ปลัดสุขุม ประธานยุติปมขัดแย้งสองวิชาชีพ หมอแย่งห้องผ่าตัด พยาบาลสาวใหญ่ จนเกิดคลิป หมอตีพยาบาล

News Update : วันศุกร์ที่ 22 พฤศจิกายน 2562 จากกรณี หมอแย่งห้องผ่าตัด กับ พยาบาลสาวใหญ่ จนทำให้ซึ่งข่าวใหญ่

พาดหัว หมอตีพยาบาล โด่งดังไปทั่วประเทศ กระทรวงสาธารณสุข จับมือสภาวิชาชีพ ราชวิทยาลัย และสหวิชาชีพ

ระบบป้องกันเหตุรุนแรงในสถานพยาบาลทั่วประเทศ ชี้ผู้ประกอบวิชาชีพต้องมีจรรยาบรรณและจริยธรรม เตรียมกำหนดให้ระบบป้องกันความรุนแรงเป็นหนึ่งในเกณฑ์การประเมินมาตรฐานคุณภาพโรงพยาบาลทั่วประเทศ

medhubnews.com เว็บไซต์สุขภาพ สาธารณสุข การท่องเที่ยว วาไรตี้  และ เพจ sasook รายงานว่า วันนี้ (22 พฤศจิกายน 2562)

ที่สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข  จ.นนทบุรี นายแพทย์สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข

เป็นประธานประชุมคณะกรรมการบูรณาการการทำงานร่วมกันของสหวิชาชีพและให้สัมภาษณ์ว่า ในวันนี้เป็นการประชุมครั้งแรก เพื่อบูรณาการการทำงานระหว่างวิชาชีพ

โดยกระทรวงสาธารณสุขให้ความสำคัญกับทุกวิชาชีพในการดูแลประชาชนที่เข้ารับบริการในสถานพยาบาล หาแนวทางที่ได้มาตรฐานและดำเนินการอย่างเป็นระบบ

สร้างเป็นมาตรฐาน เกิดการแก้ไขปัญหาในระยะยาว ซึ่งต้องทำงานร่วมกันเป็นทีม ถ้าทุกคนทำงานร่วมกันจะเป็นผลดี

“ในการทำงานอาจมีการกระทบกระทั่ง หรือเกิดปัญหา ต้องหาสาเหตุว่า เป็นเรื่องส่วนตัวหรือเป็นเรื่องของระบบต้องแก้ไข

เช่น หากมีบุคลากรไม่เพียงพอ อาจทำให้เกิดความเครียด  การเพิ่มจำนวนบุคลากร การสร้างขวัญกำลังใจ ค่าตอบแทนที่เป็นธรรม ความก้าวหน้าของบุคลากรเป็นสิ่งสำคัญ

ทำให้เกิดแรงจูงใจในการทำงาน เราจะผลักดันให้เกิดขึ้นให้ได้ เพื่อประโยชน์ต่อประชาชนได้รับการดูแลอย่างทั่วถึง ส่วนเรื่องของพฤติกรรมส่วนตัวของบุคลากร

ต้องมีจรรยาบรรณและจริยธรรม เป็นเรื่องสำคัญของการประกอบวิชาชีพ” นายแพทย์สุขุม กล่าว

นายแพทย์ยงยศ ธรรมวุฒิ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า จากกรณีเหตุที่โรงพยาบาลอำนาจเจริญในที่ประชุมเห็นชอบร่วมกันใน 4 ประเด็น ได้แก่ 1 ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญ ซึ่งมีอำนาจรับผิดชอบ ดำเนินการสอบสวนและดำเนินการทางวินัย

โดยมีมติเพิ่มเติมว่าหากผู้ปฏิบัติงานกังวลว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการตั้งกรรมการของจังหวัด ให้มีเจ้าหน้าที่จากกระทรวงสาธารณสุขที่มีประสบการณ์

ได้แก่ กลุ่มเสริมสร้างวินัยและระบบ คุณธรรมร่วมกับศูนย์สันติวิธีกระทรวงสาธารณสุข เป็นพี่เลี้ยงอำนวยความสะดวก

ลดข้อขัดแย้ง และไขข้อข้องใจ 2) ให้ประธานคณะกรรมการด้านบริการเกี่ยวกับแม่และเด็กของประเทศ ดำเนินการสื่อสาร ควบคุม ให้สมาชิกปฏิบัติตามมาตรฐานแต่ละวิชาชีพ

3 ตั้งคณะอนุกรรมการลงพื้นที่ตรวจเยี่ยม ประกอบด้วย ตัวแทนจากสภาวิชาชีพที่เกี่ยวข้อง คณาจารย์ และหน่วยงานจากสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุขที่เกี่ยวข้อง

เช่น กองบริหารงานสาธารณสุข กลุ่มเสริมสร้างวินัยและระบบคุณธรรม และกองกฎหมาย ให้เก็บข้อมูลเพื่อนำมาวางแผนเตรียมจัดทำเป็นระบบต่อไป

และ4 รวบรวมข้อมูลความรุนแรงที่เกิดขึ้นในสถานพยาบาลและนำเสนอแก่สถาบันรับรองพัฒนาคุณภาพ เพื่อให้จัดทำเป็นมาตรฐานของคุณภาพโรงพยาบาลทั่วประเทศ

เพื่อสร้างระบบป้องกันความรุนแรงทุกรูปแบบในสถานพยาบาล  โดยให้จัดทำเป็นกรณีเร่งด่วน

ทั้งหมดนี้ให้ดำเนินการภายใน 1 เดือน และนำเสนอความคืบหน้าในที่ประชุมครั้งต่อไป