จับตา ไข้หวัดใหญ่ โรคปอดบวม แพร่ระบาดหนัก “กัปตัน ภูธเนศ หงษ์มานพ" เผยป่วยไข้หวัดใหญ่หนักที่สุด เกือบตาย
จับตา ไข้หวัดใหญ่ โรคปอดบวม แพร่ระบาดหนัก “กัปตัน ภูธเนศ หงษ์มานพ" เผยป่วยไข้หวัดใหญ่หนักที่สุด เกือบตาย
News Update วันอาทิตย์ที่ 9 มิถุนายน 62 : ช่วงนี้เดี๋ยวฝนตก เดี๋ยวมีพายุ ฝนตกอีก บางครั้งก็อากาศเดี๋ยวร้อน เดี๋ยวหนาว เปลี่ยนแปลงบ่อย ร่างกายปรับตัวไม่ทัน นอกจากโรคไข้เลือดออกที่กำลังระบาดแล้ว
พบว่าประชาชนจึงป่วยง่าย โดยเฉพาะโรคระบบทางเดินหายใจอย่างโรคไข้หวัด และโรคไข้หวัดใหญ่
ยิ่งในผู้สูงอายุ หรือ เด็ก ที่มีภูมิคุ้มกันต่ำกว่าคนทั่วไป ร่างกายติดเชื้อได้ง่าย จึงอาจเสี่ยงเป็นโรคปอดบวม ไข้หวัดใหญ่ซึ่งเป็นอันตรายถึงชีวิต และไม่ใช่เพียงผู้สูงอายุ หรือ เด็ก เท่านั้น ตัวเราก็ควรดูแลตัวเอง รักตัวเองด้วยเช่นกัน
กัปตัน ภูธเนศ เตือนให้ดูแลสุขภาพช่วงฝนตก
medhubnews.com เว็บไซต์สุขภาพ สาธารณสุข การท่องเที่ยว วาไรตี้ และ เพจ sasook รายงานว่า วงการบันเทิงมีนักแสดงหนุ่ม กัปตัน ภูธเนศ
ที่ขึ้นชื่อว่า ขี้โรค เคยป่วยหนักที่สุดในชีวิต คือไข้หวัดใหญ่ จนย่ำแย่มาแล้ว เพราะตอนแรกคิดว่าหายได้เอง แต่ความจริง ไข้หวัดใหญ่ แตกต่างกับไข้หวัดธรรมดามาก ตนเป็นถึงขั้นเกือบตาย นอนสลบอยู่ในห้อง
โดยครั้งล่าสุดเขาป่วยหนัก ตอนนั้นแอดมิทที่โรงพยาบาล 6 วัน โดยต้องระวังเรื่องอาหาร แพลนหาหมอตลอด เจ้าตัวภึงกับเสียการเสียงาน อยากกลับมาทำงานไวๆ
ซึ่งปกติจะตรวจสุขภาพบ่อย แต่ครั้งนี้ถือว่าเป็นหนักที่สุดก็ต้องหันกลับมาดูแลตัวเอง เตือนแฟนๆ ระมัดระวังด้วย
ปัจจุบัน คนไทยยังมีความเข้าใจว่า ไข้หวัดใหญ่ เป็นโรคที่ไม่ร้ายแรง และสามารถหายเองได้ หากในความเป็นจริงแล้ว หากผู้ป่วยได้รับการวินิจฉัยว่าได้รับเชื้อไข้หวัดใหญ่
พวกเขาจำเป็นต้องได้รับการรักษาที่ถูกต้องเพื่อลดความรุนแรงของโรค อัตราการเสียชีวิต รวมถึงการแพร่กระจายของโรคไปยังคนรอบข้าง โดยเฉพาะครอบครัวหรือบุคคลใกล้ชิดเป็นวงกว้าง
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงหน้าฝนและช่วงเปิดเทอม ซึ่งเป็นช่วงสำคัญต่อการทำให้เกิดการแพร่กระจายของเชื้อโรคได้ดียิ่งขึ้น
เพื่อความเข้าใจต่อแนวทางการรักษาและดูแลตัวเองเมื่อเป็นโรคไข้หวัดใหญ่ได้ดียิ่งขึ้น รศ.(พิเศษ) นพ. ทวี โชติพิทยสุนนท์ นายกสมาคมโรคติดเชื้อในเด็กแห่งประเทศไทย
ซึ่งท่านให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับสถานการณ์โรคไข้หวัดใหญ่ในประเทศไทย รวมถึงแนวทางการรักษาโรคไข้หวัดใหญ่ด้วยนวัตกรรมสมัยใหม่
โรคไข้หวัดใหญ่นั้นเดาความรุนแรงได้ยาก เพราะแม้จะเป็นเชื้อตัวเดียวกัน ทว่าแต่ละคนมีอาการรุนแรงมากน้อยต่างกัน ทำให้คนเข้าใจว่า โรคไข้หวัดใหญ่หายได้ด้วยตัวเองและไม่รุนแรงมาก
ข้อเท็จจริง คือยิ่งรักษาโรคไข้หวัดใหญ่ได้เร็ว จะยิ่งลดอาการรุนแรง อาการแทรกซ้อน ลดการเสียชีวิต ดังนั้น ข้อแตกต่างระหว่างโรคไข้หวัดใหญ่ และโรคไข้หวัดธรรมดา
คือ หากมีอาการไข้สูงนาน 24-48 ชั่วโมง ควรรีบมาพบแพทย์ เพื่อวินิจฉัยและรักษาอย่างถูกต้อง
สถานการณ์การระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่ ขณะนี้พบว่าตั้งแต่ 1 ม.ค.-7 พ.ค.2562 มีผู้ป่วย 152,185 ราย เสียชีวิต 10 ราย
จำนวนการระบาดถือว่าสูงกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปี ย้อนหลังและสูงกว่าช่วงเดียวกันของปี 2560-2561 ประมาณ 3-5 เท่า ช่วงหน้าแล้งที่มีการระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่จำนวนมาก
ทำให้คาดการณ์ได้ว่า ในปีนั้นจะมีโรคไข้หวัดใหญ่และไข้เลือดออกระบาดเยอะมากขึ้น ปีนี้คาดว่าจะมีผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ตลอดทั้งปีสูงถึง 2 แสนราย
แต่ตัวเลขน่าจะต่ำกว่าความเป็นจริง เพราะเมื่อคำนวณจากทั่วโลกจะพบว่า ผู้ใหญ่จะป่วยอยู่ที่ประมาณ 10 ใน 100 คน ส่วนเด็กจะป่วยอยู่ที่ 40% ภาพรวมจะป่วยเฉลี่ยอยู่ที่ 20% ไทยมีประชากรราว 70 ล้านคน ตัวเลขคนป่วยจริงๆอาจจะถึง 1 ล้านคน
“ช่วงหน้าฝน เด็กมาอยู่รวมกันและไม่ได้มีการรักษาอนามัยความสะอาด จะทำให้เกิดการแพร่ระบาดไปยังคนในครอบครัวได้
ขณะนี้โรงพยาบาลรัฐ ได้บริการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่สำหรับ 7 กลุ่มเสี่ยงรวมถึงกลุ่มเด็กอายุ 6 เดือน-3 ปีด้วย”
โดย medhubnews.com เว็บไซต์สุขภาพ สาธารณสุข การท่องเที่ยว เคยเตือนไว้ เรื่องโรคระบบทางเดินหายใจ ซึ่งครั้งนั้น นพ.ปุณพงศ์ หาญศิริพันธุ์ โรงพยาบาลพญาไท 2 กล่าวถึง “โรคปอดบวมในผู้สูงอายุรุนแรงและน่ากลัวกว่าในวัยอื่นๆ
โดยเฉพาะในผู้ป่วยที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ หรือมีโรคประจำตัว เช่น โรคหัวใจ เบาหวาน โรคระบบทางเดิน หายใจเรื้อรัง หากมีภาวะแทรกซ้อนต่างๆ
เช่น การติดเชื้อในกระแสเลือด หรือระบบทางเดินหายใจล้มเหลว จะทำให้การรักษาเป็นไปได้อย่างยากลำบาก และอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เสียชีวิตเลยก็ได้ จากสถิติพบว่า ผู้สูงอายุที่เสียชีวิตด้วยโรคนี้มีสูงถึง 50% เลยทีเดียว
โรคปอดบวม เป็นโรคที่เกิดจากการติดเชื้อทางเดินหายใจ ไม่ว่าจะเป็นเชื้อแบคทีเรีย ไวรัส หรือเชื้อราก็ได้ มักเป็นอาการต่อเนื่องมาจากโรคไข้หวัดใหญ่ โดยปกติแล้วผู้ป่วยจะมีไข้สูง ไอมีเสมหะ คลื่นไส้อาเจียน เหนื่อย
แต่ในผู้สูงอายุอาจจะแสดงอาการไม่ชัดเจน อาจมีไข้ และมีอาการซึมลงเท่านั้น จึงจำเป็นต้อง สังเกตอาการของผู้สูงอายุเป็นพิเศษ เพราะหากไม่รีบรักษา หรือร่างกายไม่แข็งแรงอาจติดเชื้อแทรกซ้อน
จนเป็นอันตรายได้ หากสังเกตพบอาการผิดปกติ ควรรีบพาไปพบแพทย์ “แม้ว่าการรักษาโรคปอดบวมจะสามารถหายได้ด้วยการใช้ยาฆ่าเชื้อ แต่ปัจจุบันเชื้อมีการดื้อยามากขึ้น ทำให้การรักษายากและซับซ้อนขึ้น อาจไม่ค่อยได้ผลเท่าที่ควร
การดูแลตัวเองให้ร่างกายมีภูมิคุ้มกัน เพื่อเป็นการป้องกันก่อนป่วยจึงเป็นสิ่งที่ดีที่สุด” นพ.ปุณพงศ์ หาญศิริพันธุ์ กล่าว พร้อมแนะนำวิธี ผู้สูงอายุรับมืออากาศ เปลี่ยนแปลงบ่อย ไว้ดังนี้
1 ดูแลร่างกายให้แข็งแรง สร้างภูมิคุ้มกันไม่ให้ร่างกายอ่อนแอ ด้วยการพักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ตามที่ร่างกายต้องการ และดื่มน้ำให้ พอเพียง
2 สวมใส่เสื้อผ้าที่หนาเพียงพอ โดยเฉพาะช่วงเวลากลางคืนที่มีอากาศหนาวเย็น เพื่อให้ร่างกาย อบอุ่นอยู่เสมอ ในพื้นที่ที่มีอากาศหนาวจัดต้องระวังอาจเกิดภาวะอุณหภูมิของร่างกายลดลง มากผิดปกติ
เนื่องจากผิวหนังของผู้สูงอายุมีความไวของประสาทรับรู้อากาศที่หนาวเย็นลดลง ร่างกายจึงไม่สามารถตอบสนองด้วยการหนาวสั่น หรือการหดตัวของกล้ามเนื้อให้เกิดความอบอุ่น ได้ดีเหมือนคนหนุ่มสาว
3 ล้างมือเป็นประจำให้ติดเป็นนิสัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเป็นหวัด ให้หลีกเลี่ยงการสัมผัสเชื้อ บริเวณจมูก ปาก ตา เนื่องจากเชื้อไข้หวัดใหญ่อาจปนเปื้อนอยู่ จะเป็นการแพร่กระจายเชื้อ
4 หลีกเลี่ยงการอยู่ในฝูงชนที่มีการระบายอากาศไม่ดี เพราะอาจรับเชื้อไวรัสไข้หวัด หรือไข้หวัดใหญ่จากผู้อื่นได้ง่าย
เมดฮับ นิวส์ medhubnews.com
เว็บไซต์ข่าวสุขภาพ สาธารณสุข การท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพ วาไรตี้ ฯลฯ
Thailand Health and Wellness News
ติดตามข่าวสารจาก medhubnews.com
ได้จาก Facebook : sasook ของเรา
17 มิถุนายน 2562
ผู้ชม 5894 ครั้ง