com

เว็บไซต์ข่าวสุขภาพ  สาธารณสุข การท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพ วาไรตี้ ฯลฯ 

ติดตามข่าวสารจาก medhubnews.com ได้จาก Facebook : sasook ของเรา 

05 มกราคม 2562

ผู้ชม 2158 ครั้ง

Engine by shopup.com