“เอ็ม” หนึ่งในผู้ต้องหาที่ถูกดำเนินคดีร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา เจ้าตัวจุดธูปสาบานกลางรายการทีวี

บทความ

"เอ็ม" จุดธูปสาบานกลางรายการทีวี ไม่ได้ลงมือฆ่า ยัน พ.ต.ท.ซ้อมคาโรงพัก

จากกรณี นายพงศธร พุ่มราตรี หรือ “เอ็ม” หนึ่งในผู้ต้องหาที่ถูกดำเนินคดีร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและข้อหาพกพาอาวุธปืนคดียิงคนตายที่วัดเกาะ

หลังจากนั้น นางองุ่น พุ่มราตรี แม่ของผู้ถูกกล่าวหา ได้โพสต์ข้อความเรียกร้องขอความเป็นธรรมให้กับนายเอ็ม (ลูกชาย) เนื่องจากถูกตำรวจ สน.สายไหม ซ้อมบังคับให้รับสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือทำ และสุดท้ายโดนตั้งข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่น 

เมดฮับ นิวส์ medhubnews.com รายงานว่า นายเอ็มได้มาเปิดใจกับทางรายการ เจาะประเด็น ทาง ช่อง 8 โดยมี  “ต่วย-ภคพงศ์ อุดมกัลยารักษ์  เป็นพิธีกรดำเนินรายการ ถึงข้อเท็จจริงของข่าวทั้งหมด

พร้อมจุดธูปสาบานว่าตนไม่ได้เป็นผู้ลงมือฆ่าร่วมกับนายซิ่ง และยืนยันว่าถูก พ.ต.ท.สน.สายไหม กระทืบคาโรงพักจริง

ช่วยเล่าเหตุการณ์ของวันที่ 28 เมษายน 2561 ว่ามันเกิดอะไรขึ้น

เอ็ม : คืนวันเกิดเหตุคือวันที่ 28 เมษายน วันนั้นเป็นวันที่ฝนตกแล้วไฟฟ้าในซอยดับ ซึ่งก่อนที่จะเกิดเหตุผมขับรถจักรยานยนต์เข้าไปในซอยนั้นคนเดียว พอถึงร้านขายของ ผมก็นั่งเล่นอยู่กับรุ่นน้องแล้วพบกับนายซิ่ง(คนที่ก่อเหตุ) ซึ่งผมก็รู้จักกับซิ่งมาก่อน เค้าเป็นวัยรุ่นอยู่ระแวกนั้น พอหลังจากนั้นประมาณ 20 นาที นาย

ซิ่งก็ลุกขึ้นแล้วบอกว่าขอกลับก่อนนะ ผมก็ถามว่าพี่กลับมายังไง เค้าก็บอกว่าเอารถยนต์มาจอดอยู่หลังกะบะสีขาว แต่ตอนนั้นเค้ามีอาการคล้ายกับคนเมา เราก็ถามว่าเมามั้ยพี่ เดี๋ยวผมไปโบกรถให้ แล้วเค้าก็ไปถอยรถออกมาสักระยะหนึ่งแล้วก็ไปชนกับกระถางต้นไม้หน้าบ้านของประชาชนที่อยู่ในซอยนั้นแตก

ผมก็บอกเค้าว่าพี่ชนกระถางต้นไม้แตก และรถพี่เป็นรอย ผมเลยคิดว่าสภาพเค้าตอนนั้นไม่สามารถขับรถไปต่อได้ แล้วเค้าก็ลงจากรถแล้วมาขอบคุณผม และผมก็เดินเข้าไปในรถเพื่อถอยให้เค้า แล้วช่วงระยะหนึ่ง ผมได้ยินเสียงปืนดังขึ้นหลายนัด แต่ผมไม่ทราบว่ามีใครยิงปืน พื้นที่ตรงที่ผมเดินไปขยับรถให้เค้าไม่ได้มีปากเสียง หรือ การทะเลาะอะไรเลย เพราะกระถางต้นไม้ที่แตก ไม่ใช่ของผู้ที่ถูกยิงเสียชีวิต ขณะนั้นผมเลยพยายามจะหยุดรถ แล้วผมก็มองทางกระจกหลังเห็นว่านายซิ่งได้ยิงบุคคลหนึ่งเสียชีวิตซึ่งเค้าขี่มอเตอร์ไซค์มา

หลังจากเหตุการณ์ที่เอ็มได้เห็นว่ามีคนถูกยิง แล้วทำไงต่อไป

 เอ็ม : พอสิ้นสุดเสียงปืนผมก็ไม่ได้ลงจากรถ ผมก็กลัวเหมือนกัน จนสักระยะหนึ่งผมก็ลงจากรถ แล้วถามว่าเฮ้ยพี่มีอะไร แล้วเค้าก็เดินกลับไปที่รถ แต่ไม่รู้ว่าเค้ากำลังทำอะไร ส่วนผมก็เดินมุ่งหน้าไปตรงจุดที่มีคนถูกยิงที่มีรถมอเตอร์ไซค์ล้มอยู่ แต่ผมไม่ได้หันหลังกลับไปมองว่านายซิ่งเค้าเดินตามผมมาเปล่า จนกระทั่งมีกลุ่มเพื่อนของผู้ที่ถูกยิงเดินเข้ามาถามกันว่า มีอะไรเกิดขึ้น?

หลังจากเกิดเหตุการณ์ขึ้นเอ็มก็รอตำรวจมาจับเลยหรอ

เอ็ม  : ใช่ครับ ผมก็อยู่รอตรงบริเวณนั้น รอจนตำรวจสน.สายไหม มาถึงที่เกิดเหตุ ส่วนซิ่งหายไปไหน ผมไม่ทราบ ที่ผมไม่หนี เพราะผมไม่ได้เป็นคนทำ ผมไม่ผิด ผมเองก็ยังบอกกลุ่มเพื่อนให้โทรตามรถฉุกเฉินมาช่วยคนเจ็บ แล้วพอตำรวจมาถึงก็เชิญตัวผมไปให้ปากคำเพราะอยู่ในเหตุการณ์

หลังจากที่ไปถึงสน.สายไหม

เอ็ม : พอไปถึงที่สน.ผมก็นั่งรอ และมีชุดสืบสวนเข้ามาเชิญผมไปในห้องสืบสวน ในห้องนั้นจะมีท่านรองผู้กำกับ (ขอสงวนชื่อ) แล้วเค้าสอบถามเหตุการณ์กับผม ว่าเรื่องราวเป็นอย่างไร แล้วก็มีพ.ต.ท เดินมาข้างหลังผม ซึ่งเค้าพูดกับผมว่า มึงยังไม่ยอมรับอีกหรอว่ามึงเป็นคนพามันมาฆ่า ผมก็บอกเค้าว่า ผมไม่ได้พานายซิ่งมา ผมมาของผมอยู่แล้ว ตอนนั้นผมตกใจมาก แล้วเค้าก็บอกว่ามึงจะบอกว่ามาคนเดียวได้ยังไง เพราะดูกล้องวงจรปิดแล้ว ว่าผมเป็นคนถอยรถคันนั้นออกมา ผมก็ยืนยันว่ามาคนเดียวจริงๆ แต่ผมยอมรับว่าในภาพผมเป็นคนที่ช่วยถอยรถบีเอ็มคันนั้นจริง

แล้วเค้าทำร้ายคุณอย่างไร

เอ็ม : ก็พอผมพูดจบ พ.ต.ท. ที่ยืนข้างผม ก็ตบเข้าใบหน้าผมที่ด้านซ้าย แล้วก็ร่วงลงจากเก้าอี้ แล้วไปนอนอยู่ที่พื้น แล้วเค้าก็ใช้เท้ากระทืบที่ศีรษะผม 2 ครั้ง  กระทืบที่ท้ายทอย 1 ครั้ง แต่ช่วงที่เค้ากระทืบตรงท้ายทอย ผมยกแขนบัง แต่ในที่นั้นไม่มีตำรวจท่านไหนพูดห้ามเลยครับ

ผมมีบาดแผลท้ายทอย

หลังจากที่ถูกทำร้ายร่างกายแล้วรับสารภาพมั้ย

เอ็ม : ผมก็ไม่รับสารภาพครับ ผมก็อยู่ที่สน.ตั้งแต่วันที่ผมมาวันแรก จนกระทั่งตำรวจเอาหมายจับมาให้ผมดู และให้ผมเซ็น ว่าผมเป็นบุคคลตามหมายจับจริง แต่ไม่ถูกจับตามหมาย ซึ่งพอผมเซ็นเอกสารเสร็จ เค้าก็ใส่กุญแจมือผม แล้วผมก็อยู่ในสน.ถึงวันที่ 30 เมษายน  แล้วทางตำรวจก็ได้ส่งผมไปที่ศาลอาญารัชดา แล้วผมก็ทำเรื่องประกันตัวออกมา ใช้เงินทั้งหมด 130,000 บาท แม่ผมต้องไปกู้หนี้ยืมสินเค้ามา พอประกันตัวออกมาศาล แล้วก็ไปโรงพยาบาลเลย ซึ่งผมไปตรวจร่างกายเลย ผมมีใบรับรองแพทย์ หมอระบุว่า ถูกทำร้ายร่างกาย กล้ามเนื้อคอและท้ายทอยอักเสบ (แสดงใบรับรองแพทย์) ออกให้ในวันที่ 30 เมษายน

โฟนอินคุณแม่  องุ่น พุ่มราตรี แม่ของผู้ถูกกล่าวหา

หลังจากที่แม่รู้ว่าลูกชายถูกซ้อม ตัดสินใจตอนไหนเพื่อขอความเป็นธรรม

แม่ : หลังจากที่แม่เดินทางไปประกันตัวเอ็มออกมา ก็พาเค้าไปหาหมอ แล้วพอได้ใบรับรองแพทย์ก็พาเค้าไปแจ้งความว่าถูกทำร้ายร่างกาย แม่ยืนยันว่าลูกไม่ผิด และ ถูกซ้อม ถูกทำร้ายจริงๆ ลูกอธิบายว่า ผมไม่ได้ทำไม่ได้เกี่ยวข้องเลยจริงๆ แม่ก็เลยตัดสินใจโพสเฟสบุ๊กเพื่อขอความเป็นธรรม และจะดำเนินการเพื่อสู้คดีต่อไปค่ะ

หลังจากที่เอ็มฟังทาง ผกก.สน.สายไหม แถลงข่าวแล้วรู้สึกยังไง

เอ็ม : ผมว่ามันไม่ตรงกับความจริง ที่ว่าผมทำเนียน จริงๆ บ้านผมไม่ได้อยู่ในซอยนั้น แล้วรูปที่ตำรวจเค้าโชว์ว่าผมไม่มีรอยแผล คือ ก่อนโดนทำร้าย เพราะถ้าซ้อมแล้วจะมีรอยทันทีเลยคงเป็นไปไม่ได้ ต่อจากนี้ผมก็ต้องรวบรวมหลักฐานทั้งหมดเพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ครับ

ทั้งนี้ทางรายการเจาะประเด็น ได้เตรียมอุปกรณ์เพื่อให้นายเอ็มสาบานในสิ่งที่พูดทั้งหมด

เอ็ม : (ยกมือไหว้) ต่อหน้าพี่ๆสื่อมวลชนทุกท่าน ประชาชนทั้งประเทศไทย ผมขอสาบานต่อหน้าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ว่าผมถูกทำร้ายร่างกายจริง ถ้าผมไม่ได้ถูกทำร้ายจริงจากนายตำรวจคนนั้น ขอให้ผมมีอันเป็นไป

และเหตุการณ์วันนั้นผมไม่มีส่วนรู้เห็นจากกระทำใดใดทั้งสิ้น  ผมต้องขอแสดงความเสียใจกับญาติผู้ตาย

ว่าผมบริสุทธิ์จริงๆ ไม่มีส่วนรู้เห็นใดๆขอแสดงความเสียใจกับญาติของนายซิ่งด้วย เพราะไม่คิดว่าจะด่วนตัดสินใจแบบนั้น

เมดฮับ นิวส์ medhubnews.com 

เว็บไซต์ข่าวสุขภาพ  สาธารณสุข การท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพ วาไรตี้ ฯลฯ 

Thailand Health and Wellness News  

ติดตามข่าวสารจาก medhubnews.com ได้จาก Facebook : sasook ของเรา

03 มกราคม 2562

ผู้ชม 1319 ครั้ง

Engine by shopup.com