โรงพยาบาลเอกชน เฮ ! หมอตี๋ เร่งยกระดับมาตรฐาน เป็นศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ Medical Hub
โรงพยาบาลเอกชน เฮ ! หมอตี๋ เร่งยกระดับมาตรฐาน เป็นศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ Medical Hub
News Update วันอังคารที่ 1 ตุลาคม 2562 : เริ่มต้นปีงบประมาณใหม่กันแล้วตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2562 medhubnews.com เว็บไซต์สุขภาพ สาธารณสุข การท่องเที่ยว วาไรตี้ และ เพจ sasook รายงานว่า
ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข และคณะ ตรวจเยี่ยมการดำเนินงานพร้อมมอบนโยบายผู้บริหาร กรมสนับสนุนบริการสุขภาพส่วนกลาง
และประชุมทางไกลผ่านระบบวิดีโอกับผู้บริหาร ศูนย์สนับสนุนบริการสุขภาพที่ 1 – 12 และศูนย์สาธารณสุขมูลฐาน (ศสมช.) 5 ศูนย์
โดยให้สัมภาษณ์ว่าได้มีโอกาสมาตรวจเยี่ยมกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ จากวิสัยทัศน์ของกรมที่เป็นองค์กรหลักในการบริหารจัดการระบบบริการสุขภาพและระบบสุขภาพภาคประชาชน
เพื่อการคุ้มครองผู้บริโภคและการพึ่งตนเองด้านสุขภาพที่ยั่งยืนแบบมีส่วนร่วม เมื่อประชาชนมีความรอบรู้ด้านสุขภาพและมีวินัยในการดูแลสุขภาพตนเอง จะทำให้ประชาชนเข้มแข็ง พึ่งพาตนเองด้านสุขภาพได้
ดร.สาธิตกล่าวต่อว่า ได้มอบนโยบายให้ดำเนินการต่อเนื่องใน 4 เรื่อง คือ 1.การพัฒนาศักยภาพอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ให้เป็น อสม. 4.0
ซึ่งจะครบ 1 ล้าน 4 หมื่นคนในปี 2563 และเพิ่มศักยภาพเป็น อสม. หมอประจำบ้าน มีความรอบรู้ด้านสุขภาพและด้านดิจิตัล
ที่สำคัญคือการเป็นจิตอาสาดูแลสุขภาพและเป็นต้นแบบการดูแลสุขภาพแก่ประชาชน เพื่อเป็นกองทัพภาคประชาชนระบบสุขภาพของประเทศ โดยจะดูแลเร่งรัดการจัดตั้งกองทุน เป็นสวัสดิการและขวัญกำลังใจแก่ อสม.
เช่น กองทุนฌาปนกิจ กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ เป็นต้น 2.การก่อสร้างอาคารต่าง ๆ ขอให้เป็นไปตามระยะเวลา และส่งสัญญาณเตือนเมื่อเห็นว่าอาจล่าช้า
3.การยกระดับมาตรฐานโรงพยาบาลเอกชนเพื่อสนับสนุนการเป็น ศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ ( Medical Hub) ซึ่งขณะนี้มีโรงพยาบาลเอกชนผ่านมาตรฐานเจซีไอแล้ว 70 แห่ง มากที่สุดในอาเซียน
คลิ๊กอ่านข่าว : ผลจัดอันดับ โรงพยาบาลที่ดีที่สุดในโลก 2019 โรงพยาบาลสมิติเวช Samitivej Hospital ติด 1 ใน 10
การแก้ไขประกาศกระทรวงสาธารณสุขโครงการเจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤตทุกที่ ดีทุกสิทธิ์ (UCEP) ให้สามารถอุทธรณ์ได้ เพื่อให้ประชาชนมีโอกาสเข้าถึงบริการได้มากขึ้น
และ 4.การสร้างความรอบรู้ดานสุขภาพให้ประชาชนในการดูแลจัดการสุขภาพของตนเอง
“ผมมีวิสัยทัศน์การบริหารงาน 3 ข้อ คือ ความโปร่งใส มีธรรมาภิบาลและตรวจสอบได้ มีข้อมูลที่ครบถ้วนรอบด้าน ตัดสินใจด้วยดุลยพินิจ รวดเร็ว
และมีการสื่อสารที่ครบถ้วน ทั้งสื่อหลัก สื่อรอง สื่อออนไลน์ สื่อบุคคล อยากฝากเป็นข้อคิดให้กับผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ของกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ
ซึ่งทุกวันนี้เป็นยุคที่ข้อมูลข่าวสารมีความรวดเร็ว ต้องทำงานและประชาสัมพันธ์ให้ถึงประชาชน จะประสบความสำเร็จ”
สำหรับในปี 2563 จะเร่งรัดการดำเนินงานใน 5 เรื่อง คือ 1.โครงการพระราชดำริพัฒนาสุขศาลาพระราชทาน ตามพระราชดำริสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้ากรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี 22 แห่ง
ดูแลสุขภาพนักเรียนและประชาชน ลดความเหลื่อมล้ำ เพิ่มการเข้าถึงบริการพื้นฐาน
2.ด้านสุขภาพภาคประชาชน ระบบสุขภาพปฐมภูมิตาม พ.ร.บ.ระบบสุขภาพปฐมภูมิ พ.ศ.2562
3.การคุ้มครองผู้บริโภคด้านสุขภาพบริการ พัฒนาปรับปรุงกฎหมาย สถานพยาบาลภาครัฐและเอกชน สถานประกอบการเพื่อสุขภาพ การยื่นขออนุญาตและขึ้นทะเบียนออนไลน์
4.มาตรฐานระบบบริการสุขภาพ กำหนดมาตรฐานการออกแบบอาหารและสภาพแวดล้อม มาตรฐานวิศวกรรมการแพทย์ และ 5.การพัฒนาคุณภาพการบริหารจัดการองค์กร เป็นองค์กรแห่งความสุข และองค์กรดิจิตัล
01 ตุลาคม 2562
ผู้ชม 1926 ครั้ง