"น้องมุก" ติดไข้หวัดใหญ่ที่ปทุม รักษาที่ชุมชนขาดความรู้ ตระเวน 4 โรงพยาบาล

MED HUB NEWS - กรณี น.ส.พัชราวัลย์ วงษ์เวช หรือ น้องมุก อายุ 23 ปี ทำงานร้านอาหารที่จังหวัดปทุมธานี และมีบ้านเกิดที่ อ.ทัพทัน จ.อุทัยธานี เสียชีวิตจากการติดเชื้อ ไข้หวัดใหญ่ H1N1 ตั้งแต่ ปลายเดือนกรกฎาคม 2561  จนกระทั่ง 20 สิงหาคม 2561 รวมทั้งหมดเพียง  20 กว่าวันเสียชีวิต  

ช่วง น้องมุก เป็นไข้หวัดใหญ่ ได้อยู่ที่ปทุมธานี จากนั้นกลับบ้าน อ.ทัพทัน จ.อุทัยธานี ทางแพทย์ได้ทำการเจาะเลือดไปตรวจ พร้อมกับเอกซเรย์ปอด ก็พบว่าเป็นปอดข้างหนึ่งมีฝ้าขาวเต็มไปหมด ส่วนปอดอีกข้างหายไปกว่าครึ่ง สุดท้ายอาการทรุดหนัก ระบบการหายใจล้มเหลว

ญาติเรียกร้องให้กระทรวงสาธารณสุข ช่วยรณรงค์ให้ความรู้กับประชาชนทั่วถึงมากกว่านี้ 

จากการตรวจสอบของ medhubnews.com พบว่า น้องมุกไปพบแพทย์ที่คลินิกในตลาด อ.ทัพทัน จ.อุทัยธานี จากนั้นไปรักษาโรงพยาบาลแห่งหนึ่งที่ทำกับประกันสังคมไว้แต่ไม่ดีขึ้น

กระทั่งต้องพาไปรักษาตัวที่ โรงพยาบาลวิภาวดี ต่อจากนั้น โรงพยาบาลการุญเวช นวนคร และได้นอนพักรักษาตัวได้ 5 วัน แต่น้องมุก กลับมีอาการแย่ลง

ญาติจึงขอให้นำตัวส่งไปรักษาที่ โรงพยาบาลเกษมราษฏร์ อินเตอร์เนชันแนล จ.นนทบุรี เนื่องจากเป็น โรงพยาบาลใหญ่

"หมอสุนทร เหรียญภูมิการกิจ" นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดอุทัยธานี

ขณะที่ญาติไม่ติดใจ เพียงอยากเรียกร้องให้กระทรวงสาธารณสุข ช่วยรณรงค์ให้ความรู้กับประชาชน เพราะเป็นโรคที่อันตราย ประชาชนควรรู้จักวิธีป้องกัน

อีกทั้งต้องอาศัยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในการรักษา ต้องตรวจเลือดอย่างละเอียดเพื่อหาสาเหตุการป่วย แต่ประชาชนทั่วไปมักจะไม่ค่อยรู้ และรักษาอาการด้วยการซื้อยามาทานเอง ซึ่งเป็นเรื่องอันตรายอย่างยิ่ง  

medhubnews.com เว็บไซต์สุขภาพ สาธารณสุข การท่องเที่ยว วาไรตี้  และ เพจ sasook รายงานว่า นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข และ โฆษกกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า

ขณะนี้ประเทศไทยมีสภาพอากาศแปรปรวน หลายพื้นที่มีมีฝนตกสลับอากาศร้อน ส่งผลให้กลุ่มเสี่ยง เด็กเล็ก ผู้สูงอายุและผู้มีโรคประจำตัว เสี่ยงเจ็บป่วยด้วยโรคที่พบบ่อยคือโรคไข้หวัดใหญ่

โรคนี้รักษาได้ไม่เป็นอันตรายร้ายแรง อาการของโรคมักจะเกิดขึ้นทันทีทันใดด้วยอาการไข้สูง ตัวร้อน หนาว ปวดเมื่อยตามกล้ามเนื้อมาก ปวดศีรษะ อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร คัดจมูก มีน้ำมูกใสๆ ไอ ไข้ ประมาณ  2–4 วัน

และค่อย ๆ ลดลง อาการจะค่อยๆ ดีขึ้นโดยโรคแทรกซ้อนที่พบบ่อยในกลุ่มเสี่ยง คือ โรคปอดบวม ผู้ป่วยจะมีไข้สูงหนาวสั่น ไอมีเสมหะสีเหลืองหรือเขียว หายใจเหนื่อยหอบ

ตนได้กำชับสำนักงานสาธารณสุขทุกจังหวัดทั่วประเทศ ประชาสัมพันธ์ย้ำเตือนให้ความรู้ประชาชนในการป้องกันการเจ็บป่วย ด้วยมาตรการ ปิด ล้าง เลี่ยง หยุด

คือ ปิดปากจมูกเมื่อป่วย ไอ จาม สวมหน้ากากอนามัย หรือไอใส่ต้นแขนตนเอง ล้างมือบ่อย ๆ ก่อนรับประทานอาหาร

หลังไอ จาม หรือสั่งน้ำมูก เลี่ยงการอยู่ใกล้ผู้มีอาการป่วย มีไข้ ไอ จาม หรืออยู่ในสถานที่คนมาอยู่รวมกันจำนวนมาก ให้หยุดงาน หยุดเรียน หยุดกิจกรรมกับผู้อื่นเมื่อป่วย

เพื่อให้หายป่วยเร็ว และไม่แพร่เชื้อให้คนอื่น รวมทั้งให้โรงพยาบาลทุกแห่งดูแลรักษาผู้ป่วยตามมาตรฐานการรักษา ป้องกันการเกิดโรคแทรกซ้อน

น.ส.พัชราวัลย์ วงษ์เวช หรือ น้องมุก

 “ในกรณีที่มีข่าวพบผู้เสียชีวิตจากโรคไข้หวัดใหญ่ที่จังหวัดอุทัยธานีนั้น ให้สำนักระบาดวิทยาลงพื้นที่สอบสวนหาสาเหตุการเสียชีวิต

อย่างไรก็ตาม ขอให้ประชาชน ยึดหลักสุขอนามัยที่ดี หมั่นล้างมือด้วยน้ำและสบู่ หลีกเลี่ยงคลุกคลีกับผู้ป่วย ไม่ใช้ของใช้ร่วมกับผู้ป่วย ไม่อยู่ในที่ที่มีผู้คนแออัดและอากาศถ่ายเท เป็นเวลานาน

สวมเสื้อผ้าหนาๆ ให้ความอบอุ่นร่างกายอย่างเพียงพอ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ ดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 6-8  แก้ว  

หากสงสัยป่วยโรคไข้หวัดใหญ่ หรือป่วยเกิน 48 ชั่วโมง อาการไม่ดีขึ้น เหนื่อยง่าย หรืออยู่ในกลุ่มเสี่ยง ควรพบแพทย์ทันทีเพื่อรับการรักษาป้องกันภาวะแทรกซ้อนโรค สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร 1422” นายแพทย์โอภาส กล่าว

ด้าน "หมอสุนทร เหรียญภูมิการกิจ" นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดอุทัยธานี สั่งการให้หน่วยงานของสาธารณสุขทุกแห่ง ทั้งโรงพยาบาลชุมชน สาธารณสุขอำเภอ และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล เฝ้าระวังตรวจคัดกรองผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยง และผู้ป่วยเป็นไข้หวัดอย่างละเอียด

หากมีภาวะเสียง และ สงสัยว่าผู้ป่วยจะติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ H1N1 หรือสายพันธุ์อื่นๆจะให้ยาต้านทันที ส่วนผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยงทาง สสจ.ได้มีการรณรงค์ฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่แล้วทั้งหมดกว่า 4 พันราย 

ข้อมูลจากสำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค ตั้งแต่ต้นปีนี้ถึงปัจจุบันพบผู้ป่วยแล้วเกือบ 90,000 คน เสียชีวิต 12 ราย เฉพาะเดือนกรกฎาคมเดือนเดียว พบผู้ป่วย 16,056 คน  เสียชีวิต 2 ราย

เมดฮับ นิวส์ medhubnews.com 

เว็บไซต์ข่าวสุขภาพ  สาธารณสุข การท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพ วาไรตี้ ฯลฯ 

ติดตามข่าวสารจาก medhubnews.com ได้จาก Facebook : sasook ของเรา