ไทยร้อนต่อเนื่อง "จิตแพทย์โคราช" แนะวิธีใช้ชีวิตให้ชิล ติดเบรกอารมณ์โกรธโมโห ดื่มน้ำวันละ 2 ลิตรครึ่ง หลีกเลี่ยงคาเฟอีน
ไทยร้อนต่อเนื่อง "จิตแพทย์โคราช" แนะวิธีใช้ชีวิตให้ชิล ติดเบรกอารมณ์โกรธโมโห ดื่มน้ำวันละ 2 ลิตรครึ่ง หลีกเลี่ยงคาเฟอีน
News Update 31 03 2019 : โรงพยาบาลจิตเวชนครราชสีมา - ทั่วประเทศไทยอากาศร้อนต่อเนื่อง "จิตแพทย์" แนะวิธีการใช้ชีวิตหน้าร้อนให้สบายๆ ฝึกติดเบรกอารมณ์โกรธโมโหให้อยู่ ดื่มน้ำเปล่าสะอาดให้เพียงพอวันละ 2 ลิตรครึ่ง หลีกเลี่ยงดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน และแอลกอฮอล์ จะช่วยให้สมองผ่อนคลาย มีสมาธิขึ้น
นายแพทย์กิตต์กวี โพธิ์โน
ผู้สื่อข่าวกองบรรณาธิการ medhubnews.com เว็บไซต์สุขภาพ และ เพจ sasook รายงานว่า นายแพทย์กิตต์กวี โพธิ์โน ผู้อำนวยการโรงพยาบาลจิตเวชนครราชสีมาราชนครินทร์ จ.นครราชสีมา ให้สัมภาษณ์ถึงสภาพอากาศร้อนอบอ้าวขณะนี้
อาจมีผลให้ประชาชนไม่สบายตัว มีอารมณ์หงุดหงิด เกิดความเครียดได้ง่ายหรือโกรธง่ายกว่าปกติ ซึ่งมักจะเกิดเมื่อเราตกเป็นฝ่ายถูกกระทำ ที่พบได้บ่อยคือเหตุบนท้องถนนที่มีการจราจรคับคั่ง เช่นขับรถปาดหน้ากัน หรือถูกเอาเปรียบ
หากไม่สามารถควบคุมได้ อาจนำไปสู่ปัญหาต่างๆทั้งความสัมพันธ์ส่วนบุคคล ปัญหาที่ทำงาน ประสิทธิภาพการทำงานลดลง ความโกรธจะนำไปสู่การเพิ่มความเครียด และในทำนองเดียวกันความเครียดก็มักจะทำให้มีความโกรธเพิ่มมากขึ้น
เนื่องจากขณะที่เราเกิดอารมณ์โกรธ ต่อมแอดรีนัลของร่างกาย จะขับสารคัดหลั่งชื่อแอดรีนาลินออกมาสู่กระแสโลหิต
สารนี้จะไปกระตุ้นระบบประสาทอัตโนมัติ ทำให้หัวใจเต้นเร็วขึ้น ความดันโลหิตเพิ่มขึ้น หากเกิดในผู้เป็นโรคความดันโลหิตสูงอยู่เดิม อาจเพิ่มความเสี่ยงอันตราย อาจทำให้เส้นเลือดในสมองตีบหรือแตกได้
ในการดำเนินชีวิตให้สุขสบายท่ามกลางสภาพอากาศร้อน มีข้อแนะนำให้ประชาชนปฏิบัติ 3 ประการ ประการแรกคือ ควรฝึกการติดเบรก ควบคุมอารมณ์และจัดการกับความโกรธของตัวเองให้ได้
โดยใช้วิธีฝึกการถามใจตัวเอง 4 ข้อ คือ 1. เรื่องที่โกรธอยู่นี้สำคัญต่อตัวเราเองมากน้อยแค่ไหน 2. ถ้าเราตอบโต้อะไรลงไปทันทีตามความโกรธ จะเกิดอะไรขึ้นในอนาคต
3. ลองถามตัวเองว่า เราเคยทำสิ่งเดียวกับที่คนอื่นทำกับเราในวันนี้หรือไม่ และ4. ให้ลองคิดแบบมีเหตุมีผลว่าเขาอาจมีความจำเป็นจึงทำเช่นนั้น
การถามใจตัวเองนี้จะช่วยประวิงเวลา ให้เราได้ทบทวนตัวเอง ทำให้ใจเย็นลง ตั้งสติได้ ไม่หุนหันพลันแล่น และมองเห็นปัญหานั้นเล็กลง
ผลลัพธ์สุดท้ายที่ได้จากการถามใจตัวเอง ก็คือการให้อภัย การปล่อยวาง จะทำให้ทุกอย่างผ่านไปด้วยดี
ประการที่ 2 คือ ดื่มน้ำเปล่าสะอาดให้เพียงพอ คือวันละประมาณ 2,500 ซี.ซี.หรือ 2 ลิตรครึ่ง การดื่มน้ำจะเป็นการเติมน้ำหรือให้อาหารแก่สมอง
เนื่องจากสมองของคนเราจะมีน้ำเป็นส่วนประกอบถึงร้อยละ 80 หากขาดน้ำเพียงเล็กน้อย ก็สามารถทำให้ระดับฮอร์โมนที่กระตุ้นให้เกิดความเครียดเพิ่มสูงขึ้น มีผลต่อการทำงานของอวัยวะภายในผิดปกติ และในระยะยาวอาจทำให้สมองถูกทำลายได้
ประการที่ 3 คือหลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของสารปรุงแต่ง เช่นสารให้ความหวาน น้ำตาล แอลกอฮอล์ และสารคาเฟอีน
จะถือว่าดีที่สุด มีผลดีต่อการทำงานของสมองสมองเกิดการผ่อนคลาย เกิดสมาธิดียิ่งขึ้น และจิตใจสบายขึ้น นายแพทย์กิตต์กวี กล่าว
31 มีนาคม 2562
ผู้ชม 2340 ครั้ง