ไทยจ่อขึ้นภาษี เครื่องดื่ม  น้ำอัดลมทุกชนิดอีก เหตุทำลายสุขภาพ สาธารณสุขสิงคโปร์ สั่งแบนโฆษณาน้ำอัดลมทุกชนิด

บทความ

ไทยจ่อขึ้นภาษี เครื่องดื่ม  น้ำอัดลมทุกชนิดอีก เหตุทำลายสุขภาพ สาธารณสุขสิงคโปร์ สั่งแบนโฆษณาน้ำอัดลมทุกชนิด

หมวดหมู่: "สกู๊ปพิเศษ"

สกู๊ปพิเศษ News Update วันศุกร์ที่ 11 ตุลาคม 2562 : เนื่องด้วยผู้ป่วยเบาหวานในประเทศไทย มีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จนเป็นที่น่ากังวล จากการสำรวจสุขภาพประชาชนในประเทศไทยพบว่า

ประชากรไทยเสียชีวิตจาก โรคเบาหวาน ถึงร้อยละ 21.96 และยังควบคุมระดับน้ำตาลได้น้อยมาก ประมาณร้อยละ 40 ในขณะที่สามารถควบคุมทั้ง 3 อย่างคือ ระดับน้ำตาล ไขมัน ความดันโลหิต ได้ประมาณ ร้อยละ 12 เท่านั้น

ฉะนั้นการจัดตั้ง ชมรมผู้ป่วยเบาหวาน จึงเป็นแนวทางหนึ่งที่ทำให้ผู้เป็นเบาหวานสามารถดูแลตนเองและควบคุมระดับน้ำตาล ไขมัน และความดันโลหิต ได้ดีขึ้น

และทำให้ภาวะแทรกซ้อนลดลงได้  ด้วยเหตุนี้ สมาคมโรคเบาหวานแห่งประเทศไทยในพระราชูปถัมภ์ฯ ได้เล็งเห็นความสำคัญและรณรงค์การสร้างเครือข่ายผู้เป็นเบาหวานในประเทศไทยมาอย่างต่อเนื่อง

นับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2557 โดยเสวนาครั้งนี้ ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องจะได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้และนำโมเดลของโรงพยาบาลแต่ละแห่งมาปรับใช้

เพื่อเป็นแนวทางในการดูแลผู้ป่วยเบาหวานของโรงพยาบาลหรือชมรมของตนเองเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยและสังคมไทยให้ดียิ่งขึ้นและประโยชน์ต่อวงการสาธารณสุขไทย

medhubnews.com เว็บไซต์สุขภาพ สาธารณสุข การท่องเที่ยว วาไรตี้  และ เพจ sasook รายงานว่า กรมสรรพสามิต เตรียมพิจารณาปรับภาษีความหวาน หลังจาก กรมสรรพสามิต ได้ขึ้นภาษี รอบ 2 เมื่อวันที่ 1 ต.ค.2562 ที่ผ่านมานี้เอง

สำหรับ อัตราภาษีความหวาน กรมสรรพสามิต ได้เตรียมพิจารณาจากข้อมูลสุขภาพ ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เร่งรัดให้เก็บเพิ่มมากขึ้นอีก  

จากเดิม  เครื่องดื่มที่มีความหวานเกินกำหนด จะต้องเสียภาษีมากขึ้น เช่น น้ำอัดลมกระป๋องขนาด 250 ซีซี จะต้องเสียภาษีเพิ่มขึ้นประมาณ 10 สตางค์ ส่วนผู้ประกอบการจะเพิ่มราคากับผู้บริโภค ขึ้นอยู่กลยุทธ์ทางการตลาดของผู้ผลิต

โดย เครื่องดื่มน้ำอัดลม เพิ่งมีการปรับลดน้ำตามจาก 14 กรัมต่อลิตร เหลือ 12 กรัมต่อลิตร เพื่อเสียภาษีให้ต่ำลง

ส่วนน้ำอัดลมสีดำ ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงสูตร เพราะเป็นตลาดใหญ่ของผู้บริโภค ต่างจากน้ำอัดลมสี ที่สัดส่วนตลาดมีน้อยก็มีการเปลี่ยนสูตรลดน้ำตาล ไม่กระทบกับยอดขาย

ปัจจุบันกรมสรรพสามิตเก็บภาษีความหวานเฉลี่ยอยู่ที่  3 บาทต่อลิตร และหลังจากนั้นจะปรับเพิ่มสูงสุด 5 บาทต่อลิตร และ จะถูกเก็บภาษีเพิ่มขึ้นตามขั้นบันไดอีก

ด้าน กระแสข่าวของ กระทรวงสาธารณสุขสิงคโปร์ สั่งแบนโฆษณาน้ำอัดลม ทั้งน้ำดำ น้ำสี เหตุทำลายสุขภาพ

สถิติผู้ป่วยเบาหวาน แนวโน้มเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ระบุเมื่อวันที่ 10 ตุลาคมที่ผ่านมาว่า สิงคโปร์ กำลังจะเป็นประเทศแรกในโลก

ที่จะออกกฎหมาย ห้ามโฆษณาเครื่องดื่มน้ำตาลสูง น้ำอัดลม ที่ไม่ดีต่อสุขภาพ เพื่อต่อสู้กับอัตราผู้ป่วยโรคเบาหวานที่เพิ่มสูงขึ้น

กระทรวงสาธารณสุขสิงคโปร์ระบุว่า เครื่องดื่มน้ำตาลสูงที่จะวางขายจะต้องมีฉลากที่แจกแจงสัดส่วนน้ำตาลและสารอาหารโดยเครื่องดื่มที่ถูกกำหนดให้เป็นเครื่องดื่มที่ไม่ดีต่อสุขภาพมากที่สุดจะถูกห้ามปรากฎในสื่อโฆษณาทุกประเภท

มาตรการดังกล่าวจะเป็นเพียงจุดเริ่มต้นและเตรียมจะศึกษาความเป็นไปได้ในเรื่องของการเก็บภาษีน้ำตาลและการแบนน้ำตาลต่อไปในอนาคต

โดยระหว่างนี้จะทำงานร่วมกับโรงงานผลิตเพื่อทำงานร่วมกันในการดำเนินมาตรการดังกล่าวและจะประกาศรายละเอียดอีกครั้งในปีหน้า

ทั้งนี้ ข้อมูลจากสมาพันธ์โรคเบาหวานนานาชาติ ระบุว่า ในสิงคโปร์มีผู้ใหญ่ป่วยเป็นโรคเบาหวาน 13.7 เปอร์เซ็นต์ นับเป็นสัดส่วนที่สูงที่สุดในบรรดาประเทศพัฒนาแล้ว

สำหรับ สมาคมโรคเบาหวานแห่งประเทศไทยในพระราชูปถัมภ์ ได้ร่วมกับโรงพยาบาลราชวิถี กรมการแพทย์ และ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) จะจัดเสวนา “แลกเปลี่ยนเรียนรู้การสร้างเครือข่ายและชมรมเบาหวานของประเทศไทย”

วันศุกร์ที่ 18 ตุลาคม 2562 เวลา 8.30 – 12.00 น. ณ ห้องประชุมพญาไท ชั้น 11 อาคารเฉลิมพระเกียรติ 6 รอบพระชนมพรรษา โรงพยาบาลราชวิถี 

งานสัมมนาครั้งนี้ นับเป็นครั้งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในการร่วมมือจากทุกภาคส่วนที่ขับเคลื่อนให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ผู้ป่วยเบาหวาน

ทั้งนี้ ยังมีการจัดแสดงบูธผลงานจากชมรมเบาหวานจากโรงพยาบาลหลายแห่ง อาทิ  รพ.จุฬาลงกรณ์ รพ.รามาธิบดี รพ.พระมงกุฎเกล้า รพ.วชิรพยาบาล รพ.ศิริราช รพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ และ รพ.มหาราชนครเชียงใหม่ เป็นต้น

โดยมีความคืบหน้า เรื่องบทบาทการดูแลผู้ป่วยเบาหวานและการสนับสนุนการสร้างเครือข่ายของแต่ละภาคส่วน

ซึ่งมี นพ. ณรงค์ อภิกุลวณิช รองอธิบดีกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ศ. เกียรติคุณ พญ. วรรณี นิธิยานันท์ นายกสมาคมโรคเบาหวานแห่งประเทศไทยฯ  

นพ.สมเกียรติ ลลิตวงศา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลราชวิถี และ ศ. คลินิก นพ. วีระศักดิ์ ศรินนภากร กรมการแพทย์ ฯลฯ มาร่วมให้ข้อมูลและ รับฟังการแลกเปลี่ยนจากตัวแทน รพ. พุทธชินราช จ.พิษณุโลก

ที่จะมาแชร์ถึงความสำเร็จในการควบคุมโรคเบาหวาน และการสร้างเครือข่ายในพื้นที่ Life Long NCDs และจากหลายโรงพยาบาลทั่วประเทศ

11 ตุลาคม 2562

ผู้ชม 2459 ครั้ง

Engine by shopup.com