"กลุ่มผู้สูบบุหรี่เดิม" ชี้ขึ้นภาษีบุหรี่ 40% ไม่เกิดประโยชน์ แต่จะทำให้ ผู้สูบ หันไปใช้ยาเส้น แถมเพิ่มปัญหาบุหรี่เถื่อนทะลักเข้าไทย

ปรับเพิ่มภาษียาสูบเป็น 40% - จากสถิติของสำนักงานสถิติแห่งชาติพบว่าคนไทยตายด้วยโรคที่เกิดจากบุหรี่มวน และยาเส้นปีละ 50,000 กว่าคน ทั้งถุงลมโป่งพอง โรคหัวใจ โรคความดัน และโรคมะเร็ง

อย่าว่าแต่เมืองไทย ที่เป็นประเทศกำลังพัฒนา เพราะประเทศที่ได้ชื่อว่าพัฒนาแล้วอย่าง อังกฤษ สหรัฐอเมริกา ก็ยังมีคนที่ตายจากบุหรี่ปีละนับแสนคนเลยทีเดียว

จากปัญหาดังกล่าวทำให้ อังกฤษ สหรัฐอเมริกา ได้ตัดสินใจเปลี่ยนแนวทางการรณรงค์ จากเดิมที่ให้ตระหนักถึงโทษพิษของบุหรี่สู่พฤติกรรม ลด ละ เลิกการสูบบุหรี่ ไปเป็นใช้ผลิตภัณฑ์ทางเลือกเพื่อสุขภาพทดแทน

ซึ่งเป็นนวัตกรรมใหม่ที่เชื่อว่าวงการแพทย์เมืองไทยทราบกันดี เนื่องจากได้ผลกว่าแนวทางเดิมๆ หากรณรงค์แบบเดิมก็เกิดความล้มเหลวของระบบสุขภาพเช่นทุกๆ ปีที่ผ่านมา

จากสถานการณ์การสูบบุหรี่ในปัจจุบันประมาณการว่าในปี 2568 จะมีผู้สูบบุหรี่เพิ่มขึ้นมากกว่า 1.6 พันล้านคน โดยร้อยละ 80 เป็นประชากรที่มีรายได้น้อยและปานกลาง

บุหรี่เป็นภัยเงียบที่คุกคามสุขภาพทั้งในระดับบุคคล ชุมชน สังคมและประเทศชาติ เป็นสาเหตุที่สำคัญของโรคเรื้อรังในหลายระบบ เช่น ระบบทางเดินหายใจ ระบบหลอดเลือดและหัวใจ เป็นต้น ซึ่งพบว่าในทุก 1 นาที จะมีผู้เสียชีวิตจากการสูบบุหรี่ประมาณ 6 – 7คน

องค์การอนามัยโลก ได้คาดการณ์ว่าระหว่างปี 2563 - 2573 จะมีการสูญเสียประชากรก่อนวัยอันควรถึงประมาณ 100 ล้านคน และประเทศต่างๆ ต้องแบกรับภาระประชากรที่เจ็บป่วย พิการ หรือเสียชีวิตมากขึ้น จึงต้องมีมาตรการในการควบคุมการบริโภคยาสูบ

ทั้งนี้ กองบรรณาธิการ medhubnews.com เว็บไซต์สุขภาพ  และ เพจ sasook  รายงานว่า จากการติดตามทำข่าว สอบถามปัญหาผู้ติดบุหรี่ ทั้งจากงานเสวนา การประชุมแก้ไขปัญหาอย่างใกล้ชิด และ นายมาริษ กรัณยวัฒน์ ตัวแทนเครือข่ายผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้า “กลุ่มลาขาดควันยาสูบ ( ECST ) 

พบว่าการรณรงค์ให้ประชาชนตระหนักถึงโทษพิษภัยของบุหรี่ และมุ่งหวังให้เกิดการลด ละ เลิกการสูบบุหรี่ โดยมีกิจกรรมการให้ความรู้เรื่องโทษพิษภัยของบุหรี่บุหรี่ 

รวมทั้ง การให้คำปรึกษาเพื่อเลิกบุหรี่ และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง การปรับเพิ่มภาษียาสูบเป็น 40% ซึ่งจะส่งผลให้บุหรี่ทุกยี่ห้อมีอัตราขั้นต่ำที่ราคา 90 บาท โดยกลุ่มผู้สูบบุหรี่ ไม่มีทาง ลด ละ เลิกการสูบบุหรี่ อย่างแน่นอน 

และจะก่อให้เกิดปัญหาใหญ่ตามมา คือ กลุ่มผู้สูบบุหรี่เดิมยังคงติดบุหรี่ต่อไป และ กลุ่มผู้สูบบุหรี่หน้าใหม่หันไป บริโภคยาเส้น หรือ บุหรี่เถื่อนแทน 

ดังนั้นยุคเทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงไปทุกวัน มีการค้นพบงานวิจัยใหม่ๆ ถือเป็นเรื่องที่บุคลากรสายสุขภาพต้องตามให้ทัน และเปลี่ยนแปลงตนเองให้เข้ากับกระแสโลกได้แล้ว