นายแพทย์ณัฐวุฒิ ประเสริฐสิริพงศ์ เตือนคลินิกเสริมความงาม คลินิกศัลยกรรม ทุกแห่งประกอบกิจการให้ถูกลักษณะ ไม่ทำตัวเป็น "ร้านขายยา"หากฝ่าฝืนลงดาบทันที

กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ เตือนผู้ประกอบกิจการและผู้ดำเนินการสถานพยาบาลเอกชนทุกแห่ง ให้ควบคุม ดูแล รพ./คลินิกอย่างใกล้ชิดมิให้มีการประกอบกิจการผิดลักษณะ นำสถานพยาบาลมาเปิดเป็นร้านขายยาลักลอบจำหน่ายยาต้องห้ามแทนการรักษาพยาบาลผู้ป่วย

ทีมงาน เมดฮับ นิวส์ รายงานว่า กรณี สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) และกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด บุกจับนายทุนขายยาลดความอ้วน

นายแพทย์ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์

โดยผู้ต้องหา น.ส.ปัทมพร หรือไอซ์ หรืออ้อม คัมภีระ อายุ 29 ปี  น.ส.นวพร หรือ มีมี่ หรือ หนิง วัลลภภพน อายุ 36 ปี นางแบบแม็กซิม

กล่าวอ้างว่าได้จ้างแพทย์ตามคลินิกให้ช่วยสั่งยาดังกล่าวจาก อย.ตามขั้นตอนกฎหมาย ซึ่งแพทย์จะเป็นคนไปเซ็นเบิกรับยาก่อนจะมีการนำยาส่วนหนึ่งออกมาให้ผู้ต้องหานำไปกระจายขายต่อ โดยไม่ได้มีการจ่ายให้แก่ผู้ป่วยในคลินิก นั้น

พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. ผอ.ศอ.ปส.ตร. พล.ต.ท.ชินภัทร สารสิน ผบช. ปส.พล.ต.ต.พรชัย เจริญวงศ์ รอง ผบช.ปส. พล.ต.ต.วัชระ ทิพย์มงคล ผบก.ปส.3 พล.ต.ต.ภรศักดิ์ นวนหนู ผบก.ประจำ บช.ปส. พ.ต.อ.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ รองบช.ปส 3

แถลงผลการดำเนินการปิดล้อมตรวจค้น “ยุทธการสยบไพรี 62/9 ยาสวย…สังหาร” จำนวน33จุด ทั้งในกรุงเทพและต่างจังหวัด โดยจุดที่สำคัญ คือบ้านเลขที่ 778/71 หมู่บ้านแห่งหนึ่งใน ซ.พัฒนาการ 44 แขวง-เขต สวนหลวง

พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ เปิดเผยว่า ในครั้งนี้สำนักงานคณะกรรมการอาหาร และยาได้รับเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการสั่งซื้อยาลดน้ำหนัก ซึ่งจัดเป็นวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทประเภท 2 และ 4 โดยเครือข่ายการลักลอบนี้ประกอบไปด้วยนายทุน นายหน้าและแพทย์ที่เปิดคลินิกซึ่งดำเนินการกันเป็นขบวนการ

ส่วนยาลดน้ำหนักทั้งหมดจะถูกรวบรวมไว้ เพื่อลักลอบจำหน่ายภายหลังโดยผ่านทางเครือข่ายสังคมออนไลน์ เมื่อประชาชนต้องการลดน้ำหนักก็สามารถสั่งซื้อได้ โดยไม่ให้แพทย์วินิจฉัยจึงเป็นเหตุให้เกิดการเสียชีวิตหลายรายอย่างที่เป็นข่าวในปัจจุบัน

เมดฮับ นิวส์ รายงานว่า ล่าสุด นายแพทย์ณัฐวุฒิ ประเสริฐสิริพงศ์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (กรม สบส.) กระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า จากกรณีดังกล่าว กรม สบส.ขอเน้นย้ำกับผู้ประกอบกิจการ และผู้ดำเนินการสถานพยาบาลเอกชนทุกแห่ง ให้ควบคุม กำกับ มิให้มีการการประกอบกิจการผิดประเภท หรือลักษณะตามที่ขออนุญาต โดยพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ.2541 และที่แก้ไขเพิ่มเติมฉบับที่ 4 พ.ศ. 2559

ได้กำหนดนิยามให้ “สถานพยาบาล” คือ  สถานที่รวมตลอดถึงยานพาหนะซึ่งจัดไว้เพื่อการประกอบโรคศิลปะ การประกอบวิชาชีพเวชกรรม การประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ การประกอบวิชาชีพทันตกรรม การประกอบวิชาชีพกายภาพบำบัด

การประกอบวิชาชีพเทคนิคการแพทย์ การประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยและการประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยประยุกต์ หรือการประกอบวิชาชีพทางการแพทย์และสาธารณสุขอื่นตามกฎหมายว่าด้วยการนั้น ทั้งนี้ โดยกระทำเป็นปกติธุระไม่ว่าจะได้รับประโยชน์ตอบแทนหรือไม่

 นายแพทย์ณัฐวุฒิ ประเสริฐสิริพงศ์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (กรม สบส.) กระทรวงสาธารณสุข

ดังนั้น การนำยาลดความอ้วนที่มีฤทธิ์ต่อจิตและระบบประสาทไปจำหน่ายให้กับผู้อื่นแทนที่จะนำไปใช้ในการรักษาพยาบาลผู้ป่วย จึงเป็นการกระทำผิดกฎหมายพระราชบัญญัติสถานพยาบาล ใน 2 มาตรา

คือ 1.มาตรา 34 (2) ผู้ดำเนินการไม่ควบคุมและดูแลให้ผู้ประกอบวิชาชีพในสถานพยาบาลปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายว่าด้วยการประกอบวิชาชีพของตน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

2.มาตรา 37 ผู้รับอนุญาตและผู้ดำเนินการปล่อยปละ ละเลย หรือยินยอมให้ผู้อื่นใช้สถานพยาบาลประกอบกิจการสถานพยาบาลผิดประเภทหรือผิดลักษณะการให้บริการตามที่ระบุไว้ในใบอนุญาต ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 20,000 บาท และในส่วนของแพทย์ผู้ให้บริการจะส่งข้อมูลให้แพทยสภาดำเนินการด้านจริยธรรมต่อไป

ด้าน ทันตแพทย์อาคม ประดิษฐสุวรรณ ผู้อำนวยการสำนักสถานพยาบาลและการประกอบโรคศิลปะ ว่าที่รองอธิบดี กรม สบส. กล่าวว่า การลดน้ำหนักโดยการใช้ยาลดความอ้วนที่มีฤทธิ์ต่อจิตและประสาท จะต้องอยู่ในการควบคุมกำกับของแพทย์ การที่ผู้ป่วยนำยามารับประทานเองโดยที่ไม่มีการควบคุม

อาจจะทำให้เกิดผลข้างเคียงต่อระบบหัวใจและหลอดเลือด มีอาการนอนไม่หลับ ความดันโลหิตสูง หัวใจเต้นเร็ว ยิ่งในรายที่มีอาการรุนแรงอาจจะเกิดอาการชัก หรือเสียชีวิตได้

จึงขอเตือนประชาชนว่าอย่าซื้อยาลดความอ้วนมีฤทธิ์ต่อจิตและประสาทมารับประทานเองโดยเด็ดขาด