“เทพเพอร์ซิอุส” ที่แท้ลูกนักร้องดัง “แจ้ ดนุพล” ยอมรับถูกพ่อตัดขาด เว็บไซต์สุขภาพ medhubnews.com ข่าวการแพทย์ บทความสุขภาพ ระบบสาธารณสุข

บทความ

"ปี 2561 เป็นปีแห่งการกระชากหน้ากากผู้วิเศษ" อ้างรักษาโรค “เทพเพอร์ซิอุส” ลูกนักร้องดัง “แจ้ ดนุพล” ล้ำกว่าร่างทรง

“เทพเพอร์ซิอุส” ที่แท้ลูกนักร้องดัง

“แจ้ ดนุพล” ยอมรับถูกพ่อตัดขาด

กรณีหนุ่มอ้างเป็นเทพเพอร์ซิอุสบรรลุวิชาล้ำกว่าร่างทรง อ้างตัวเป็นศาสตร์ระดับจักรวาล พิสูจน์ความเชื่อด้วยหลักทฤษฏีจากต่างประเทศ

โดยนำศาสตร์ที่เรียนมาสอนให้กับชาวต่างชาติ เมื่อมีคลิปต่างๆ ถูกเผยแพร่ผ่านโลกออนไลน์ ทำให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์สามารถรักษาคนผ่านหน้าจอได้ เรียกเงินหมื่นเป็นค่าสอนค่ารักษา

ผู้สื่อข่าวเว็บไซต์เมดฮับนิวส์ดอทคอม และ เพจ sasook รายงานว่า ทางรายการโหนกระแส วันที่ 25 มิ.ย. ทางช่อง 28 ได้เปิดใจสัมภาษณ์ คุณคฑาพล  สุริยะเนตร” หรือ “เทพเพอร์ซิอุส” รวมทั้ง “คุณนัท” และ “คุณต๋อง” ซึ่งออกมาแฉว่าถูกอีกฝ่ายเรียกเก็บเงิน
ไม่ใช่ร่างทรง ?

คฑาพล : “ไม่ใช่ร่างทรง เป็นคนนั่งสมาธิ แล้วไปร่ำเรียนวิชามา”

เมื่อก่อนคนเคยเห็นคุณในเคเบิ้ลทีวี คุณพนมมือทำอะไร ?

คฑาพล : “เป็นการทดลอง ทำครั้งเดียวในชีวิต ผมอยากรู้ว่าที่ผมตีทุกที่ มันคือจักรวาลในร่างกายของคนเรา มันเป็นศาสตร์ที่แตกออกมา แต่แก่นมีทั่วโลก พลังจักรวาล คำว่าจักร ถ้าเซิร์สในกูเกิลจะเป็นสากล ถ้าคนมองว่าบ้า เพี้ยน แต่มีหลักการ”

คุณมีชื่อเล่นมั้ย ?

คฑาพล : “คลีนครับ ตอนนี้ก็ใช้ชื่อตามกระแส ทุกคนเรียกผมว่าเพอร์ซิอุสย้อนกลับไปก่อนผมเป็นเพอร์ซิอุส ผมก็เป็นคนสำเร็จมาจากพระพิฆเนศ ทำเกี่ยวกับพระพิฆเนศจนโด่งดัง

ผมนิมิตถึงพระพิฆเนศแล้วสร้างเหรียญท่าน ในยุคนั้นเป็นยุคเคเบิ้ล เป็นยุคที่เรามีความเชื่อเยอะมากในวงการ เป็นความเชื่อในสมัยโบราณ ทำแล้วโด่งดังมีคนศรัทธามากมาย พอทุกอย่างกำลังไปได้ดี มีหมอดูมาทักผมบอกว่าอายุ 25 ผมจะไม่เหลืออะไรเลย จะพัง จะเปลี่ยนแปลงเกิดเบญจเพส

ซึ่งผมไม่เชื่อเพราะเป็นช่วงที่กำลังดีที่สุด ขัดแย้งมาก หัวเสีย ไม่เชื่อ แต่พออายุ 25 ผมจัดงานวันเกิด มีคนมาร่วมงานเยอะมาก แต่ไม่ทราบเกิดจากสาเหตุอะไร ขณะที่ผมกำลังบรรยายบนเวที ขาขยับไม่ได้ เหมือนตะคริว คราวนี้เดินไม่ได้เลยต่อหน้าลูกศิษย์เป็นพันคน”

คุณเป็นอาจารย์เหรอ ?

คฑาพล : “เมื่อก่อนผมเป็นอาจารย์ ผมส่งพลังจักรวาลคนแรกผ่านสื่อผมก็บอกขอให้ทุกคนส่งพลังให้ผมด้วย เพราะผมส่งพลังให้คุณ ร่างกายผมไม่ปกติ ผมลุกไม่ได้แล้ว พูดแบบไม่อาย ขาฉีกทั้งที่ไม่ได้ทำอะไร ฉีกแบบเส้นเอ็นเจ็บปวดทรมานมาก ต้องทนเพราะคนดูเราอยู่

เป็นเหตุการณ์ที่เริ่มเอะใจในคำพูดของหมอดู ไม่กี่วันก็เริ่มป่วยไม่มีสาเหตุ ไปหาหมอ หมอบอกคุณกล้ามเนื้อฉีก ต้องพักผ่อนเยอะๆ นอนน้อย นอนไปนอนมาก็เปลี่ยนแปลงเบญจเพสเหมือนที่เขาทัก เหมือนเราวูบ สลบไป เหมือนหลับใน ระหว่างหลับในก็เจอสิ่งที่นอกเหนือกว่าที่เรารู้ เจออย่างนี้ครับ เทพที่ไม่ได้ถูกบันทึกไว้ ก็เป็นจิตดวงหนึ่งที่เจอเรา ตอนเราสลบ”

จากพิฆเนศมาเป็นเพอร์ซิอุส มันคนละขั้วเลยนะ ?

คฑาพล : “ใช่ครับ ตอนแรกเราก็ตั้งคำถามแบบนี้ มันเกี่ยวอะไรกับผม พระพิฆเนศไปไหน ครูบาอาจารย์ ความสำเร็จที่เราสร้างมันหายไปไหน ก็นี่แหละครับคือสิ่งที่เขาอยากให้ถ่ายทอด เขาอยากให้เราเล่าเรื่อง เป็นหนังสือที่ผมดัดแปลงมาจากประสบการณ์ที่ผมได้รับมาเพื่อความบันเทิง ง่ายๆ เล่มนี้วางขายแล้ว จำหน่ายด้วย อ้างอิงว่าเพอร์ซิอุสสื่อสารกับเราจริงๆ”

คุณถูกร้องเรียน เพราะเอาเหรียญแปะหัวแล้วบอกว่ามีพลัง ?

คฑาพล : “บางสิ่งบางอย่างผมบอกแล้วว่าเป็นการทดลอง การทดลองไม่ได้มีผิดมีถูก มันอยู่ที่มุมมองคนว่าชอบหรือไม่ชอบมากกว่า  ถ้าผมไม่ทำเป็นต้นแบบแล้วจะมีใครทำ ทุกอย่างผมเป็นต้นแบบ”

ไปโฆษณาชวนเชื่อมั้ยว่ามีพลังจิตแล้วเอาเหรียญแปะหัว ?

คฑาพล : “ถ้าจะบอกสังคม ก็อยากจะบอกว่าสิ่งเหล่านี้เป็นกิ่งก้านที่แตกออกมา วันนี้ผมเข้าถึงแก่น สิ่งเหล่านั้นเหมือนนักวิทยาศาสตร์ ทดลองต้องลองผิดถูก”

แล้วเอาเหรียญแปะหน้าผากเพื่ออะไร ?

คฑาพล : “ทดลองว่าพลังที่หน้าผากคนเรามีจริงหรือเปล่า ผมไปศึกษามาอีกแนวว่าตรงนี้จุดนี้เป็นดวงตาที่ 3 สมองจุดนี้มีแม่เหล็กมาก ผมเลยทดลองแค่นั้นเอง ผมแค่ทดลองตามหลักที่เขาบอก ผมทดลองหลายอย่าง มีรูปแบบหลายรูปแบบ ขอแค่ได้ลอง”

อีกอันคือเอาเหรียญสองเหรียญโยนลงมา เหรียญต้องวางขนานกัน ?

คฑาพล : “มันเป็นการเท้าความมาถึงวันนี้ ที่คุณเห็นเป็นเหรียญสองเหรียญ แต่อะไรขนานกันจริงๆ มันคือมนุษย์เหรียญนึงกับเวลา ตอนนั้นผมไม่รู้เท่านี้ ผมอยากจะบอกว่าถ้าทุกคนและคนทั้งโลกมันมีแค่วงกลมแค่นี้ แล้วชีวิตจะง่ายมั้ย ผมค้นพบวงกลมนี้ แล้วว่ามันคืออะไร”

คุณเป็นลูกเทพเจ้าซุสหรือเปล่า ?

คฑาพล : “ผมไม่ได้เป็นลูก ผมก็เป็นผม แต่มาสื่อสารมาบอกถึงเพอร์ซิอุส”

ประมาณ 3 - 4 ปีก่อนคุณเคยออกช่องนึงจนถูกสั่งปิดรายการ และมีข่าวว่าคุณถูกตัดพ่อตัดลูกจากพ่อ พ่อคุณเป็นนักร้องชื่อดัง คุณแจ้ ดนุพล แก้วกาญจน์ ?

คฑาพล: “ใช่ครับ”

คุณแจ้ตัดขาดคุณ ?

คฑาพล: “ไม่ได้ตัดขาด พ่อคาดหวังเราเยอะ เพราะเราเป็นลูกคนโต แต่ด้วยความคิดคนเราไม่เหมือนกัน ก็พยายามอธิบายให้ฟัง ขอทดลองในสิ่งที่ผมเชื่อ ถ้าอายุ 32 แล้วผมไม่สามารถพิสูจน์อะไรได้ ผมไม่ยกตัวเองว่าบรรลุ จะขออพิสูจน์ในสิ่งที่ผมเชื่อและมีความเป็นไปได้ ถ้าผมทำได้ก็ได้ ถ้าทำไม่ได้ก็จะเลิก”

ตอนปิดช่องคุณเฟลหนีไปต่างประเทศ ?

คฑาพล : “ตอนนั้นเราทำตัวเราเอง การทดลอง เราลืมไปว่าเราทำออกสื่อ ถ้าเราทดลองอะไรไม่ออกสื่อคงไม่มีปัญหา แต่กระแสด้วย เหมือนเรามีชื่อเสียงมากในยุคนั้น”

เขาชื่นชอบหรือด่า ?

คฑาพล : “ลูกศิษย์ดั้งเดิมศรัทธาผมจริง แต่พอมาเป็นเพอร์ซิอุสมันเป็นสากล ชื่อเป็นฝรั่ง คนติดตามเป็นแมส มีวัยรุ่นเข้ามา ทั้งที่ไม่เคยรู้จัก ทั้งว่าทั้งด่าว่าดูหนังเยอะไปหรือเปล่า ผมไม่เถียงนะ เราให้โอกาส คุณมีสิทธิ์คิดอะไรอยู่แล้ว”

มีฝรั่งมานั่งล้อมวงคุณ ?

คฑาพล : “ฝรั่งเขารับฟังเหตุและผล ผมเลยลองไปทำที่อเมริกา เขารับพลัง คนพวกนี้คือนักพลังจิตระดับโลกที่มานั่งให้โอกาสคนไทยอย่างเราลองแสดงความสามารถ เขามีใบประกาศมีอะไรทุกอย่าง”

มีคนว่าคุณเลอะเทอะมั้ย ?

คฑาพล : “มีอยู่แล้ว แค่รูปภาพยังเลอะเทอะเลย”

คุณกลับมาเมืองไทย คุณตั้งตนรักษาคนได้ เรียกเก็บเงิน ?

คฑาพล: “ผมเรียกเงินจริงครับขั้นต่ำ 3 พัน ไม่ได้รักษาแค่นั่งคุยกันเฉยๆ อันนั้นเราคุยกันตกลงกันว่าเรตผมเท่านี้ ถ้าไม่อยากเสียเงินก็ไปหาคนอื่น ผมเรียนจบมาสูง จบมาแพง ผมเรียนพลังจิตที่อเมริกา มีใบรับรองหมด เรียกเงิน 3 พันเป็นค่ารักษาเพราะเรียนมาแพง คนที่มอบให้คือนักพลังจิตระดับโลก ในกูเกิลก็มี”

คุณรักษาอะไร?

คฑาพล : “ผมก็ใช้พลังรักษา คำว่ารักษาเมื่อก่อนผมส่งพลังให้คน ผ่านหน้าจอทีวี ให้คนนับตาม 1 2 3 เมื่อก่อนผมกล้าพูดเลยผมไม่รู้กระแสมาจากไหน ผมส่งพลังผ่านทีวี แล้วผมเรียกเงินตรงไหน ผมไม่เคยได้แก้ต่างตั้งแต่สมัยก่อน”

เมื่อก่อนไม่เคยเก็บเงิน ?

คฑาพล : “เมื่อก่อนนับ 1 2 3 ไม่เคยมีใครเสียเงินครับ เพราะเป็นรายการสด เขาจะจ่ายเงินผมยังไงล่ะ  ช่องมีวัตถุมงคล ถ้าถามงี้ต้องถามทุกอาจารย์ ความเชื่ออยู่กับประเทศเราตลอด บางคนชอบเพราะเป็นศิลปะ คนไม่ชอบก็งมงาย บางคนสะสมเป็นคอลเลคชั่นก็มี คนไปตัดสินไหว้เทพงมงาย ผมไม่ได้ไหว้เทพเลย ที่บ้านผมตั้งไว้เฉยๆ ไม่เคยยกมือไหว้”

อดีตไม่เคยเก็บเงิน?

คฑาพล : “ช่องเขาขายเหรียญ วัตถุมงคลทุกอาจารย์มีหมด”

ใส่แว่นทำไม ?

คฑาพล : “ต้องใช้สมาธิมากในการพูด และหลังจากนี้ผมจะรวมพลังแสดงให้เห็นขอแจงนะครับ ผมไม่ได้เข้าทรง ไม่ได้อวดอุตริ ไม่มีอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์อะไรทั้งสิ้น เป็นหลักความจริงในชีวิตประจำวันผมไม่ได้รับประกันว่าผมส่งพลังให้แล้วต้องหาย ผมทำเคสนึงหลายชม. เมื่อก่อนผมส่งลูกศิษย์เป็นพัน”

จะทำเพื่ออะไร ?

คฑาพล: “ให้คนเข้าใจว่าคุณใช้ชีวิตทุกวัน คุณเกิดมาทำไม”

คุณนัทและคุณต๋องเป็นผู้เสียหายเคยไปเจอเทพเพรอ์ซิอุส เขาบอกว่าเขารักษาได้ เขาเรียกเงินเหรอ?

นัท: “ผมเคยรู้จักเขาประมาณ 6 ปีที่แล้ว เซิร์สในอินเตอร์เน็ต ช่วงนั้นผมเป็นคนตามล่าฝัน ตามเวทีประกวดต่างๆ แต่ไม่ค่อยสำเร็จ เลยไปปรึกษาเขา เขาก็บอกว่าเขาจะส่งพลังให้เราประสบความสำเร็จ ส่งทางโทรศัพท์ เฟซบุ๊ก ผมก็ไปรายการเกมโชว์ต่างๆ มันก็ยังไม่ประสบความสำเร็จ

จนมาถึงกลาเดือนมิ.ย. ผมไปรายการเกมโชว์ รายการใหญ่พอสมควร มีเงินรางวัล 1 ล้านเราก็ปรึกษาเขา อินบ็อกไปในเฟซบุ๊กจะทำยังไงให้เงินล้าน จะมีเส้นทางประสบความสำเร็จ จะทำยังไง

จนช่วงเย็นให้เบอร์มา ผมก็โทรกลับไป เขาบอกว่าผมต้องหาเงินมา 9 หมื่นบาทเพื่อให้การตามล่าฝันประสบความสำเร็จ เขาบอกว่าถ้าเป็นเศรษฐี คนมีเงิน หลักแสนเขาก็ยอมจ่ายเราได้ยินก็หงายเงิบเลย ผมก็บอกว่าผมเดือดร้อนหนี้สิน เขาก็บอกว่าจาก 9 หมื่นลดเหลือ 3 หมื่นแล้วกัน”

คฑาพล : “จริงๆ ไม่เกี่ยวกับเงิน ผมรู้จักเขามา 6-7 ปี แรกๆ ไม่ได้เสียเงินอะไรเลย”

ต๋อง : “ครั้งแรกผมเข้าไปหาเขา ส่วนตัวผมเชื่อศรัทธาพระพิฆเนศ กะไปไหว้ เขาให้เหรียญมา 2 เหรียญ”

คฑาพล : “ผมให้ฟรีใช่มั้ย ผมไปขายคนอื่น ผมขาย 2 พัน ทำไมไม่พูดตรงนี้ก่อน”

ต๋อง : “ผมไปหาเขาทางเฟซบุ๊ก เขาก็ทักมาว่าอดีตชาติผมเคยเป็นพญานาค ตอนนั้น 50-50 แล้วพี่คนสนิทเขาก็ทักว่าเป็นพญานาคเหมือนกัน เขาไม่ได้เรียกร้องแค่ทักว่าผมเป็นพญานาค หลังจากนั้นก็เว้นระยะห่างไป คุยกันตลอดช่วงหลังพ่อป่วยเป็นโรคมะเร็ง ก็ทักแชตคุยกัน”

คฑาพล : “ผมทักเขาเองว่าพ่อเขาป่วย ล่วงหน้า”

ต๋อง : “เขาบอกว่าต้องให้เขาช่วย เพราะไม่งั้นจะไม่ทัน จะสายเกินไป”

คฑาพล : “ผมทักว่าพ่อเขาจะเข้าโรงพยาบาล อีก 4 วัน”

ต๋อง : “พ่อก็เข้ารพ.จริง มาล่าสุดเขาบอกว่าให้อาจารย์ช่วย ต่อดวงชะตากัน มีวิธีแก้ให้ แต่มี 5 พันบาท เขาบอกว่าคิดผมถูกแค่ 5 พันบาท ผมบอกไม่มีหรอก ผมหาเช้ากินค่ำ เขาก็ลดให้ 3 พัน ผมก็ยังไม่มีอีก เขาก็ให้ผ่อนทีละพันห้า พอดีคุยกับพี่นัทก่อน เขาทักมาว่าเคยเจอแบบนี้มั้ย”

คุณนัทจ่ายมั้ย?

นัท: “ไม่จ่ายเพราะผมไม่ค่อยมีตังค์ ต่อให้มีก็ไม่จ่าย เงิน 3 หมื่นไปเลี้ยงดูพ่อแม่ดีกว่ามีความจำเป็นมากกว่าด้วยซ้ำไป”

คุณสองคนไม่ได้เสียเงินให้เขา แต่เขามีพฤติกรรมเรียกเงิน ?

นัท: “ใช่ครับ”

คฑาพล : “ผมก็เรียกเงินจริง เรามีใบประกาศใบรับรองวิชาชีพจะกลัวทำไม คุณไม่จ่ายก็ไม่จ่ายสิ อย่างสองคนนี้เขาได้ผลประโยชน์มากกว่าผมอีก ผมให้เหรียญเขาไปฟรี ผมสิเสียผลประโยชน์”

ต๋อง : “เขาทักว่าพ่อจะไม่รอด พ่อผมป่วย พูดประมาณนี้ผมก็เซลฟ์ มาบอกว่าพ่อกำลังจะไปแล้ว ก็เลยให้มารักษา”

คุณบอกว่าบางคนรักษาไม่หาย ?

คฑาพล : “ใช่ อย่างที่ทักเขาไปครั้งแรก พ่อคุณเข้ารพ. เข้าจริงมัย เข้าจริง สอง ผมทักใหม่เป็นเรื่องจริงเกิดขึ้นแล้ว”

ต๋อง : “แต่ผมไม่รู้ว่าเขาเห็นในเฟซบุ๊กมั้ยเพราะผมโพสต์รูปพ่อในเฟซบุ๊ก”

คฑาพล : “แล้วผมจะรู้มั้ยว่าอีก 4-5 วันเขาจะป่วย”

คืนเงินเขามั้ย ?

คฑาพล : “เหมือนผมทำเต็มที่แล้ว เหมือนหมอรักษาเต็มที่แล้ว ไม่ได้ถีบหัวส่งเขานะ รักษาฟรียังมีเลย ผมมีพยานนะ 10-20 คน”

นัท: “เขาบอกว่ามันเป็นเรื่องเร่งด่วน ต้องรีบหาเงินมาให้

เมดฮับ นิวส์ medhubnews.com 

เว็บไซต์ข่าวสุขภาพ  สาธารณสุข การท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพ วาไรตี้ ฯลฯ 

Thailand Health and Wellness News   

ติดตามข่าวสารจาก medhubnews.com ได้จาก Facebook : sasook ของเรา 

29 ธันวาคม 2561

ผู้ชม 3157 ครั้ง

Engine by shopup.com