ผลจัดอันดับ โรงพยาบาลที่ดีที่สุดในโลก 2019 โรงพยาบาลสมิติเวช Samitivej Hospital ติด 1 ใน 10
ผลจัดอันดับ โรงพยาบาลที่ดีที่สุดในโลก 2019 โรงพยาบาลสมิติเวช Samitivej Hospital ติด 1 ใน 10
โรงพยาบาลที่ดีที่สุดในโลก 2019 , โรงพยาบาลที่ดีที่สุดในไทย 2562 , world's best Hospitals 2019 , โรงพยาบาลสมิติเวช Samitivej Hospital อันดับที่ 5 , อุตสาหกรรมเครื่องมือแพทย์ 2562 , Prince Court Medical Center , เสาวภา จงกิตติพงศ์ , กองสุขภาพระหว่างประเทศ , worldsbesthospitals , Worlds Best Hospitals 2019 , โรงพยาบาลที่ดีที่สุดในโลก , สมาคมโรงพยาบาลเอกชน , โรงพยาบาลสมิติเวช , Samitivej Hospital , TOURISM HEALTH WELLNESS
News Update วันพฤหัสบดีที่ 27 มิถุนายน 2562 : กรมสนับสนุนบริการสุขภาพร่วมกับสมาคมโรงพยาบาลเอกชน คัด 10 บริการเด็ดทางการแพทย์
ชูจุดแข็ง งัดจุดเด่น ดึงดูดรายได้จากชาวต่างชาติเข้าสู่ประเทศไทย พร้อมก้าวสู่การเป็นอุตสาหกรรมการแพทย์ครบวงจร
medhubnews.com เว็บไซต์สุขภาพ สาธารณสุข การท่องเที่ยว วาไรตี้ และ เพจ sasook รายงานว่า ทันตแพทย์อาคม ประดิษฐสุวรรณ รองอธิบดี กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ(กรม สบส.) กระทรวงสาธารณสุข
ระบุว่า ประเทศไทยได้รับการยอมรับว่ามีโรงพยาบาล(รพ.) ที่ดีที่สุด ติดอันดับ 1 ใน 10 ของโลก
โดยการจัดอันดับจากเว็บไซต์ Worlds Best Hospitals และมอบรางวัล world's best Hospitals 2019 ซึ่ง world's best Hospitals
เป็นเว็บไซต์แนะนำ รพ.ที่ดีที่สุดในโลกสำหรับนักท่องเที่ยว หรือ TOURISM HEALTH WELLNESS
ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ รพ.ของไทยได้รับการยอมรับ ได้แก่ ราคาที่เหมาะสม การให้บริการมีคุณภาพมาตรฐานระดับนานาชาติ
มีบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง มีเทคโนโลยีที่ทันสมัย อัตราการรักษาที่ประสบความสำเร็จสูง ( Success rate )
ผู้ให้บริการมีอัธยาศัยไมตรีที่ดี ประกอบกับไทยมีสถานที่ท่องเที่ยวอันสวยงาม ก็มีส่วนช่วยดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาในไทยมากยิ่งขึ้น แต่แม้ว่าไทยจะได้รับการยอมรับว่าเป็นผู้นำด้านการจัดบริการสุขภาพในระดับโลก
แต่คาดการณ์ว่าจะมีการแข่งขันกันมากยิ่งขึ้นในกลุ่มประเทศที่ประกาศนโยบายด้าน Medical Tourism เช่นเดียวกัน เช่น สิงคโปร์ มาเลเซีย เป็นต้น
ดังนั้น กรม สบส. จึงเห็นควรส่งเสริมบริการรักษาพยาบาล ( Medical Service) และการบริการเพื่อส่งเสริมสุขภาพ (wellness) ที่มีศักยภาพดึงดูดผู้รับบริการ( Magnet )
รองรับการเป็นอุตสาหกรรมการแพทย์ครบวงจร อันจะเป็นประโยชน์ต่อการสร้างรายได้เข้าสู่ประเทศตามนโยบายของรัฐบาล โดยตนได้มอบหมายให้กองสุขภาพระหว่างประเทศ กรม สบส. เป็นผู้ขับเคลื่อนร่วมกับหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง
ด้านนางเสาวภา จงกิตติพงศ์ ผู้อำนวยการกองสุขภาพระหว่างประเทศ เผยว่าจากการประชุมร่วมกับสมาคมโรงพยาบาลเอกชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้พิจารณาเลือกประเภทบริการที่มีศักยภาพดึงดูดผู้รับบริการ ทั้งหมด 10 กลุ่มบริการ
นางเสาวภา จงกิตติพงศ์ ผู้อำนวยการกองสุขภาพระหว่างประเทศ
ได้แก่ 1Regenerative เวชศาสตร์ชะลอวัยและฟื้นฟูสุขภาพ 2Cardio Science โรคหัวใจ 3 Musculoskeletal โรคทางระบบกล้ามเนื้อและกระดูก
4 Dental Clinic บริการทันตกรรม 5 IVF บริการรักษาผู้มีบุตรยาก 6 การรักษาโรคมะเร็ง 7 การศัลยกรรม/ศัลยกรรมเสริมสวย/ผ่าตัดแปลงเพศ
8 Eye Treatment : Cataract โรคต้อกระจก และ 9 Precision Medicine การรักษาแบบแม่นยำและจำเพาะ 10 Alternative medicine การแพทย์ทางเลือก
โดยกรม สบส.ในฐานะฝ่ายเลขานุการของคณะกรรมการอำนวยการเพื่อพัฒนาประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ( Medical Hub ) ได้รวบรวมข้อเสนอแนะเกี่ยวกับอุปสรรคในด้านกฎหมายที่มีอยู่ในปัจจุบัน
เช่น การโฆษณา การเลือกเพศ ฯลฯ นำไปเสนอผู้บริหาร เพื่อพิจารณาหาแนวทางว่าสามารถปลดล็อกอุปสรรคดังกล่าวได้หรือไม่
รวมทั้งข้อเสนอเชิงนโยบายต่างๆ เช่น การพัฒนาเทคโนโลยี การพัฒนากฎหมาย การสนับสนุนการลงทุนในด้าน Clinical Research ในมนุษย์ การส่งเสริมการลงทุน และการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางด้านบุคลากร เป็นต้น
ทางด้านสถานพยาบาลเอกชนต้องทำการศึกษาวิเคราะห์ศักยภาพของบริการในกลุ่ม Magnet และพัฒนาบริการให้มีศักยภาพ เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน
เพื่อนำพาประเทศไปสู่การเป็นอุตสาหกรรมการแพทย์ครบวงจร ดึงรายได้เข้าสู่ประเทศ เป็นกลไกขับเคลื่อนเศรษฐกิจสู่การเป็นประเทศที่มีความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน
สำหรับการจัดอันดับของ Worlds Best Hospitals ได้ประกาศ 10 โรงพยาบาลที่ดีที่สุดในโลก รางวัล world's best Hospitals 2019 พบว่าโรงพยาบาลในเอเชียติดอันดับ 3 ประเทศ ทั้งของไทย มาเลเซีย สิงคโปร์
โรงพยาบาลสมิติเวช Samitivej Hospital ของไทย
ติดอันดับที่ 5 ของworld's best Hospitals 2019
โดย โรงพยาบาลสมิติเวช Samitivej Hospital ของไทย ติดอันดับที่ 5 ส่วน มาเลเซีย Prince Court Medical Center ติดอันดับ 6 ส่วน สิงค์โปร โรงพยาบาล gleneagle hospital Singapore ติดอันดับที่ 8
Prince Court Medical Center ติดอันดับ 6
gleneagle hospital Singapore ติดอันดับที่ 8
05 มกราคม 2564
ผู้ชม 18670 ครั้ง