"หมอเชิดชู" พ้อแทนพี่น้องวงการแพทย์ หลัง "หมอสุกิจ" ยืนกรานตนเองทำถูกต้อง
"หมอเชิดชู" พ้อแทนพี่น้องวงการแพทย์ หลัง "หมอสุกิจ" ยืนกรานตนเองทำถูกต้อง
หลังจากเว้นช่วงเพื่อบรรยากาศในแพทยสภา ระหว่างการประชุมวิชาการครบ 50 ปีแพทยสภา ณ Impact Forum ชั้น 2 เมืองทองธานี
เนื่องจาก แพทย์หญิงเชิดชู อริยศรีวัฒนา และ แพทย์หญิงอรพรรณ์ เมธาดิลกกุล กรรมการแพทยสภา ทีมพลังแพทย์ ผู้รับผิดชอบการประชุมใหญ่แพทย์ครั้งนี้ เป็นผู้รวบรวมปัญหาต่างๆ เพื่อแก้ไขให้พี่น้องวงการแพทย์
ที่ผ่านมา แพทย์ถูกฟ้องเพิ่มมากขึ้น และรุนแรงขึ้น รวมทั้งจัดทำสรุปผลรวมปัญหาของแพทย์ วงการแพทย์ และแพทยสภา โดยทำงานรวมกันเป็นทีมรวบรวมกว่า 2 เดือน ทางออนไลน์
และจากการนำเสนอความเห็นของแพทย์ที่เข้าประชุมในการประชุมครั้งนี้ 3 วัน และจากการทำโพลความเห็นแพทย์ หรือสมาชิกแพทยสภา พบว่ามีปัญหารุนแรงจึงไม่มีเวลาไปทำอย่างอื่น
ขณะที่ มหากาพย์วงการแพทย์ไทย กรณีการถอนฟ้องบุคคลที่อ้างว่าได้รับความเสียหายทางการแพทย์ ซึ่งยังคงเป็นประเด็นที่แพทย์บางท่านยังไม่เข้าใจปัญหาที่ถูกต้อง
โดยนายแพทย์สุกิจ ทัศนสุนทรวงศ์ กรรมการแพทยสภา และอดีตเลขาธิการแพทยสภา ได้โพสต์เฟสบุ๊คส่วนตัว “นพ.สุกิจ ทัศนสุนทรวงศ์” ระบุว่า
“กรณีแพทยสภาโดยผมนายแพทย์สุกิจ ทัศนสุนทรวงศ์ ผู้ได้รับมอบอำนาจเต็มในการดำเนินการฟ้องคดี รวมถึงการถอนฟ้องคุณปรียนันท์ ล้อเสริมวัฒนา และเมื่อศาลได้ทำการไกล่เกลี่ยผมได้พิจารณาแล้วว่า เมื่อคุณปรียนันท์ ยินยอมทำหนังสือขอโทษ แสดงความเสียใจต่อการกระทำ ซึ่งสมควรแก่กรณีแล้ว
ในฐานะผู้ได้รับมอบอำนาจเต็มจากแพทยสภา ด้วยมติคณะกรรมการแพทยสภาเมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2561 ผมจึงตัดสินใจถอนฟ้อง ด้วยเหตุผลว่า ข้อขัดแย้งทางความคิดมีมานานกว่า 15 ปี การให้ศาลตัดสินผิดถูกย่อมไม่ยุติปัญหาความขัดแย้งได้ การเจรจาไกล่เกลี่ยได้น่าจะเป็นทางออกที่ดีต่อทั้งสองฝ่าย
สำหรับเนื้อหาโดยละเอียด นายแพทย์สุกิจ ได้ชี้แจงต่อต่ออนุกรรมการรวบรวมข้อเท็จจริงกรณี การถอนฟ้องนางปรียนันท์ ล้อเสริมวัฒนา ลงวันที่ 21 มิถุนายน 2561
จาก มติชน
ทั้งนี้ จากการเผยแพร่ประเด็นนี้ตามสื่อต่างๆ เช่น มติชน แสดงให้เห็นว่านายแพทย์สุกิจยังคงมองเรื่องหลักการผิด และแยกเรื่องส่วนตัว และเรื่ององค์กรวิชาชีพไม่ถูกต้อง หรือไม่สนใจปัญหาที่เกิดขึ้นมากมาย รวมทั้งบางท่านยังไม่เข้าใจปัญหาวงการแพทย์อย่างลึกซึ้งเพียงพอ
ล่าสุดผู้สื่อข่าวเว็บไซต์เมดฮับนิวส์ดอทคอม และ เพจ sasook รายงานว่า แพทย์หญิงเชิดชู อริยศรีวัฒนา กรรมการแพทยสภา ทีมพลังแพทย์ โพสต์เฟสบุ๊คส่วนตัวเช่นกัน
ระบุว่า “ดิฉันได้อ่านจดหมายลงวันที 21 มิถุนายน 2561 ของอดีตเลขาธิการแพทยสภา ที่ได้เขียนถึงประธานคณะทำงานรวบรวมข้อเท็จจริงกรณีถอนฟ้องนางปรียานันท์ ล้อเสริมวัฒนาแล้ว ขอแสดงความคิดเห็นดังนี้
นพ.สุกิจ ยังยืนยันว่าตนทำถูกต้อง ทั้งๆ ที่เขายินยอมถอนฟ้อง โดยที่จำเลยยังไม่ได้ทำตามที่โจทก์เรียกร้องอย่างครบถ้วน ( ตามมติกรรมการแพทยสภาที่มอบให้อดีตเลขาฯนำไปศาล )
แต่เขาอ้างว่าถ้ากลับมาถามคณะกรรมการแพทยสภาอีก จะต้องรอประชุมวันที่ 10 พ.ค. ซึ่งจะไม่ทันตามศาลนัด เขาจึงตัดสินใจใช้ดุลยพินิจส่วนตัว ยอมถอนฟ้อง
ดิฉันเห็นว่า ถ้าเป็นเรื่องส่วนตัวของนพ.สุกิจเป็นโจทก์คนเดียว เขาก็มีสิทธิเต็ม100 เปอร์เซ็นต์ที่จะถอนฟ้องได้ แต่ในกรณีนี้ นพ.สุกิจได้รับมอบอำนาจให้ไปศาล แทนคณะกรรมการแพทยสภา เขาจีงต้องทำตามมติที่คณะกรรมการมอบหมายให้ทำเท่านั้น ไม่สามารถใช้ดุลพินิจส่วนตัวได้
ส่วนการอ้างว่าแพทยสภาจะประชุมไม่ทันและต้องรอประขุมในวันที่ 10 พ.ค.นั้น นพ.สุกิจไม่สมควรกล่าวอ้างเช่นนี้ เพราะเขาเองก็น่าจะรู้อยู่แก่ใจแล้วว่า ในกรณีสำคััญและ/หรือเร่งด่วน แพทยสภาอาจเรียกประชุมเมื่อใดก็ได้ หรืออาจขอเลื่ิอนนัดศาลก็ได้ คำชี้แจงของนพ.สุกิจจึงฟังไม่ขึ้น
อนึ่ง การที่เขาอ้างว่า เขาได้รับมอบอำนาจเต็มในการกระทำการใดๆในศาลแทนแพทยสภานั้น เป็นการกล่าวอ้างผิดสาระสำคัญของมติกรรมการแพทยสภา
ซึ่งมีประจักษ์พยานคือ กรรมการแพทยสภาเสียงข้างมาก ลงมติในการประชุมในวันที่ 14 มิถุนายน 2561 ขอให้ยื่นอุทธรณ์คำสั่งศาลที่ให้ยุติการดำเนินคดี และจำหน่ายออกนอกสารบบความ ( ตามที่นพ..สุกิจไปถอนฟ้องไว้ก่อนแล้ว )
การที่คณะกรรมการแพทยสภาเสียงช้างมากมีมติให้ไปยื่นอุทธรณ์คำสั่งศาล ก็ เนื่องจากกรรมการส่วนมาก ( เกินกึ่งหนึ่ง ) ไม่เห็นด้วยกับการดำเนินการของนพ.สุกิจที่ไปยอมความและถอนฟ้อง
แต่ นพ. สุกิจ ยังมาขอให้แพทยสภากลับมตืการขออุทธรณ์คำสั่งถอนคดีเพราะโจทก์ไปยอมความเสียอีก
จึงเห็นได้ว่า นพ.สุกิจ ยังไม่เข้าใจหลักการทำงานในฐานะผู้แทนแพทยสภา ว่าเขาไม่มีอำนาจทำการใดๆนอกเหนือจากการทำงานตามมติขององค์คณะเท่านั้น
กล่าวคือ คุณจะมีความเห็นส่วนตัวอย่างไรก็ได้ แต่คุณจะต้องทำตามมติของคณะกรรมการเท่านั้น การกระทำนั้นจึงจะถูกต้องเหมาะสมทั้งทางนิติธรรม และคุณธรรม
แต่ถ้านพ.สุกิจอ้างว่าได้รับมอบอำนาจเต็มในการตัดสินใจถอนฟ้อง ก็ต้องมาพิจารณาว่า ในใบมอบอำนาจนั้นได้เขียนไว้เช่นนั้นหรือไม่ / อย่างไร
และถ้าเขียนไว้เช่นนั้นจริง ผู้ที่จะต้องรับผิดชอบก็คือผู้เซ็นมอบอำนาจนั่นเอง
ดิฉันเขียนตามหลักการทางกฎหมาย มิได้มีเรื่องโกรธเคืองหรือ มีอคติใดๆกับทั้งอดีตเลขาธิการหรือนายกแพทยสภาทั้งสิ้น
ลงชื่อ พญ.เชิดชู อริยศรีวัฒนา กรรมการแพทยสภา 24 มิถุนายน 2561
เมดฮับ นิวส์ medhubnews.com
เว็บไซต์ข่าวสุขภาพ สาธารณสุข การท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพ วาไรตี้ ฯลฯ
Thailand Health and Wellness News
ติดตามข่าวสารจาก medhubnews.com ได้จาก Facebook : sasook ของเรา
30 ธันวาคม 2561
ผู้ชม 3380 ครั้ง