"เท้าแบน" ภัยเงียบ ทรมานกระดูก ปวดสะโพก ไม่ใช่โรค แต่มาโดยไม่รู้ตัว เว็บไซต์สุขภาพ medhubnews.com ข่าวการแพทย์ บทความสุขภาพ ระบบสาธารณสุข เทคโนโลยี วิทยาศาสตร์ นวัตกรรม การค้าการลงทุนด้านสุขภาพ

บทความ

"ภาวะเท้าแบน" ภัยเงียบ ทรมานกระดูก เจ็บปวดสะโพก ไม่ใช่โรค แต่มาโดยไม่รู้ตัว

 

 MED HUB NEWSกรมการแพทย์ ชี้ คนที่มีเท้าแบน ควรทราบ เท้าแบน ไม่ใช่โรคเกิดจากความผิดปกติของโครงสร้างเท้า แต่หากปล่อยทิ้งไว้อาจเกิดภาวะแทรกซ้อน 

ล่าสุด medhubnews.com เว็บไซต์สุขภาพ สาธารณสุข การท่องเที่ยว วาไรตี้  และ เพจ sasook รายงานว่า  นายแพทย์ณรงค์  อภิกุลวณิช รองอธิบดีกรมการแพทย์และโฆษกกรมการแพทย์ ระบุถึงภาวะ เท้าแบน ไม่ไช่โรคแต่เป็นภาวะหนึ่งที่เกิดจากความผิดปกติของโครงสร้างเท้า

โดยลักษณะของเท้าไม่มีส่วนโค้งเว้าตรงกลางเท้า เมื่อลุกขึ้นยืน ฝ่าเท้าจะราบไปกับพื้นทั้งหมด ภาวะดังกล่าวอาจทำให้รู้สึกเจ็บปวดเวลาเดิน

แต่ไม่ใช่อาการที่เกิดขึ้นแบบเฉียบพลัน จะค่อยเป็นค่อยไปจนเริ่มมีอาการปวดเท้า ส้นเท้า ฝ่าเท้าด้านหน้า

เนื่องจากเส้นเอ็นเกิดการอักเสบ หรือ โรครองช้ำภาวะเท้าแบนแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่ เท้าแบนแต่กำเนิด ซึ่งเกิดจากความผิดปกติตั้งแต่เกิดโดยได้รับการถ่ายทอดทางพันธุกรรม และเท้าแบนที่เกิดขึ้นภายหลัง

สาเหตุจากไลฟ์สไตล์หรือวิถีชีวิต ตลอดจนการได้รับอุบัติเหตุ เช่น การเดินเท้าเปล่า หรือใส่รองเท้าแบนราบเป็นประจำและเป็นระยะเวลานาน น้ำหนักมากเกินไป อายุที่เพิ่มขึ้น เป็นต้น

นายแพทย์สมพงษ์ ตันจริยภรณ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเลิดสิน กรมการแพทย์กล่าวเพิ่มเติมว่าภาวะเท้าแบนสามารถส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวันและหากปล่อยทิ้งไว้อาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น กระดูกงอกหรือตาปลา อาการปวดสะโพก ปวดหลัง

โดยผู้ที่มีแนวโน้มจะเป็นภาวะเท้าแบน ได้แก่ ผู้ที่บุคคลในครอบครัวมีประวัติเป็นเท้าแบน ผู้ป่วยโรคอ้วน ความดันโลหิตสูง เบาหวาน โรคข้อรูมาตอยด์ รวมถึงสตรีมีครรภ์ เนื่องจากน้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้นและผลกระทบของฮอร์โมนในร่างกาย

สำหรับการรักษาภาวะเท้าแบน แบ่งเป็น 1. วิธีบำบัดทางกายภาพ โดยใส่อุปกรณ์เสริมที่เท้า เช่น แผ่นรองเท้าเฉพาะบุคคล เพื่อช่วยบรรเทาอาการเจ็บเท้าและหนุนเท้าผู้ป่วย

ออกกำลังกายยืดกล้ามเนื้อ และเนื้อเยื่อที่ยึดเชื่อมกันของขาส่วนล่าง  โดยนักกายภาพบำบัดจะเป็นผู้ให้คำแนะนำ 2.  การรักษาด้วยยา และ 3. การผ่าตัด

 

ทั้งนี้การป้องกันภาวะเท้าแบนไม่ให้มีอาการเพิ่มมากขึ้นสามารถทำได้โดยสวมรองเท้าที่พอดีและรับกับลักษณะฝ่าเท้า

หลีกเลี่ยงกิจกรรมหรือกีฬาที่ก่อให้เกิดแรงกระแทกที่ฝ่าเท้า  เช่น วิ่ง กระโดด เตะฟุตบอล ตลอดจนลดน้ำหนักเพื่อลดแรงกระแทกที่เท้า

เมดฮับ นิวส์ medhubnews.com 

เว็บไซต์ข่าวสุขภาพ  สาธารณสุข การท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพ วาไรตี้ ฯลฯ 

 

ติดตามข่าวสารจาก medhubnews.com ได้จาก Facebook : sasook ของเรา 

03 ธันวาคม 2561

ผู้ชม 3697 ครั้ง

Engine by shopup.com