"เครือข่ายผู้ประกอบการนวด สปาไทย" จับมือ "สื่อสายสุขภาพ" ช่วยรักษามาตรฐานนวดไทย
"เครือข่ายผู้ประกอบการนวด สปาไทย" จับมือ "สื่อสายสุขภาพ" ช่วยรักษามาตรฐานนวดไทย
MED HUB NEWS - หากพูดถึงศิลปะการนวดแผนไทย ไม่เพียงเป็นที่นิยมเฉพาะในกลุ่มคนไทย และชาวเอเชียเท่านั้น แต่ปัจจุบันได้เป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายในหมู่ชาวต่างชาติที่ชื่นชอบการบำบัดผ่อนคลายด้วยการนวด
รวมทั้งการนวดร่วมกับการใช้สมุนไพรตามศาสตร์การประกอบโรคศิลป์ โดยมี กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข ผลักดันให้ตลาดการนวดไทยบูมขึ้น
ส่งผลถึง รูปแบบธุรกิจร้านสปา หรือ สถานประกอบกิจการการ สปาไทย นวดไทยเพื่อสุขภาพได้มาตรฐาน
คนไทยในต่างประเทศนิยมเปิดร้านนวดไทย และ สปา ซึ่งปัจจัยสำคัญประการหนึ่งที่ธุรกิจจะดำเนินไปอย่างราบรื่นในต่างประเทศก็จำเป็นต้องได้ใบอนุญาต ตามขั้นตอนของกฎหมายครอบคลุมทั้งตัวสถานประกอบการและผู้ให้บริการในสายอาชีพนี้
เว็บไซต์เมดฮับนิวส์ดอทคอม MEDHUBNEWS.COM และ เพจ sasook รายงานว่า นวดไทย เป็นเรื่องที่นายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญมาก เป็นนโยบายของรัฐบาล
ช่วงนี้จึงมีการพูดเรื่องสาธารณสุข นวดไทย บ่อยๆ รวมทั้งการผลักดันให้ “นวดไทย” เป็นมรดกโลกตามแผนการดำเนินงานของกระทรวงวัฒนธรรม และ กระทรวงสาธารณสุข
โดยจะไม่ใช้คำว่า “Thai Massage” แต่จะเปลี่ยนเป็น “นวดไทย” คงไว้ซึ่งอัตลักษณ์ไทย ที่เป็นภูมิปัญญาคนไทย
ทั้งนี้ ในสหรัฐอเมริกา เป็นประเทศหนึ่งที่มีร้านให้บริการนวดสปานวดไทยจำนวนมาก หลายแห่งดำเนินธุรกิจถูกต้อง
แต่หลายแห่งก็หลีกเลี่ยงกฎหมาย จนถูกตรวจจับและถูกปิดกิจการด้วยความไม่รู้กฎหมายหรือระเบียบการดำเนินธุรกิจในท้องถิ่น
ในต่างประเทศค่อนข้างเข้มงวดเรื่องการตรวจจับอย่างมาก ทำให้ใบอนุญาต เป็นเรื่องสำคัญมาก เพราะจะเป็นใบเบิกทางที่จะออกไปทำงานต่างประเทศ
ปัจจุบันในประเทศไทย มีโรงเรียนเปิดหลักสูตรการนวดมากมายเพื่ออบรมตามมาตรฐานโดยมี กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก เป็นผู้มอบอำนาจให้แต่ละสถาบันเปิดคอร์สจัดการเรียนการสอน อบรมการนวด ทักษะการนวดไทยประเภทต่างๆ ตามมาตรฐาน
เช่น สมาคมแพทย์แผนไทยแห่งประเทศไทย หรือ "ศูนย์ทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงาน" เป็นต้น โดย "สมาคมแพทย์แผนไทยแห่งประเทศไทย" ที่จัดตั้งมายาวนานในช่วงระยะหลังมานี้ได้ยกระดับการเรียนการสอนให้เข้มข้นขึ้น
ขณะที่ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ( สบส .) เป็นหน่วยงานที่แยกตัวออกมาจากสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข จำนวนบุคลากรจึงไม่เพียงพอต่อภาระงาน แต่เนื้องานเทียบเท่า สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา หรือ อย.ที่มีทั้งงบประมาณ และ บุคลากรจำนวนมาก
จึงเกิดการร่วมตัวกันของระหว่างเครือข่ายผู้ประกอบการวิชาชีพนวดไทย นวดสปา และเครือข่ายสื่อมวลชน ซึ่งเว็บไซต์เมดฮับนิวส์ดอทคอม MEDHUBNEWS.COM และ เพจ sasook เข้ามาเป็นกระบอกเสียงให้ด้วยความเต็มใจ ในฐานะจิตอาสา
สำหรับโครงสร้างการกำกับดูแลกิจการที่มีมูลค่ามหาศาลนี้ เพราะตลาดการนวดเพื่อสุขภาพเป็นตลาดใหญ่สร้างงาน สร้างเม็ดเงินเข้าประเทศมากมาย อยู่ภายใต้กฎหมายของ นายแพทย์ณัฐวุฒิ ประเสริฐสิริพงศ์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ( กรมสบส. ) กำกับดูแลสถานประกอบการเพื่อสุขภาพของประเทศไทยทั้งหมด
ดังนั้นปัญหาร้องเรียน คุ้มครองผู้บริโภค ต่างๆ จึงเข้ามาทาง สบส.ซึ่งต่อไปจะมีภาระงานที่มากขึ้น ตาม พรบ.ที่เขียนไว้ครอบคลุมสถานประกอบการเพื่อสุขภาพทั้งหมด
เช่น สถานดูแลพักฟื้นคนชรา สถานออกกำลังกายฟิตเนส โยคะ ฯลฯ เทรนเนอร์จะต้องมีใบอนุญาตตามมาตรฐาน
การดำเนินงานที่ผ่านมาของ เครือข่ายผู้ประกอบการวิชาชีพนวดไทย นวดสปา และเครือข่ายสื่อมวลชน เน้นการส่งเสริมและอำนวยความสะดวกให้ผู้ประกอบการ และประสานงานกับ กรม.สบส.ให้ตรวจร้านนวดที่ทำผิดเกินมาตรฐานจนสร้างปัญหา และ ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์
โดยที่เครือข่ายจะไม่เน้นการจับผิดผู้ประกอบการที่ล้วนแล้วต้องทำมาหากิน และ ทำงานหนักในสภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ นายแพทย์ภัทรพล จึงสมเจตไพศาล รองโฆษกกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (กรม สบส.) กระทรวงสาธารณสุข และผู้อำนวยการกองสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ ให้สัมภาษณ์ว่า จากข้อมูลของกองสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ กรม สบส. พบว่า
ปัจจุบัน ทั่วประเทศมีสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ ทั้งสปา นวดเพื่อสุขภาพ หรือเสริมความงาม ที่ขึ้นทะเบียนกับกรม สบส.และสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทั่วประเทศ เกือบ 3,000 แห่ง และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลายแห่ง
จึงต้องมีการแข่งขันกันในด้านธุรกิจ ด้วยการจัดโปรโมชั่น หรือขึ้นป้ายโฆษณาเพื่อดึงดูดให้ประชาชนเข้ารับบริการกับตน ซึ่งตามกฎหมายพระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ.2559 มิได้ห้ามให้มีการโฆษณาแต่อย่างใด แต่ผู้รับอนุญาตให้ประกอบกิจการฯ จะต้องดำเนินการให้ถูกต้องและเหมาะสมตามที่กฎหมายกำหนด
"หมอนวดหนุ่มที่ทำให้ “Thai Massage” โด่งดังไปทั่วโลก"
ไม่โฆษณาในลักษณะที่เป็นเท็จ โอ้อวดเกินจริง หรือส่อไปในทางลามกอนาจาร โดยเฉพาะการอวดอ้างสรรพคุณของการบริการว่าสามารถรักษาหรือป้องกันโรคได้นั้นยิ่งห้ามโดยเด็ดขาด
เนื่องด้วย สถานประกอบการเพื่อสุขภาพนั้นจัดตั้งขึ้นด้วยวัตถุประสงค์เพื่อให้บริการที่เกี่ยวกับการดูแลและเสริมสร้างสุขภาพโดยวิธีการบำบัดด้วยน้ำ หรือการนวดร่างกายเป็นหลัก มิได้มีบทบาทในการป้องกัน บำบัด รักษาโรคแต่อย่างใด
“การนวดเพื่อบำบัด รักษาโรค และฟื้นฟูสุขภาพโดยใช้ศาสตร์นวดไทยนั้น หากผู้นวดขาดความชำนาญก็อาจจะทำให้เกิดอาการฟกช้ำ กล้ามเนื้ออักเสบ บวมแดง หรืออาจจะส่งผลกระทบต่อโรคประจำตัวของผู้รับบริการได้
จึงต้องกระทำในสถานพยาบาล และรับบริการจากแพทย์ที่ได้รับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยเท่านั้น ดังนั้น การโฆษณาว่าสถานประกอบการเพื่อสุขภาพของตนสามารถให้บริการบำบัดรักษาโรค
อาทิ โรคไมเกรน, โรคเกาต์, โรครูมาตอย หรือกระดูกทับเส้น ฯลฯ จึงถือว่าเป็นการโฆษณาในลักษณะที่เป็นเท็จ โอ้อวดเกินจริง ทำให้เกิดความเข้าใจผิดในสาระสำคัญเกี่ยวกับการประกอบกิจการ
หากพนักงานเจ้าหน้าที่ฯตรวจพบจะมีคำสั่งให้ผู้ประกอบกิจการแก้ไขให้ถูกต้องในระยะเวลาที่กำหนด และหากไม่ดำเนินการแก้ไขภายในระยะเวลาที่กำหนดจะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป ซึ่งมีโทษถึงขั้นพักใช้หรือเพิกถอนใบอนุญาต” นายแพทย์ภัทรพล กล่าว
ทั้งนี้ กรม สบส.ขอเชิญชวนให้ประชาชนทุกคนมาร่วมเป็นเครือข่ายคุ้มครองผู้บริโภคในด้านระบบบริการสุขภาพ หากพบเห็นเบาะแสการกระทำผิดของสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ
ไม่ว่าจะเป็นการโฆษณาโอ้อวดเกินจริง หรือแอบแฝงบริการผิดกฎหมายในเขตกรุงเทพฯ สามารถแจ้งได้ที่ศูนย์รับเรื่องร้องเรียนกรม สบส.ทางหมายเลขโทรศัพท์ 02 193 7000 ต่อ 18618
และกองสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ หมายเลขโทรศัพท์ 02 193 7080 หรือทางเฟสบุ๊ค : ศูนย์รับเรื่องร้องเรียน สบส.กระทรวงสาธารณสุข
ขอบคุณภาพจากทีนิวส์
เมดฮับ นิวส์ medhubnews.com
เว็บไซต์ข่าวสุขภาพ สาธารณสุข การท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพ วาไรตี้ ฯลฯ
Thailand Health and Wellness News
ติดตามข่าวสารจาก medhubnews.com
01 ตุลาคม 2562
ผู้ชม 5580 ครั้ง