เราทราบดี "เห็ดหลินจือ - โสม" สมุนไพรอายุวัฒนะ แต่ใครเคยเห็นแปลงปลูกไหม
เราทราบดี "เห็ดหลินจือ - โสม" สมุนไพรอายุวัฒนะ แต่ใครเคยเห็นแปลงปลูกไหม
MED HUB NEWS - ยุคสมัยปัจจุบัน เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทกับเราในทุกเรื่อง ตั้งแต่ตื่นนอนจนถึงเข้านอน เทคโนโลยีถึงแม้จะตอบโจทย์ให้เราทำอะไรสะดวกรวดเร็วก็ตาม
แต่หากเราพึ่งพาเทคโนโลยีมากไปสมองและร่างกายเราอาจขาดสมดุลในเชิงธรรมชาติได้ ทำให้เกิดโรคมากมายที่คนในยุค 4.0 เจอกันบ่อยมาก
นั่นก็คือ โรคเครียด โรคซึมเศร้า เพราะเราอยู่กับตัวเองมากไป ไม่มีปฎิสัมพันธ์ทางสังคม ซึ่งหากเราละเลยไม่ดูแลตัวเองตั้งแต่ตอนนี้ เทคโนโลยีอาจส่งผลร้ายทำลายสุขภาพของเราได้อย่างไม่รู้ตัว
ดังนั้น เพื่อป้องกันการเกิดภาวะดังกล่าว กอง บ.ก.เว็บไซต์ medhubnews.com ข่าวสุขภาพ สาธารณสุข การท่องเที่ยว วาไรตี้ และ เพจ sasook รายงานว่า ศาสตราจารย์ คลินิกแพทย์จีน นพ.ภาสกิจ วัณนาวิบูล ที่ปรึกษาศูนย์สุขภาพเนเจอร์ไบโอเทค ระบุว่า
เราควรอยู่กับธรรมชาติบ้างเพื่อให้ร่างกายซึ่งถือเป็นสภาวะทางธรรมชาติได้ปรับตัวทำให้เกิดสมดุล การเลือกรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพ เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่จะช่วยดึงเราให้กลับคืนสู่ธรรมชาติได้
นอกจากอาหารจากธรรมชาติแล้ว ในทางบำบัดรักษาโรคนอกจากยาแผนปัจจุบันแล้ว หลายๆ คนเริ่มหันมาใช้สมุนไพรในการดูแลุขภาพกันมากขึ้น สมุนไพรในศาสตร์แพทย์จีนมีหลากหลายชนิด
แต่จะมีสมุนไพรชนิดหนึ่งที่ถือว่าเป็นราชาสมุนไพรชั้นสูง เพราะถ้าเลือกใช้ให้เหมาะสมจะสามารถรับประทานติดต่อกันได้เป็นะเวลานานซึ่งถือว่าเป็นสมุนไพรอายุวัฒนะ และมีประวัติการใช้งานมายาวนาน ตัวอย่างเช่น เห็ดหลินจือ และโสม
เห็ดหลินจือ จัดเป็นยาจีนที่ใช้กันมายาวนานกว่า 2,000 ปีแล้ว ( Chinese traditional medicine ) เห็ดหลินจือ ที่ขึ้นอยู่ตามธรรมชาติมีมากมายกว่า 100 สายพันธุ์
โดยสายพันธุ์ที่นิยมและมีสรรพคุณทางยาที่ดีที่สุดคือ สายพันธุ์สีแดง หรือ เห็ดหลินจือแดง หรือ Ganoderma lucidum (กาโนเดอร์ม่า ลูซิดั่ม)
เห็ดหลินจือแดงมี Polysaccharide (สารพอลิแซ็กคาไรด์) ซึ่งจะช่วยยับยั้งและบรรเทาอาการต่าง ๆ โดยแต่ละชนิดจะมีปริมาณสารพอลิแซ็กคาไรด์ในปริมาณที่แตกต่างกันออกไป
มีการศึกษาและวิจัยซึ่งชี้ให้เห็นว่าเห็ดหลินจือแดงมีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ อีกทั้งยังมีสรรพคุณช่วยลดความดันโลหิตสูง ลดไขมันในเลือดและลดน้ำตาลในเลือดได้ เห็ดหลินจือแดงยังช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกัน มีส่วนช่วยเสริมภูมิคุ้มกันในการป้องกันโรคมะเร็งและโรคเรื้อรังอื่น ๆ ให้กับร่างกายได้
โสม (Ginseng) ซึ่งประเทศจีนเป็นประเทศแรกที่ใช้ “โสม” มานานกว่า 4,000 ปี แต่เริ่มมีการบันทึกอย่างเป็นทางการตั้งแต่สมัย ชุนชิว (春秋)
ในหนังสือ “ตำราสมุนไพรจีน” ที่ชื่อว่า เสินหนง เปิ่นเฉ่าจิง (神农本草经) ได้บันทึกไว้ว่า โสม มีรสหวาน บำรุงอวัยวะทั้ง 5 (หัวใจ ปอด ตับ ม้าม และไต) โสมมี Ginsenoside ( สารจิงเซงโนซายด์ )
ซึ่งจะช่วยบำรุงสมอง สายตา ถ้ารับประทานเป็นประจำ จะทำให้อายุยืนยาว นอกจากนี้ตามงานวิจัยระบุว่าโสมมีฤทธิ์ในการบำรุงสมองและระบบประสาท ป้องกันอัลไซเมอร์ ต่อต้านความเมื่อยล้า
ทำให้ร่างกายสดชื่นกระปรี้กระเปร่ามากขึ้น ลดอาการข้างเคียงสำหรับผู้ที่ตกอยู่ในภาวะวัยทอง และยังช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันให้กับร่างกายได้อีกด้วย
ในยุค 4.0 นี้ ไม่มีใครกล้าปฎิเสธ ความก้าวหน้าของเทคโนโยโลยีได้ เพราะเทคโนโลยีได้เข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันของเรา ทางด้านการแพทย์ก็เช่นเดียวกันเทคโนโลยีถูกพัฒนาขึ้นอย่างต่อเนื่องเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของเราให้สะดวกสบายขึ้น
ยกตัวอย่างเช่น สมัยก่อนการเลือกกินสมุนไพรเราต้องนำสมุนไพรนั้นๆมาต้มกิน กระบวนการยุ่งยากและรับประทานยาก
แต่ปัจจุบันมีการนำสารสำคัญของสมุนไพรมาสกัดบรรจุในแคปซูลหลายรูปแบบซึ่งทำให้ได้คุณประโยชน์ที่จำเป็นต่อร่างกาย รับประทานง่าย
อย่างโสม และ หลินจือแดง ก็เป็นสมุนไพรยอดนิยมที่ใช้กันในท้องตลาด เพื่อให้ผู้บริโภคได้สารสำคัญของ 2 คุณประโยชน์ในแคปซูลเดียว
อย่างไรก็ตามจะต้องไม่ลืมว่าสุขภาพที่ดีต้องสร้างด้วยตัวเราเองเป็นหลัก สมุนไพรเสริมเป็นเพียงตัวช่วยอีกทางหนึ่งในการเสริมสร้างสุขภาพที่ดีเท่านั้นครับ
เมดฮับ นิวส์ medhubnews.com
เว็บไซต์ข่าวสุขภาพ สาธารณสุข การท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพ วาไรตี้ ฯลฯ
Thailand Health and Wellness News
ติดตามข่าวสารจาก medhubnews.com ได้จาก Facebook : sasook ของเรา
23 ธันวาคม 2561
ผู้ชม 2837 ครั้ง