“ส้วมระเบิด แตกกระจาย” กลางอำเภอศรีราชา จ.ชลบุรี  เหตุ “โซดาไฟ” ลงไปในชักโครก เผย อุจจาระเป็นแก๊ส หมักหมมในถังขี้  เกิดปะทุ ไฟลุก “ส้วมระเบิด” มาแล้วหลายราย

Newกรณีข่าวอุบัติเหตุเช้าวันนี้ ( news update 19 มกราคม 2562 )  “ส้วมระเบิด แตกกระจาย” กลางอำเภอศรีราชา จ.ชลบุรี  เหตุจากเท “โซดาไฟ” ลงไปในชักโครกจำนวนมาก ส่งผลทำให้เกิดประทุ เจ้าตัวได้รับบาดเจ็บ

เมดฮับ นิวส์ medhubnews.com รายงานว่า เมื่อเวลา 22.00 น. วันที่ 18 ม.ค.62 เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยสว่างประทีป ศรีราชา อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ได้รับแจ้งว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บจากการถูกสารเคมีกระเด็กใส่ตามร่างกาย ได้รับบาดเจ็บบริเวณด้านหลังเป็นแผลผุผอง

เหตุเกิดภายในบ้านหลังหนึ่งใน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ซึ่งทางญาติ ได้นำตัวผู้ได้รับบาดเจ็บ ขึ้นรถยนต์มายังบริเวณถนนสาย เก้ากิโล ม.3 ต.สุรศักดิ์ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี จึงขอให้เจ้าหน้าที่ช่วยนำตัวส่งโรงพยาบาลต่อ เพราะจราจรติดขัด

ที่เกิดเหตุพบผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นหญิง ทราบชื่อคือ นางโซดา  อายุ 48 ปี ยืนสวมผ้าถุงร้องโอดโอยรอเจ้าหน้าที่อยู่ ที่บริเวณแผ่นหลังได้รับบาดเจ็บจากการถูกสารเคมีกระเด็นใส่ จนเป็นแผลพุผอง จำนวนหลายจุด

เจ้าหน้าที่จึงได้รีบปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนนำตัวส่งโรงพยาบาลสมเด็จพระบรมราชเทวี ณ ศรีราชา

จากการสอบถาม ลูกสาวผู้ได้รับบาดเจ็บ กล่าวว่า ในวันนี้ ( 19 มค.2562 ) ที่บ้านจะมีการจัดพิธีสมรสของญาติ ตนและแม่จึงได้ช่วยกันเก็บของภายในบ้าน รวมถึงในห้องน้ำ แม่ตนก็ได้เข้าไปทำความสะอาด

แต่ปรากฏว่าส้วมในห้องน้ำเกิดตัน แม่ตนจึงได้นำโซดาไฟ เทลงไปในชักโครกเป็นจำนวนมาก หลังจากนั้นได้ปฏิกิริยาบางอย่าง จนโซดาที่เทไป ได้เกิดการประทุ

และกระเด็นไปทั่วบริเวณห้องน้ำ ส่วนแม่ตนได้รับบาดเจ็บดังกล่าว จึงได้รับนำตัวส่งโรงพยาบาล

สำหรับปัญหา ส้วมระเบิด รถดูดส้วมระเบิด  มักปรากฏเป็นข่าวประจำ เกิดจากแก๊สในถังสิ่งปฏิกูลเกิดระเบิดไฟลุก ไหม้ร่างกาย บาดเจ็บสาหัสจำนวนมาก

ปัญหาภายในบ้านที่มักจะเกิดขึ้นแบบกะทันหัน เกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ และส้วมคือปัจจัยสำคัญในการระบายของเสีย ไม่ว่าจะอุจจาระ หรือ ปัสสาวะ

และ เป็นปัญหาที่ไม่มีใครอยากพบเจอ เนื่องจากเวลาส้วมเต็มต้องเรียกรถดูดส้วมมาใช้บริการ บางแห่งรถดูดส้วมไม่ได้มาตรฐาน ทำให้ระหว่างดูดส้วมเกิดกลิ่นขี้กระจายไปรบกวนบ้านอื่นๆ

สาเหตุการเกิด ชักโครกตัน มาจาก พวกทิชชู่ ถุงพลาสติก เส้นผม หรืออะไรที่ย่อยสลายยากๆ ถ้าเกิดการสะสมมากและการอุดตัน ทำให้ชักโครกกดไม่ลง มีทั้งน้ำและสิ่งปฏิกูลขึ้นมา จึงต้องได้แก้ไขปัญหานี้

ฉะนั้น บางบ้านจึงมีวิธีแก้ปัญหาแบบลวกๆ โดยไปใช้โซดาไฟมาราดด้วยจำนวนมาก ซึ่งอันตรายมาก โซดาไฟเหมาะกับพวกวัตถุที่ย่อยสลายง่าย เช่น สบู่ตก เส้นผม ฯลฯ

สาเหตุที่เป็นแบบนี้ ก็เพราะว่ากระบวนการทางวิทยาศาสตร์อธิบายว่าในร่างกายคนเรามีลม เป็นแก๊สที่เกิดจากแบคทีเรียซึ่งเกิดจากกระบวนการย่อยสลายในระบบย่อยอาหารของร่างกาย และถูกปล่อยจากความดันออกมาผ่านทางทวารหนัก

ลมในร่างกายที่ออกมาเรียกง่ายๆ คือ ตด นั่นเอง ไม่ใช่แค่สายลมธรรมดา ที่ฝากแค่กลิ่นไว้แล้วก็ผ่านไปในอากาศ แต่มันประกอบไปด้วยสารเคมีหลักๆ คือ แก๊สไฮโดรเจน, แก๊สไฮโดรเจนซัลไฟด์ หรือ แก๊สไข่เน่า และแก๊สมีเทน ซึ่งเป็นแก๊สที่ติดไฟ

จากนั้น กลไกทางเคมี จะทำให้ตดที่เต็มไปด้วยแก๊ส ออกมาสู่อากาศภายนอกที่มีออกซิเจนอยู่ รวมทั้งจากอุจจาระที่เป็นแก๊สลงไปสู่ถังขี้  หรือ ถังปฏิกูลจำนวนมาก จึงเกิดระเบิดไฟลุก แม้กระทั่งในหอพักนักเรียน นักศึกษา ต้องดูแลให้ดีด้วยเช่นกัน เพราะที่ผ่านมาเคยมีข่าวเหตุการณ์ “ส้วมระเบิด” มาแล้ว

นอกจากนี้ ที่ผ่านมาเคยมีเหตุการณ์หนึ่ง  เมื่อ ออกซิเจน ที่มีคุณสมบัติเป็นตัวนำทำให้เกิดการติดไฟ ซึ่งเคยมีวัยรุ่นนำมาทดลอง โดยใช้ไฟแช็คจุดไปที่ก้น บริเวณลมตดออกมา จึงเกิดประกายไฟ ขึ้นมา ซึ่งลมตดไม่มีขนาดรุนแรงมาก แต่ไม่ควรทำเล่นกัน

ทั้งนี้ในเมืองไทยยังดีที่มีระบบกำจัดสิ่งปฏิกูลที่ดี  จากรายงานข่าวตามประเทศจีน พบว่า ห้องน้ำสาธารณะในประเทศจีนส่วนใหญ่ ถูกสร้างขึ้นแบบง่าย ๆ และไม่ถูกต้องตามมาตรฐาน

ทำให้ถังส้วมระเบิด หรือ แค่การจุดเทียนไข ไม้ขีดไฟ เข้าส้วม นั่งถ่าย  ระวังแก๊สจากถังสิ่งปฏิกูลจะระเบิดไฟลุก เหมือนเคสต่างๆ ทำให้ไฟไหม้ร่างกาย บาดเจ็บสาหัส หรือ ตายก็มี

วงการแพทย์ สาธารณสุข ก็เคยเกิดเหตุการณ์อันตรายนี้ ขอเตือนบรรดาหมอ พยาบาล ด้วยว่า  "ตด" สามารถติดไฟได้ง่ายจริงๆ  

เพราะเคยมีเคสยืนยัน เกิดขึ้นจากความไม่ตั้งใจกลางห้องผ่าตัด  โดยเกิดขึ้นที่วิทยาลัยทางการแพทย์โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ขณะทำการผ่าตัดโดยใช้เลเซอร์ส่องปากมดลูกผู้ป่วยรายหนึ่ง

จู่ๆ ผู้ป่วยก็ผายลมออกมา จนเกิดประกายไฟลุกไหม้ และลุกลามไปตามร่างกายของผู้ป่วย ผิวหนังเกิดรอยแผลไหม้พุพองอย่างหนัก

ซึ่งในรายงานได้ระบุไว้ว่า "เมื่อมีแก๊สออกมาจากผู้ป่วยเข้ามาอยู่ในห้องผ่าตัด ทำให้เกิดปฏิกิริยากับรังสีของเลเซอร์ จนเกิดประกายไฟและลุกไหม้"

ด้าน นายแพทย์สมบูรณ์  ทศบวร  ผู้อำนวยการโรงพยาบาลนพรัตนราชธานี ระบุว่า พวก ถ้ำ บ่อ หลุม ห้องใต้ดิน ถัง ไซโล ที่อับอากาศ คือ สถานที่ที่มีปริมาณออกซิเจนต่ำกว่าร้อยละ 19.5

หรือมากกว่าร้อยละ 23.5 (โดยปริมาตร) หรือ มีก๊าซ ไอ หรือละอองที่ทำให้ติดไฟระเบิดได้เกินร้อยละ 10 ของค่าความเข้มข้นของสารเคมีแต่ละชนิดที่ทำให้ติดไฟหรือระเบิดได้

จากข่าวสารต่างๆ ต้องบอกว่า "อันตรายมาก"  ดังนั้น ควรป้องกันไว้ก่อนจะดีกว่าครับ ! MED HUB NEWS