ณัฐวุฒิ นักข่าว Amarin ซวย พ่อน้องไทตัล ติดใจคุ้ยหนี้ ดอดมอบเงินให้ครอบครัว ซัดสร้างความดีหลังพระได้ เตรียมคืนเงินแล้ว

บทความ

ณัฐวุฒิ นักข่าว Amarin ซวย พ่อน้องไทตัล ติดใจคุ้ยหนี้ ดอดมอบเงินให้ครอบครัว ซัดสร้างความดีหลังพระได้ เตรียมคืนเงินแล้ว

News Update วันพฤหัสบดีที่  16 มกราคม  2563 : หลังจาก รายการทุบโต๊ะข่าว ทางช่องอมรินทร์ ทีวี ชี้แจงที่มา

ปมนำเสนอข่าวคนทวงเงินพ่อ น้องไทตัล และนำเสนอเรื่องการให้เงินครอบครัวน้องไทตัล 5 พันบาท ผ่านทาง นาย ณัฐวุฒิ ปงลังกา ผู้สื่อข่าวช่อง Amarin TV

แต่เรื่องยังไม่จบ เพราะล่าสุด นายอนุชา พ่อน้องไทตัลจะเอาเงินไปคืนให้กับ ช่องอมรินทร์ พร้อมทั้งบอกว่าเรา โดนลูบหลังแล้วตบหัว ทำทีเอาเงินมาให้ก่อน แล้วทำร้ายเราทีหลัง เพื่อเอาเรื่องเงินมาเป็นประเด็นเล่นข่าวต่อ

ส่วนในโลกออนไลน์ มองกันไปในทิศทางเดียวกันว่า  เป็นสื่อที่แย่มากที่ทำร้าย พ่อแม่น้องไทตัล คือจะซ้ำเติมอะไรเขาขนาดนั้น

เว็บไซต์ medhubnews.com ข่าวสังคม สุขภาพ สาธารณสุข ท่องเที่ยว วาไรตี้  และ เพจ sasook รายงานว่า รายการโหนกระแสวันที่ 16 ม.ค. "หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย"  

ในฐานะผู้ดำเนินรายการ ผลิตในนามบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 12.20 น. ทางช่อง 3 กดเลข 33

ได้เปิดใจสัมภาษณ์ "นายอนุชา" และ "นางวิไลวรรณ" พ่อและแม่ "น้องไทตัล" ซึ่งถูกยิงเสียชีวิตจากเหตุการณ์โจรเหี้ยมปล้นชิงทองที่ลพบุรี

เรื่องหนี้สิน สื่อนึงนำเสนอว่าพ่อไปติดหนี้เขา รู้สึกยังไงกับเรื่องนี้ ?

อนุชา : "เอาจริงๆ ผมไม่โกรธเจ้าหนี้ หนี้สินเขามีสิทธิ์ทวงถาม แต่อยากถามว่ามันผิดวิธีไปมั้ย เราอยู่ในช่วงสูญเสีย มันมีวิธีอื่นมั้ยที่ไม่ต้องทำให้เราเจ็บช้ำมากกว่าเดิม ถามว่าหนี้สินติดจริงมั้ยก็ติดจริง ผมก็ยอมรับทางช่องนั้นไปแล้ว ยินดีคืนให้ตั้งแต่วันนั้นแล้ว"

ที่มาที่ไปคือยังไง?

อนุชา : "วันนั้นมีสื่อนึงบอกว่าจะเข้าไปบริจาคช่วยเหลือน้อง 5 พันบาท แต่เขาไม่ได้บอกว่าจะไปสัมภาษณ์อะไร บอกว่าขอเข้าไปมอบให้ที่บ้านได้มั้ย วันนั้นผมต้องไปเอารถยนต์ที่ธนบุรี ผมเลยบอกว่าแม่อยู่คนเดียว ให้เบอร์ติดต่อแม่ไป เขาก็คงมอบให้กับแม่ ตอนนั้นผมไม่อยู่

หลังจากนั้นแม่โทรหาผมบอกว่าป๊า นักข่าวคนนั้นมาขอสัมภาษณ์นะ เรื่องอัฐิจะไว้กี่วันที่ไหนอะไรยังไง แต่มีประเด็นดราม่าอยู่ เขาบอกเรื่องหนี้สิน แต่แม่บอกให้คุยกับป๊าเองเพราะแม่ไม่รู้

ผมก็บอกไม่เป็นไร เดี๋ยวโทรไปหานักข่าวเอง ผมก็โทรบอกว่าผมติดหนี้จริง ให้นักข่าวเป็นตัวกลางประสานงาน ถ้าผมมีผมไม่คิดจะไม่ใช้ใคร

แต่ตอนนั้นเงินซื้อนมลูกยังไม่มีเลย จะให้เราไปเอาตรงไหนมาเลยหรือให้เบอร์ผมก็ได้ หรือพี่นักข่าวเอาเลขที่บัญชีมาก็ได้เดี๋ยวผมจะโอนให้เลย เพราะยอดเท่าไหร่ผมจำไม่ได้ เขาบอกว่ายอด 1.86 หมื่น"

ปรากฎว่าสามทุ่มมีข่าวออกมาตามสื่อมีการให้สัมภาษณ์ว่าผมติดหนี้และหลบหนี ติดตามมานานแล้วหาตัวไม่เจอ"

คนก็ด่าพ่อว่าไม่ใช่หนี้เขา?

อนุชา : "ส่วนหนึ่งเขาก็เข้าใจ เขามองในมุมว่ามันไม่ใช่เวลา ส่วนนึงก็เข้าใจหัวอกเจ้าหนี้ ส่วนหนึ่งก็เข้าใจหัวอกคนสูญเสียว่ามันไม่ใช่เวลา แต่ถามว่าข่าวที่ออกไปเป็นความจริงมั้ย เราติดหนี้จริง เราหายจริง  แต่คิดว่ามันน่าจะจบกันได้ ไม่ต้องไปตอกย้ำแบบนั้น

สื่อทำงานเบื้องหน้าก็จริงแต่ติดทองหลังพระก็ได้ สร้างความดีหลังพระก็ได้ เคลียร์ให้ผมข้างหลังก็ได้ ทุกคนก็จดจำในสิ่งดีๆ ของกันและกัน แต่พอมีข่าวออกไป

ผมก็รู้สึกว่ามันเกินไปมั้ย การที่เราสูญเสีย เราไม่ได้เอามาเป็นเกราะป้องกันว่าต้องมาดราม่ากับผม ผมติดหนี้จริงผมก็ยอมใช้ให้จริง ตอนนั้นเราไม่มีจะให้เราทำไง"

พ่อเสียใจที่มีคนบอกว่าถ้าข่าวไม่ออกพ่อก็ไม่ใช้คืน?

อนุชา : "ใช่ เพราะตอนคุยกับนักข่าวตอนเย็น ผมมีความรับผิดชอบตั้งแต่ตอนเย็นแล้ว ว่าให้เป็นตัวกลางเอาบัญชีมาเลย จะโอนให้ แต่พอเป็นข่าวไปแล้วผมก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ

 ผมก็ไปค้นหาบัญชีที่เคยโอน ผมก็รีบโอนให้เลย แต่กลับกลายเป็นว่าถ้าไม่เป็นข่าวก็คงไม่คืนเขา ก็ตอกย้ำเราอีก"

ล่าสุดพ่อจะเอาเงินไปคืนสื่อ?

อนุชา : "ครับ 5 พันบาท เราขอบคุณสื่อที่มีน้ำใจให้เรา ผมโดนลูบหลังแล้วตบหัว เขาเอาเงินมาให้ผมก่อน แล้วทำร้ายเราทีหลัง เอาเรื่องเงินมาเป็นประเด็นเล่นข่าวต่อ

ถ้าคนดูสัมภาษณ์ผมตั้งแต่ต้นจนจบจะเข้าใจว่าอะไรเป็นอะไร ถามว่าติดหนี้มั้ย ติดจริงผมยอมรับ แต่ผมโทษการนำเสนอของสื่อ"

ก่อนหน้านี้ ค่ำคืนวันที่ 16 ม.ค. นายพุทธอภิวรรณ องค์พระบารมี พิธีกรรายการทุบโต๊ะข่าว ทางช่อง Amarin TV ชี้แจงถึงเหตุการณ์ดังกล่าว ยืนยันว่าเจตนาในการเสนอข่าว ไม่ใช่แค่เพราะมีคนร้องเรียนแล้วก็นำเสนอ

แต่ได้มีการหาข้อมูลอย่างรอบด้านแล้ว ยืนยันว่าทางรายการเห็นใจครอบครัวน้องไทตัลที่สูญเสีย โดยแสดงน้ำใจด้วยการมอบเงินช่วยเหลือโดยไม่มีเงื่อนไขใด ๆ

สำหรับการนำเสนอข่าว สืบเนื่องจากทางเจ้าหนี้ มีการโพสต์ข้อความเผยแพร่สู่สาธารณะก่อนหน้านี้แล้ว และมีการร้องเรียนไปตามเพจอื่น ๆ ด้วย อาทิ เพจออยศรีและผองเผือก ซึ่งทางเจ้าหนี้ยืนยันว่าได้รับความเดือดร้อนมาก

หลังจากที่ช่วงเดือนเมษายน 2562 นายอนุชา พ่อของน้องไทตัล ซื้อของจากร้านไป มูลค่า 18,600 บาท ก็ไม่สามารถติดต่อได้อีกเลย

แม้จะมีการให้ทนายความส่งเอกสารทวงหนี้ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2562 แต่ก็ยังไม่มีการติดต่อกลับ จนมาเป็นข่าวดังกล่าว

นายพุทธอภิวรรณ ยืนยันว่าทางทีมงานมีการตรวจสอบทั้ง 2 ฝ่าย จึงนำมาซึ่งการสัมภาษณ์เจ้าหนี้ ที่ยืนยันว่าเดือดร้อนอย่างมาก

ในส่วนที่ทางนายอนุชา พ่อน้องไทตัล ติดใจว่าจำเป็นหรือไม่ที่จะต้องนำเสนอ ทางเราขอตอบว่าจำเป็นเพราะมีคนเดือดร้อน และยืนยันว่าวันที่นำเสนอข่าว นำเสนอทั้ง 2 ด้าน

ภาพ ทวิตเตอร์ 

16 มกราคม 2563

ผู้ชม 3970 ครั้ง

Engine by shopup.com