สุดช็อก “เมย์ จีระนันท์” เล่าศัลยกรรมหน้าอกที่เกาหลี ทุกข์ทรมานจนร้องขอให้ตาย เว็บไซต์สุขภาพ medhubnews.com ข่าวการแพทย์ บทความสุขภาพ ระบบสาธารณสุข

บทความ

“เมย์ จีระนันท์” เล่าศัลยกรรมหน้าอกที่เกาหลีทุกข์ทรมานจน "ร้องขอให้ตาย"

MED HUB NEWS - กระแสในโลกโซเชียลวันนี้ทำให้ประชาชนช็อก เมื่ออดีตนักร้องอาร์เอส “เมย์ จีระนันท์ กิจประสาน” เจ้าของเพลงฮิตคนเดียวไม่เหงาเท่า 3 คนออกมาโพสต์คลิปและข้อความสุดสะเทือน

โดยระบุว่าตัวเองเกือบสิ้นชื่อจากการทำศัลยกรรมหน้าอกที่เกาหลีผ่านเอเจนท์ไทยคนหนึ่ง ต่อมาติดเชื้อในกระแสเลือด มีอาการปางตาย โอกาสรอดแค่ 10 เปอร์เซ็นต์

ผู้สื่อข่าวเว็บไซต์เมดฮับนิวส์ดอทคอม และ เพจ sasook รายงานว่า ทาง โหนกระแส ช่อง 28 ได้สัมภาษณ์ “คุณเมย์” ที่มาพร้อมคุณแม่ และ “ทนายวันชัย” โดยเปิดใจหมดเปลือก

อะไรทำให้อยู่ดีๆ ตัดสินใจไปทำหน้าอก ?

เมย์: “ตอนนี้เมย์ขายเสื้อผ้าและเป็นนางแบบรีวิวด้วยตัวเอง อายุเมย์ 34 แล้ว แต่รูปร่างเหมือนเด็ก กลุ่มลูกค้าก็อายุเท่าเมย์ มีปัญหาเวลาใส่เสื้อผ้าดูเหมือนเด็กทุกอย่างเลย เลยอยากไปเสริม ขนาดที่เมย์เสริมแค่ 330 - 250 พอให้เป็นธรรมชาติที่สุด”

ทำไมตัดสินใจทำที่เกาหลี ?

เมย์: “เมย์อยากเลือกสิ่งที่ดีที่สุด เมย์อยากเลือกรพ.ที่ทำออกมาแล้วสวยที่สุด ดีที่สุด ปลอดภัยที่สุด เอเจนท์ที่ดูแลดีที่สุด ตอนนั้นที่รีวิวทุกคนบอกว่าต้องที่เกาหลีเท่านั้น”

รู้จักเอเจนท์นี้ได้ยังไง ?

เมย์: “รู้จักจากเฟซบุ๊กเพจของเอเจนท์คนนี้ พอเข้าไปดูเราเห็นมีรีวิว ดารา เซเลป ไฮโซ เน็ตไอดอล คนธรรมดา ที่ทำแล้วเปลี่ยนไป ในยูทูปก็มีรีวิว ซึ่งค่าตั๋วเครื่องบินเมย์ออกเอง เขาให้จำนวนวันจำไม่ได้ แต่อยู่ก่อนเข้าผ่าตัด 2 วัน ซึ่งเมย์จ่ายเองไม่รวมค่าตั๋วเครื่องบิน 8 แสนกว่าบาท แต่เมย์ไม่ได้ทำอย่างเดียว มีทำตา หน้าอก”

พอไปถึงที่รพ. ทำไมเลือกคุณหมอท่านนี้ทำ ?

เมย์: “เมย์ไม่ได้เลือก ทางเอเจนท์เป็นคนเลือกให้ ซึ่งเมย์ขอให้เป็นคุณหมอมือหนึ่งเท่านั้น ซึ่งจริงๆ อาจเป็นความเข้าใจผิด เพราะตอนที่เมย์ไปปรึกษาเขาครั้งแรก เป็นเอเจนท์เดียวที่เมย์ปรึกษา เป็นรพ.เดียวที่เมย์เข้าไปปรึกษากับคุณหมอและมีการวางเงินมัดจำทันทีในวันนั้นเลย

เมย์กลับเมืองไทยมาก็มีกำหนดวันผ่าแล้ว เมย์กลับมาคุยกับคุณหมอรักษาผิวพรรณ เล่าให้เขาฟังว่าเมย์จะไปทำศัลยกรรมนะ ช่วยดูเรื่องยาสิวต้องดูเรื่องยาที่เขาห้าม พอคุยกันไป คุณหมอท่านนี้ก็เคยทำที่นี่ เขาบอกว่าผลออกมาเขาไม่พอใจ ของเขาไม่ดีนะ แต่เราอ้าว วางมัดจำไปแล้ว

เขาทำตาแล้วออกมาเหมือนไม่ได้ทำ เขาบอกว่าเน็ตไอดอลคนนึงที่ดังมากไปทำที่นี่และมีรีวิว เมย์ไปดูรีวิวก็ไม่เห็นเน็ตไอดอลคนนี้เป็นเพื่อนเมย์เมย์ก็วิดีโอคอลเขาก็เปิดหน้าอกให้ดูเลย เพื่อนเมย์มีปัญหาทำหน้าอกที่เมืองไทยแล้วไปแก้วที่นั่น แล้วเขาก็บอกวาเขาโอเค เขาก็แฮปปี้ดี แต่จำหมอที่ทำให้ไม้ได้

เขาบอกว่าใส่แว่นหน้าตาหลอๆ พอกลับไปเกาหลี ได้รับแจ้งจากเอเจนท์ว่าเป็นคุณหมอทานนี้ ก็เช้กไปทางเพื่อนคนนี้ เขาก็บอกว่าเป็นคนเดียวกัน เขาก็บอกว่าโอเคนะ เพราะนมเขามีปัญหาเยอะมาก เขาก็แก้ให้ได้”

มีการตกลงกันก่อน อยากทำใต้รักแร้ แต่คุณหมออยากให้ทำใต้ราวนม?

เมย์ : “ในวันคอนเซาท์ครั้งแรกที่มีการวางเงินมัดจำ คุณหมอพยายามโน้มน้าว ซึ่งไม่ใช่คนผ่านะคะ เป็นเจ้าของรพ. เมย์ก็งงทำไมเราต้องคอนเซาท์กับคนที่ไม่ใช่คนทำให้เรา ดูเขาหงุดหงิดแต่ให้เหตุผลว่าการผ่าตัดใต้ราวนม เขาไม่อยากให้เราเสียเลือดเนื้อ ค่าใช้จ่ายประหยัดกว่า

แต่เมย์มีความเชื่ออย่างหนึ่งเพราะเพื่อนเคยไปทำมาแล้วมันมีคีรอยอยู่ใต้ราวนม เป็นแผลสีดำยาวมาก แล้วมันเป็นการทำศัลยกรรมครั้งแรกของเมย์เมย์ไม่แน่ใจว่าตัวเองจะเป็นคีรอยหรือเปล่า เลยเลือกทำที่รักแร้

ถ้ามีแผลก็ให้มันอยู่ตรงนั้น สรุปทางเอเจนท์บอกว่าอย่าไปตามใจหมอ เมย์ก็เอะใจว่ามีอะไรทำไม่ได้หรือเปล่า ผิดปกติหรือเปล่า เขาบอกว่าเขาทำให้ได้หมด แม้กระทั่งตานมเขาก็ทำให้ได้ คุณแม่ไปด้วยตลอด”

คุณหมอยืนยันจะทำใต้รักแร้ตามที่ต้องการ ?

เมย์: “ต้องเพิ่มเงินอีกประมาณ 4 หมื่นกว่าบาท ระยะพักฟื้น 3 เดือน แต่ไม่สามารถยกของหนักได้”

ทุกอย่างที่เล่ามาก็ดูโอเค เกิดเรื่องตรงไหน ?

เมย์: “จริงๆ สายระบายเลือดต้องมีอยู่ประมาณ 7 วันแล้วบอกเรา แต่พอครบกำหนด 7 วันเขาบอกว่ายังไม่ถอดสายระบายเลือดให้ ให้เมย์หิ้วถุงเลือดกลับไทยด้วย เขาก็ให้คุณแม่เป็นคนเทเลือดด้วยตัวเองทุกวัน”

ผ่าปุ๊บอยู่ที่นั่นกี่วัน ?

เมย์: “สองวัน แล้วขออยู่เพิ่มอีกวันเพราะเจ็บมาก วันที่ 4 5 6 พักอยู่โรงแรมข้างๆ ที่เขาเซอร์วิสให้ พอวันที่ 7 ต้องถอด แต่ถอดไม่ได้ เราก็ถามเพราะเลือดออกมากผิดปกติทุกวันแต่คุณหมอบอกว่าไม่เป็นไร เขาบอกว่าจะมาถอดสายระบายเลือดให้ด้วยตัวเองที่คลินิก

ซึ่งเป็นสาขารพ.เขาในเมืองไทย เมย์เลยเบาใจ ถ้านับจากเมย์ถือสายนี้ก็ 2 สัปดาห์ เราไม่เคยรู้เลยว่านี่คือสิ่งผิดปกติ คุณแม่ยังจดเอาไว้ว่าเลือดออกเท่าไหร่ทุกวัน ต้องเทออกทุก 5 โมงเย็น”

มารู้สึกไม่ปกติตอนไหน ?

เมย์: “เราเจ็บแสบในหน้าอก คล้ายๆ มีน้ำกรดไหลซ่านไปทั่ว เราก็ถามว่าทำไมเราเจ็บมากเลย คุณหมอบอว่าเป็นอาการปกติของคนทำศัลยกรรมหน้าอก

พอกลับเมืองไทยถอดสายระบายเลือดซึ่งคุณหมอเป็นคนถอดให้ด้วยตัวเองที่คลินิกที่เมืองไทยก็ทรุดเลยหลังจากนั้น เหมือนเมย์ที่ได้ทานจากเกาหลีหมด ครบโดสพอดีด้วย”

ตอนปวดแสบปวดร้อน เขาส่งกลับมาเมืองไทยเลย ?

เมย์: “ค่ะ เขาบอกว่าหลังจากนั้นจะค่อยๆ ดีขึ้น เมย์ได้รับยาฉีดเข้าเส้นเลือดทานด้วย มันก็ทุเลาลง ไม่ได้เจ็บแสบมากเหมือนตอนถอดสายระบายเลือด พอถอดแล้วทรุดหนักเลยค่ะ”

ถามมั้ยทำไมส่งกลับ ?

เมย์: “ถามว่ามีอะไรผิดปกติหรือเปล่า เขาก็ถามว่าเรามีแพลนอยู่หรือหรือกลับเลย เขาบอกว่าเรากลับได้เราก็กลับ ถ้ารู้ว่าผิดปกติอะไรเมย์ไม่มีวันกลับอยู่แล้ว ต้องอยู่ให้เขารักษาก่อน”

เครื่องบินให้ขึ้นด้วยเหรอ ?

เมย์: “เขาออกใบรับรองแพทย์ให้ไปยื่นกับสายการบินและตม.ค่ะ เมย์ขอรถเข็นทั้งที่สนามบินไทยและเกาหลี ขึ้นเครื่องถุงนี้ก็โป่งตามความดัน เหมือนจะแตก เราก็ตกใจ เมย์เดินไม่ได้เลย ต้องใช้รถเข็น แต่สายการบินก็ให้ขึ้นมา”

อาการแย่ตั้งแต่อยู่เกาหลี ?

เมย์: “ใช่ เมย์เดินไม่ได้ ทางเอเจนท์บอกว่าหลังวันที่  3 4 5 ตัวเขาหรือลูกค้าไปเดินช้อปปิ้งแล้ว แต่อันนี้ไม่ใช่เมย์เดินไปไหนไม่ได้”

พอลงเครื่องที่เมืองไทย เกิดอะไรขึ้น ?

เมย์: “เขาให้ไปถอดถุงระบายเลือด พอถอดแล้วทรุดเลย มีไข้สูงทุกวัน อาการปวดแสบปวดร้อนใต้ราวนมหนักมาก เมย์ต้องนอนเป็นผักบนเตียงคุณแม่แตะแขนไม่ได้ เพราะเมย์สะดุ้ง มันไหลซ่านไปทั่ว จะลุกไปห้องน้ำก็ต้องอั้นจนกว่าจะไม่ไหวจริงๆ คุณแม่ต้องมาประคอง ค่อยๆ เดินไป เป็นช่วงเจ็บสาหัสมาก มันเหมือนเนื้อจะฉีกข้างใน”

หลังจากนั้นทำยังไง ?

เมย์: “คุณแม่รายงานทุกวัน ส่งไปทางเอเจนท์ เขาให้มาฉีดยาที่คลินิกของเขาที่ย่านทองหล่อทุกวัน ประมาณ 4-18เมย์เข้าๆ ออกๆ พอได้ยาก็ดีขึ้น แต่พอกลับบ้านตกดึกก็ปวด ไข้ขึ้นสูงอีก”

ทราบได้ไงว่าเราติดเชื้อในกระแสเลือด ?

เมย์: “วันที่ 4-18 ประมาณ 13 มีคำสั่งจากคุณหมอท่านนี้ให้เมย์ไปตรวจเลือดที่รพ.ใกล้บ้าน รพ.ไหนก็ได้ สั่งผ่านคลินิกนี้ ให้ตรวจค่า CBC และค่าความสมบูรณ์ของตับ ซึ่งทางรพ.ก็เรียกเข้าพบเลย เพราะผลมันผิดปกติ ตับอักเสบ เม็ดเลือดขาวในเลือดสูงมาก

พอรู้ว่ามีการทำหน้าอกมา เขาก็บอกเลยว่าน่าจะมีการติดเชื้อจากการทำศัลยกรรม ให้รีบกลับไปพบคุณหมอโดยเร็วที่สุด แต่คุณหมอและทางคลินิกนั้นเขาบอกว่าไม่ได้ติดเชื้อ คาเม็ดเลือดขาวที่สูงมากไม่ได้สูงเกินปกติ ของคนทำศัลยกรรม ต้องสูงประมาณนี้อยู่แล้ว”

แล้วรู้ได้ไงว่าเรากำลังจะตาย ?

เมย์: “หลังจากเมย์เชื่อเขาอีกครั้งนึงเรื่องตับอักเสบเขาก็เปลี่ยนยาให้ และฉีดยาให้เมย์ทุกวัน เราก็เชื่อมั่นในตัวคุณหมอ เขาบอกว่าของเมย์ไม่ได้สูงมาก ไปฉีดยาอีกก็มีความหวังทุกวันว่าจะหายแต่อาการไม่ดีขึ้น จนวันที่ 17 อาการเมย์หนักมาก ไข้ขึ้นสูงถึง 40 กว่าเลย

ตัวเมย์เปียกไปด้วยน้ำ เหมือนใครเอาน้ำมาราดทั้งตัวเลย นมเหมือนจะแตก ข้างในร้อนระอุมาก ก็รีบรายงานไปที่เอเจนท์ให้ไปรายงานคุณหมอ ทีนี้รุ่งเช้าหนองทะลักออกมาทั้งสองข้างที่รักแร้ ออกมาเป็นน้ำพุเลย น้ำไหลเปียกเต็มหมอน เมย์สภาพคล้ายศพ ผอมดำ เป็นซี่โครง เขาก็ให้รีบกลับไปคลินิก

คุณหมอที่คลินิกสาขาเขาก็บีบหนองออกให้ ระหว่างนั้นคุณแม่ก็ติดต่อเอเจนท์และคุณหมอท่านนี้ เขาก็ให้เมย์ไปที่เกาหลีคืนนั้น ให้กลับไปรักษา เราก็จะไปคืนนั้นเลย ซื้อตั๋วเครื่องบินเลย ตอนนั้นเมย์ไม่รู้ว่าตัวเองติดเชื้อ วิ่งวุ่นกันไปหมด เมย์ก็ไม่มีแรงจะพูด

จนคุณหมออีกท่านนึงซึ่งเป็นหมอศัลยกรรมคลินิกนั้นก็พรวดพราดเข้ามาจับชีพจรและบอกว่าเมย์คงไปไม่ได้ เพราะมีโอกาสช็อกเสียชีวิตบนเครื่อง และต้องเอาซิลิโคนออกทันที ผมไม่ให้คุณไป คุณต้องเอาซิลิโคนออกทันที แค่จากทองหล่อไปพระราม 2 ยังไกลกับคุณเลย ก็เป็นครั้งแรกที่มีคนบอกความจริงกับเมย์”

แล้วไปรักษาตัวที่ไหน ?

เมย์: “เขาก็ไปเช่าห้องผ่าตัดที่รพ.ย่านพระราม 2 เอาซิลิโคนออก เข้าไอซียู ผ่าตัดอีก 3 ครั้ง สองครั้งที่นั่นเอาหนองออก คือโคม่าอยู่ตลอด มีอาการแทรกซ้อน”

คุณติดเชื้ออะไร ?

เมย์: “เป็นเชื้อทีรุนแรงมาก ส่วนใหญ่พบได้ที่สถานพยาบาลและดื้อยามาก ส่วนติดี่ไหนต้องถามทาง รพ.ค่ะ ตรงนี้เป็นข้อสงสัยเหมือนกันว่าที่ไหนกันแน่”

เป็นไปได้ติดจากเกาหลี เพราะท่อที่จะระบายเลือด 3 วันก็เอาออกแล้ว ?

เมย์: “หนูก็ไม่เคยมีความรู้มาก่อน ว่าอาการเหล่านี้มันคือผิดปกติ”

คุณหมอพูดว่าแบบนี้อาจไม่มีชีวิตรอด บอกคุณแม่ว่าไง ?

แม่ : “คุณหมอไม่ได้บอกแม่ แม่มาทราบเองว่ามีโอกาสตายมากว่า”

เมย์: “เขาพูดกันภายในว่ามีโอกาสตายมากว่าโอกาสรอด”

ความทรมานเป็นยังไง ?

เมย์: “เมย์ทำอะไรไม่ถูก ช็อก ไม่นึกเลยว่าเราแค่อยากทำให้ชีวิตเราดีขึ้น ศัลยกรรมเปลี่ยนชีวิตเรา หลังจากวันนั้นเหมือนเราตกอยู่ในฝันร้าย (เสียงสั่นเครือ) เมย์กับแม่เหมือนศัลยกรรมเปลี่ยนชีวิตจริงๆ”

ตอนนั้นไม่อยากมีชีวิตอยู่ ร้อนจนแทบอยู่ไมได้ ?

เมย์: “ใช่ค่ะ ในการผ่าตัดทุกครั้งเมย์เจ็บทรมาน ถามว่าสู้มั้ยเมย์รู้สึกว่าเมย์ไม่อยากเจ็บปวดอีกแล้ว แต่เวลาเมย์เห็นหน้าแม่ที่มาส่งเมย์ที่หน้าห้องผ่าตัดทุกครั้ง (ร้องไห้) เมย์รู้เลยว่าเมย์ต้องสู้ เพราะเมย์มีแม่คนเดียวที่อยุ่กับเมย์ ถ้าเมย์เป็นอะไรไป ไม่รู้คุณแม่จะมีชีวิตอยู่ยังไง”

แม่ : “แม่ช็อกตอนเขาอยู่ไอซียู 4 วัน แม่ไม่ได้ไปไหนเลย ไม่ได้ทานข้าว”

มีคลิปๆ นึงที่เมย์นำออกมา นอนบนเตียงแล้วพูดว่าไม่เคยทรมานเท่าครั้งนี้มาก่อน ร้อนเหมือนมีน้ำกรดในตัวตลอดเวลา ?

เมย์: “จริงๆ คลิปนี้เราไม่ได้ตั้งใจถ่ายไว้ คุณแม่สติแตกเลย คนถ่ายคือลูกพี่ลูกน้อง บางคลิปคุณแม่ก็เก็บเอาไว้เหมือนแม่ถ่ายทำไมก็ไม่รู้”

ต้องย้ายไปรพ.บำรุงราษฎร์ ?

เมย์: “สุดท้ายเรามีอาการแทรกซ้อน คุณหมอท่านนี้ท่านบอกว่าทำเต็มที่ที่สุดแล้วเขาให้ยาที่ดีที่สุดในโลกนี้กับเมย์ ถ้าจะย้ายก็ย้ายได้เลย คุณแม่ไม่เชื่ออีกแล้ว ก็ย้ายไปบำรุงราษฎร์ทันที

โชคดีมากได้ทีมแพทย์ระดมถึง 4 ท่านผ่าตัดเป็นครั้งที่สาม หมอบอกว่าอยากให้โล่เลยเพราะเชื้อตัวนี้มันดื้อยามาก แล้วเมย์อยู่กับมันเป็นเวลานาน มีโอกาสตายมากกว่ารอด”

คุณแม่โทษตัวเองตลอดเวลา ?

แม่ : “แม่เห็นอาการเมย์ทุกวันที่มันผิดปกติ และเขาทุรุนทุราย แม่ไม่ควรปล่อยให้เขาอยู่ในสภาพนั้นมานาน แต่แม่ก็ไปเชื่อหมอ พาเขาไปฉีดยาทุกวันๆ ถ้าน้องเป็นอะไร แม่จะไม่ให้อภัยตัวเองเลย เพราะเราต้องตัดสินใจตอนนั้นแล้ว ไม่ควรจะเชื่อเขาแล้ว”

ล่าสุดทางเอเจนท์ออกมาพูดว่าทางคุณเมย์ไปถึงก็รีเควสเป็นหมอท่านนี้เลย ?

เมย์: “ไม่จริงค่ะ”

เขาบอกเขาพยายามแก้ไขสถานการณ์ให้ตลอด ถามตลอดวาจะเปลี่ยนรพ.มั้ย ?

เมย์: “การทำของเขาเป็นเพียงเพื่อบรรเทาความเสียหายและให้มีหลักฐานที่เขาจะพูดได้ว่าเขาได้ดูแลแล้ว แต่เขามีการเททิ้งเป็นระยะๆ มีการปฏิเสธและขาดการติดต่อกับเมย์”

คุณแม่เรียกเงินครั้งนี้ 60 ล้าน ?

แม่ : “จริงค่ะ”

เขาตอบกลับมาว่าจะคืนเงินทำหน้าอกให้สี่แสนสี่หมื่นหนึ่งพันบาท ค่าเสียโอกาสในการทำงานให้อีกหนึ่งล้านสองแสนบาท สามจะจ่ายค่ารักษาพยาบาลทั้งหมดที่เกิดขึ้น ทั้ง 2 รพ.ในไทย รวม 1 ล้าน 4 แสนกว่าบาท ที่คุณเรียกไปไม่ได้เกี่ยวกับพวกนี้ ?

เมย์: “เป็นในส่วนข้อสองค่ะ เพราะตอนนั้นสภาพเมย์เหมือนคนทุพลภาพ เกิดขึ้นตอนเมย์เอยู่รพ.ที่บำรุงราษฎร์”

อ.วันชัย : “ผมคิดว่าเรื่องเรียกร้องเป็นปกติเพราะได้รับผลกระทบ เวลาคนจะเป็นจะตาย สิ่งสำคัญที่สุดคือนม ผู้หญิงไม่มีนมคุณจะแต่งงานกับเขามั้ย เขาไม่สามารถให้นมลูกได้ นมเป็นอวัยวะสำคัญที่สุดกับผู้หญิงคนนึง”

ตอนนี้เมย์ไม่สามารถให้นมลูกได้เหรอ ?

เมย์: “ยังไม่ทราบค่ะ ต้องดูตอนมีลูก”

อ.วันชัย : “เท่าที่ดูเธอบอกว่าสภาพการรับรู้ด้านข้างของเธอเสียไปหมด”

เมย์: “หน้าอกชา ไม่มีความรู้สึก”

อ.วันชัย : “ผมมอว่าเรื่องเงินกี่ล้านกับความเป็นผู้หญิง ถือว่าเป็นเรื่องใหญ่ การเรียกร้องเป็นเรื่องปกติ การต่อรองเยียวยาต้องพึงกระทำ แต่ไม่ได้มากล่าวหาว่าเรียกร้องมากเกินไป ใครผิดใครถูกเป็นเรื่องกระบวนการ ซึ่งทางผมกำลังดำเนินการอยู่”

ฝั่งโน้นบอกว่าเขาไม่ให้ 60 ล้าน เขาจ่ายให้ไม่ได้ ?

อ.วันชัย : “คนตัดสินคือศาล"

เมดฮับ นิวส์ medhubnews.com 

เว็บไซต์ข่าวสุขภาพ  สาธารณสุข การท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพ วาไรตี้ ฯลฯ 

Thailand Health and Wellness News   

ติดตามข่าวสารจาก medhubnews.com ได้จาก Facebook : sasook ของเรา 

02 มกราคม 2562

ผู้ชม 2463 ครั้ง

Engine by shopup.com