"อธิบดี สบส." เอาจริง หมอเถื่อน หมอกระเป๋า รวบ “2 รายซ้อน” ดำเนินคดีถึงที่สุด เว็บไซต์สุขภาพ medhubnews.com ข่าวการแพทย์ บทความสุขภาพ ระบบสาธารณสุข เทคโนโลยี วิทยาศาสตร์นวัตกรรม การค้าการลงทุน

บทความ

"อธิบดี กรม สบส." จับพยาบาล ปลอมเป็นหมอเถื่อน รวบ “2 รายซ้อน”

 

MED HUB NEWS ปัจจุบันการทำศัลยกรรม ไม่ได้จำกัดอยู่เฉพาะใต้มีดหมอ แต่มีศัลยกรรมประเภทที่เรียกว่า non-surgical หรือแบบที่ไม่ต้องผ่าตัด เพิ่มเข้ามาด้วย

เช่น การฉีดฟิลเลอร์ หรือโบท็อกซ์ มันก็ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก และมีอัตราการเติบโตอย่างรวดเร็ว

แต่ด้วยผู้บริโภคที่นิยมความถูก เร็ว จ่ายสบายๆ จึงเกิดความ "มักง่าย" ไปใช้บริการ หมอเถื่อน สถานพยาบาลเถื่อนหมอกระเป๋า

ทั้งนี้ เราพบเห็นกันได้มากขึ้นในปัจจุบัน แค่โทรนัดหมายกันก็มีคนมาฉีดให้ถึงบ้าน หรือจะนัดไปคอนโด ฉีดกันทีละหลาย ๆ คน ลูกค้าหลาย ๆ เจ้า กลายเป็นปาร์ตี้โบท็อกซ์หรือปาร์ตี้ฟิลเลอร์ไปเลยก็มี

หรือบางคนอาจเลี่ยงไปเปิดหน้าร้าน เพื่อให้พ้นข้อกล่าวว่าเป็นหมอกระเป๋า แต่ความปลอดภัยก็ไม่ได้มีมากไปกว่ากัน หรืออาจเป็นคนที่เคยศัลยกรรมมาก่อนไปหาซื้อตามร้านยามาฉีดให้ตัวเอง แถมยังแบ่งฉีดให้คนอื่นด้วย

แต่เมื่อผู้ลงมือกระทำไม่ใช่ผู้ที่เชี่ยวชาญในการฉีดโบท็อกซ์หรือฟิลเลอร์เลย ความเสี่ยงจึงย่อมเกิดขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ 

 

ล่าสุด medhubnews.com เว็บไซต์สุขภาพ สาธารณสุข การท่องเที่ยว วาไรตี้  และ เพจ sasook รายงานว่า นายแพทย์ณัฐวุฒิ ประเสริฐสิริพงศ์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ( กรมสบส. ) กระทรวงสาธารณสุข ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบด้วยตนเอง

ทั้งนี้ นายแพทย์ณัฐวุฒิ พร้อมด้วย ตำรวจจาก กองบังคับการปราบปราม เภสัชกรประพนธ์ อางตระกูล ที่ปรึกษาสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) แถลงข่าวตรวจจับ "หมอกระเป๋า" 2 รายซ้อน เวลา 19.00 น. ณ กองบังคับการปราบปราม ถนนพหลโยธิน เขตจตุจักร 

"กรม สบส.ได้รับทราบถึงเบาะแสการลักลอบเดลิเวอรี่ฉีดสารเสริมความงามถึงที่พัก โดยหมอกระเป๋าในย่านมีนบุรี จึงได้ร่วมมือกับตำรวจกองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม และสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.)บุกจับหมอกระเป๋าทั้ง 2 ราย

โดยรายแรกเป็นหญิง อายุ 31 ปี สำเร็จการศึกษาด้านการตลาด จับได้ขณะเข้ามาให้บริการฉีดสารเสริมความงามในที่พักของผู้รับบริการ ส่วนรายที่ 2  เป็นหญิง อายุ 42 ปี เป็นผู้ประกอบวิชาชีพพยาบาล จับได้ในที่พักของตนขณะให้บริการ โดยที่หมอกระเป๋าทั้ง 2 ราย ไม่ใช่ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม

อีกทั้งยาและเวชภัณฑ์ที่ใช้ก็ไม่ได้ขึ้นทะเบียนกับ อย. พนักงานเจ้าหน้าที่จึงแสดงตนพร้อมแจ้งข้อหากับผู้กระทำผิดรายแรก5 กระทง

ประกอบด้วย1) ประกอบกิจการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต มีความผิดตามพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ.2541 ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

2) ดำเนินการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต มีความผิดตามพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ.2541 ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

3)ประกอบวิชาชีพเวชกรรมโดยไม่ได้รับอนุญาต มีความผิดตามพระราชบัญญัติวิชาชีพเวชกรรม พ.ศ.2525 ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 30,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

4)จำหน่ายยาแผนปัจจุบันโดยไม่ได้รับอนุญาต มีความผิดตามพระราชบัญญัติยา พ.ศ.2510 ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี และปรับไม่เกิน 10,000 บาท

และ 5 ) จำหน่ายยาที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนตำรับยา มีความผิดตามพระราชบัญญัติยา พ.ศ.2510 ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 5,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ส่วนรายที่ 2 มีความผิด 4 กระทง ตามข้อที่ 1-4


ทั้งนี้ การศัลยกรรมแบบ non-surgical แม้จะกระทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ใบอนุญาตถูกต้อง กระทำในสถานประกอบการที่สะอาดปลอดเชื้อ และใช้สารซึ่งได้มาตรฐานคุณภาพดี ก็ยังไม่สามารถการันตีได้อย่างมั่นใจเลยด้วยซ้ำว่าจะได้ผลจริง และไม่เกิดความเสี่ยงต่าง ๆ ขึ้น

เพราะการศัลยกรรมและการฉีดสารแปลกปลอมเข้าสู่ร่างกายก็เป็นความเสี่ยงอยู่แล้วในตัวของมันเอง แล้วยิ่งเป็นหมอกระเป๋า ที่ชักจูงใจด้วยคำว่า สวย ไว ถูก ความเสี่ยงก็เพิ่มขึ้นอีกหลายเท่าตัว 

 

เมดฮับ นิวส์ medhubnews.com 

เว็บไซต์ข่าวสุขภาพ สาธารณสุข การท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพ วาไรตี้ ฯลฯ 

Thailand Health and Wellness News   

ติดตามข่าวสารจาก medhubnews.com ได้จาก Facebook : sasook ของเรา 

23 พฤศจิกายน 2561

ผู้ชม 3715 ครั้ง

Engine by shopup.com