"คัดกรองตัวเอง ด่วน" หากมีอาการ กังวลฟุ้งซ่าน กลัวเกินเหตุ เสี่ยง "โรควิตกกังวล" ก่อ "โรคหลอดเลือดหัวใจ"
"คัดกรองตัวเอง ด่วน" หากมีอาการ กังวลฟุ้งซ่าน กลัวเกินเหตุ เสี่ยง "โรควิตกกังวล" ก่อ "โรคหลอดเลือดหัวใจ"
MED HUB NEWS - กรมสุขภาพจิต แนะประชาชนที่มีอาการกังวล คิดฟุ้งซ่าน กลัวเกินกว่าเหตุ ร่วมกับมีอาการทางกายอย่างน้อย 3 อย่าง เช่น ท้องเสีย ใจสั่น หายใจไม่อิ่ม เป็นติดต่อกันนานกว่า 6 เดือน
ควรรีบพบแพทย์รักษา เนื่องจากเป็นโรควิตกกังวลชนิดหนึ่ง สาเหตุทำให้เกิดโรคหลอดเลือดหัวใจ หัวใจเต้นผิดจังหวะ โรคความดันโลหิตสูง เหตุภูมิคุ้มกันโรคในร่างกายต่ำ และอันตรายเหมือนดารา ที่เสียชีวิตเมื่อไม่นานมานี้
กอง บ.ก.เว็บไซต์ medhubnews.com ข่าวสุขภาพ สาธารณสุข การท่องเที่ยว วาไรตี้ และ เพจ sasook รายงานว่าการเจ็บป่วยด้วยโรคทางจิตเวชของประชาชนไทย
นอกจาก โรคทางจิต แล้วยังมีในกลุ่มของ โรควิตกกังวล ( anxiety disorders ) ซึ่งผู้ป่วยจะมีจิตใจแปรปรวนอ่อนไหวง่าย ที่พบได้บ่อยคือ โรควิตกกังวลทั่วไป ซึ่งในคนปกติทั่วไปอาจเกิดความวิตกกังวล
เช่น กังวลเรื่องลูกไปโรงเรียน เรื่องการเข้าทำงานใหม่ แต่ว่าจะเป็นไม่นาน อาการจะหายไปเองแต่ในผู้ที่เป็นโรควิตกกังวลทั่วไปจะมีอาการติดต่อกันนานกว่า 6 เดือน
โรควิตกกังวล ( anxiety disorders )
อาการเด่นที่สำคัญคือ คิดฟุ้งซ่าน กลัวและกังวลเกินกว่าเหตุในหลายๆเรื่องในเวลาเดียวกัน ส่วนใหญ่มักเป็นเรื่องที่ยังไม่เกิดขึ้น มีอาการใจลอย ตกใจง่าย
ไม่สามารถหักห้ามใจไม่ให้คิดได้ และจะมีอาการทางกายปรากกฎร่วมด้วยอย่างน้อย 3 อย่าง เช่น กระสับกระส่าย เหนื่อยง่าย ใจสั่น ปวดตึงกล้ามเนื้อ
โดยเฉพาะที่ต้นคอไหล่ หลัง ใจเต้นเร็วและแรงหายใจไม่อิ่ม ท้องเสีย ปัสสาวะบ่อย มือเท้าเย็น นอนไม่หลับ ไม่มีสมาธิ ผลสำรวจของกรมสุขภาพจิตล่าสุดในปี 2556 พบประชาชนอายุ 18 ปีขึ้นไป เป็นโรคนี้ร้อยละ 0.3 คาดว่าทั่วประเทศมีประมาณ 140,000 คน
สาเหตุของโรควิตกกังวลทั่วไปเกิดมาจากความผิดปกติทางจิตใจหรือความไม่สมดุลย์ของสารสื่อประสาทในสมอง เป็นโรคที่ประชาชนไทยมักเข้าใจผิดกันบ่อย คิดว่าผู้ป่วยแกล้งทำ
หรือคิดว่าเกิดมาจากตัวเองคิดมากไปเอง ไม่ได้เจ็บป่วย จึงไม่ไปพบแพทย์หรือจิตแพทย์เพื่อรักษาแก้ไขที่ต้นเหตุซึ่งโรคนี้มียารักษา และต้องใช้วิธีการบำบัดทางจิตสังคมร่วมด้วยเพื่อปรับความคิดและพฤติกรรมควบคู่กัน
ที่น่าเป็นห่วงก็คือการซื้อยาหรือผลิตภัณฑ์อาหารเสริมมากินเองเพื่อแก้ไขอาการที่ตัวเองเป็น เช่นนอนไม่หลับ ความกังวล ปวดศีรษะ เป็นต้น
ซึ่งจะมีผลเสียมากกว่า นอกจากจะไม่ได้ผลหรือได้ผลเพียงชั่วขณะ ยังอาจทำให้อาการป่วยรุนแรงขึ้นไปอีกเพราะไม่ได้รับการแก้ไขที่ต้นเหตุ จึงขอให้ผู้ที่มีปัญหาและอาการที่กล่าวมา เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลใกล้บ้าน หรืออาจโทรขอรับคำปรึกษาทางสายด่วนสุขภาพจิต 1323 ฟรีตลอด 24 ชั่วโมง
นายแพทย์กิตต์กวี โพธิ์โน กล่าวว่าโรควิตกกังวลทั่วไป หากไม่ได้รับการดูแลรักษาอย่างถูกต้องจะทำให้อาการรุนแรงขึ้น และเพิ่มความเสี่ยงเกิดโรคทางใจและทางกายตามมาอีกหลายโรคได้แก่ โรคซึมเศร้าหลับยากหรือนอนไม่หลับ
มีแนวโน้มใช้สารเสพติด เช่นดื่มเหล้า สูบบุหรี่ได้สูง รวมทั้งยังเสี่ยงเกิดโรคทางกายเช่นปวดหัวเรื้อรัง ลำไส้แปรปรวน มีรายงานวิจัยหลายชิ้นพบว่าโรควิตกกังวล
เป็นสาเหตุทำให้เกิดโรคหลอดเลือดหัวใจ หัวใจเต้นผิดจังหวะ โรคความดันโลหิตสูง ร่างกายอ่อนแอติดเชื้อโรคได้ง่าย เนื่องจากภูมิคุ้มกันโรคในร่างกายต่ำ
สำหรับผู้ที่กำลังมีอาการวิตกกังวลในขณะนี้ มีวิธีช่วยควบคุมหรือบรรเทาอาการให้ทุเลาลงได้ดังนี้ 1. พักผ่อนให้เป็นเวลา หลีกเลี่ยงหรืองดการบริโภคเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของคาเฟอีน
เช่น ชา กาแฟ น้ำอัดลม รวมทั้งเครื่องดื่มชูกำลัง เนื่องจากคาเฟอีนอาจกระตุ้นให้อาการแย่ลงได้ 2.รับประทานยาที่แพทย์สั่งอย่างครบถ้วนต่อเนื่อง
หากมีความจำเป็นต้องซื้อยารักษาโรคหรือสมุนไพรต่างๆตามร้านขายยาทั่วไปควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อน 3. ฝึกทำสมาธิ ทำจิตใจให้ผ่อนคลาย และรู้จักการปล่อยวาง ซึ่งจะช่วยให้จิตใจสงบขึ้น
“ประการสำคัญญาติหรือคนรอบข้าง ควรทำความเข้าใจว่าอาการของผู้ป่วยไม่ได้เกิดจากการแกล้งทำหรือคิดมากไปเอง ซึ่งสาเหตุที่เกิดขึ้นส่วนหนึ่งเกิดจากความไม่สมดุลของสารสื่อประสาทในร่างกาย และเกี่ยวกับพื้นฐานสุขภาพจิตของแต่ละบุคคลด้วย
จึงควรเข้าใจและให้กำลังใจผู้ที่เป็นโรคดังกล่าว ซึ่งสามารถรักษาได้และกลับมามีคุณภาพชีวิตที่ดีดังเดิมได้”
05 มกราคม 2564
ผู้ชม 385815 ครั้ง