"13 ชีวิต" ติดถ้ำหลวง 10 วันรอด เพราะ "สติ และ ใจ"  ย้อนดู 11 วัน "กัปตันชัชวาล"

MED HUB NEWS - เกาะติดภารกิจช่วย 13 ชีวิต ณ ถ้ำหลวง ขุนน้ำนางนอน อ.แม่สาย จ. เชียงราย หลังจากทีมฟุตบอลหมูป่าอะคาเดมีทั้ง 13 คนได้รับการช่วยเหลือออกจากถ้ำในวันที่ 10 กรกฎาคม 2561 ท่ามกลางคนไทยทั้งประเทศเป็นห่วง และส่งแรงใจให้น้องๆ สุขภาพดี

ผู้สื่อข่าวเว็บไซต์เมดฮับนิวส์ดอทคอม และ เพจ sasook รายงานว่า จากเหตุการณ์ที่ใกล้เคียงกัน แม้จะแตกต่างจากสภาพภูมิศาสตร์

หากมาดูกรณีของกัปตันชัชวาล สามารถดำรงชีวิตได้โดยอาศัยน้ำ ซึ่งสภาพร่างกาย 11 วันไม่มีเรี่ยวแรง แต่ยังมีสติ และ ใจ ที่กำลังรอการช่วยเหลือ และ รู้ตัวอยู่ตลอดเวลา  

การ์ตูนให้กำลังใจ จากโซเชี่ยล ในแฮทแท็ค #ถ้ำหลวง #ทีมหมูป่า

ย้อนดูเหตุการณ์กรณีเฮลิคอปเตอร์ไทยออกไปช่วยค้นหานักปีนเขาที่ประเทศพม่า ก่อนจะประสบปัญหาสภาพอากาศและขาดการติดต่อไป ในเมืองพุเตา รัฐคะฉิ่น ประเทศเมียนมาร์ ระหว่างทำการบินไปส่งเสบียงให้ทีมค้นหานักไต่เขา 2 คนที่สูญหาย ในเขตเทือกเขาฮากากาโบราซีวันที่ 27 กันยายน 2557

โดยเฮลิคอปเตอร์ลำนี้มี กัปตันชัชวาล แท่นทอง นักบินที่ร่วมงานกับสกายรีพอร์ต ช่อง 3 นักบินพม่า และเจ้าหน้าที่ของทางพม่า รวม 3 คน

ซึ่งทางการพม่าและมูลนิธิฮตู ผู้ที่ว่าจ้างเข้าไปปฏิบัติภารกิจนี้ ได้ออกตามหาต่อเนื่องตลอดทั้ง 11 วัน กระทั่งวันที่ 7 ตุลาคม 2557 เจ้าหน้าที่สามารถช่วย กัปตันชัชวาล แท่นทอง และทีมงานออกมาจากป่าอย่างปลอดภัย

จากการตรวจร่างกายพบว่า กัปตันชัชวาล มีสภาพร่างกายอ่อนแรงและซูบผอม เนื่องจากตากฝน มีอาการหนาวสั่น จึงต้องช่วยผิงไฟและนำตัวใส่เปลเดินเท้าออกมาจากป่า ใช้เวลากว่า 3 ชั่วโมง เพราะเป็นเส้นทางยากลำบากหน้าผาและเขาสูง

เมื่อมาถึงจุดจอดเฮลิคอปเตอร์ ก็ขึ้นเฮลิคอปเตอร์มาถึงสนามบินพุเตาในเวลา 17.00 น. เมื่อมาถึง นายแพทย์โอลิเวอร์ แพทย์โรงพยาบาลสมิติเวช อินเตอร์เนชั่นแนล คลินิกประจำพม่า ก็ได้ตรวจร่างกายกัปตันชัชวาล พบว่าอ่อนเพลียจากการเดินเท้าในป่า 11 วัน  ส่วนอาการกัปตันชัชวาลไม่ถึงกับขั้นสาหัส

กัปตันชัชวาล กับ 11 วันแห่งความเป็นความตาย ในป่าพม่า

แม้ไม่มีอาหาร ดื่มแต่น้ำ และ 2 วันสุดท้ายที่ให้ นายชเวยินทอกี ผู้โดยสาร แยกตัวเดินมาขอความช่วยเหลือจากชาวบ้าน ก็ต้องอยู่ในป่าลำพัง ส่วนกัปตันอองเมียตโต นักบินพม่า ได้ให้อาศัยอยู่ในถ้ำเพราะบาดเจ็บ

กัปตันชัชวาล เล่าว่า  “หลังจากที่เราพิจารณาแล้วว่า เราต้องแยกกัน  กัปตัน ออง เมียตตู จะต้องอยู่ตรงนี้ก่อน เพื่อเซฟร่างกาย ถ้าเผื่อมีคนมาช่วย เขาจะได้รู้ว่าพวกเรายังไม่ตาย จะได้ช่วยกันค้นหาคนที่เหลืออยู่

โดยเราเตรียมใบไม้ใบตองรองให้เขานอน เตรียมอาหารเท่าที่มีให้เขา โดยที่เขาไม่ต้องออกไปหาอาหารกิน เขาสามารถใช้ของที่เราเตรียมไว้ประทังชีวิตได้อีกวันสองวันแน่นอน ส่วนเราอีกสองคนจะไปตายเอาดาบหน้า เพราะเราคิดว่า ถ้าเราไม่ตาย เขาก็จะไม่ตาย”

เราก็เริ่มทำตามแผน เราเดินมาจนเรารอดชีวิต และเราก็บอกให้คนไปช่วยกัปตัน ออง เมียตตู  ระหว่างนี้การสื่อสารเราอาจไม่ได้เรื่องภาษา แต่เราสื่อสารกันด้วยใจ และทุกอย่างต้องเดินไปด้วยสติ ให้เป็นไปตามแผนที่วางไว้ และที่สำคัญ ใจอย่าเสีย

วันที่เราแยกกับกัปตัน  ออง เมียตตู  ประมาณวันที่ 3 คือกัปตันเขาต้องอยู่นิ่งๆ ดีที่สุด เราเลยต้องให้เขาอยู่ตรงซอกหิน หลังจากนั้นผมก็เดินมากับน้องอีกคนหนึ่ง เขาเดินป่าเก่งมาก เขาคอยเดินไปแล้วก็กลับมารับเรา อยู่อย่างนี้หลายครั้ง ผมมองว่าอย่างนี้ไม่ไหวนะ จะตายกันหมด ผมบอกให้เขา Go Go  ยูต้องรอด

และวันที่ผมหมดแรง เหมือนเราเป็นตัวอะไรสักตัว ชะเง้ออยู่หน้าผาติดแหง่ก ข้ามก็ข้ามไม่ได้ อยู่ๆ ก็มีชาวบ้านโผล่มา ผมก็ร้อง วู้ สุดเสียง จนเขาก็มาช่วยในที่สุด

นาทีนั้นเรารู้เลยว่า น้ำใจของมนุษย์นี่สุดยอด  เขาแบกผมออกมา อาหารมื้อแรกคือปลายข้าวที่เขาต้มมาให้เรา อร่อยมาก นาทีนั้นบอกเลยว่าคิดถึงแม่

ระหว่างที่เดินป่า เจอสัตว์ป่าสารพัด เราก็คิดว่าเอาเลยอยากกินไรกิน แม้แต่ทากที่อยู่ในจมูก ผมยังไม่มีแรงที่จะสั่งเขาออกมา ผมได้แต่กำหนดจิต บอกเขาว่ากินให้อิ่ม แล้วก็ไปนะ  บอกแล้วสักพักเขาก็ไป

น้ำที่ใช้ประทังชีวิตก็ได้จากการเอามือตักเข้าปาก  ระหว่างเดินก็ได้แต่กำหนดจิต เอาสติเข้ามาจับ เอาปัญญาเข้ามาดู ทำอย่างไรเราจะกลับไปตรงนี้ให้ได้ ทำยังไงเราจะมีชีวิตรอด ทำทีละลมหายใจ เมื่อถึงตอนที่กัปตันชัชวาล เล่าจบ กัปตันน้ำตาไหลแล้วบอกกับรายการว่า “ไม่มีอะไรเกินพระพุทธเจ้า” 

รวบรวมการ์ตูนให้กำลังใจ จากโซเชี่ยล ในแฮทแท็ค #ถ้ำหลวง #ทีมหมูป่า

จากเคสของ กัปตัน ชัชวาล แท่นทอง ทำให้ทราบว่าการพยายามประคองสติในช่วงเวลาที่ร่างกายไร้เรี่ยวแรงเป็นสิ่งสำคัญมาก เช่นเดียวกันกับ #ทีมหมูป่า

เมดฮับ นิวส์ medhubnews.com 

เว็บไซต์ข่าวสุขภาพ  สาธารณสุข การท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพ วาไรตี้ ฯลฯ 

Thailand Health and Wellness News  

ติดตามข่าวสารจาก medhubnews.com

ได้จาก Facebook : sasook ของเรา