จิตแพทย์โคราช ห่วงสิ่งยั่วยุ ทั้งเน็ตไอดอล โฆษณา เผยชวนให้ปาร์ตี้ มีได้ทุกวัน วัยรุ่นเสี่ยงติดเหล้า บุหรี่ เว็บไซต์สุขภาพ

บทความ

จิตแพทย์โคราช ห่วงสิ่งยั่วยุ ทั้งเน็ตไอดอล โฆษณา เผยชวนให้ปาร์ตี้ มีได้ทุกวัน วัยรุ่นเสี่ยงติดเหล้า บุหรี่

พรบ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 2561 , ผีพนันบอล , เด็กติดเกม , สายด่วนสุขภาพจิต 1300 , สายด่วนสุขภาพจิต , สายด่วนโรคซึมเศร้า , อาการติดยาไอซ์ pantip , เว็บไซต์สุขภาพ , สายด่วนสุขภาพจิต 1323 , medhub news , , สายด่วนจิตเวช , สายด่วนกรมสุขภาพจิต , 1323 โทรไม่ติด 

News Update วันจันทร์ที่ 1 กรกฎาคม 2562 : วันสถาปนาลูกเสือแห่งชาติ / วันหยุดภาคครึ่งปีธนาคาร : hottopicข่าววันนี้  - จิตแพทย์โคราช ห่วงสิ่งยั่วยุในสังคมขณะนี้ ( อ่านข่าว พรบ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 2551 ) 

ทั้งเน็ตไอดอล โฆษณา เผยโฆษณาเบียร์ชวนให้ปาร์ตี้ มีได้ทุกวัน เสี่ยงถูกเพื่อนชักนำเข้าสู่วงจรอบายมุข  

เผยผลวิจัยล่าสุด พบเยาวชนอายุ 13-17 ปี มีปัญหาติดเหล้า-บุหรี่รวมกว่า 3 แสนคน พบในชายมากกว่าหญิง 2-4 เท่าตัว 

medhubnews.com เว็บไซต์สุขภาพ สาธารณสุข การท่องเที่ยว วาไรตี้  และ เพจ sasook รายงานว่า นายแพทย์กิตต์กวี  โพธิ์โน ผู้อำนวยการ โรงพยาบาลจิตเวชนครราชสีมาราชนครินทร์  จ.นครราชสีมา

ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับปัญหาในวัยรุ่นว่า เป็นวัยที่อยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ  ระบบต่างๆ ในร่างกายยังพัฒนาไม่สมบูรณ์

สภาพการเปลี่ยนแปลงของสังคมขณะนี้ นับว่าน่าเป็นห่วงอย่างยิ่ง เนื่องจากมีสิ่งยั่วยุมากมาย ทั้งจากการโฆษณา และจากเน็ตไอดอลต่างๆ  อาจทำให้วัยรุ่นเสี่ยงมีพฤติกรรมไปในทางที่ไม่เหมาะสมได้ง่าย

ขณะที่ แพทย์หญิงสายสุดา สุพรรณทอง จิตแพทย์ประจำรพ.จิตเวชนครราชสีมาฯ กล่าวว่า  ผลการศึกษาของกรมสุขภาพจิตล่าสุดในปี 2559

กลุ่มนักเรียนระดับมัธยมศึกษาและอาชีวศึกษา อายุ 13-17 ปี  มีปัญหาติดเหล้าและบุหรี่รวม 3 แสนกว่าคน โดยติดบุหรี่ ( Tobacco dependence ) ร้อยละ 2.4 หรือประมาณ  93,000  คน  

จากกลุ่มวัยนี้ที่มีจำนวนเกือบ 4 ล้านคน และติดเหล้า ( Alcohol dependence ) ร้อยละ 6.4 หรือมีประมาณ 240,000 คน พบในผู้ชายมากกว่าผู้หญิง 2-4 เท่าตัว

จากการวิเคราะห์ข้อมูลผู้ป่วยติดสุราที่เข้าบำบัดรักษาอาการทางจิตที่รพ.จิตเวชนครราชสีมาฯล่าสุดปีนี้ พบมีอายุน้อยที่สุดเพียง 20 ปีเท่านั้น ซึ่งไม่สามารถรักษาให้สมองกลับมาเหมือนเดิมได้

โอกาสพฤติกรรมความเสี่ยงของวัยรุ่นแต่ละคนแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยเช่น การเลี้ยงดู สภาพครอบครัว พื้นฐานทางอารมณ์ แต่ที่สำคัญที่สุดคือเพื่อน เนื่องจากวัยรุ่นส่วนใหญ่จะผูกพันกับเพื่อนมาก จะเรียนรู้ทักษะทางสังคม

รวมถึงการยอมรับค่านิยมต่างๆ แนวคิดการปฏิบัติมาจากเพื่อน ซึ่งในช่วงเปิดเทอมใหม่นี้ เป็นโอกาสที่วัยรุ่นจะได้พบทั้งเพื่อนเก่าและเพื่อนใหม่ในโรงเรียน อาจถูกชักชวนไปในทางที่ไม่เหมาะสมได้

และบางครั้งวัยรุ่นเองไม่ได้คิดอะไรให้รอบคอบ เพราะเกรงใจหรือรู้เท่าไม่ถึงการณ์ หรือไม่กล้าปฏิเสธเพราะกลัวเพื่อนโกรธ เป็นต้น

จึงจำเป็นต้องมีความรู้และมีทักษะการปฏิเสธหากถูกเพื่อนชักชวนไปในทางที่ไม่ดี  เพื่อใช้ในดำเนินชีวิตประจำวันอย่างปลอดภัย เป็นผลดีต่อตนเอง    

สำหรับเทคนิคปฏิเสธเพื่อนให้ได้ผลและไม่เสียเพื่อนด้วยมีข้อแนะนำ ดังนี้ ให้ใช้การปฏิเสธอย่างจริงจัง ทั้งท่าทาง คำพูด และน้ำเสียง เพื่อแสดงความตั้งใจอย่างชัดเจน เนื่องจากการปฏิเสธเป็นสิทธิส่วนบุคคลที่ทุกคนควรเคารพและยอมรับ

ให้ใช้ความรู้สึกเป็นข้ออ้างประกอบเหตุผลด้วยเช่น ไม่สบาย, หมอสั่งห้าม จะทำให้ฝ่ายชักชวนโต้แย้งได้ยากขึ้น 

ควรบอกปฏิเสธให้ชัดเจนเช่น ไปไม่ได้หรอก, ไม่ชอบ, ขอไม่ไปด้วย

การขอความเห็นชอบและแสดงอาการขอบคุณเมื่อผู้ชวนยอมรับการปฏิเสธเพื่อเป็นการรักษาน้ำใจของผู้ชวน เช่นพูดว่าคงไม่ว่านะ, คงเข้าใจนะ 

และ ให้ออกจากสถานการณ์นั้น โดยกรณีเป็นสถานการณ์ที่เกี่ยวข้องกับบุคคลอื่นที่ไม่น่าไว้วางใจหรืออาจเป็นอันตราย ก็ไม่จำเป็นต้องรักษาน้ำใจแต่อย่างใด   เพียงใช้การปฏิเสธอย่างสุภาพ แล้วออกไปจากสถานการณ์โดยเร็ว

หากปฏิเสธไปแล้ว แต่เพื่อนยังพูดเซ้าซี้ชักชวนหรือพูดสบประมาท ซึ่งอาจจะสร้างความสับสน ไขว้เขวได้ คำพูดที่มักใช้กันบ่อยมี 6 ประเภท ได้แก่ 1. พูดดูถูก เช่น กลัวใช่ไหม, ไม่กล้าจริงนี่

2 การโต้แย้งเช่นพูดว่าคนรุ่นใหม่เขาทำกันอย่างนี้ทุกคน ใครๆ ก็ทำกันทั้งนั้น 3. ใช้คำข่มขู่ เช่น ถ้าไม่ทำ เจ็บแน่

4. การพยายามกลบเกลื่อนมองไม่เห็นปัญหา เช่นพ่อแม่ไม่ว่าหรอก, ไม่มีใครรู้หรอก 5. การอ้างเหตุผลเข้าข้าง เช่น เธอโตแล้วนะ, อย่าเป็นเด็กอยู่เลย

และ6. การพยายามออกนอกเรื่อง เช่นพูดว่า พึ่งรู้ว่าเวลาเธอโมโหแล้วสวยจัง เป็นต้น ก็ไม่ควรหวั่นไหวหรืออย่าใจอ่อนกับคำพูดเหล่านั้น 

เพราะจะทำให้ขาดสมาธิได้  ขอให้ยืนกรานการปฏิเสธโดยให้เลือกใช้ 3 เทคนิคอย่างใดอย่างหนึ่งพร้อมบอกลาแล้วเดินจากไปทันที ดังนี้

1. ปฏิเสธซ้ำโดยไม่ต้องใช้ข้ออ้าง 2. การต่อรองและเบนความสนใจ โดยชวนเพื่อนไปทำกิจกรรมอย่างอื่นแทนเช่น พูดว่าเรากลับบ้านกันดีกว่า เดี๋ยวพ่อแม่จะเป็นห่วง

หรือ3.การผัดผ่อนยืดเวลาออกไปเพื่อให้ผู้ชวนเปลี่ยนความตั้งใจ เช่นพูดว่า เอาไว้วันหลังดีกว่า, ตอนนี้ยังไม่ว่าง เป็นต้น

เทคนิคการปฏิเสธเพื่อนที่กล่าวมา วัยรุ่นสามารถใช้ในกรณีถูกชวนให้กระทำเรื่องอื่นๆ

ที่เป็นอันตรายต่อตัวเอง เช่น ชวนเล่มเกมพนัน  มีเพศสัมพันธ์ ร่วมแก๊งค์รถซิ่งได้ด้วย 

04 กรกฎาคม 2562

ผู้ชม 2292 ครั้ง

Engine by shopup.com