ดาราป่วยโรคซึมเศร้า “เอิร์ก เลเดอเรอร์” กล้าออกทีวีแฉ “เก๋ เลเดอเรอร์” ฆ่าตัวตาย
ดาราป่วยโรคซึมเศร้า “เอิร์ก เลเดอเรอร์” กล้าออกทีวีแฉ “เก๋ เลเดอเรอร์” ฆ่าตัวตาย
MED HUB NEWS - ดาราป่วยโรคซึมเศร้า กรณีการเสียชีวิตที่มีเงื่อนงำของนางแบบเซ็กซี่ “เก๋ กันยกร ศุภการค้าเจริญ” หรือ “เก๋ เลเดอเรอร์” ตัดสินใจจบชีวิตด้วยการกินยาฆ่าหญ้าก่อนกระโดดตึกฆ่าตัวตาย โดยคนที่ถูกสังคมสงสัยมากที่สุดเห็นจะเป็นอดีตหุ้นส่วนธุรกิจ “เอิร์ก เลเดอเรอร์” ดาราป่วยโรคซึมเศร้า
เพราะมีเพจอ้างว่ามีจดหมายลาตายเก๋ที่มีการพาดพิงชื่อเอิร์ก รวมไปถึงการที่เก๋ไปออกรายการปากปลาร้าหน้าเป๊ะ พูดถึงอดีตพาร์ทเนอร์ กับโลกปลอมๆ ที่ถูกสมมติมาโดยตลอด
กอง บ.ก.เว็บไซต์ medhubnews.com ข่าวสุขภาพ สาธารณสุข การท่องเที่ยว วาไรตี้ และ เพจ sasook รายงานว่า โหนกระแสวันที่ 17ก.ย. ทางช่อง 28 ได้เปิดใจสัมภาษณ์ทุกสิ่งที่สังคมตั้งคำถามกับ “เอิร์ก” ซึ่งเจ้าตัวยอมมาเปิดใจที่นี่ที่แรก
รู้จักกันมานานหรือยัง ?
เอิร์ก: “นานมาแล้วครับ ตั้งแต่เรียนมหาลัย เราไม่ใช่พี่น้องแท้ๆ เก๋เวลาออกรายการที่เจาประเด็นต่างๆ เก๋ก็พูดชัดเจนว่าเราไม่ใช่พี่น้องกันแท้ๆ และเก๋ใช้นามสกุลเอิร์กเพื่อที่จะอยู่ในวงการบันเทิง”
แล้วทำไมมาเป็นพี่น้องกันได้ ?
เอิร์ก: “มันเกิดจากการที่เก๋มีปัญหากับทางบ้าน และเก๋ขอมาอยู่บ้านเดียวกับเอิร์กตอนที่เราเรียนจบ คือมาอยู่ที่กรุงเทพกรีฑา เก๋ไม่ได้เอาอะไรมาเลย ณ วันที่เก๋มา เอาแค่เสื้อผ้ามาและของใช้มานิดหน่อยและมาอยู่กับเอิร์กเลย แล้วเก๋ก็บอกกับแม่เอิร์กว่าขอเป็นลูกบุญธรรม ขอใช้นามสกุล
แต่คราวนี้เก๋อายุเกิน ทำเรื่องยาก เลยรับกันในนามว่าเป็นลูกบุญธรรมเอิร์กกับเก๋สนิทกับนักข่าวสำนักนึงแล้วเขาบอกว่าเอิร์ก เก๋ เธอออกข่าวคู่กันตลอด
ประชาชนชอบวิเคราะห์ว่าเป็นสามีภรรยากัน ก็ให้เป็นพี่น้องกันชัดเจนไปเลย ให้ใครเป็นพี่คน น้องคน ประมาณนี้ เก๋ไปออกรายการก็จะบอกว่าเป็นพี่น้องบุญธรรมกับเอิร์ก เก๋ให้สัมภาษณ์กับนักข่าว ว่าเก๋หน้าแก่กว่าเลยเป็นพี่"
หลังคุณเก๋เสียชีวิต มีประเด็นเงิน 14 ล้านบาท คุณเก๋ถอนให้คุณและบอกให้ซื้อรถลัมโบร์กินี แต่คุณไปซื้อเป็นเงินผ่อน หลังจากนั้นจับได้ เลยให้ขายรถคันนี้และเอาเงินมาคืน ?
เอิร์ก: “ไม่จริงครับ ผมกับเก๋เรารับรู้มาด้วยกันโดยตลอดตั้งแต่แรกว่าเราจะซื้อเงินผ่อนตั้งแต่แรก และเอิร์กมีเอกสารมาให้ดูเป็นเอกสารที่เราซื้อรถคันนี้และเก๋เองก็ยังเป็นคนค้ำประกันให้เอิร์กด้วยเราไปซื้อด้วยกัน ก็ไม่รู้มีข่าวหลุดออกมาได้ยังไง ว่าเก๋ไม่รู้เรื่องเลย”
ชื่อของคุณ องอาจ เลเดอเรอร์ สัญญาเช่าซื้อปี 2013 สีเขียว คุณผ่อนจริง และคุณเก๋จะไม่รู้เรื่องนี้เป็นไปไมได้ เพราะลงชื่อเก๋เป็นผู้ค้ำประกัน เรื่อง 14 ล้านที่ถอนมาให้คุณไม่จริง?
เอิร์ก: “ไม่เป็นความจริงเลยครับ เอิร์กไม่รู้ข่าวหลุดมาได้ยังไง และใครให้ข่าว เอิร์กแค่อยากจะออกมายืนยันว่าข่าวต่างๆ ที่ออกมาต่างๆ ไม่เป็นความจริงเท่านั้น เอิร์กไม่ได้ต้องการที่จะทำร้ายเก๋เลย เพราะเอิร์กรักเก๋ เราสองคนรักกัน เราสร้างทุกอย่างมาด้วยกันทั้งคู่”
ไม่ใช่มาโยนความผิดให้คนเสียชีวิต?
เอิร์ก: “ไม่ครับ ถ้าเก๋พูดจริงๆ เอิร์กเชื่อว่าเก๋ต้องมีเหตุผลของเก๋ เอิร์กเคารพในการตัดสินใจของเก๋”
เรื่องเงิน 14 ล้านที่เป็นประเด็นข่าว ในเมื่อคุณไม่ได้เอาไปซื้อรถลัมโบร์กินี 14 ล้านเป็นหนี้อยู่จริงมั้ย?
เอิร์ก: “จริงครับผม ผมว่าคนตีความงงมากกว่า เหมือนเอามาโยงกันให้สับสน ไม่รู้ข่าวลือมาจากไหน หรือใครให้สัมภาษณ์มาจากไหน 14 ล้านมันเกิดจากการที่เราทำธุรกิจร่วมกัน เรามีหุ้นส่วน
เป็นคลินิกเสริมความงามทั้งสองสาขา ตอนแรกชื่อเลเดอเรอร์คลินิก มีที่รามอินทรากับบางนา พอมาวันนึงเก๋บอกว่าตอนนี้เราสองคนต้องแยกกันแล้ว เธอจะได้ไปทำของเธอสบายใจ เดี๋ยวฉันทำตรงนี้เอง อยากให้คนมาประคองตรงนี้ช่วยเพราะมันต้องใช้เงินเยอะ เอิร์กก็โอเค เคารพในการตัดสินใจของเธอ
เสร็จปุ๊บพอแยกปุ๊บ มันก็เกิดจากการที่หุ้นส่วนรามอินทรา บอกว่าฉันไม่รู้เรื่อง จากการที่เธอเอาเงินของหุ้นส่วนมา เสร็จปุ๊บเก๋ก็โอนเงินบางส่วนให้เอิร์ก เพื่อให้เอิร์กไปทำบางนา เขาก็บอกว่าฉันไม่รู้เรื่อง เพราะเธอไม่ได้ทำเอกสารให้ฉัน”
เงินทุนมาจากไหน ?
เอิร์ก: “มาจากคนรู้จักและคนที่เชื่อมั่นในตัวเรา ทีอยู่รอบตัวเรานี่แหละครับ เอาเงินมาหารกัน พูดง่ายๆ”
โดยมีคุณสองคนเป็นตัวยืน ใครอยากร่วมลงทุนเอาเงินมา ?
เอิร์ก: “ใช่ อย่างละแค่ 7 คน ส่วนใหญ่เป็นคนที่เชื่อมั่นในตัวเราและเป็นคนที่เราสนิท ถามว่าคนละเท่าไหร่ จริงๆ ไม่เท่ากันครับ จำไม่ได้แล้วว่าเท่าไหร่บ้าง ไม่อยากลงรายละเอียดด้วยครับผม”
เงินโอนเข้าบัญชีใคร ?
เอิร์ก: “โอนเข้าบัญชีเก๋ทั้งหมด เก๋เป็นคนเซ็นรับทั้งหมดครับผม”
14 ล้านนั่นน่ะเหรอ ?
เอิร์ก: “เยอะกว่านั้นครับ แต่ 14 ล้านเป็นเงินที่เก๋โอนเข้าบัญชีเอิร์ก เพื่อถ่ายโอนมาว่าไปทำบางนาต่อด้วย อาจเป็นความหละหลวมของเก๋กับเอิร์กเองที่ไม่ได้ทำสัญญาตั้งแต่แรก ว่าเงินตรงนี้ทั้งสองสาขาจะใช้ร่วมกัน ยอมรับว่าตรงนี้หละหลวมเอง เก๋ก็พิมพ์ไลน์มาว่าเขาหละหลวมเอง แต่เราไม่ได้มีเจตนาที่ไม่ดี ทั้งสองคลินิกก็เปิดได้ จนมันลื่นไหลของมันไปแล้ว”
จนคุณเก๋มาขอแยก?
เอิร์ก: “มาวันนึงเก๋บอกว่าเราสองคนต้องแยกกัน เพื่อให้คนสนิทเก๋เข้ามาอยู่ตรงนี้เพื่อซัปพอร์ต”
คนสนิทคือแฟน?
เอิร์ก: “ไม่พูดชื่อดีกว่าเป็นการพาดพิง เอาง่ายๆ ตอนนี้มีสองประเด็น คือครอบครัวแท้กับครอบครัวแฟน ก็ให้คนไปตีความเอาแล้วกันว่าเป็นใคร เอิร์กพูดไม่ได้”
เงินเข้าบัญชีคุณเก๋ มากกว่า 14 ล้าน คุณเก๋โอนให้คุณ 14 ล้านเพื่อบริหาร?
เอิร์ก: “ไม่รู้ว่า 14 ล้านมั้ยเพราะเอิร์กไม่ได้เช็ก แต่ทางครอบครัวเป็นคนไปเช็กว่าเงินจากเก๋เขาบัญชีเอิร์ก14 ล้าน ครอบครัวที่เก๋เอามาแทนเอิร์ก เขาบอกว่าเงินหายเข้าบัญชีเอิร์ก14 ล้าน เขาเช็กจากสเตทเมนต์ เราก็โอเค
เพราะฉะนั้นคุณต้องรับผิดชอบเพราะสองคลินิกแยกกันแล้ว เขาให้เรารับผิดชอบ จริงๆ เราต้องรับผิดชอบร่วมกัน ทั้งเอิร์กและเก๋ เพราะเงินเราใช้ด้วยกันทั้งคู่ และเงินเข้าทางเก๋ด้วยซ้ำ แต่ไม่เป็นไร เราจะใช้แทนเก๋ทั้งหมดไม่ได้พูดให้สวยหรูนะครับ
แต่ที่จะใช้แทนเพราะเก๋เขาหาเงินลำบาก เขาหาเงินไม่ได้แล้ว สองปีที่ผ่านมาเขาหาเงินไม่ได้ เพราะเขามีปัญหาเรื่อง กลต. ซึ่งทุกคนรู้ดี คนไม่เชื่อถือ กลายเป็นเอิร์กที่หาเงินได้อยู่คนเดียว
นี่คือเหตุผลที่เอิร์กอยากรับผิดชอบช่วยเก๋ เรารักเขาพูดง่ายๆ ไม่ต้องรับผิดชอบร่วมกันกับฉัน เดี๋ยวฉันรับผิดชอบคนเดียวเลย
ทั้งๆ ที่เก๋เซ็นเอกสารรับเงิน เงินโอนเข้าบัญชีเก๋ โอนต่อเอิร์กก็จริง เอิร์กไม่ได้โอนต่อก็จริง แต่เก๋เอาเอทีเอ็มเอิร์กไปใช้จ่ายบางนา เพราะเก๋เป็นคนจัดการเรื่องเงินให้เอิร์กทั้งหมด เพื่อนๆ ทุกคนรู้ดี”
คุณไม่ได้โยนความผิดให้คนตาย?
เอิร์ก: “ไม่โยนครับ นี่เล่าเรื่องจริงกัน เอิร์กรักเก๋ วันนี้เรามานั่งคุยความจริงกัน”
คุณมีหลักฐานมั้ย14 ล้านรับสภาพหนี้แทนเก๋?
เอิร์ก: “มีครับ ( โชว์เป็นหนังสือรับสภาพหนี้ ) เราไม่ได้เอาเงินไปใช้ส่วนตัว แต่เราเอาไปทำคลินิกบางนา จริงๆ ครับ สาเหตุอีกอย่างเราสองคนอาจพลาดเองที่ไม่ได้มีเอกสารตั้งแต่ตอนแรก เพราะเราไม่ได้คิดเยอะเราคิดแค่ว่าต้องสร้างสาขาให้เสร็จแค่นั้น”
14 ล้านบาท ทำไมต้องไปเซ็นกับคนสนิทคุณเก๋ เขาให้คุณกู้เงินเหรอ?
เอิร์ก: “ไม่ครับผม”
เขาเอาเงินไปจ่ายลูกหนี้เหรอ?
เอิร์ก: “อันนี้เอิร์กไม่ทราบครับ เก๋โทรมาบอก เอิร์กก็เซ็นไป เราก็ยอมเซ็นแทน พอไปถึงปุ๊บก็เป็นเอกสารนี้เลย”
มีผู้ร่วมลงทุนบางท่าน ติดต่อมาที่รายการ เขาบอกว่าเขาลงเงิน 5 แสนเพื่อทำคลินิกกับคุณและคุณเก๋ เขาบอกว่าคุณเก๋รับเงินไป แต่มีการคุยกับคุณเอิร์กแล้ว คุณบอกจะจ่ายแทนให้ แต่ ณ วันนี้ยังไม่จ่าย ตกลงประเด็นนี้คุณต้องไปจ่ายหรือคนที่ทำสัญญากับคุณเป็นเจ้าหนี้ต้องไปจ่าย ?
เอิร์ก: “คือผมจ่ายให้เขาแล้ว ส่วนเขาจะไปจ่ายให้ใคร ก็เป็นเรื่องของเขา ตอนแรกเอิร์กไม่รู้ว่าทางหุ้นส่วนรามอินทรากับเขาคุยกันแล้วหรือเปล่า เพราะเอิร์กไม่รู้ข้างหลังจริงๆ เอิร์กรู้แค่อย่างเดียว
ในเมื่อเงินโอนเข้าบัญชีเรามาและไม่ถูกตีกลับไป เรารู้แค่ว่าเราไม่อยากมีปัญหากับใครเลยไม่อยากให้เก๋เสียใจ และไม่อยากให้เก๋มีปัญหากับเขาด้วย เราก็เซ็นแทนเลยแล้วกัน โดยเก๋ไม่ได้รับผิดชอบเพราะเธอหาเงินไม่ได้อยู่แล้ว”
แล้วผู้ร่วมลงทุนแต่ละคนใครจ่ายให้เขา ?
เอิร์ก: “เอิร์กไม่รู้ครับเพราะเอิร์กจ่ายให้ทางนี้ไปแล้ว เอิร์กรู้แค่ว่าเอิร์กต้องรับผิดชอบตรงนี้แทนเก๋ เอิร์กรู้แค่นี้ ที่เหลือก็มีหน้าที่รับผิดชอบหาเงินจ่าย เดือนที่แล้วคือครั้งแรกที่จ่าย คือ 3 ล้าน”
จ่ายให้คนสนิทคุณเก๋ ?
เอิร์ก: “ใช่ครับ แล้วเดือนนี้เอิร์กต้องจ่ายอีก 8 ล้าน แต่มันยังไม่ถึงสิ้นเดือน ก็เท่ากับเอิร์กยังไม่ผิดสัญญาอะไรเลย เดือนถัดไปอีก 3 ล้าน เอิร์กก็ต้องจ่ายเหมือนกัน”
อันนี้เป็นปัญหาที่ทำให้เก๋โดดตึกหรือเปล่า?
เอิร์ก: “เอิร์กว่าไม่ใช่ เพราะอะไรรู้มั้ยครับ เพราะเอิร์กเป็นหนี้แทนเก๋ และเก๋ไม่ได้รับผิดชอบตรงนี้ ทำไมเก๋ต้องโดดตึกเพื่อเหตุผลนี้ ทั้งที่เราเซ็นรับผิดชอบช่วยเขา”
สมมติคุณให้เก๋ออกหน้า เพื่อรับเงินจากคนร่วมลงทุน แล้วเก๋ก็โอนเงินมาให้คุณ ถึงเวลาปัญหาเกิด แยกกันออกไป ผู้ร่วมลงทุนแต่ละคนก็ไปทวงที่เก๋ เก๋บอกไม่ได้ ต้องไปทวงที่เอิร์ก
เพราะโอนให้เอิร์กไปหมดแล้ว เพราะฉะนั้นเอิร์กก็ต้องจ่าย แต่เป็นเพราะเอิร์กไม่จ่ายหรือเปล่า ทำให้เก๋คิดสั้น เพราะเธอออกหน้า ฆ่าตัวตาย ?
เอิร์ก: “มองอย่างนั้นไม่ได้ เพราะสุดท้ายเอิร์กมีหลักฐานว่าเอิร์กเซ็นรับหนี้แทนเก๋แล้ว”
คนนี้มีความสำคัญอะไร ต้องมาเป็นเจ้าหนี้แทนเก๋ ?
เอิร์ก: “คนนี้เขาเป็นกรรมการผู้จัดการรามอินทรา ซึ่งตอนแรกเอิร์กเป็น ตอนแรกเอิร์กเป็นซีโอที่นั่น และเก๋ให้เอิร์กถอนออกมา แล้วให้เขาเข้าไปแทนที่ เอิร์กก็เลยคิดว่าคนนี้เป็นตัวแทนหุ้นส่วนหลักทั้งหมด เอิร์กก็ปรึกษาทนาย
ทนายพูดว่าคุณเอิร์กไม่ได้เป็นหนี้คนนี้นี่ คุณเอิร์กต้องใช้หนี้บริษัทคลินิกรามอินทราไม่ใช่เหรอ ที่ใช้แทนคุณเก๋ และคุณเก๋ไม่อยากให้บอกใคร
เอิร์กไม่รู้ว่า ณ วันนี้ทำไมข่าวหลุดออกมา อาจจะเป็นเพราะเก๋ลงรูป หรืออาจจะบอกคนใกล้ตัวเก๋แล้วหลุดออกมาก็ไม่รู้”
เป็นเถ้าแก่จริง?
เอิร์ก: “เป็นเถ้าแก่จริง อันนี้เก๋บอกกับทางโน้นว่าเอิร์กคือทุกสิ่งทุกอย่างของเขา เก๋รักเอิร์กมากถึงขั้นตายแทนได้ เป็นคนที่ทำให้เขามีวันนี้ เขาเลยให้เอิร์กไปเป็นเถ้าแก่ให้ ไม่ใช่ว่าเขาไม่รักพ่อแม่เขานะ แต่ด้วยความที่อยู่ในวงการบันเทิง เก๋ไม่อยากให้ใครรู้เลย”
สินสอดล้านเดียวเขาว่าคุณเอาไป เก๋ไม่ได้จับเลย?
เอิร์ก: “เอาตรงๆ นะครับ เป็นไปไมได้ คือถ้าเกิดมีคนแต่งงาน เราจะยอมให้คนอื่นเอาเงินสินสอดไปเหรอ ไม่มีทาง”
เคยเจอพอลแฟนคุณเก๋มั้ย?
เอิร์ก: “เคยเจอครับ น่าจะสองสามครั้งเท่านั้น และไม่เคยเจอตัวต่อตัว หรือไม่เคยเจอสองคน เจอก็มีเก๋ด้วย”
คุณไม่ได้เกี่ยวข้องกับเงิน 1 ล้านบาท คุณไม่ได้เอาไปใช้?
เอิร์ก: “เอาเป็นว่าเราใช้กระเป๋าเดียวกัน และบัญชีเดียวกันในช่วงโน้น”
คุณโก้ ธีรศักดิ์ บอกเป็นไปได้เหรอ ผัวเมียยังไม่ใช้กระเป๋าร่วมกันเลย?
เอิร์ก: “ไม่ต้องเชื่อก็ได้ แต่เราสองคนใช้ร่วมกันจริงๆ คือเก๋ามาอยู่กับเอิร์กตั้งแต่แรก เก๋มาแต่เสื้อผ้าเฉยๆ ตามภาษาคนเป็นครอบครัวเป็นพี่น้องเรารักกัน เราหาเงินร่วมกัน เรารวมกันขายครีมกระปุกไม่กี่พัน เราก็ใช้ร่วมกัน มันไม่แปลกนะครับ ไม่ใช่ว่าเก๋มีเงิน ไม่ใช่ว่าเรามาจากครอบครัวร่ำรวย มันไม่ใช่”
เขาพูดกันว่าคุณกับแฟนคุณเก๋ มีความสัมพันธ์ลึกซึ้ง?
เอิร์ก: “ไม่จริงครับผม ผมไม่เคยรู้จักพี่พอลมาก่อนเลย”
วันที่คุณเก๋กระโดดตึกฆ่าตัวตาย คณเก๋ไปอยู่ที่รพ.ลาดพร้าว ยังไม่เสียชีวิต คุณไปมั้ย?
เอิร์ก: “ไปครับ ทางครอบครัวของแฟนเก๋ โทรมาบอกเอิร์กเอิร์กก็ไปทันที ณ วันนั้นในช่วงที่เอิร์กไปเขาเปิดให้ญาติเข้าไปได้พอดี”
คุณไปทำไม ในเมื่อคุณเก๋ก็พูดในรายการคุณโก้ว่าเขาเลิกคบคุณ เลิกคุยตั้งแต่เดือนเม.ย.ปีที่แล้ว เหมือนผีไม่เผา เงาไม่เหยียบ?
เอิร์ก: “(นิ่ง) เอิร์กรักเก๋ครับ เท่านั้นเลย”
คุณสะเทือนใจเหรอ?
เอิร์ก: “เหตุผลมีแค่นั้นเลยครับ”
ตอนนั้นมีปัญหาจริงๆ?
เอิร์ก: “เอิร์กไม่ได้มีปัญหากับเก๋เลย”
แล้วทำไมเขาไปพูดในรายการคุณโก้แบบนั้น?
เอิร์ก: “เอิร์กไม่รู้จริงๆ เอิร์กว่าเก๋น่าจะมีเหตุผล เพราะก่อนหน้าแยกคลินิก เก๋บอกว่าเราสองคนต้องแยกกันแล้วนะ เราจะต้องทะเลาะกัน ทำเป็นทะเลาะกัน เพื่อให้ทางครอบครัวเก๋เข้ามาช่วยเก๋ตรงนี้
วันนี้เอิร์กไม่ได้ออกมาฆ่าเก๋ ไม่ได้ออกมาทำร้ายเก๋ แต่เอิร์กออกมาพูดความจริง ออกมาปกป้องสิทธิความเป็นมนุษย์เพราะตอนนี้ครอบครัวเอิร์กก็เดือนร้อน เอิร์กก็เดือนร้อน แม่เอิร์กก็เสียใจ ว่าทำไมลูกเขาโดนคนกล่าวหา ทั้งที่อีกคนที่เสียชีวิตเขาก็รักเหมือนลูกเหมือนกัน มันไม่ใช่”
วันที่เห็นคุณเก๋ เขาเป็นยังไง?
เอิร์ก: “พอเอิร์กไปยืนปุ๊บเอิร์กก็ร้อง เก๋ตานิ่ง พอเอิร์กเดินเข้าไป เขากระพริบตาเบาๆ เหมือนตาสั่น อาจจะคิดเข้าข้างตัวเองเหมือนเขาบอกว่าเอิร์กมาแล้วเหรอ หน้าเขาเป็นอย่างนั้นเลย เอิร์กคิดว่าเขาดีใจที่เห็นหน้าเอิร์กครับผม”
เป็นไปได้มั้ย ว่าคนที่ไม่ชอบคุณอาจคิดไปได้ว่าเก๋อาจจะบอกว่าคุณมาทำไม?
เอิร์ก: “ไม่เป็นไรครับ เราสองคนอยู่ด้วยกันมาเป็นสิบๆ ปี บ้านหลังเดียวกัน สู้ทุกอย่างมาด้วยกัน คนอื่นคือคนนอกไม่ได้สัมผัสอะไรแบบนี้มากับเราสองคน”
การที่แกล้งทะเลาะกัน ทำให้เก๋ออกมาพูดออกรายการขนาดนั้นเลยเหรอ?
เอิร์ก: “ไม่ได้แค่แกล้งทะเลาะกัน แต่เก๋บอกว่าจะบอกทุกคนที่รามอินทราว่าเอิร์กกับเก๋ทะเลาะกัน เอิร์กไม่ให้อะไรเก๋แล้ว ไม่ดูแลแล้ว แยกกันแล้ว ก็ให้ทางนี้ซัปพอร์ต”
เหมือนคุณพูดไม่ได้ว่ามีคนอยู่เบื้องหลัง ทำให้คุณกับเก๋มีปัญหากัน?
เอิร์ก: “ครับ”
คุณกำลังสื่อให้ฟังว่ามีเบื้องหลังมากว่านั้นแต่พูดไม่ได้?
เอิร์ก: “มีเบื้องหลังมากกว่านั้นแน่นอน มีตัวละครอีกเยอะในการเสียชีวิตของเก๋ ทุกคนสังเกตดีๆ ว่าข่าวแต่ละข่าวออกมาแปลกหมดเลย”
คิดว่าเขาฆ่าตัวตายเพราะอะไร?
เอิร์ก: “เอิร์กคิดว่าเก๋กดดัน ในเรื่องครอบครัวเขา”
พ่อแม่เขาแท้ๆ เหรอ?
เอิร์ก: “ครอบครัวแท้ๆ ไม่มีปัญหาเลย เป็นครอบครัวที่ดูแลเก๋ เขาอาจจะกดดัน”
ไม่ใช่พ่อแม่น้องเพชร?
เอิร์ก: “ไม่ใช่ครับ เงินก็ส่งให้ตลอด หลักฐานไลน์ก็มี การขายครีมเดือนก่อนเก๋จะตายก็ยังคุยกันอยู่ เขาบอกว่าอย่าโอนค่าครีมมานะ เดี๋ยวเอาไปให้หุ้นส่วน เขาบอกว่าไปใช้ส่วนตัวแล้วเพราะไม่มีเงิน”
เป็นบทสนทนาที่คุณคุยกับคุณเก๋ก่อนเสียชีวิต?
เอิร์ก: “ใช่ ก็ได้ ไม่เป็นไร เดี๋ยวออกให้เอง”
เรื่องบ้านที่เขาว่าคุณเอาบ้านคุณเก๋ไปขาย ที่กรุงเทพกรีฑา?
เอิร์ก: “มีข่าวและคอมเมนต์เยอะมากว่าเก๋เอาบ้านที่กรุงเทพกรีฑาไปขาย อาจเป็นหนึ่งในสาเหตุ แต่นี่คือบ้านเอิร์ก เก๋มาอยู่กับเอิร์ก มีโฉนด เอิร์กกับแม่เป็นเจ้าของ ไม่ได้เกี่ยวกับเก๋เลย เอิรกให้ได้เลย โทรไปเช็กได้ที่ไหนทั้งหมด มันโกหกไม่ได้อยู่แล้ว”
ทำไมไม่ไปงานศพคุณเก๋ ?
เอิร์ก: “ไปรดน้ำศพ ที่ไม่ไป อยากไม่เสียความรู้สึกที่งานศพ เพราะโดนขู่”
ใครขู่ ?
เอิร์ก: “บอกแค่นี้พอดีกว่าครับ ไม่อยากพาดพิงใคร”
ตอนนี้นักแสดงหลายรายออกมาบอกให้คุณพูดความจริง มันคืออะไร?
เอิร์ก: “เอิร์กไม่รู้ว่าเขารับรู้ความจริงมายังไง จริงๆ เขาควรมาถามเอิร์ก แต่เอิร์กไม่โทษเขา เพราะเขาก็รักเก๋ ผ่านมาก็ผ่านไป ไม่เป็นไร เขาจะเข้าใจผิดก็ช่างเขา”
มีมุมไหนที่อึดอัด คุณเหมือนเป็นสาเหตุที่ทำให้เก๋ฆ่าตัวตาย?
เอิร์ก: “เอิร์กเสียใจมากที่เก๋เสียชีวิต แต่ส่วนอื่นเอิร์กไม่สนใจเพราะเอิร์กมีหลักฐาน เรื่องจริงเป็นยังไงเอิร์กรู้แค่นี้ ไม่แคร์คนมองยังไง”
กลัวส่งผลถึงคลินิกมั้ย?
เอิร์ก: “ไม่กลัว เพราะทั้งสองคลินิกหุ้นส่วนแยกกัน ซีโอแยกกัน รวมถึงหมอ เราขายคุณภาพ จริงๆ ไม่เกี่ยวตั้งแต่แรก ที่เก๋มาบอกให้แยกกัน มันจบไปตั้งนานก่อนเปิดด้วยซ้ำ แล้วเอิร์กมารู้ทีหลังว่าตอนแยกกัน หุ้นส่วนรามอินทราโทรมาหาเอิร์ก ขอแยกด้วยเหตุผลต่างๆ นานา
มารู้ความจริงที่หน้าห้องไอซียู หุ้นส่วนถามเอิร์กว่าเกิดอะไรขึ้น เก๋ถึงทำแบบนี้ เอิร์ก็บอกว่าเอิร์กน่าจะถามเขามากกว่าว่าเกิดอะไรขึ้น เขาก็บอกว่าเอาจริงๆ นะ เพราะแยกหรือเปล่าถึงทำให้เก๋มาถึงวันนี้
ตอนอยู่ด้วยกันเก๋ไม่ฆ่าตัวตาย ถ้าอยู่กับเอิร์กแล้วอึดอัดจริงๆ ทำไมไม่ฆ่าตัวอยู่กับเอิร์ก มาฆ่าทำไมตอนแยกกัน เอาจริงๆ นะ คุณเอิร์ก คนที่คิดจะแยกคือเก๋
เอิร์กเสียใจมากหน้าห้องไอซียู แต่ทิ้ง เพราะเขาเสียแล้ว เขาคงมีเหตุผลของเขา ณ วันนี้ไม่ต้องไปพูดว่าเก๋เป็นยังไง สุดท้ายเก๋รักเอิร์กที่สุด เอิร์กรู้แค่นั้นพอ มันมีเหตุผลหลายอย่างที่จำเป็นและซับซ้อน มานั่งพูดให้คนฟังไม่ได้ เรารู้กัน”
กลัวสิ่งที่พูดอีกฝั่งจะมาไล่บี้คุณต่อ ?
เอิร์ก: “เราคุยกันด้วยหลักฐานครับ ทุกอย่างไม่ต้องมีปัญหากัน เอิร์กยินยอมทำทุกอย่าง ตามข้อตกลงที่เราต้องมาคุยกัน แค่นั้นเอง ทุกอย่างคุยกันได้”
ในมุมของคุณ ปิดกั้นฉากไม่ให้นักข่าวเข้าไป คุณบอกไม่เกี่ยวกับคุณ ?
เอิร์ก ไม่เกี่ยวกับเอิร์กเลยแต่มีการโฟนอินถามน้องเพชรน้องแท้ๆ เรียบร้อย เขาก็ยังพูดเลยว่าไม่เกี่ยวกับเอิร์ก ทุกอย่างก็จบ ทุกอย่างเริ่มเคลียร์แล้ว ทุกอย่างแปลกๆ มีที่มาที่ไปไม่ปกติ”
ผู้ร่วมลงทุนหลายๆ รายที่เอาเงินมาลงทุนกับคุณเก๋และคุณเอิร์ก?
เอิร์ก: “เราสองคนทำธุรกิจมาตลอด 10 ปีไม่เคยโกงใคร เราแยกบริษัทมาแล้ว เราจะไม่ใช้เลยก็ได้นะ พูดกันตรงๆ นี่ในนามบุคคล ทำไมเอิร์กใช้ล่ะ เพราะเอิร์กรักเก๋ เขาพูดบ่อยมากว่าเขาเครียด เขาจะฆ่าตัวตาย เอิร์กเซ็นเพราะรักเก๋นะ มันมาจากข้างในจริงๆ ไม่ได้พูดให้สวยหรู”
มีคนพูดว่าคุณปลอม เป็นเอิร์กเซิ้นเจิ้น ?
เอิร์ก: “ไม่เป็นไร เอิร์กเป็นคนธรรมดา เกิดกรุงเทพ ไปโตสุพรรณ ไปเรียนม.ปลายอุดรฯ และกลับมาเรียนที่กรุงเทพ แต่ทุกซัมเมอร์เอิร์กไปยุโรป เพราะบ้านเอิร์กอยู่ยุโรปหมด
เอิร์กเป็นเด็กธรรมดามาก ไม่รู้จักแบรนด์ เพิ่งมารู้ตอนหลัง เราไม่สนเลยว่าใครจะว่าก็อปหรือไม่ก็อปแล้วแต่”
คุณทราบคุณเก๋เป็นโรคซึมเศร้ามั้ย?
เอิร์ก: “ทราบครับ เขาเป็นจริง และบอกว่าไปหาหมอตลอด ที่ช็อกคือรถติดไฟแดง อยู่ดีๆ เก๋เดินลงออกจากรถ แล้วเดินเข้ามาในรถใหม่ โดยไม่มีสาเหตุ เราก็คิดว่าเขาเครียด”
คุณคิดว่าเขาฆ่าตัวตายเพราะอะไร ?
เอิร์ก: “คิดว่าหลายสาเหตุ ก็งงว่าจากสาเหตุอะไร เรายังคุยเล่นกัน รูปที่ส่งมาแต่ละรูป ชุดที่ถ่ายก็เป็นชุดพนักงานที่คลินิกที่รามอินทรา เราปลอมไม่ได้ทั้งสิ้น”
จดหมายสั่งลาก่อนคุณเก๋โดนตึก เคยเห็นมั้ย ?
เอิร์ก: “เอิร์กเคยเห็นตั้งแต่วันแรก วันที่เป็นข่าว เอิร์กเดาว่ามีหลายฉบับ เขาบอกว่าที่ผ่านมาจะไม่โทษเอิร์กคนเดียว เจ๊ก็ผิดพลาดด้วย เราก็งงว่าทำไมเจ๊น้อยใจแล้วไม่บอกเรา เราก็ไม่รู้ว่าเป็นจดหมายจริงหรือเปล่า
เก๋โดนใครบังคับหรือเปล่า หรือจำเป็นต้องทำหรือเปล่า มันผิดปกติ เพราะเราไม่ได้ทะเลาะกัน จดหมายไม่ได้รุนแรงเหมือนในข่าวเลย มันมีเบื้องหลังที่ซับซ้อน”
มีคนอยู่เบื้องหลังทำให้คุณสองคนเป็นแบบนี้ ?
เอิร์ก: “แน่นอนครับ เก๋พูดอยู่ตลอดว่าหุ้นส่วนที่โน่นอยากให้เราแยกกันไปเลย ทางครอบครัวเจ๊ก็อยากให้เลิกไปเลย ไม่ใช่ครอบครัวเก๋นะครับ เพราะเขารักเอิร์กมาก และให้เอิร์กฟังเขา เอิร์กเหมือนปิดหูปิดตาทุกอย่าง ไม่รับรู้อะไรเลย”
เมดฮับ นิวส์ medhubnews.com
เว็บไซต์ข่าวสุขภาพ สาธารณสุข การท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพ วาไรตี้ ฯลฯ
Thailand Health and Wellness News
ติดตามข่าวสารจาก medhubnews.com ได้จาก Facebook : sasook ของเรา
05 มกราคม 2562
ผู้ชม 3608 ครั้ง