"ครูโรงเรียนดัง" จากอุบลฯ โดนแก๊งค์คนร้ายแฮกเฟสบุ๊คหลอกโอนเงินสูญเกือบ 30,000 บาท เว็บไซต์สุขภาพ medhubnews.com ข่าวการแพทย์ บทความสุขภาพ ระบบสาธารณสุข

"ครูโรงเรียนดัง" จากอุบลฯ โดน "แก๊งค์คนร้ายแฮกเฟซบุ๊ก" หลอกโอนเงินสูญ 30,000

หมวดหมู่: รีวิวบันเทิง เวทีประกวด ซีรีส์วาย ละคร ดารา ไอดอล นายแบบ นางแบบ เรตติ้งละคร ทุกช่อง

MED HUB NEWS - "ภัยสังคม" ในกรณีที่ผู้ใช้เฟซบุ๊กถูกมิจฉาชีพโจรกรรม ( แฮก ) บัญชีเฟซบุ๊ก แล้วทำทีเป็นขอความช่วยเหลือทางการเงินกับเพื่อนที่อยู่ในเฟซบุ๊ก ยังคงออกอาละวาดอย่างต่อเนื่อง

โดยตำรวจไม่สามารถจับกุมคนร้ายเอาไว้ได้ ยังคงสร้างความเดือดร้อนอย่างต่อเนื่อง เฉกเช่นกรณีของครูอุบลราชธานี

เว็บไซต์เมดฮับนิวส์ดอทคอม ( MEDHUBNEWS.COM ) และ เพจ sasook รายงานว่า ขณะนี้พื้นที่ จ.อุบลราชธานี โดนกลุ่มมิจฉาชีพอาระวาดหนัก โดยได้รับจากรับแจ้งว่ามีการนำเฟซบุ๊กไปยืมเงินหลายราย

ทั้งนี้ คุณฝน เพ็ญพิชชา รุ่งเรือง ข้าราชการ หลานสาวของ นายวันชัย รุ่งเรือง ครูผู้เสียหาย จากโรงเรียนย่านวารินชำราบ จ.อุบลราชธานี เปิดเผยว่า

ปกติเคยเห็นแต่ในข่าวไม่คิดว่าจะเกิดกับคนใกล้ตัว โดยเมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2561 คุณลุงซึ่งรับราชการครูจังหวัดอุบลราชธานี ได้ถูกแฮกเฟซบุ๊ก

“ปกติท่านไม่ค่อยได้เล่นเฟซบุ๊ก จึงมิได้ระมัดระวัง มิจฉาชีพได้ทักไปหาเพื่อนในเฟซบุ๊คหลายคน ไม่เว้นแม้แต่ลูก และเมีย โดยเลือกเหยื่อที่มีการสนทนากันทางแชทมาก่อน และสวมรอยทันที

บางคนจึงหลงเชื่อ และโอนเงินเข้าบัญชีไป โดยมิจฉาชีพอ้างว่าเป็นบัญชีของช่างคนหนึ่ง จึงทำให้สูญเงินรวมกันแล้วเกือบ 30,000 บาท

คาดว่ามิจฉาชีพจะเลือกแฮกเฟซบุ๊กคนที่ไม่ค่อยได้เล่นเฟซ และเป็นบุคคลที่มีความน่าเชื่อถือ เมื่อเอ่ยปากขอยืมเงิน ก็มีโอกาสที่จะยืมได้ง่ายมากขึ้น

ต่อมา ญาติผู้เสียหายได้สืบหาจากชื่อเจ้าของบัญชี จนทราบว่าชื่อ ณัชภัทร ลาภทิพย์ เป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง จึงแชทไปสอบถาม และคาดคั้น จนเจ้าตัวรับสารภาพว่าเป็นเจ้าของบัญชี และอ้างว่าถูกชักชวนให้ทำงานพิเศษ ทำหน้าที่รับชำระค่าบริการต่างๆ

เช่น ค่าน้ำ ค่าไฟ ให้กับลูกค้าต่างชาติ หรือ คนไทยที่เดินทางไปต่างประเทศ และไม่สามารถชำระค่าบริการต่างๆ ได้ โดยการันตีรายได้วันละ 600-1500 บาท

นายณัชภัทร จึงตกลงใจทำ พอเงินเข้าบัญชี มิจฉาชีพก็จะแชทบอกให้น้องรีบกดเงินออกไป และเติมเข้าบัญชีทรูวอลเล็ต เบอร์ 092-450-0168 ชื่อผู้รับ กันติชา คล่องตา

ญาติของผู้เสียหายจึงสืบต่อไปจนพบเฟซบุ๊ก และสอบถามไปยังกันติชา เจ้าตัวได้อ้างว่าถูกหลอกให้ทำงานพิเศษเช่นกันและได้ไปแจ้งความไว้แล้ว

โดยส่งใบลงบันทึกประจำวันมาให้ดูเป็นหลักฐาน ทางด้านนักศึกษาที่เป็นเจ้าของบัญชีที่ผู้เสียหายโอนเงินเข้าไป ก็ได้ไปลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สภ.พัทยา

“ตอนนี้คุณลุงซึ่งรับราชการครูจังหวัดอุบลราชธานี ได้รวบรวมหลักฐานที่สืบหามาได้ทั้งหมด และนำไปแจ้งความที่ สภ.วารินชำราบ และสภ.เมืองอุบล จ.อุบลราชธานี และหวังว่าตำรวจจะสืบสาวไปจนถึงต้นตอของมิจฉาชีพตัวจริงให้ได้”

สำหรับเรื่องดังกล่าวนั้นพบว่ามีการแพร่ระบาดอย่างหนัก โดยส่วนใหญ่เจ้าของบัญชีมักจะอ้างว่าไม่ทราบเรื่อง ซึ่งกรณีนี้เจ้าของบัญชีจะมีความผิดอาญาด้วย

ทั้งนี้ คำแนะนำอยากให้ผู้ใช้เฟซบุ๊กระวังไว้ก่อนหรือให้ตั้งรหัสผ่าน หรือ password ที่คาดเดายาก และตั้งความปลอดภัย 2 ชั้น โดยให้ยืนยันผ่านโทรศัพท์มือถือของเราด้วย

หากใครยืมเงินผ่านเฟซบุ๊กให้เอ๊ะใจก่อน เพราะไม่มีใครยืมเงินกันโดยไม่ได้เจอตัวหรือฟังเสียง หรืออาจจะโทรศัพท์ไปหาเจ้าตัวว่ายืมเงินจริงหรือไม่

คดีนี้ทางตำรวจต้องเร่งคลี่คลาย ทั้ง สภ.พัทยา จ.ชลบุรี และ สภ.เมืองอุบล จ.อุบลราชธานี เพราะกรณีแบบนี้เจ้าของบัญชีจะต้องได้รับโทษทางกฎหมายด้วย

แม้จะอ้างว่าตนเองไม่ทราบเรื่อง เนื่องจากมีเงินเข้ามาในบัญชีต้องเอ๊ะใจไว้ก่อน หากอ้างว่าไม่รู้เรื่องถ้าเป็นเงินจากการค้าขายสิ่งผิดกฎหมายจะทำให้เกิดความเสียหายมากขึ้น และเพื่อป้องกันการรับจ้างเปิดบัญชีรับโอนเงินผิดกฎหมายด้วย