หน้าฝน อย่าประมาท "โรคปอดบวม" หากไม่ได้รับการรักษาที่ถูกต้องทันท่วงที อาจตายได้อย่างรวดเร็ว
หน้าฝน อย่าประมาท "โรคปอดบวม" หากไม่ได้รับการรักษาที่ถูกต้องทันท่วงที อาจตายได้อย่างรวดเร็ว
News Update วันอังคารที่ 28 พฤษภาคม 62 : กระทรวงสาธารณสุข เตือนผู้สูงอายุ เด็กเล็ก ระวังป่วยด้วยโรคปอดบวม
แนะหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่มีคนแออัด ล้างมือบ่อย ๆ พักผ่อนให้เพียงพอ หากป่วยควรสวมหน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันการแพร่กระจายเชื้อ
เมดฮับ นิวส์ medhubnews.com เว็บไซต์ข่าวสุขภาพ สาธารณสุข การท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพ วาไรตี้ ฯลฯ รายงานว่า นายแพทย์สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ถึงช่วงฤดูฝน สภาพอากาศที่ชื้นเหมาะกับการเจริญเติบโตของเชื้อโรค ทั้งไวรัสและแบคทีเรีย
โดยเฉพาะกลุ่มเด็กเล็กอายุต่ำกว่า 5 ปี และผู้สูงอายุ ซึ่งมีภูมิต้านทานน้อยกว่าคนทั่วไป อาจป่วยได้ง่าย ได้ให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเฝ้าระวังสถานการณ์โรคที่พบบ่อย เช่น ไข้หวัดใหญ่ และ โรคปอดบวม หรือ ปอดอักเสบ
ซึ่งมีความรุนแรงสูง หากไม่ได้รับการรักษาที่ถูกต้องทันท่วงที อาจเสียชีวิตได้ โดยข้อมูลสำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 21 พฤษภาคม 2562 พบผู้ป่วยโรคปอดบวมแล้ว 96,084 ราย เสียชีวิต 79 ราย
กลุ่มที่พบผู้ป่วยมากที่สุดคือ กลุ่มอายุ 65 ปีขึ้นไป ส่วนจังหวัดที่มีอัตราป่วยสูงสุด 5 อันดับแรก คือ เชียงราย อุบลราชธานี ขอนแก่น น่าน ศรีสะเกษ ซึ่งอยู่ในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า โรคปอดบวม เกิดจากการติดเชื้อหลายชนิด
เช่น เชื้อแบคทีเรีย เชื้อไวรัส มักเป็นโรคแทรกซ้อนหลังป่วยไข้หวัดประมาณ 3 วัน ผู้ป่วยจะมีไข้สูง ไอ มีเสมหะ น้ำมูกเปลี่ยนสีจากสีเหลืองเป็นสีเขียวข้น
เจ็บหน้าอก เหนื่อยหอบง่าย เด็กเล็กและผู้สูงอายุอาจจะมีอาการเหล่านี้ไม่ชัดเจนหรือไม่ครบทุกอย่าง จึงควรให้ความสนใจมากกว่าปกติ
เช่น ในผู้สูงอายุอาจจะมีไข้ หรือตัวอุ่นๆ และอาการซึมลง หากมีอาการดังกล่าวขอให้รีบไปพบแพทย์ทันที จะช่วยลดอาการรุนแรงได้
การป้องกันตนเองจากโรคปอดบวมคือ หลีกเลี่ยงการรับเชื้อ โดยไม่อยู่ในที่แออัด มีผู้คนจำนวนมากอยู่รวมกัน หรือมีมลพิษจากควันบุหรี่ ควันไฟ และหมอกควันที่ก่อให้เกิดการระคายเคืองทางเดินหายใจ
ไม่ใช้ของส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น เช่น ผ้าเช็ดหน้า แก้วน้ำ ผ้าเช็ดตัว ออกกำลังกายสม่ำเสมอ รักษาสุขภาพให้แข็งแรง รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ และพักผ่อนให้เพียงพอ รักษาร่างกายให้อบอุ่นอยู่เสมอ
โดยเฉพาะเมื่ออากาศเปลี่ยนแปลง เช่น เย็นจัดหรือชื้นจัด หากท่านหรือบุคคลใกล้ชิดโดยเฉพาะเด็กเล็กและผู้สูงอายุที่มีอาการไข้ ไอ เจ็บคอ มีน้ำมูก
ขอให้พบแพทย์หรือเจ้าหน้าที่สาธารณสุขทันที เนื่องจากมีโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนปอดบวมได้ ประชาชนสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค 1422
29 พฤษภาคม 2562
ผู้ชม 3422 ครั้ง