หมอประกิต ส่งจดหมายเปิดผนึกถึง นายกฯ ให้สองทางเลือก แก้ปัญหาภาษียาเส้น เยียวยาเกษตรกร หาอาชีพทดแทน

บทความ

หมอประกิต ส่งจดหมายเปิดผนึกถึง นายกฯ ให้สองทางเลือก แก้ปัญหาภาษียาเส้น เยียวยาเกษตรกร หาอาชีพทดแทน

News Update วันพฤหัสบดีที่ 10 ตุลาคม 2562 : หมอประกิต ส่งจดหมายเปิดผนึกถึง นายกฯ ชี้รัฐบาลมี 2 ทางเลือก แก้ปัญหาภาษียาเส้น ตามใจเกษตรกรแบกคนป่วย หรือเยียวยาเกษตรกร หาอาชีพทดแทน แก้ปัญหาสุขภาพ

ศ.นพ.ประกิต วาทีสาธกกิจ  เลขาธิการมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่  เปิดเผยว่า จากกรณีการเดินขบวนประท้วงการขึ้นภาษียาเส้น สืบเนื่องจากกระทรวงการคลังได้ขึ้นภาษียาเส้นไปแล้ว

แต่มี ผู้ค้ายาเส้นและชาวไร่ยาสูบ ประท้วงขอให้ ลดภาษีที่ขึ้นไปแล้ว และให้ชะลอการขึ้นภาษีตามแผนที่กำหนดไว้นั้น จึงได้ทำจดหมายเปิดผนึกถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี 

ถึงแนวทางการตัดสินใจแก้ปัญหาเรื่องนี้ของรัฐบาล มีความสำคัญอย่างยิ่ง ต่อสุขภาพของคนไทย และต่อเนื่องมาถึงค่าใช้จ่ายในการรักษาโรคคนที่ป่วยจากการสูบบุหรี่ 

ศ.นพ.ประกิต กล่าวว่า การสูบบุหรี่ยาเส้นเป็นปัญหาสาธารณสุขที่สำคัญและเรื้อรังของไทยมาโดยตลอด จากการเก็บภาษีที่ต่ำมาก ส่งผลให้ราคายาเส้นถูกมาก เป็นสาเหตุสำคัญของการทำให้เด็กๆ และเยาวชนเสพติดบุหรี่ และทำให้คนยากจนที่สูบบุหรี่ไม่เลิกสูบ ทั้งที่ยาเส้นก็มีอันตรายเหมือนกับยาสูบชนิดอื่นๆ

ศ.นพ.ประกิต กล่าวว่า รัฐบาลมีทางเลือกในการแก้ปัญหา 2 แนวทาง คือ 1.รัฐบาล ทำตามที่ชาวไร่ และผู้ค้ายาสูบเรียกร้อง ลดภาษียาเส้นที่ขึ้นไปแล้ว เรื่องก็จะจบ เป็นวิธีแก้ปัญหาที่ง่ายและรวดเร็ว

แต่เป็นการแก้ปัญหาที่ไม่ตรงจุด เพราะจะทำให้วัตถุประสงค์ของการขึ้นภาษี ที่ต้องการจะลดจำนวนคนไทยที่สูบบุหรี่ยาเส้นเกือบ 5 ล้านคนให้น้อยลง ก็เป็นเรื่องยากที่จะเกิดขึ้น

คนที่จะเจ็บป่วยจากการสูบบุหรี่ก็จะไม่ลดลง รัฐบาลจะต้องรับภาระการรักษาพยาบาลคนที่ป่วยเหล่านี้ ยิ่งเพิ่มภาระแก่โรงพยาบาล และงบประมาณ สปสช.

ทั้งนี้ ผู้เชี่ยวชาญองค์การอนามัยโลกประเมินไว้ว่า การขึ้นภาษียาเส้นของรัฐบาลไทยครั้งนี้ จะลดจำนวนคนที่สูบบุหรี่ยาเส้นลง 240,000 คน และจะทำให้ลดจำนวนคนที่จะป่วยและเสียชีวิตจากการสูบบุหรี่ 120,000 คน จากสถิติที่พบว่า ครึ่งหนึ่งของคนที่สูบบุหรี่ จะป่วยและเสียชีวิตจากโรคที่เกิดจากการสูบบุหรี่
ศ.นพ.ประกิต กล่าวว่า แนวทางที่ 2  คือ รัฐบาลทำตาม ข้อแนะนำของผู้เชี่ยวชาญองค์การอนามัยโลก และข้อกำหนดของอนุสัญญาควบคุมยาสูบ ที่ให้มีการขึ้นภาษียาสูบ และให้ใช้มาตรการช่วยเหลือชาวไร่ยาสูบด้วยวิธีอื่น และคงแผนการขึ้นภาษีไว้

เช่น เยียวยาผลกระทบที่เกิดจากการขึ้นภาษี สนับสนุนให้ทำอาชีพอื่น หรือสนับสนุนการปลูกพืชทดแทน โดยอาจจะเอาเงินภาษียาเส้นที่เก็บเพิ่มขึ้นได้มาใช้เป็นงบประมาณในการแก้ปัญหา วิธีนี้จะส่งผลดีต่อแผนการขึ้นภาษีที่ศึกษาเตรียมการไว้อย่างดีมานานแล้ว

ซึ่งจะทำให้คนสูบบุหรี่ลดลง คนเจ็บป่วยลดลง ประหยัดงบประมาณรักษาสุขภาพ และเป็นการแก้ปัญหาที่ตรงจุด ลดข้อครหาที่ว่า รัฐบาลทำอะไรที่ย้อนแย้ง คือ ทางหนึ่งก็จะเอาใจชาวไร่ยาสูบ

อีกทางก็ลงแส้หน่วยงานต่างๆ ให้หาทางรณรงค์ลดการบริโภคยาสูบ ที่สำคัญ วิธีนี้แม้จะทำยากกว่า แต่เป็นการแก้ปัญหาที่ตรงจุด ซึ่งไม่ช้าก็เร็ว รัฐบาลจะต้องเดินทางนี้อย่างแน่นอน เพราะผู้คนจะปฏิเสธการใช้ยาสูบมากขึ้นๆ ความต้องการใบยาสูบมีแต่จะลดลงๆ

"ถ้ารัฐบาลแก้ปัญหา ด้วยการยอมลดภาษียาเส้นตามที่มีการเรียกร้อง จะเป็นการถอยหลังเข้าคลอง และลบล้างความพยายามควบคุมยาสูบที่หน่วยงานต่าง ๆ พยายามทำอยู่ สุขภาพของคนไทยก็ไม่ต้องหวังว่าจะให้ดีขึ้น

เราเข้าใจ เห็นใจเกษตรกรและรัฐบาลต้องช่วยเหลือ เหตุการณ์การประท้วงที่เกิดขึ้นเป็นวิกฤต รัฐบาลต้องแก้ปัญหาโดย แปลงวิกฤตให้เป็นโอกาส ไม่ใช่แก้ปัญหาแบบเหมือนกับไม่ได้แก้

ขอให้รัฐบาลตัดสินใจ เพื่ออนาคตสุขภาพของลูกหลานไทย ให้เราภูมิใจและศรัทธาในการนำของท่าน" ศ.นพ.ประกิต กล่าว

10 ตุลาคม 2562

ผู้ชม 1678 ครั้ง

Engine by shopup.com