"ย้อนดูทนายตั้ม ษิทรา" ไลฟ์สไตส์สุดหรู ชายหนุ่มมีรสนิยม กับอาถรรพ์คดีหวย 30 ล้าน

MED HUB NEWS -  ยังตามต่อเนื่อง กรณีนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม แฉคลิปเสียงสนทนาเอี่ยวการวิ่งเต้นอัยการ เพื่อหลุดคดี ซึ่งเป็นคลิปที่ฝ่ายหญิงพยายามทวงเงินจากทนายรายหนึ่ง เป็นเงิน 500,000 บาท

หลังวิ่งเต้นอัยการไม่สำเร็จ ซึ่งต่อมา ทนายตั้ม ษิทรา เบี้ยบังเกิด  พร้อมด้วย อาเมเรีย จาคอป หรือ เอมี่ อดีตมิสทีนไทยแลนด์ ปี 2006 ได้นำเอกสารที่คัดสำเนามาจากศาล มายื่นต่อคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงแสดงความบริสุทธิ์ใจ

ทนายตั้ม ได้โพสต์ข้อความลงเฟสบุ๊ค ษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ ย้ำเตือนตัวเอง ไม่นานความจริงจะปรากฏ กรณีมีเจ้าหน้าที่ค่อยช่วยเหลือคดีเอมี่ให้หลุดพ้นคดียาเสพติด

อย่างไรก็ตาม คำร่ำลือ กรณี "อาถรรพ์หวย 30 ล้าน รวยจนเจ๊ง" จะนำพาคนที่เกี่ยวข้องให้มีแต่ความยุ่งยาก ซึ่งพบว่ามีบุคคลจำนวนมากที่เกี่ยวกับหวย 30 ล้าน ขอชิ่งหนีคดีนี้ไปเกือบหมดแล้ว 

ย้อนกลับไปเมื่อช่วง 4 มิ.ย. ศาลนัดไต่สวนมูลฟ้อง คดีหวย 30 ล้าน ระหว่าง “ครูปรีชา” และ “ลุงจรูญ” เว็บไซต์เมดฮับนิวส์ดอทคอม ( MEDHUBNEWS.COM ) และ เพจ sasook นำเอาคำต่อคำในโหนกระแส วันที่  5 มิ.ย. ที่มี “ทนายตั้ม” ษิทรา เบี้ยบังเกิด ทนายลุงจรูญ รวมทั้ง “อัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์” ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม มาให้อ่านอีกครั้ง 

ทนายตั้มบรรยากาศเป็นยังไง?

ทนายตั้ม: “ตอนเช้ามีไต่สวนเรื่องละเมิดอำนาจศาลก่อน ผมก็ได้โพสต์ก่อนหน้านั้น ได้คุยกับพี่อัจ ได้คุยกับหลายๆ คน ที่เป็นกุนซือผม เรื่องนี้เราไม่น่ามีความผิด เพราะละเมิดอำนาจศาลเราต้องทำภายในศาล

แต่นี่เราทำภายนอก แล้วไม่มีผลกระทบถึงหลักฐานในศาล ก็เป็นไปตามที่เราคาดไว้ ศาลก็มีคำสั่งว่าเราไม่มีความผิดฐานละเมิดอำนาจศาล

โดยท่านให้เหตุผลว่าเป็นการกระทำนอกศาล และศาลไม่มีข้อกำหนด แต่ศาลก็ตำหนิมาว่าไม่ควรเอาหลักฐานมาเผยแพร่ ผมก็โอเค

ถ้าท่านเห็นว่าเรื่องที่เราทำมันไม่สมควร ผมก็จะไม่ทำ ท่านก็เลยวางข้อกำหนดว่าต่อไปนี้ถ้ามีการไปขอคัดถ่ายเอกสารอะไรก็แล้วแต่จากศาลแล้วเอาไปเผยแพร่เพื่อชักจูงสังคมไปทางใดทางหนึ่ง จะมีความผิดศาลละเมิดอำนาจศาล การสัมภาษณ์ก็ต้องระวังนิดนึง”

เมื่อวานเห็นทนายตั้มหิ้วเอกสารเยอะมาก มันคืออะไร ?

ทนายตั้ม: “เป็นหลักฐานไว้ถามค้าน เราคิดว่าเราจะถามค้านได้เยอะกว่านี้ วันนั้นศาลมีคดีอื่นด้วย ทำให้เราค้านได้น้อย เราก็เผื่อๆ ไว้ก่อน ก็ได้เอาออกมาใช้ครับ ผมเตรียมคำถามเยอะ ถามไม่หยุดหายใจ จนคุณครูขออนุญาตไปกินน้ำข้างนอก”

เขาตอบได้บ้างมั้ย ?

ทนายตั้ม: “ผมถามเยอะมาก เขาตอบมายังไง ผมพอใจแล้วกัน ส่วนที่เป็นผลต่อรูปคดีผมไม่สามารถบอกได้”

มีคำถามที่เขาตอบไม่ได้บ้างมั้ย?

ทนายตั้ม: “เอาว่าเขาก็มีการเตรียมไป มีบางส่วนที่เขาสามารถเลี่ยงไปอย่างอื่นได้ โดยไม่ตอบผมก็มีเหมือนกัน ทนายฝั่งโน้นเขาก็ถามเรื่องราวตามเรื่องราวในชั้นไต่สวน มันก็ไม่ผิดจากนี้”

คลิปเด็ดเขาล่ะ?

ทนายตั้ม: “เมื่อวานไม่มีการสืบในเรื่องของคลิป และคิดว่าคงไม่มีการสืบในเรื่องของครูปรีชาเพราะของเขามีการสืบพยานเสร็จแล้ว ไม่มีการนำคลิปมา แต่ไม่แน่ใจว่าไอ้ที่เด็ดของเขา จะมีการสืบในภายหลังโดยนำพยานคนอื่นเข้ามาด้วยหรือเปล่า”

ที่แน่ๆ มีหลักฐานเด็ดอยู่ตัวนึง เขาบอกว่าทนายตั้มเครียดเลย เรื่องไลน์ หลักฐานชิ้นใหม่ งงเป็นไก่ตาแตกเลย?

ทนายตั้ม: “สำนักข่าวไหนที่บอกว่าเครียด ถามว่าผมเครียดเหรอ หลักฐานตัวนี้ผมไม่เคยเห็นมาก่อนจริงๆ เพราะเป็นหลักฐานที่อยู่ของเขา ทางตำรวจกองปราบปอท. เขามีแต่ผมไม่เคยเข้าถึง เมื่อเห็นแล้วมันก็ไม่ได้ทำให้ผมเครียด แค่รู้สึกว่าอ๋อ ผมเห็นเป็นครั้งแรก”

อัจฉริยะ : “เป็นโปรแกรมไลน์”

ทนายตั้ม: “ผมไม่ยืนยันว่าสิ่งที่เขาพูดจริงหรือเปล่านะ เดี๋ยวผมติดคุก(หัวเราะ)ตอนบ่ายผมให้เขาเอามาตรวจสอบให้ศาลเห็น แต่เขาก็เอาแบบอื่นมาให้แทน”

ได้เหรอ?

ทนายตั้ม: “ศาลก็ไม่ได้ว่าอะไร ถ้าเราคิดว่าเป็นของปลอม ก็ต้องไปดำเนินการอีกคดีหนึ่ง”

เครียดมั้ยเมื่อวาน?

ทนายตั้ม: “สาบานต่อหน้าทุกคนผมไม่เครียดเลย คนไม่เห็นผมหน้าสื่อ ผมทำแต่คดี เตรียมซักค้านครูปรีชาอย่างเดียว”

 อัจฉริยะ : “โทรมาหาผมร้องเพลงสบายๆ ตอนผมออกจากศาล 6 โมง ผมอยู่แปดริ้ว โดนฟ้อง(หัวเราะ) นัดหน้าไปแน่นอน”

ครูปรีชาร้องศาลขอถอนทนายตั้มจากการเป็นทนายฝั่งโน้น?

ทนายตั้ม: “เขาชอบถอนทนาย เห็นถอนมาหลายคนแล้ว แต่เขาคงลืมว่าเขาไม่มีสิทธิ์ถอนทนายฝั่งตรงข้าม เมื่อวานศาลก็ตำหนิว่าคุณไปเกี่ยวอะไรกับเขา

คนถอนผมได้คือคนเดียวคือลุงจรูญ คุณจะไปร้องมรรยาทอะไรคุณก็ไปร้อง ไม่เกี่ยวกับศาล ตำหนิแบบนี้เลย ว่าทำแบบนี้ไม่เข้าข้อกฎหมายไม่ปรึกษาทนายเลยหรือไง

เขายื่นคำร้องขึ้นมาเลย ว่าขอถอนผมออกจากการเป็นทนายของคดี ไม่รู้กลัวอะไรผมนักหนา อาจเห็นว่าผมรู้เรื่องคดีเยอะที่สุดแล้ว ไม่ว่าฝั่งผมหรือฝั่งเขา

จริงๆ ผมไม่อยากให้เขาใช้วิชามารมาเล่นกันเหมือนผู้หญิง มาสู้กันดีกว่า เพราะตอนนี้เรื่องมันถึงศาลแล้ว ไม่ต้องไปหาเรื่องผมให้รู้สึกกังวลใจ

ผมไม่กังวลใจแต่แค่น่ารำคาญนิดๆ หน่อยๆ มาสู้กันในกระบวนการนี่แหละ ไม่ต้องซื้อเวลาด้วย มั่นใจในพยานหลักฐานตัวเอง แต่จะขออีกที 3-4 เดือนขอสืบ ผมก็ไม่ยอม ผมบอกว่าไม่ได้นะ”

โจทก์ขอเลื่อนสามสี่เดือน?

ทนายตั้ม: “เมื่อวานพอสืบเสร็จศาลก็ถามว่าจะนัดอีกทีเมื่อไหร่ จริงๆ เขาต้องเร่ง แต่พอเปิดสมุดนัดมา มิถุนาเขียนไว้เต็มหมดเลย ซึ่งแบบนี้ใครๆ ก็เขียนได้ แต่ถ้าคุณมั่นใจในพยานหลักฐาน ก็ไม่ต้องดึงไปเดือนกันยา ผมค้านตายเลย แบบนี้ควรเร่งรัดการพิจารณามา จะสืบอีกกี่คนผมก็ไม่ว่า แต่อย่านานเท่านั้นเอง

เข้ามาอยู่ในเดือนมิ.ย.?

ทนายตั้ม: “เร็วสุดก็ได้ 29 มิ.ย. นอกจากดูวันว่างเขา ก็ต้องดูวันว่างของศาลด้วย สำหรับผม ผมบอกเลยผมว่างให้เสมอ”

นัดต่อไปพยานจะขึ้นมั้ย ?

ทนายตั้ม: “ไม่รู้นัดต่อไปจะเอาเจ๊บ้าบิ่น หรือเจ๊พัชขึ้นก่อน มันช้านัดแรกเท่านั้นแหละ ถ้าเขาใช้พยานอีก 10 คน 3 นัดก็น่าจะเสร็จ ถ้าพยานคนอื่นไม่ได้รู้เห็นอะไรมาก”

เห็นทนายวรายุทธ์บอกว่ามีพยาน 20 ปาก ?

ทนายตั้ม: “20 ปากในตอนสืบจริง ถ้ามีมูลก็ใช้ 20 ปาก แต่เห็นเขาแถลงว่าในชั้นไต่สวนมูลฟ้องเขาจะใช้ 10 ปาก แต่ถ้าเป็นผมใช้แค่ 3 ปากก็พอถ้ามั่นใจ ผมเอาครูปรีชา เจ๊พัช เจ๊บ้าบิ่น”

ของเราล่ะ ?

ทนายตั้ม: “เรามีหน้าที่ซักค้าน ในคดีอาญา ราษฎรเป็นโจทก์ฟ้องเอง ทางจำเลยไม่มีสิทธิ์ยื่นพยานหลักฐานเข้ามา ทำได้แค่ซักค้านเท่านั้น แค่มีโอกาสซักค้านเขา แล้วเขาจะกลัวอะไร ทำไมต้องถอยไปไกลๆ แล้วทำไมต้องถอนผมออก”

อัจฉริยะ : “ผมว่าเขาตามหาอยู่ เพราะคดีนี้ต้องพิสูจน์ให้ได้ว่าทำหวยหายจริง มีการซื้อจริงต้องพิสูจน์ให้ได้ว่าลุงจรูญเก็บหวยได้ ขาดคนสุดท้ายนี่แหละ”

ทำไมไม่มีคลิปโชว์ ?

ทนายตั้ม: “ยังไม่เห็นมี”

อัจฉริยะ : “ก็ยังหาคนเห็นเก็บหวยไม่ได้ไง อดีตเป็นแผน ตอนนี้แผนไม่มาแล้ว ยังตามหาไม่เจอ ก็รอไปก่อนอีก 3 เดือน”

เมื่อวานระหว่างเข้าในศาล เห็นว่าเขาขอจับมือแล้วไม่จับมือด้วย?

ทนายตั้ม: “ผมไม่ได้เป็นเด็กไม่มีสัมมาคารวะนะ คือเขาจะฟ้องเอาเป็นเอาตาย จะเอาลูกความผมติดคุก ทั้งที่เขาก็น่าจะรู้อยู่แก่ใจว่าใครเป็นฝ่ายผิดหรือไม่ผิด ถ้าวันนั้นผมจับมือกับเขา ลุงจรูญจะมองผมยังไง มันไม่จำเป็นเลย ไปสู้กันในศาล สู้กันแบบลูกผู้ชาย”

อัจฉริยะ : “ไว้ตอนจบค่อยจับมือกัน รู้กติกาหรือเปล่า ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก”

ทนายตั้ม: “ผมจับเขาอย่างเดียวคือตอนไปเยี่ยมเขาที่บ้าน”

ทำไมศาลกันคนอื่นๆ ไม่ให้เข้า?

ทนายตั้ม: “เมื่อวานคนเยอะมาก ฝั่งเขาก็มีญาติ แอร์ก็ทำงานไม่ดี มันก็ร้อน แล้วศาลก็กลัวว่าคนเข้าไปจะแอบบันทึกเสียงอะไรหรือเปล่า ก็เลยให้เฉพาะคนที่เกี่ยวข้องจริงๆ

ทีมงานผมก็อยู่ประมาณ 5-6 คน ทางเขาก็ 5-6 คน พยานก็ไม่ให้เข้า แล้วห้ามคู่ความคัดถ่ายเอกสาร ผมยังไปคุยกับเจ๊บ้าบิ่น คุยกันธรรมดาว่าสบายดีมั้ย เขาก็บอกว่าสบายดี ก็บอกว่าทำตามหน้าที่กันนะ อย่าโกรธเคืองกันนะ ไม่มีอะไรมากกว่านี้”

อัจฉริยะ : “แต่งชุดไทยเลยเจ๊บ้าบิ่น ทาแป้งหนา”

ทนายรณณรงค์บอกว่าหน้าซีด?

อัจฉริยะ : “เขาก็พอกหน้าหนาไง เพราะหน้าซีด”

บรรยากาศตึงเครียดมั้ย?

ทนายตั้ม: “ผมว่าเขาเครียดนะ ส่วนลุงจรูญผมก็ถามแล้ว ผมอยากให้ลุงไปฟังด้วยว่าผมทำงานยังไง เพราะผมเปิดเผยไม่เคยปิดบัง แล้วอยากให้ไปดูหน้าเขาด้วยว่าตอนถามเขามีหน้าตายังไง

เขาบอกว่าถ้าไปเห็นเดี๋ยวจะโมโหขึ้นมาอีก เราก็เลยไม่เป็นไร แล้วแต่เขา เคสนี้ยังไงไม่มีทางสืบเสร็จภายในวันเดียว ให้คุณลุงไปนัดสองนัดสามก็ได้  ก็ต้องใช้เวลาพิจารณา”

เจ๊เกียวล่ะ?

ทนายตั้ม: “หายไปเลยเมื่อวานไม่มา  ผมเห็นแค่เจ๊บ้าบิ่นคนเดียว ไม่รู้เจ๊พัชไปอยู่ไหน แต่เจ๊เกียวไม่มาแน่นอน เขาอาจมาวันอื่นก็ได้ เมื่อวานมีป้าคนนึง มาบอกว่าเผื่อคุณลุงสมมติศาลมีคำสั่งว่ามีมูลขึ้นมา เขาหอบเงินสด 4 แสนมาเผื่อประกันตัวที่ศาล

ผมก็ไม่รู้จัก ระหว่างขึ้นบนบัลลังก์ ก็มีคนมาชี้ตัวว่าถ้าเกิดคุณลุงพลาดพลั้งก็บอกนะ เขานั่งรออยู่ตรงนี้ ถึงเย็นเลย ผมก็สวัสดี ตอนนั้นมุ่งมั่นกับการทำคดีอยู่ แต่มีพี่คนหนึ่งไปโพสต์ในกลุ่มว่าคุณป้าเขาถือเงิน 4 แสน รอประกันตัวหากคุณลุงพลาดพลั้ง ผมก็นับถือน้ำใจคุณป้ามาก ไม่ได้เป็นญาติไม่ได้เป็นอะไร มาจากญี่ปุ่นก็ยังมาเลย มาเยอะแยะไปหมด”

อัจฉริยะ : “เมื่อวานมีเรื่องเล่าลือเยอะมาก”

ทนายตั้ม: “สองครั้งแล้วที่ไม่เจอทนายคดีแพ่งคนเก่า ไม่เห็นจริงๆ แต่จะถอนตัวจากคดีหรือเปล่าผมไม่ทราบ แต่ไม่ได้ไปสองครั้งแล้ว ท่านเป็นผู้ใหญ่ไม่เคยออกสื่อว่าร้ายบิดเบือนอะไรผมก็ไม่เคย ซึ่งวันนี้ท่านหายไปแล้ว ผมก็ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร”

อัจฉริยะ : “มีเรื่องนึงสำคัญมาก มีคนเอาที่ดินไปจำนอง นำเงินมาจ่ายค่าทนายความเพราะตังค์ไม่มี ที่ขอบคุณแฟนเพลงทั้งหลายแหล่ อีกหน่อยก็กระเป๋าแบนแฟนทิ้ง”

คลิปที่อัดๆ มาแล้วปล่อย ส่วนหนึ่งมาจากทนายตั้ม?

ทนายตั้ม: “ผมไม่ทำแบบนั้นเสี่ยงให้ตัวเองติดคุกหรอกครับ พี่อัจเขารู้ก่อนทุกที ผมว่าเขามีมาก่อนแล้วแหละ”

 อัจฉริยะ : “ผมมีเครือข่ายของผม ผมไปกินน้ำชากาแฟสักแก้วสองแก้วที่เมืองกาญจน์ ผมก็ได้คลิปมาแล้ว”

 จะจบยังไง?

ทนายตั้ม: “ความมั่นใจผมมีอยู่แล้ว เพราะเตรียมหลักฐานมาค่อนข้างละเอียด แต่อย่าช้าแล้วกันเร่งกันหน่อย ผมหมายถึงคู่กรณีตรงข้าม”

เมดฮับ นิวส์ medhubnews.com 

เว็บไซต์ข่าวสุขภาพ  สาธารณสุข การท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพ วาไรตี้ ฯลฯ 

Thailand Health and Wellness News  

ติดตามข่าวสารจาก medhubnews.com ได้จาก Facebook : sasook ของเรา 

ภาพจาก TheWikiHow