เรื่องร้อนๆ ที่ภูเก็ต "มะเร็งร้ายท่องที่ยวไทย" นอมินีธุรกิจหรู แต่คนไทยขายปลาหมึกย่าง
เรื่องร้อนๆ ที่ภูเก็ต "มะเร็งร้ายท่องที่ยวไทย" นอมินีธุรกิจหรู แต่คนไทยขายปลาหมึกย่าง
MED HUB NEWS - เรื่องจริงที่ไม่ควรลืม แม้กระแสข่าวจะไม่ค่อยมีการนำเสนอ จากโศกนาฎกรรมสุดสลด เรือนักท่องเที่ยวฟีนิกซ์ พีซีไดฟ์วิ่ง ถูกมรสุมซัดล่มกลางทะเล จ. ภูเก็ต ทำให้นักท่องเที่ยวชาวจีนเสียชีวิตจำนวนมาก
กรณีผู้เสียชีวิตอีก 1 ศพสุดท้ายกู้ร่างออกมาได้แล้ว แต่ทางจีนต้องส่งกู้ภัยมาช่วย เหตุเพราะไทยหยุดกู้ร่างผู้เสียชีวิตไปขณะหนึ่ง ท่ามกลางกระแสข่าวคนจีนไม่พอใจไทยมาก โดยไทยระบุว่า 3-4 วันมีพายุเข้ามา ทำให้มีคลื่นกระแสลมทำให้ทำงานยาก เจ้าหน้าที่ไม่สามารถประคองตัวเองได้”
ส่วนเรื่องนอมินีต่างชาติตำรวจท่องเที่ยวเร่งจัดการโดยใช้กฏหมายพิเศษ ผู้สื่อข่าวเว็บไซต์เมดฮับนิวส์ดอทคอม และ เพจ sasook รายงานว่า ทางโหนกระแส ได้เปิดใจสัมภาษณ์ “พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล” หรือ “บิ๊กโจ๊ก” รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว
“คุณอภิสิทธิ์ บุญเรือง” หรือ “โจ้” ผู้เห็นเหตุการณ์เรือล่ม และ “คุณอภิเชษฐ์ ยิ้มอ่อน” หรือ “ละมุด” เจ้าหน้าที่มูลนิธิกุศลธรรม จ.ภูเก็ต
เป็นอุบัติเหตุหรือความประมาท ?
บิ๊กโจ๊ก : “เป็นความประมาท ในเรื่องเอาเรือออกในเวลาอย่างนั้น เพราะไม่มีเรือลำไหนออกมาในตอนนั้น”
คุณโจ้ไปเที่ยวที่เกาะราชา ตอนไปที่เกาะท้องฟ้าเป็นยังไง ?
โจ้: “ท้องฟ้าสว่าง ไม่มีอะไร ผมไปถึงเกาะราชาก็ใกล้ๆ กัน ถึงเวลากลับประมาณสี่โมงเย็น ต้องกลับพร้อมเรือฟีนิกซ์แต่คนละลำ ตอนนั้นเริ่มมืด ลมเริ่มแรง ฟีนิกซ์นำไปก่อนผม ตอนนั้นไม่ได้คิดอะไรเลยครับ ฟีนิกซ์ออกนำหน้าผมไปครึ่งชม. ทีนี้ฝนตกหนัก คลื่นลมแรง ประมาณ 4-5 เมตร ของผมตามหลังไปช่วงที่เกิดเหตุมีช่องลมเป็นพื้นที่อันตราย”
ละมุด : “เป็นจุดที่คลื่นแรงที่สุด เป็นช่องลมพอดี คลื่นแรงกว่าปกติ”
สิ่งที่คุณเห็นข้างหน้าเป็นยังไง ?
โจ้: “เขาประคองเรือไม่ให้ล่มแต่คลื่นมันใหญ่เกิน จนเรือเอียง คลื่นทั้งตีทั้งสูง ตอนนั้นในเรือผมก็มองเห็น มีลูกเรือให้ใส่ชูชีพให้นั่งอยู่กับที่อย่าลุกไปไหนเพราะเขากลัวอันตราย ตอนนั้นยังไม่มีใครตะโกนว่าเรือฟีนิกซ์ล่ม มาตะโกนตอนที่มีลูกเรือวิ่งมาบอกว่าเรือข้างหน้าล่มให้อยู่ในความสงบ ให้อยู่กับที่อย่าลุกไปไหน ก็พยายามเข้าไปดู แต่เรือผมเองก็จะไม่ไหวเหมือนกัน”
เห็นนักท่องเที่ยวหนีเอาตัวรอดมั้ย ?
โจ้: “มีบางส่วนกระโดดออกมาจากเรือ แล้วบางส่วนก็ลอยคอ”
คุณละมุด คุณไปถึงตอนไหน ?
ละมุด : “เราส่งทีมประดาน้ำไปถึงในเช้าในวันที่เกิดเหตุ ส่งทีมนักประดาน้ำลงไปตอนนั้นได้รับแจ้งว่าสูญหาย 40 กว่าคน ส่งทีมประดาน้ำลงไปที่จุดเกิดเหตุ พบว่ามีเรือฟีนิกซ์นอนจมตะแคงอยู่ใต้น้ำ เรือลำใหญ่มาก พอลงไปปุ๊บก็พบร่างผู้เสียชีวิตจำนวนหลายรายบริเวณรอบเรือ”
เขาไม่ลอยขึ้นมา ?
ละมุด : “ใช่ มีที่ไม่ลอย อยู่ในเรือ บนเรือกระจัดกระจาย แต่ลอยขึ้นมาไมได้ อย่างขาไปติดรั้วเหล็กที่กั้นขอบๆ ไปติดที่ตู้ของเรือ วันแรกกู้ขึ้นมาได้ 18 หลังจากนั้นวันที่ 2 กู้มาได้อีก 8 มีทั้งกระจายรอบเรือและในห้องโดยสารที่ต้องไปเอาออกมา”
เข้าไปห้องโดยสารยากมั้ย?
ละมุด : “ยากมาก เป็นอุปสรรคเพราะน้ำลึก 44 เมตร ต้องใช้การดำที่พิเศษขึ้นต้องเรียนมาสูงขึ้น เจ้าหน้าที่มูลนิธิเราไม่ได้เรียนสูงถึงขั้นนั้น ต้องขอกำลังจากตำรวจน้ำ และทหารเรือ อาสาสมัครที่เป็นชาวต่างชาติ คนไทยที่เป็นครูของสมาคมต้องดำไปตรงห้องโดยสาร แล้วกู้ออกมา ติดอยู่ในนั้นประมาณ 10 กว่าคนได้”
เห็นบอกว่าไม่มีการประกาศเลยติดในห้องโดยสาร ?
ละมุด : “ใช่”
คนที่ใส่ชูชีพแล้วเสียชีวิตมีมั้ย ?
ละมุด : “มีครับ ใส่ชูชีพแล้วลอยขึ้นมา อาจเป็นเพราะว่าเขาไม่ได้ออกมาจากตัวเรือตั้งแต่แรก พอเรือจมน้ำมันเข้า มีชูชีพก็จริงแต่มันจะดันเราขึ้นเพดานเรือ ทำให้ไม่สามารถออกมาได้ แต่หลุดออกมาเพราะกระแสน้ำ
ระหว่างนำเรืออกมามีการประกาศเตือนมั้ย ?
บิ๊กโจ๊ก : “ที่ผมสอบสวน ตอนเรือออกมา อากาศโปร่งก็ไม่มีอะไร แต่ตอนขากลับเป็นประเด็นสำคัญ เมื่อเห็นคลื่นลมเห็นฟ้าตั้งเค้า เรือทั้งหมดไม่มีใครออกมา บริษัทนำเที่ยวเขาซื้อตั๋วให้นักท่องเที่ยว
จ่ายค่าโรงแรมให้นักท่องเที่ยวพักหมด กว่า 300 ชีวิต จะมีก็แต่ฟีนิกซ์กับเซเรเนต้า เรือจมสองลำ แต่เซเรเนต้าผู้อยู่ในเรือรอดชีวิตทั้งหมด ประมาณ 37 คน
แต่ฟีนิกซ์จมและเสียชีวิต ตอนออกเรือไม่เป็นไร แต่ตอนกลับเข้าฝั่งไม่มีเรือไหนออกมา มีแค่สองลำนี้เท่านั้น ตรงนี้ชัดเจนว่าเป็นความประมาท ในการสอบสวนซึ่งสังคมกำลังตั้งคำถามว่าเรือนี้เป็นนอมินีหรือเปล่า ในการสืบสวนเราทราบข้อมูลแล้ว แต่เราต้องไล่เรียง
เมื่อวานซืนก็เอาเจ้าหน้าที่หลายส่วน ไปตรวจพบบริษัทของเรือฟีนิกซ์ หรือบริษัทเลซี่แคทไม่ได้เป็นบริษัทจริงๆ เป็นแค่ห้องเช่า ซึ่งตรงนี้แสดงให้เห็นว่ามีการทำงาน ดำเนินการที่ไม่ได้เป็นบริษัทจริงๆ เหล่านี้เป็นนอมินี
เราไปตรวจยึดได้อย่างเสื้อชูชีพก็ไม่มีมาตรฐานมอก. นำเข้าจากประเทศจีน จากพยานหลักฐานที่เราตรวจค้น บริษัทต่างๆ มีคนต่างชาติเช่าแต่ให้คนไทยเป็นกรรมการผู้จัดการ
ยกตัวอย่างเมื่อปีที่แล้ว 6 เดือนก่อนเป็นลูกจ้างมีเงินเดือนแค่หมื่นสองหมื่น แต่อีก 6 เดือนต่อมา กลับมาจดทะเบียนเป็นกรรมการผู้จัดการบริษัทเจ้าของเรือยอชต์ 800 ล้าน 1000 ล้าน
ตรงนี้ถามว่าปัญหาเกิดจากอะไร ในเมื่อเจ้าของบริษัทที่เป็นนอมินีไม่มีความรู้เรื่องรักษาเรือเรื่องการออกเรือ ก็มีหน้าที่อย่างเดียว คือออกเรือตามคำสั่งนายทุน มุ่งเน้นกำไรขาดทุนอย่างเดียว”
นายทุนเป็นต่างชาติ ?
บิ๊กโจ๊ก: “ในการสรุปสำนวนสอบสวน เราดำเนินการเหมือนการที่เราจับกุมทัวร์ศูนย์เหรียญเมื่อปี 58 ที่ผ่านมา แต่ถามว่าเชื่อมโยงกันยังไง วันนี้ที่เราตรวจพบ ผู้จัดการบริษัททรานลี่เดิมเราจับกุมในความผิดนอมินีทัวร์ศูนย์เหรียญไปแล้ว ศาลจำคุก 7 ปี ยึดเรือไปทั้งหมด 35 ลำ ยึดรถบัส 117 คัน ยึดเงินสดประมาณ 200 กว่าล้าน และมีเครือข่ายบริษัทที่เป็นนอมินีอีก 15 บริษัท
แต่ลักษณะการประกอบกิจการ เริ่มจากการสวมบัตรคนไทย เป็นคนต่างด้าวทำ แต่ไปเพิ่มชื่อในทะเบียนราษฎร์ วันนี้เราร่วมกับกระทรวงมหาดไทยกับอธิบดีกรมการปกครองปราบปราม วันนี้แทบไม่มีแล้ว ในการสวมบัตร เพื่อใช้สิทธิ์ถือครองจดทะเบียนบริษัทเหมือนคนไทย
วันนี้เมื่อเราปราบปรามการสวมบัตร ก็เปลี่ยนวิธีการด้วยการตัวเองไม่กล้าทำ จ้างนอมินี ใช้ทุนต่างชาติมา วิธีการตรวจสอบไม่ยาก เราไล่เรียงมาเลยว่าคนไทยคนนี้ ปีที่แล้วจ่ายภาษีเท่าไหร่ สมมติจ่ายภาษี 3 แสน
แต่อยู่ๆ ปีนี้มาจดทะเบียนเป็นเจ้าของกิจการ 800 ล้าน ต้องไล่ต่อว่าทุนเอามาจากไหน ซึ่งไล่ไม่ยาก เราไม่ได้ทำงานหน่วยเดียว เอาหน่วยทั้งอธิบดีกรมสรรพกร ในการตรวจสอบภาษี ท่านอธิบดีกรมศุลกากร ส่งเจ้าหน้าที่มาร่วมกับเรา ท่านอธิบดีกรมเจ้าท่า ในส่วนป่าไม้ ที่เราไปตรวจพบ ผู้จัดการบริษัททรานลี่วันนี้ก็มาเป็นผู้จัดการบริษัทเรือฟีนิกซ์ด้วยเช่นกัน เกี่ยวโยงกัน ในส่วนที่เราเข้าไปดำเนินการขณะนี้
เราพบว่ามีการสร้างท่าเรือบุกรุกไปในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติบุกรุกไปในพื้นที่สภก. บุกรุกพ้นที่ทรัพยากรริมทะเล ซึ่งเป็นที่ดินของกรมเจ้าท่า วันนี้เราดำนินคดีหมดแล้วในส่วนผู้จัดการบริษัท เราก็จับกุมแล้ว ผู้ดูแลก็จับกุมเพิ่มเติมเมื่อวานซืน เราตรวจยึดเอกสารมาทั้งหมดในเรื่องการชำระภาษี ในเรื่องการนำเข้า ยกตัวอย่างย้อนหลังว่าอุปกรณ์ทางเรือทั้งหมด เสื้อชูชีพต่างๆ ไม่มีมาตรฐานเพียงพอ
เสื้อชูชีพพอเปิดดูโรงงานที่ผลิตอยู่ที่ลพบุรี เมื่อวานสั่งให้มีการตรวจจับโรงงานแล้วที่ลพบุรี ต้องไล่ทั้งกระบวนการ วันนี้อย่าไปบอกว่านอมินีเป็นชาติไหน แต่มันชัดเจน
วันนี้ต้องเรียนว่าการปราบปรามทัวร์ศูนย์เหรียญ รัฐบาลจีนก็จับมือกับเราในการปราบปราม นอมินีข้ามชาติก็เหมือนกัน เราก็รายงานไปสถานทูตจีนเหมือนกัน สิ่งแรกที่สถานทูตจีนขอร้องคือหนึ่งช่วยเหลือคนของเขา ซึ่งแน่นอน นายกฯ และท่านประวิทย์ สั่งให้มีการกู้ชีพอย่างรวดเร็ว และให้หมด เพื่อพิสูจน์เอกลักษณ์ ให้ทราบตัวตน และดูแลญาติผู้เสียชีวิตอย่างดี
ตอนนี้เราทำไปหมดแล้ว จากการฟังข้อมูลหนึ่งจากผู้เชี่ยวชาญการต่อเรือเขาบอกว่าเรือฟีนิกซ์ทั้งลำการประกอบไม่สมดุล เรือต้องมีปั๊มน้ำ 4 ตัว แต่เรือฟีนิกซ์มีแค่ตัวเดียว ขนาด 1 นิ้วครึ่งต่อตัว มันถึงจมเร็ว ผู้เชี่ยวชาญอกว่าเรือดังกล่าวเดินไม่สมดุลมีการเอาปูนไปถ่วงไว้ 3 ตัน กระจกที่ใช้ผู้เชี่ยวชาญวิเคราะห์ว่าเป็นกระจกธรรมดา จะมีความเหนียว ไม่แตก
ผู้อยู่ในเรือจะไม่สามารถออกมาได้ ในส่วนท้ายเรือประตูห้องเครื่องยังไงน้ำต้องเข้า หลักการประตูห้องเครื่องต้องอยู่ขางบน ไม่ใช่ด้านท้ายเรือ เมื่อน้ำเข้าเครื่องก็ต้องดับแน่นอน ในส่วนประตูที่ไม่ให้น้ำเข้า น้ำจะทยอยออก อัตราการจมจะไม่เร็ว จะช่วยเหลือคนที่อยู่ในเรือได้เร็ว ทุกเรือต้องมีเรือผนึกน้ำ 4 ประตู”
เรือจมใช้เวลานานมั้ย ?
โจ้: “ประมาณ 5 นาที”
บิ๊กโจ๊ก: “อย่างที่บอก เพราะเรือไม่สมดุล ไม่สมบูรณ์”
เครื่องยนต์ล่ะครับ ?
บิ๊กโจ๊ก: “เป็นเครื่องยนต์ฮีโน่ ไม่ใช่เครื่องยนต์มาลี การฝ่าคลื่นลมกระแสน้ำทำให้ไม่มีกำลังฝ่าคลื่นแรงๆ ไปได้ เป็นปัจจัยสำคัญ เรือขนาดนี้ผู้เชียวชาญบอกว่าเขาต้องต่อประมาณ 70-80 ล้าน แต่เมื่อต่อที่ประมาณ 11-12 ล้าน มันก็ตัดออฟชั่นอะไรไปเยอะ
อันนี้ผู้เชี่ยวชาญเขาบอก ที่ทราบเพราะเรือลำนี้มีคู่แฝดที่ยังต่อไม่เสร็จ เราก็ไปตรวจเรือที่เป็นคู่แฝด ผู้เชี่ยวชาญบอกว่าถ้าเอาออกทะเลก็ต้องล่มเหมือนกัน ตั้งแต่ประตูเข้า ประตูเครื่องยนต์ก็อยู่ท้ายเรือเหมือนเดิม การต่อของเหล็กต่างๆ เครื่องสูบน้ำก็มีไม่ครบ การต่อเรือแบบนี้โดยใช้ช่างไม่มีมาตรฐาน การต่อเรือในเอกสารการต่อเรือต้องมีเอสี่เป็นพิมพ์เขียว ต่อลำต้องมี 50-60 แผ่น อันนี้มี 3-4 แผ่น
วันนี้ต้องแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน ตอนนี้คนภูเก็ตเขารอคอยว่าเจ้าหน้าทีรัฐจะเข้าไปดำเนินการจริงจังหรือเปล่า ในส่วนท่านนายกฯ และท่านประวิทย์ ท่านสั่งการลงมาว่าเรื่องนี้ต้องจัดการอย่างยั่งยืนให้คนภูเก็ตมั่นใจ
คนไทยในภูเก็ตที่ประกอบธุรกิจแบบนี้ต้องมีที่ยืน ในส่วนนอมินีไม่ว่าจะชาติไหนก็ตาม รายได้ไม่เข้าประเทศ แล้วมาใช้ทรัยพากรของเรา เหยียบพื้นดินทะเลของเราต้องไล่ปราบปรามให้หมด เราต้องทำการอย่างจริงจัง”
สอบถามกัปตันหรือยัง ?
บิ๊กโจ๊ก: “สอบถามแล้ว กัปตันเขากระโดดหนีไปก่อน เราแจ้งข้อกล่าวหาดำเนินคดีไปแล้ว เขาบอกว่าใครเป็นคนสั่ง เขาก็ยืนยันเราถึงแจ้งข้อกล่าวหานายเผิงได้ เป็นคนจีนอยู่ในเมืองไทย เราดำเนินคดีจับกุมแล้ว และผลักดันส่งประเทศ ขึ้นบัญชีดำห้ามเข้าประเทศถาวร”
ไม่มีการประกาศให้ผู้โดยสารรู้ก่อน เขาได้บอกมั้ยทำไมไม่ประกาศ ?
บิ๊กโจ๊ก: “คือปกติถ้าเรือที่สมบูรณ์ บนห้องกัปตันจะมีปุ่มอะลาม แล้วถ้ากดอะลาม ปั๊มน้ำจะทำงานทันทีเทน้ำออก สองที่ข้างเรือจะมีเรือยาง เมื่อกดอะลามปั้ง เรือยางจะกระเด็นออกมาอัตโนมัติ แต่อันนี้เรือยางต้องไปคลี่เอง เพราะไปตัดออฟชั่นตรงนี้ออก อาจจะไม่มีอะลาม ออฟชั่นนี้อาจจะตัดออกไป”
ถือเป็นความผิดทั้งหมด ?
บิ๊กโจ๊ก: “ผิดทั้งหมดเดี๋ยวต้องไล่ เดี๋ยวเรือกู้ออกมาจะทำให้เห็น วันนี้ญาติผู้เสียชีวิตน่าเห็นใจเขามาก ต้องให้เขาเห็นว่าสาเหตุที่แท้จริงคืออะไร เหตุย้อนกลับไปไม่ได้ แต่ต้องทำให้ญาติเขาประทับใจว่าเรามีการช่วยเหลือเขาอย่างรวดเร็ว มีการเยียวยา
ผมเรียกทั้งสองบริษัทมาพูดคุยว่าต้องดูแลญาติเป็นเคสบายเคสให้เขาพอใจให้ได้ ในเมื่อเรือเราก่อเหตุแบบนี้ วันนี้เรือมีกี่ร้อยลำต้องตรวจทั้งหมด เจ้าท่าที่ตรวจต้องรับรอง วันหน้าวันหลังถ้ามีเรือแบบนี้จมเจ้าท่าที่ตรวจต้องรับผิดชอบ”
ถามทางคุณละมุด ตอนที่พวกคุณลงไป สภาพผู้เสียชีวิตแต่ละคนเขาหนีตายกันยังไง?
ละมุด : “นอนคว่ำหน้าบ้าง มีเคสนึงกอดกัน เป็นแม่ลูกกอดกันในห้องโดยสาร ลูกยังเด็กมาก”
บิ๊กโจ๊ก : “ผู้หญิงเป็นหมอ มาพร้อมลูก”
เมดฮับ นิวส์ medhubnews.com
เว็บไซต์ข่าวสุขภาพ สาธารณสุข การท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพ วาไรตี้ ฯลฯ
Thailand Health and Wellness News
ติดตามข่าวสารจาก medhubnews.com ได้จาก Facebook : sasook ของเรา
01 มกราคม 2562
ผู้ชม 1119 ครั้ง