จิตแพทย์หวั่น “น้องเนย สาวประเภทสอง” ฆ่าตัวตายโดนรังแก ล้อเลียน "ชู้หน้าผีเข้าบ้าน เอามาจากขุมไหน" ล่าสุด "ขู่โชว์งู" เว็บไซต์สุขภาพ medhubnews.com ข่าวการแพทย์ บทความสุขภาพ ระบบสาธารณสุข เทคโนโลยี วิทยาศาสตร์ นวัตกรรม การค้าการลงทุนด้านสุขภาพ

บทความ

จิตแพทย์หวั่น “น้องเนย สาวประเภทสอง” ฆ่าตัวตายสำเร็จ หลังโดนรังแกหน้าผี "ขู่โชว์งู"

จิตแพทย์หวั่น “น้องเนย สาวประเภทสอง”

ฆ่าตัวตายโดนรังแก "หน้าผี ขู่โชว์งู"

จากโลกโซเชี่ยลแพร่คลิปหญิงสาวจับได้แฟนหนุ่มนอนอยู่กับสาวประเภทสองนั่งอยู่บนเตียงนอนในห้องตามลำพัง ซึ่งทั้งคู่ก็ต่างปฏิเสธ ไม่ได้มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกัน แต่สิ่งที่ขัดแย้งกับคำพูดคือ ฝั่งผู้ชายถอดเสื้อผ้าทั้งหมด จากนั้นวันที่ 30 ก.ค. ที่ผ่านมา หญิงสาวที่โพสต์คลิปได้ลบออกไปจากเฟสบุ๊ค

กรณีนี้ น้องเนย สาวประเภทสองในคลิป ยอมรับว่า  เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เกิดจากแอพพลิเคชันหาคู่ และพูดคุยและนัดเจอกับฝ่ายชาย ซึ่งได้คุยกันผ่านทางแอพฯมา 2 เดือน หลังจากที่คุยกันมาสักพักก็ไปเจอกันโดยบังเอิญที่ร้านเหล้าแห่งหนึ่ง ซึ่งทักทายและชนแก้วกันปกติตามภาษาวัยรุ่น

จนกระทั่งมาเจอกันรอบที่ 2 ในวันที่ 26 ก.ค. 61 ที่ผ่านมา ผู้ชายคนดังกล่าวได้ออกไปดื่มสุรา จากนั้นเมื่อร้านสุราปิด ชายหนุ่มก็ทักมาหา แล้วบอกว่ามากินเบียร์ที่บ้านเป็นเพื่อนหน่อย

ส่วนตัวก็คิดว่าไม่เหมาะสมเพราะตนเป็นสาวประเภทสองและได้บอกฝ่ายชายไป แต่ผู้ชายไม่เชื่อก็ได้พูดคุยกันจนสุดท้ายฝั่งผู้ชายก็ไปรับมาที่บ้าน แล้วก็นั่งกินเบียร์กันจนถึงเวลาประมาณตี 5 แล้วเข้าห้องนอน

แต่ผู้ชายได้ถอดเสื้อผ้าหมดและหวังจะมีอะไรด้วย แต่ตนไม่ยอมเลยนอนกอดแทน จนถึงเวลาประมาณ 6 โมงของวันที่ 27 ก.ค. 61 แฟนของผู้ชายเดินเข้ามาเปิดประตูห้อง หลังจากที่เห็นตัวเองก็ทำอะไรไม่ถูก เพราะผู้ชายบอกว่าไม่มีแฟน

medhubnews.com เว็บไซต์สุขภาพ สาธารณสุข การท่องเที่ยว วาไรตี้ และ เพจ sasook รายงานว่า เรื่องราวดังกล่าวนั้น กลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง โดยใช้คำแรงๆ เพื่อตำหนิน้องเนย สาวประเภทสองในคลิป เช่น ชู้หน้าผีเข้าบ้าน "เอามาจากขุมไหน"  “ชู้หน้าสะพรึง”  ฯลฯ

ทั้งนี้ เข้าใจว่า คำพาดหัวของบางสำนักข่าว รวมถึงคำที่ผู้สื่อข่าวเขียนในเนื้อข่าวนั้นนำมาจากคำพูดของแฟนสาวผู้ชาย ซึ่งไม่ได้เรียกน้องเนยเอง

แต่อย่างไรก็ตาม น้องเนย สาวประเภทสองในคลิป ออกมาไลฟ์สดว่า การที่ตนโกรธมาก เนื่องจากตนไม่ชอบที่ชาวเน็ตต่างดูถูกหน้าตน เปรียบเทียบหน้าตนว่าคล้ายผี และตนยังมีความรักนวลสงวนตัว ไม่ได้มีเพศสัมพันธ์กับชายคนดังกล่าว ขนาดเพื่อนผู้ชายที่เป็นแต๋วตนยังไม่กล้าไว้ใจเลย

รวมทั้งการล้อเลียนตนเป็นกะเทย มีงู และอยากดัง หากตนอยากดังจริง ตนโชว์งูไปแล้ว หากไม่หยุดล้อตนจะฆ่าตัวตาย  โดยหลายๆ ฝ่ายมองว่าการล้อเลียนกันจะทำให้เกิดปัญหาทางพฤติกรรม เกิดหนึ่งในปัญหาทางจิตเวชใหม่ๆ นำไปสู่สถานการณ์รุนแรง 

ด้านอธิบดีกรมสุขภาพจิต  กระทรวงสาธารณสุข ระบุถึงสถานการณ์การรังแกกันมีแนวโน้มทวีความรุนแรงขึ้น  ไม่ใช่ปัญหาเล็กน้อยอย่างที่ผู้ใหญ่ส่วนใหญ่เข้าใจ 

และที่น่าห่วงคือขณะนี้ เด็กเข้าถึงสื่อโซเซียลง่าย  พ่อแม่และครูมีเวลาให้เด็กน้อย เด็กเรียนรู้ความรุนแรงจากเกม สื่อต่างๆ และไปใช้กับเพื่อน

เด็กจำนวนมากกำลังเผชิญการถูกรังแก ล้อเลียน ส่งผลให้เกิดความเครียด ซึมเศร้า วิตกกังวล ไม่อยากไปโรงเรียนมากขึ้น และยังพบปัญหาใหม่มีการรังแกกันผ่านสื่อออนไลน์ ทั้งการใช้ข้อความ ภาพ หรือวิดีโอคลิปบนโลกอินเตอร์เน็ตด้วย

ข้อมูลผลการสำรวจในโครงการติดตามสภาวการณ์เด็กและเยาวชนรายจังหวัด พบว่ามีเด็กถูกรังแกในสถานศึกษาปีละประมาณ 6 แสนคน 

ปัจจุบันประเทศไทยอยู่ในอันดับ 2 ของโลกที่มีสัดส่วนนักเรียนถูกรังแกจากเพื่อนนักเรียนด้วยกันสูงถึงร้อยละ 40  รองจากประเทศญี่ปุ่น 

ขณะที่ในปี 2553 การสำรวจนักเรียนนักศึกษาในสถาบันการศึกษาทั่วประเทศพบว่าร้อยละ 33 เคยรังแกผู้อื่นทางออนไลน์ อีกร้อยละ 43 บอกเคยถูกคนอื่นรังแก

การรังแกกันหรือล้อเลียนกันในโรงเรียน  เป็นจุดเริ่มต้นและเป็นการปลูกฝังเด็กเรื่องความรุนแรง การทำร้ายกัน มีผลกระทบต่อเด็กทั้ง 2 ฝ่าย

หากถูกกดดันรุนแรงหรือเรื้อรัง จะนำไปสู่การทำร้ายคนอื่นเพื่อแก้แค้น หรือ ทำร้ายตนเอง รุนแรงถึงฆ่าตัวตายได้ 

ดังนั้นสังคมจึงต้องช่วยกันใส่ใจ เร่งสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยทั้งที่บ้านและโรงเรียน เพื่อลดการสูญเสียคุณภาพประชากรในสังคมที่เกิดจากผลกระทบปัญหานี้ในระยะยาว

เมดฮับ นิวส์ medhubnews.com 

เว็บไซต์ข่าวสุขภาพ  สาธารณสุข การท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพ วาไรตี้ ฯลฯ 

Thailand Health and Wellness News  

 

ติดตามข่าวสารจาก medhubnews.com ได้จาก Facebook : sasook ของเรา 

13 มกราคม 2562

ผู้ชม 4314 ครั้ง

Engine by shopup.com