สื่อต่างชาติ พาดหัวใหญ่รัฐมนตรีสาธารณสุขไทย เหยียดฝรั่ง คนไทยอยากขอโทษแทน ติดแฮชแท็ก #อนุทินเฮงซวย ทำคนไทยผิดหวัง

บทความ

สื่อต่างชาติ พาดหัวใหญ่รัฐมนตรีสาธารณสุขไทย เหยียดฝรั่ง คนไทยอยากขอโทษแทน ติดแฮชแท็ก #อนุทินเฮงซวย ทำคนไทยผิดหวัง

กระทรวงสาธารณสุข , #อนุทินเฮงซวย , การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา  - News Update วันเสาร์ที่ 8 กุมภาพันธ์  2563 หลังจาก เกิดเหตุการณ์ละเอียดอ่อน

เมื่อรัฐมนตรีไทยกล่าวผ่านสื่อถึงชาวต่างชาติ จนกระทั่งลามมาสู่โลกออนไลน์

ด้วย การติดอันดับ แฮชแท็กยอดฮิตประจำวัน  #อนุทินเฮงซวย  เว็บไซต์ medhubnews.com ข่าวสังคม สุขภาพ สาธารณสุข ท่องเที่ยว วาไรตี้  และ เพจ sasook รายงานว่า มีผู้ใช้ทวิตเตอร์ โพสต์ด่าทอมากมาย

อาทิ “แล้วจะหวังพึ่งรัฐมนตรีฯ สาธารณสุข ก็เจอ คนแบบนี้ ชีวิตตั้งเป้าอยู่แค่เรื่องกัญชา ที่มั่นหน้าไปวันๆ”

“มีการศึกษา แต่พูดจาเหมือน  ให้คนอื่นด่าคุณว่าไอ้โง่ แจกหน้ากากแบบโง่ๆ ออกจากประเทศไป ไป๊ เลยงี้ดีไหมคะ คนเค้าไล่เช้าไล่เย็นยังไม่ไปอีก ยิ่งกว่าไวรัส”

“ไม่เคยเกลียดใครมากขนาดนี้ เกลียดจนอยากให้มันตายไวๆ แต่ละอย่างที่ทำมันเกินไปมากแล้วจริงๆ”

“เห็น Facebook อนุทินบอกว่าไม่รู้สึกผิดก็แน่นอนแหละครับขนาดหักหลังประชาชนไปเข้ากับพวกยึดอำนาจยังไม่ ละอายอะไรเลย จะอะไรกับแค่นี้555”

“I wanna explain something to you guys! Almost Thai people also hate him, so please don't hate Thai people and Thailand”

สำนักข่าวชื่อดังของต่างประเทศ รายงานในทำนองเดียวกันว่า 'Western' tourists not wearing face masks should be kicked out of Thailand for putting others at risk, health minister says

ขณะที่ นาย Richard Barrow ผู้ที่รักเมืองไทย นำเสนอเรื่องราวดีๆ ในไทยให้ชาวโลกรับรู้มานานมาก ระบุว่า If you saw a stranger handing out surgical masks with his bare hands, would you accept it? WHO says you should always wash your hands before putting on the mask & once on, you should never touch your mask

On my Facebook page today, so many Thai people apologized for the racist outburst by the senior government minister.

Many of them were very embarrassed. Although he later apologized on his Facebook page, I expect a full public apology in English.

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 7 ก.พ. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รมว.สาธารณสุข โพสต์ถึงกรณีที่ไล่ชาวต่างชาติออกนอกประเทศเพราะไม่รับหน้ากากอนามัย ว่า ผมไม่โกรธที่โดนด่า โดนวิจารณ์หยาบคาย

ผมไม่รู้สึกผิดขณะที่แสดงอารมณ์ และใช้คำพูดกับ"ฝรั่ง" คนนั้น ที่ไม่ให้เกียรติคนไทย และ มองเห็นมาตรการควบคุมโรคของประเทศไทย เป็นเรื่องน่ารังเกียจ ตลก ขบขัน

ผมมั่นใจว่า 100% ของคนที่ด่าและวิจารณ์ผม ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับผมและคณะแพทย์ของกระทรวงสาธารณสุข ที่ทำกิจกรรมรณรงค์ป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา ในเช้าวันนี้

เพราะผมรู้ว่าคนที่ด่าและวิจารณ์ ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ ผมจึงไม่โกรธ แต่ รู้สึกเสียใจที่มีการแปลเจตนาของผม ผิดพลาดจากที่ผมต้องการจะสื่อสาร

ผมเพียงแต่จะบอกว่า ถ้าคนต่างชาติคนนั้น หรือคนไหนก็ตาม ไม่พร้อมจะปฏิบัติตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุขไทย ไม่ควรจะเข้ามาในประเทศไทย ในช่วงเวลานี้ ซึ่งเรากำลังรณรงค์ป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา

ไม่เพียงไม่ให้ความร่วมมือ แต่ยังเห็นสิ่งที่เราทำเป็นเรื่องน่ารังเกียจ ปัดมือผมที่ยื่นหน้ากากอนามัย ให้ด้วยความปรารถนาดีและห่วงใย และแสดงท่าทีดูถูกเหยียดหยามความปรารถนาดีของคนไทย

ผมไม่รู้สึกผิดที่ตอบโต้ ผ่านสื่อมวลชน ไปยังคนต่างชาติคนนั้น และคนอื่นๆ ที่ดูอยู่ เพื่อให้ได้รับทราบเจตนาของผมในฐานะคนไทย ที่ต้องรับผิดชอบต่อมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโรค

ผมอดทน อดกลั้นมากพอที่จะไม่ตอบโต้กับคนต่างชาติคนนั้น ด้วยท่าทีแบบเดียวกับที่เขาทำกับผม และคณะแพทย์ของกระทรวงสาธารณสุข

ผมเป็นคนไทยที่ไม่เคยยอมให้ต่างชาติมาแสดงท่าที อาการเหยียด และดูถูกคนไทย ผมมีเพื่อนต่างชาติเยอะ ส่วนใหญ่เป็นคนดีที่ไม่เหยียดคนไทย แต่ต่างชาติบางคนที่แสดงท่าทีเหยียดคนไทย

ผมไม่นับเป็นเพื่อน ในบางประเทศ ในช่วงเวลานี้ มีข้อห้ามคนต่างชาติมากมาย แต่ในประเทศไทย เราเพียงขอให้ใส่หน้ากากอนามัย เพื่อป้องกันตัวเอง และป้องกันคนอื่น ติดเชื้อ เท่านั้น เพราะเราไม่รู้ว่าใครเดินทางมาจากไหน ก่อนมาประเทศไทย

บางประเทศ ไม่รับคนจีนเข้าประเทศ แต่รับคนจากชาติต่างๆ เข้ามาอย่างไม่ระมัดระวัง ปรากฎว่า จำนวนผู้ติดเชื้อ เพิ่มมากขึ้นกว่าประเทศไทย

เพราะเรามีมาตรการควบคุมโรค แบบของเรา ทำให้สถานการณ์ของเรา ดีกว่าบางประเทศ ในภูมิภาคนี้

เราทำด้วยความปรารถนาดี และห่วงใย คนไทย และคนต่างชาติเกือบ 100% ที่ได้รับหน้ากากอนามัย วันนี้ ยิ้มและขอบคุณรัฐบาลไทย ที่นำมาแจกให้ป้องกันตัวเอง มีเพียงรายเดียวที่เป็นกรณีปัญหา

ผมขออภัยที่แสดงอาการไม่เหมาะสมผ่านสื่อมวลชน ซึ่งมีผู้ชมหลากหลายรุ่นวัย แต่ผมไม่มีวันขออภัยคนต่างชาติคนนั้น ที่ไม่ให้เกียรติ และรังเกียจ มาตรการควบคุมโรคของประเทศไทย

ผมจะทำงานของผม ตามแนวทางของผมต่อไป จนกว่าประเทศไทย และคนไทย จะก้าวข้ามภาวะวิกฤติทางสุขภาพนี้ ไปได้ด้วยความปลอดภัย

08 กุมภาพันธ์ 2563

ผู้ชม 2319 ครั้ง

Engine by shopup.com