แพทย์แฉ “เอเจนซี่ ศัลยกรรม” ถือเป็น อาชญากรวงการศัลยกรรม ไม่ใช่หมอ แต่รู้ทุกเรื่อง กลายตัวถ่วงเมืองไทย ก้าวสู่ Medical Hub

บทความ

แพทย์แฉ “เอเจนซี่ ศัลยกรรม” ถือเป็น อาชญากรวงการศัลยกรรม ไม่ใช่หมอ แต่รู้ทุกเรื่อง กลายตัวถ่วงเมืองไทย ก้าวสู่ Medical Hub

 แพทย์แฉ “เอเจนซี่ ศัลยกรรม” ถือเป็น อาชญากรวงการศัลยกรรม ไม่ใช่หมอ แต่รู้ทุกเรื่อง กลายตัวถ่วงเมืองไทย ก้าวสู่ Medical Hub

News Update  : เอเจนซี่ ศัลยกรรม : ก่อนหน้านี้ก็มีข่าวดัง เหยื่อในโครงการศัลยกรรมของบุคคลหนึ่งที่โฆษณาผ่านโซเชียลมีเดีย

โดยบรรดาเหยื่อศัลยกรรมตัดสินใจเข้าร่วมโครงการ เนื่องจากการโฆษณาที่สร้างความน่าเชื่อถือ ซึ่งเหยื่อแต่ละราย ต้องเสียค่าใช้จ่าย ทั้งค่าทำศัลยกรรม และ ค่าเอเจนซี่ 

ล่าสุด 19 พฤษภาคม 62 ผู้ใช้เฟสบุ๊ครายหนึ่ง ได้ออกมาโพสต์แฉ คลินิกศัลยกรรมแห่งหนึ่งย่านรัชดา-ห้วยขวาง ปัดความรับผิดชอบหลังน้องสาวของเธอเข้าทำศัลยกรรมเหลาโหนกแก้มและคาง แล้วไม่ฟื้นขึ้นมาอีกเลย

ส่วน นางสาวชนาพร ผ่องมณี อายุ 33 ปี เจ้าหน้าที่ประจำคลินิก ระบุว่า ผู้เสียหายรายนี้เดินทางเข้ามาติดต่อศัลยกรรมผ่านเอเจนซี่รายหนึ่ง

ภาพข่าวจาก sanook

ก่อนผ่าตัดนั้นมีการซักประวัติอย่างครบถ้วน และให้งดน้ำงดอาหาร จนกระทั่งเข้าผ่าตัดตามปกติ หลังผ่าตัดแล้วเสร็จมีการเคลื่อนย้ายมาห้องพักฟื้น ระหว่างนั้นจึงเริ่มมีการอาการชักเกร็ง จึงให้ยาแก้ชักเกร็งแล้วนำตัวส่งโรงพยาบาลทันที

สาเหตุที่เกิดขึ้นคลินิกไม่ขอระบุว่าเกิดจากอะไร เนื่องจากต้องการให้ความสนใจที่อาการของผู้เสียหาย ที่ต้องการอยากให้มีอาการดีขึ้น และกลับมาเหมือนเดิม

นอกจากนี้คลินิกยังบอกว่าสาเหตุของอาการนี้อาจเกิดจากหลายปัจจัย ในขณะเดียวกันทราบจากพยานระบุว่าก่อนเข้าผ่าตัด เอเจนซี่ที่พามาทำศัลยกรรมแอบพาผู้เสียหายไปกินอาการ

เช่น เครื่องดื่มน้ำอัดลม บะหมี่ พิซซ่า เป็นต้น อีกทั้งมีการดื่มยาจีนด้วย แต่ไม่ได้แจ้งคลินิกว่ากินอาหารก่อนการผ่าตัด

ผู้สื่อข่าวกองบรรณาธิการ medhubnews.com เว็บไซต์สุขภาพ และ เพจ sasook รายงานว่า หลายคนอ่านข่าวแล้วสงสัยว่า โครงการศัลยกรรมของบุคคล ต่างๆ

ที่โฆษณาผ่านโซเชียลมีเดีย เหล่านี้ คืออะไร ? อยู่ในสถานะของอะไร ? และมีตัวตนหรือไม่ ? หากเกิดอะไรขึ้น ใครรับผิดชอบ ?

นั่นสิ ปัญหาใหญ่ หากเกิดอะไรขึ้น ใครรับผิดชอบ ? เพราะที่ผ่านมา เห็นมีการร้องเรียน สคบ. สบส.แต่ก็ไม่สามารถฟ้องร้องดำเนินคดีได้อย่างเต็มที่ เนื่องจากคนเหล่านี้ ไม่ใช่แพทย์

นายแพทย์ชลธิศ สินรัชตานันท์ นายกสมาคมศัลยกรรมตกแต่งใบหน้าแห่งอาเซียน แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการศัลยกรรมเจ้าของคลินิกศัลยกรรมความงาม “ธีรพรคลินิก” ให้ข้อมูลเกี่ยวกับ เอเจนซี่ศัลยกรรมว่า กรณีนี้ตนพูดมาหลายครั้งแล้ว 

เอเจนซี่ศัลยกรรม พวกนี้เป็นใคร มีตัวตนหรือไม่ หากเกิดอะไรขึ้น ใครรับผิดชอบ องค์กรดูแลแพทย์ของไทย ก็คือ แพทยสภา ก็ไม่สามารถทำอะไรคนเหล่านี้ได้ เพราะไม่ใช่แพทย์วิชาชีพ  

เรียกแบบง่ายๆ ก็คือ อาชีพพาคนไปทำศัลยกรรมต่างประเทศ และ คลินิก โรงพยาบาลในประเทศ เป็นอาชีพที่เรียกกันว่า นายหน้า หรือ “เอเจนซี่ ศัลยกรรม”

ที่ทุกวันนี้ กลายเป็น อาชญากรในแวดวงศัลยกรรม ความงามไปแล้ว   

นายหน้า หรือ “เอเจนซี่ ศัลยกรรม”  จะรับปรึกษาคนอยากหล่อ อยากสวย เพื่อส่งเคสคนอยากทำศัลยกรรม ไปทำศัลยกรรมทุกประเภท

เช่น  ร้อยไหม โบท็อกซ์ ฟิลเลอร์ เสริมดั้ง ทุบโหนก ทำนมให้ข้อมูล หาราคาที่ถูกที่สุดมาจัดโปรโมชั่น ดูแลก่อน และหลังทำหัตถการ

อาชีพพาคนไปทำศัลยกรรมต่างประเทศ หรือ คลินิก โรงพยาบาลในประเทศ  “เอเจนซี่ ศัลยกรรม”  แต่ละคน ไม่ได้ทำแค่สถานพยาบาล หรือ ส่งเคสให้ หมอเพียงคนเดียว แต่ส่งให้หลายที่ หลายหมอ

บุคคลที่ทำอาชีพนี้มีรับรายรับ รายได้ จากคลินิกหรือโรงพยาบาล ที่เขาแนะนำ โฆษณา หาเคสศัลยกรรม เข้าคลินิก หรือโรงพยาบาล เพราะคลินิกก็ต้องการได้คนไข้ จึงเลือกใช้เอเจนซี่ ทำให้คลินิกบางแห่งมีลูกค้าจากเอเจนซี่เป็นส่วนใหญ่

แต่พอเอเจนซี่ยกกันออกหมด คลินิกก็เจ๊ง เนื่องจากไม่ได้ใช้ความสามารถทางด้านการตลาด และ ฝีมือของหมอจริงๆ

คนไข้หลงเอเจนซี่ที่โน้มน้าวโฆษณาเกินจริง อวดอ้างสรรพคุณหมอ  ให้ข้อมูลไม่ครบ บอกแต่ข้อดี ส่วนข้อเสียเก็บเอาไว้คนเดียว  

ไม่มีจริยธรรม เห็นคนไข้เป็นเพียงผักปลา หลอกล่อ ไม่แสดงความรับผิดชอบ คนที่ทำอาชีพนี้ เป็นใครก็ไม่รู้ ไม่ใช่หมอ แต่ให้คำตอบได้หมด

ขณะที่ รมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) ออกมาเตือนว่า การเดินทางไปรับบริการศัลยกรรมเสริมความงามจากโรงพยาบาล คลินิกนอกประเทศ หรือ คลินิก โรงพยาบาลในประเทศ ที่ต้องผ่าน “เอเจนซี่ ศัลยกรรม” 

หากเกิดผลกระทบจากการรักษาพยาบาล หรือเสริมความงาม การเยียวยาความเสียหาย หรือการฟ้องร้องดำเนินคดีก็จะทำได้ยาก

เนื่องด้วย กฎหมาย พ.ร.บ.สถานพยาบาล พ.ศ.2541 มิได้ครอบคลุมถึงสถานพยาบาลนอกประเทศ การดำเนินการจึงขึ้นอยู่กับกฎหมายของประเทศนั้นๆ  หากมีการฝ่าฝืนหรือกระทำผิดมาตรฐานที่กฎหมายกำหนดก็จะมีโทษทั้งจำ ทั้งปรับ 

แต่ปัจจุบันก็พบอย่างแพร่หลาย  ทั้งๆ ที่การทำศัลยกรรมในประเทศไทย ไม่แพ้ต่างประเทศ ซึ่งรวมไปถึงคลินิก โรงพยาบาลในประเทศ ที่ “เอเจนซี่ ศัลยกรรม” ไร้ความรับผิดชอบ 

เมืองไทย มีแพทย์เฉพาะทางศัลยกรรมมากมาย รวมทั้งไทย เป็นฮับของวงการศัลยกรรมความงาม มีต่างชาติเดินทางเข้ามาทำศัลยกรรมมากมาย

การยกระดับให้คลินิก หรือ โรงพยาบาล มีมาตรฐานความปลอดภัย ถือเป็นเรื่องเร่งด่วนที่ต้องรีบดำเนินการ ! 

04 พฤษภาคม 2564

ผู้ชม 6765 ครั้ง

Engine by shopup.com