“ซีแนม เอเอฟ” เดือดพฤติกรรมนางร้ายดัง ด่ากันไฟแล่บ แฉมี “นางเอก” เป็นหุ้นส่วน
“ซีแนม เอเอฟ” เดือดพฤติกรรมนางร้ายดัง ด่ากันไฟแล่บ แฉมี “นางเอก” เป็นหุ้นส่วน
“ซีแนม เอเอฟ” เดือดพฤติกรรม “นางร้ายดัง”
ด่ากันไฟแล่บ แฉมี “นางเอก” เป็นหุ้นส่วนด้วย
MED HUB NEWS - จากกรณีฮือฮา นักร้อง-นักแสดงสาว “ซีแนม สุนทร”หรือ “ซีแนม เอเอฟ”ออกมาโพสต์เดือดพฤติกรรม“นางร้ายดัง”หลังร่วมหุ้นเปิดร้านทำเล็บ แต่สุดท้ายมีปัญหา ทำให้ไม่ได้เปิด ในขณะที่ลงเงินทุนพร้อมหุ้นส่วนรายอื่นรวมกว่าล้านแต่ไม่ได้เงินคืน
ล่าสุดเว็บไซต์เมดฮับนิวส์ดอทคอม และ เพจ sasook รายงานว่า ทางโหนกระแส วันที่ 20 มิ.ย. ช่อง 28 ได้เปิดใจสัมภาษณ์ “ซีแนม” รวมไปถึง “ทนายสงกานต์ อัจฉริยะทรัพย์” กรรมการปฏิรูปประเทศเพื่อความยุติธรรม ถึงเรื่องที่เกิดขึ้น
วันนี้ยังไม่ได้เงินคืน ?
ซีแนม : “ยังไม่ได้คำตอบที่ชัดเจน ไม่ได้คำตอบว่าเพราะอะไร”
ยืนยันว่าเรื่องทั้งหมดคู่กรณีคุณ คือนางร้ายคนหนึ่ง ?
ซีแนม : “ใช่ค่ะ ตอนที่หนูเขียนคือนางร้าย แต่เป็นใครอันนี้ขอไม่ตอบดีกว่าค่ะ เขาจะคิดยังไง โพสต์ยังไงก็เป็นสิทธิ์ที่จะเดา แต่แนมขอไม่ตอบตรงนี้เพราะมันจะมีผลทางกฎหมาย แนมขอไม่ตอบค่ะ”
เรื่องเกิดอะไรขึ้น ?
ซีแนม : “จริงๆ ถ้าย้อนไปที่เราเริ่มธุรกิจบิวตี้ครบวงจร เล็บ ผม ขนตา ยิ่งใหญ่เลยค่ะ เงินลงทุนโดยประมาณ 6 ล้าน ลง 5 คน มีดารา 3 คน คือนางร้าย อีกคน แล้วก็เรา”
อีกคนคือน้องนางเอก ?
ซีแนม : “( หัวเราะ) นางร้าย 60 เปอร์เซ็นต์ เขาเป็นหุ้นใหญ่สุด น้องนางเอก 5 เปอร์เซ็นต์ และมีเรา 10 เปอร์เซ็นต์ มีน้องที่ออกมาเรียกร้องด้วยกัน 15 เปอร์เซ็นต์ รุ่นน้องอีกคน 10 เปอร์เซ็นต์”
เรื่องเกิดอะไรขึ้น คุณโอนเงินให้เขาเหรอ ?
ซีแนม : “ใช่ค่ะ เหมือนทำธุรกิจทั่วไป เดือนพ.ค. ปีที่แล้ว จริงๆ แล้วไม่ได้รู้จักกับนางร้ายเป็นการส่วนตัว ไม่ได้สนิทชิดเชื้ออะไรกัน แต่จะเจอกัน พ.ค. รุ่นน้องที่ 10 เปอร์เซ็นต์ ใช้ชื่อว่าน้องเอ เราสนิทมาก แล้วเขารู้ว่าเราชอบทำเล็บ เคยคุยกันว่าเราจะเปิดร้านทำเล็บ เขาก็โทรมาหาว่าพี่แนมทำมั้ย จะมีการเปิดร้านทำเล็บ เราก็จริงเหรอ เราอยากทำ มีใครบ้าง เขาก็บอกมา เราฟังแล้วก็ได้เพราะเพื่อนๆ กันหมด เรารู้จักกันหมด”
คุณเป็นคนสุดท้ายที่เขาชวนมั้ย ?
ซีแนม : “เขามีอยู่แล้วประมาณหนึ่ง เราไปแทนที่หนึ่งคน และน้องนางเอกก็มาทีหลัง”
ตกลงนัดเจอกันมั้ย ?
ซีแนม เจอกันบ้าง แต่ส่วนใหญ่จะคุยในไลน์กรุ๊ป น้องนางร้ายเขาจะทำเอกสารครบหมดแล้ว เขาเตรียมการแล้ว เราเข้าไปเพิ่มก็เห็นรายละเอียด เขามีโครงสร้างอะไรครบหมดแล้ว จะสร้างแล้ว เราชอบอยู่แล้ว เราก็สนใจ มีการนัดกัน ไปดูตึกอะไรเสร็จหมดแล้ว สถานที่ถูกใจ ทุกอย่างโอเคหมด พอถึงเวลาก็เซ็นสัญญาเช่าตึกนางร้ายเป็นคนเซ็นค่ะ เราไม่ได้เซ็น”
มีการจดเกี่ยวกับหุ้นส่วน ?
ซีแนม : “จะจดแต่ไม่ได้จด จองตึกเสร็จก็จองในชื่อนางร้าย ระหว่างทางทุกคนเข้าใจว่าเรากำลังจะเปิดร้าน เราดำเนินการปกติ ตอนนี้แยกหน้าที่ ใครทำอะไร เราไปซื้อของ เตรียมของ จองมัดจำทำทุกอย่าง กระจายกันไป หุ้นส่วนคนนี้ไปทำอันนี้ ใครทำอะไรได้ก็ทำ”
เรื่องเงินล่ะ ?
ซีแนม : “วันแรกที่ทุกคนรู้ว่าจะเป็นหุ้น ใครโอนไปแล้วก็โอน พอแนมรู้ว่าจะเป็นหุ้นก็โอน 6 แสน จ่ายไปหมดเลย”
ทุกคนโอนพร้อมกันหมดมั้ย ?
ซีแนม : “โอนไล่ๆ กัน มีหลักฐานการโอนค่ะ ของแนมโอนออนไลน์เข้าธนาคารน้องเขาเลย”
ตอนแยกย้ายไปซื้อของ เอาเงินจากกองกลางหรือเงินจากไหน?
ซีแนม : “ส่วนใหญ่แนมจะออกไปก่อนตลอด แล้วค่อยไปเบิกกับเขา ส่งแบบว่าซื้ออันนี้แล้วโอนกลับมาให้เราหน่อย เขาก็โอนกลับมา ทุกอย่างหลักฐานอยู่ในไลน์กรุ๊ปหน่อย ใครซื้ออะไรใส่โน้ต ใครใส่ไลน์อะไรใส่โน้ต”
ใช้เวลานานมั้ย ของเต็มเลย?
ซีแนม : “ตอนนี้ของมีอยู่เต็มไปหมดเลย คือระยะเวลาดำเนินการก่อนจะเริ่ม ล้มเลิกว่าจะไม่ทำ ก็เกือบปี ครึ่งปี ตั้งแต่พ.ค.-ธ.ค. ซื้อของ เตรียมการ มัดจำทุกอย่าง มันอยู่ในระหว่างการคุยครึ่งปี เราอัปเดตตลอด ของก็มากองกันที่บ้าน เงินถูกใช้ไปแล้วส่วนหนึ่ง แต่จำตัวเลขที่ชัดไม่ได้ มันมีดีเทลเยอะมาก”
ตึกมีการตกแต่งหรือยัง?
ซีแนม : “ยัง มีแต่ของที่เราซื้อ เพราะระหว่างทางเกิดปัญหาเรื่องโครงสร้างตึกต่างๆ ทำให้เราเริ่มไม่ได้ เหมือนสิ่งที่เราจะสร้างกับโครงสร้างตึกมันไปด้วยกันไม่ได้ จริงๆ ที่แนมออกมาโพสต์ที่เรียกร้องเงินก็ไม่ใช่เงินตรงนั้น แต่เป็นเงินที่เหลือ แต่อันนี้เป็นระหว่างทางว่าเกิดปัญหาอะไร”
กรณีแบบนี้ซีแนมได้คุยกับเจ้าของตึกมั้ย?
ซีแนม : “หุ้นทั้งหมดไม่มีใครได้คุยกับเจ้าของตึก นอกจากหุ้นใหญ่คนเดียวเท่านั้น แนมรู้จักเจ้าของตึก แต่ไม่สามารถคุยกับเขาได้เพราะเขาคุยกับคนเดียวคือน้องนางร้าย”
รู้ได้ไงว่าตึกมีปัญหา?
ซีแนม : “เราอัปเดตกันตลอด น้องนางร้ายบอกเอง อินทีเรียเขาไปดูสถานที่แล้วมาอัปเดตกับเรา ว่าอันนี้ได้ไม่ได้ มีการคุยกัน ถ้าเราจะทำโครงสร้างนี้ต้องใช้เงิน ก็รู้สึกว่าทำไมมันยุ่งยากจัง มันเกิดอะไรขึ้น ก็ให้น้องนางร้ายไปคุยกับเจ้าของตึกเหมือนกันว่ามันยังไง มันก็ล่าช้าไปเรื่อยๆ จนพวกเราถอดใจ”
สุดท้ายแล้วรู้ว่าตึกมีปัญหา รู้จากใคร ?
ซีแนม : “อินทีเรียกับน้องนางร้ายค่ะ กับเจ้าของตึกไม่เคยคุย พวกเราในกลุ่มไม่มีการทะเลาะกัน และเกิดการตกลงกันว่าไม่ทำแล้ว เลิกทำ พอล้มเลิกทำเราก็บอกว่าเรามาเคลียร์ค่าใช้จ่าย เราซื้ออะไรไปบ้างจ่ายอะไรไปบ้างก็หักออกกันไป แล้วมาเคลียร์คืนเงินที่เหลือที่ไม่ได้ใช้ทำอะไร”
ซีแนมต้องได้เงินคืนเท่าไหร่?
ซีแนม : “โดยประมาณเกือบๆ 4 แสน หักค่าโน่น ค่านี้ ค่าเช่าตึก โดยประมาณ”
น้องคนอื่นๆ ใครได้คืนบ้าง?
ซีแนม : “ได้ยินมาว่าได้คืนคนเดียว คือน้อง 10 เปอร์เซ็นต์ น้องเอ”
น้องนางเอกล่ะ?
ซีแนม : “ไม่แน่ใจ เพราะเราไม่ได้คุยกับน้องนางเอกอีกเลย”
อีกคน15 เปอร์เซ็นต์?
ซีแนม : “อยู่กับหนูค่ะยังไม่ได้คืนทั้งคู่ ของเขาก็น่าจะเหลือประมาณ 6 แสน ตอนนี้หนูเสียค่าทนายเยอะแล้ว”
จุดแตกหักอยู่ตรงไหน?
ซีแนม : “หนูยังไม่รู้เลยว่าจุดแตกหักอยู่ตรงไหน จริงๆ น้องนางร้ายเป็นคนทำเอกสารเองทุกอย่างกับมือตลอด ใครเหลือเท่าไหร่โน่นนี่เขาเป็นคนพิมพ์หมด แล้วเขาก็บอกเองว่าเหลือเท่านี้ไม่ได้ใช้ เดี๋ยวจะคืนให้ พูดกันวันประชุมวันสุดท้ายที่เรานัดกันเดือนม.ค. ปีนี้
มันยืดเยื้อมานานมากแล้ว เราก็บอกว่ามานัดเจอกันเถอะจะได้จบๆ เรื่องนี้ มันก็เห็นอยู่ว่าเหลือกี่บาท”
หลังจากนั้นได้คุยกันมั้ย?
ซีแนม : “ก็มีถกเถียงกันนิดหน่อยเพราะมีของที่ซื้อไปแล้ว แต่ไม่ได้ทะเลาะ ไม่เข้าใจกัน เถียงกันว่ามีของที่ซื้อกันไปแล้ว ใครจะทำต่อหรือจะเอาไปขายอะไรยังไง หลังจากนั้นก็บอกจะคืนก็ไม่ได้คืน ตอนนี้ก็ยังไม่ได้คืน”
จากเดือนม.ค.ที่คุยกัน?
ซีแนม : “ถามกันบ้าง ทวงกันบ้าง”
ทวงกันแบบไหน?
ซีแนม : “บอกตรงๆ ว่าไม่เคยคิดอยากให้เป็นเรื่อง แนมไม่มีความตั้งใจ ไม่เคยอยากฟ้อง ตัวน้องน่าจะรู้ดี หนูเคยนั่งคุยกัน ไม่มีใครอยากฟ้อง นั่งคุยกันก็ได้ แต่ไลน์ไปถาม มีหลักฐาน โทรไปถาม สรุปยังไงคะ เขาก็บอกว่าเดี๋ยวค่อยคุย
จนตอนหลังเขาบอกว่าไม่ต้องมาคุยกับเขา ให้ไปคุยกับทนาย จริงๆ เอาตรงๆ คนว่าแนมเยอะมากว่าโพสต์ทำไม ไม่ไปตามกันเอง ไม่ไปว่ากันตามกฎหมาย แต่คือหนูสุดๆ แล้วจริงๆ นะ ใจมันสุดแล้ว
ถ้าคนหนึ่งทำทุกวิถีทางแต่เราตามไม่ได้ หนูอึดอัดใจไม่เท่าไหร่ พ่อแม่เรามีคำถามว่าทำไม ทำไมคืนกันไม่ได้ ทำไมติดต่อกันไม่ได้ เอาตรงๆ เลย ไลน์แล้ว โทรแล้ว ถามแล้ว ทวงดีๆ แล้ว ให้ทนายโทรไปหา มาคุยกันก็แล้ว ทำทุกอย่างแล้วจริงๆ แต่เขาไม่มา ไม่มา ไม่คุยจนมันเกิดเรื่อง เราก็เต็มที่แล้ว”
เป็นไปได้มั้ยเขามองว่าเขาเป็นหุ้นใหญ่ เงินที่เขาใช้จ่าย อาจมีการหักลบกลบหนี้แล้วค่อยมาเคลียร์กันทีหลัง?
ซีแนม : “เราเคลียร์กันหมดแล้วค่ะ เราเคลียร์เรื่องใช้จ่ายครบหมดแล้ว แล้วระหว่างทางไม่ว่าจะมีเรื่องตึก เราก็มีเอกสารทนายไปแล้วนะให้ชะลอการทำทุกอย่าง แค่เรียกเขามาเจรจา จะคืนหรือไม่คืนหรือจะยังไง ก็เงียบ ไม่ได้อะไรเลย เขาก็ไม่เจอ เราควรจะทำยังไง”
มีทางออกทางอื่น หรือเขาติดขัดมั้ยที่จ่ายให้ไม่ได้ ?
ซีแนม : “เขาบอกว่าเรื่องยังไม่จบ ซึ่งเป็นเรื่องอะไรก็ไม่ทราบ เราก็ยังไม่ได้จบเพราะยังไม่ได้ตังค์คืน”
คิดว่าเขาหมายถึงอะไร?
ซีแนม : “อาจเป็นเรื่องตึกที่เราไปเช่าแล้วเราไม่ได้สร้าง อาจไปตามกับเจ้าของตึก และอาจมีค่าใช้จ่ายในการดำเนินการ เราก็ให้ทนายเราเขียนไว้แล้วว่าต้องใช้เท่าไหร่ เหลือเท่าไหร่ คุณก็ต้องคืนกลับมาอยู่ดี”
เขามีตอบกลับมามั้ย?
ซีแนม : “ไม่มีตอบ หนูไม่ได้คำตอบอะไรเลย”
หลังคุณโพสต์ลงไป ณ วันนี้มีฟีดแบ็กอะไรกลับมา?
ซีแนม : “ไม่มี มีแต่โดนว่าโดนถาม เหมือนคนทั่วไปถามว่ามันเกิดอะไรขึ้น คุยกันไม่ได้เหรอ”
เรื่องที่คุณถูกแฟนฝั่งโน้นคุกคาม?
ซีแนม : “อันนี้หนูไม่รู้เรื่องเลย ไม่เคยโพสต์ ไม่เคยพูดถึงใครใดๆ ทั้งสิ้น เพราะหนูแค่อยากได้เงินคืน จริงๆ หนูว่าอาจเป็นไปได้ว่าเราอยู่วงการบันเทิงอาจมีแฟนคลับที่ต่างคนต่างดู เขาก็อาจจะเป็นห่วงแนม โพสต์บ้างอะไรบ้าง แต่หนูไม่เคยโพสต์ เราอยากคุยกับเขาแค่นั้นเองนะ”
ไม่กลัวเหรอว่าทางฝั่งตรงข้ามจะแถลงข่าวโต้กลับ?
ซีแนม : “ก็ได้ หนูรู้สึกว่าไม่ต้องมาบอกว่าใครผิดใครถูก แต่ถ้าความจริงใครผิดใครถูกก็น่าจะมาเจอกัน จะตัดสินด้วยกฎหมายหรือด้วยการคุยอะไรก็ได้ แต่ต้องเดินออกมาเจอกัน ทุกวันนี้ที่ออกมาโพสต์แค่อยากให้เรื่องมันจบ”
เกิดเขารวมตัวกับใครต่อใครมาโต้กลับ?
ซีแนม : “ไม่เป็นไรค่ะ หนูพูดความจริงตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ตอนจบเป็นยังไงหนูรับได้ คืนเงินก็จบ จบตั้งแต่ม.ค.แล้วค่ะไม่มีโพสต์ไม่มีอะไรเลย ซึ่งน้องก็น่าจะรู้”
ทนายสงกานต์ เป็นไง?
ทนาย : “อันดับแรกต้องทำใจ ที่จะต้องต่อสู้คดี ถ้าเกิดเขาไม่ยอมคืนทรัพย์สินให้ คุกนะครับ”
เขาไม่ได้จดทะเบียนบริษัท ไม่ได้จดเป็นหุ้นส่วน หลักฐานมีแค่การโอนเงิน?
ทนาย : “เรื่องการหุ้นส่วนต้องทำเป็นลายลักษณ์อักษร เพื่อให้พิจารณาง่ายเวลามีข้อพิพาท แต่ถ้ามีหลักฐานแล้วว่าเอาไปทำอะไรกัน พยานมีเยอะแยะ”
ตอนคุณไปคุยกันครั้งสุดท้าย มีคนเห็นคุณกับน้องนางร้ายทะเลาะกันรุนแรง ลุกขึ้นชี้หน้าด่า?
ซีแนม : “ยอมรับว่าจริง และอาจเป็นจุดแตกหักที่ทำให้เขาไม่คืนเงิน หนูเป็นคนที่ทำธุรกิจต้องมีการตาม เป็นเรื่องธรรมดา การตามจะเป็นหนูตลอด เรื่องไปถึงไหน โอนเงินหรือยัง ได้ไม่ได้ นัดเจอกัน หนูล้วนๆ ที่เป็นคนตาม”
คุณตามจิก?
ซีแนม : “ใช่ ซึ่งหนูก็ว่ามันไม่ผิดนะ ไม่งั้นก็ยืดเยื้อไปเรื่อยๆ จนวันนัดเจอกันครั้งสุดท้ายก็หนูเป็นคนตาม หนูจิกจนต้องทะเลาะกันก่อนถึงจะมา มันคุยกันไม่ลงรอย อย่างที่บอกว่าเคลียร์กันว่าของอยู่ไหน เงินอยู่ไหน ก็มีปากเสียงกัน บางทีเขาก็ตอบไม่ได้ ก็เกิดการโมโหกันเกิดขึ้น”
คุณชี้หน้าด่าเขา?
ซีแนม : “เขาก็ด่านะ ใครชี้หน้าใครก่อน จำไม่ได้ อาจจะเป็นเราก็ได้ แต่คำพูดที่เขาพูดกลับมาแรงกว่านะ (หัวเราะ) แต่ก็โอเคอาจจะเกิดการไม่พอใจกันแล้ว สาดน้ำลายกลับ เขาบอกว่าถ้าทำแบบนี้ๆ เดี๋ยวจะโดนแบบนี้ เอาเป็นว่าทะเลาะกันหนัก หนูด่าเขา”
ประทุษร้ายถึงชีวิต ทรัพย์สินมั้ย?
ซีแนม : “ไม่รู้เหมือนกัน หนูได้ยินไม่ชัด แต่หนูทะเลาะกันจริง มันไม่ไหวแล้ว เราถามไปอะไรก็แล้วแต่ เขาตอบไม่ตรงประเด็น เขาตอบไม่ได้ เขาด่านะ เป็นการด่าข่มขู่ มีคนได้ยินเป็นพยาน หนูได้ยินชัดเจนเต็มสองรูหูเลย เพื่อนเขาก็ได้ยิน”
แล้วหลังจากนั้นเป็นยังไงต่อ?
ซีแนม : “ก็ไม่ได้เงินคืนจนทุกวันนี้(หัวเราะ)”
เป็นไปได้มั้ยว่าจะไกล่เกลี่ย?
ทนาย : “มีโอกาสไกล่เกลี่ยได้ แต่ถ้าเขาหัวหมอมาฟ้องแพ่งมันจะยาว ถ้าไปเคลียร์ที่ศาลก็ง่ายกว่า ถ้าเคลียร์นอกรอบเดี๋ยวจะมีปัญหาขู่กรรโชกทรัพย์ เพราะมีตัวอย่างมาแล้วถ้าฟ้องแล้ว กว่าศาลจะนัดเดือนสองเดือน ไปเจรจาในศาลจะง่ายกว่า ศาลจะช่วยดูให้ในช่วงไกล่เกลี่ย จะมีประโยชน์”
คุณแนมเอากะละมังล้างเล็บกลับบ้านแทนไม่ได้เหรอ เพื่อหักหนี้ ?
ซีแนม : “ก็ของอยู่ที่เขา เอามาก็ได้นะ (หัวเราะ) บางส่วนอยู่ที่เขา มีของที่มานั่งเคลียร์กัน มันเป็นคาเฟ่ทุกอย่าง เอากะละมังมาขายก็ได้ มีของอีกที่ต้องเคลียร์ และขายคืนกันก็ยังไม่ได้เคลียร์”
ทุกวันนี้มองหน้ากันไม่ได้ ?
ซีแนม : “ก็ยังเจอบ้างนะคะ แล้วแต่ประปราย เจอก็เฉยๆ ถามว่าทำไมไม่เดินไปหาเขา เราก็ให้เกียรติเขา รอเวลาเขามาอะไรกับเรา”
ถ้าวันหนึ่งเขาลุกขึ้นมาแถลงโต้กลับคุณ มีหลักฐานสู้?
ซีแนม : “มีค่ะทุกอย่างที่เป็นความจริง ไลน์มีครบ ได้เงินคืนหรือไม่ได้เงินคืน แต่หนูคิดว่าเรื่องมันน่าจะจบได้แล้ว สำหรับหนู มันนานแล้ว”
ทนาย : “ถ้าฟ้องคดีอาญาได้ก็ฟ้องคดีอาญาไป เรื่องการเบียดบังเอาทรัพย์สิน เนื่องจากตัวคู่กรณีครอบครองทรัพย์สินของคุณซีแนม ถือว่าเบียดบัง ยักยอก สองฟ้องแพ่งด้วย ถ้าการฟ้องมีวาระของศาลแน่นอน ถ้าไม่ฟ้องไม่รู้เขาจะมาคุยเมื่อไหร่ การฟ้องดีที่สุดครับ มีขบวนการไกล่เกลี่ย ฟ้องเลยครับ”
มีอะไรอยากบอกน้องนางร้าย ?
ซีแนม : “จริงๆ ก็อยากให้ออกมาเคลียร์กัน อะไรที่น้องคิดว่าน้องถูกหรืออะไรก็แล้วแต่ ให้มาคุยกัน ทนายก็ได้ ตัวเขาก็ได้ แนมรอมานานมากแล้ว รวมทั้งน้องหุ้นส่วนด้วยค่ะ”
ณ วันนี้กะละมังเอามาคืนก็ยังดี ?
ซีแนม : “(หัวเราะ) มาเจอกันก็ยังดี”
เมดฮับ นิวส์ medhubnews.com
เว็บไซต์ข่าวสุขภาพ สาธารณสุข การท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพ วาไรตี้ ฯลฯ
Thailand Health and Wellness News
ติดตามข่าวสารจาก medhubnews.com ได้จาก Facebook : sasook ของเรา
05 มกราคม 2562
ผู้ชม 1824 ครั้ง