แฉกักตุน หน้ากากอนามัย ธรรมนัส ตัดตอน ศรสุวีร์ อ้างไม่รู้จัก แต่ พิตตินันท์ เป็นคณะทำงาน ไม่เชื่อเป็นเรื่องจริง
แฉกักตุน หน้ากากอนามัย ธรรมนัส ตัดตอน ศรสุวีร์ อ้างไม่รู้จัก แต่ พิตตินันท์ เป็นคณะทำงาน ไม่เชื่อเป็นเรื่องจริง
- News Update วันจันทร์ที่ 9 มีนาคม 2563 : หลังเกิดวิกฤตไวรัสโควิด-19 ระบาดไปทั่วโลก มีคนป่วยและเสียชีวิตจำนวนมาก
จึงทำให้การหา หน้ากากอนามัย มาใช้เพื่อป้องกันการติดไวรัสก็มีความต้องการเป็นจำนวนมาก
โดยเฉพาะในประเทศไทย จึงทำให้หน้ากากอนามัยมีราคาสูงกว่าปกติหลายเท่าตัว
medhubnews.com เว็บไซต์สุขภาพ สาธารณสุข การท่องเที่ยว วาไรตี้ และ เพจ sasook รายงานว่า ประเด็นที่ "แหม่มโพธิ์ดำ" ได้ข้อมูลของผู้ที่กักตุนหน้ากากอนามัยไว้หลายล้านชิ้น
ก่อนจะโพสต์ลงในเพจ โดยมีใจความว่า "มีนักข่าวคนไหน สนใจทำข่าว คนสนิทผู้ติดตามรัฐมนตรีท่านหนึ่ง
มีหน้ากากในสต๊อกเป็นล้านอัน พร้อมหลักฐาน ติดต่อหลังไมค์ได้นะ ชาวโซเชียลหาเจอคนอมหน้ากากแล้วล่ะ"
ส่วนข้อมูลที่ได้รับมานั้นทางเพจ แหม่มโพธิ์ดำ ได้โพสต์ลงในคอมเม้นต์ เป็นภาพจากเฟสบุ๊ค ซึ่งอ้างว่าเป็นของคนสนิทผู้ติดตามรัฐมนตรีท่านหนึ่ง
มีการโพสต์ขายหน้ากากเมื่อวันที่ 2 มี.ค. บอกว่า มีหน้ากาก 5 ล้านชิ้น ราคาเบาๆ จับต้องได้ ราคา 14 บาทต่อชิ้น ซึ่งใช้ในโรงพยาบาลและทางการแพทย์
แถมยังไม่แบ่งขาย จะขายทีละ 1 ล้านชิ้น นอกจากนี้ถ้าย้อนกลับไปดูเมื่อวันที่ 9 ก.พ. เจ้าตัวได้โพสต์ว่า มีหน้ากากอนามัย 200 ล้านชิ้น พร้อมทั้งโชว์ภาพสมุดบัญชีธนาคารอีกด้วย
ขณะที่เรื่องฉาว จนกลายเป็นข่าวฮอตจนติดเทรนด์ทวิตเตอร์อื้อ สรุปประเด็นดราม่า เรื่องการกักตุนหน้ากากอนามัยนับล้านชิ้น
จนเช้านี้กลายเป็นประเด็นใหญ่ ติดเทรนด์บนทวิตเตอร์มากถึง 4 เรื่อง ได้แก่ #saveแหม่มโพธิ์ดํา #รัฐบาลเฮงซวย #maskไม่พอบอกพอ #หน้ากากอนามัยหายไปไหน
ต่อมานาย ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า นายศรสุวีร์ ภู่รวีร์รัศวัชรี ไม่มีความเกี่ยวข้องใดๆ ส่วนนายพิตตินันท์ รักเอียด ซึ่งเป็นคณะทำงานของตน ยืนยันว่าไปพบกับนายศรสุวีร์ตามคำแนะนำของเพื่อน เพื่อพูดคุยเรื่องหน้ากากอนามัยจริง
โดยได้ไปพบกันที่โรงแรมแมริออท (ประตูน้ำ) กทม.แต่ไม่ได้มีการซื้อขายหน้ากากอนามัย และไม่เคยรู้จักกันกับนายศรสุวีร์มาก่อนโดยเป็นการพบกันครั้งแรก
เมื่อเวลา 10.15 น. ที่สภา นายธรรมนัส ได้แถลงข่าวว่า ประเด็นแรก นายศรสุวีร์ นั้นขอชี้แจงว่า ไม่เคยรู้จัก หรือ ติดต่อคนผู้นี้ ไม่เคยเกี่ยวข้องใดๆ กับธุรกิจของนายศรสุวีร์
ส่วนนายพิตตินันท์ รักเอียด ไม่ได้สอบถามโดยตรงเพราะไม่มีเบอร์ติดต่อ แต่ให้ทีมงานที่เสนอชื่อให้เป็นคณะทำงานติดต่อไป
โดยนายพิตตินันท์ เป็นอดีตผู้สมัครผู้แทนราษฎรเขต 6 สุราษฎร์ธานี เนื่องจากพบว่า ได้คะแนนดี แต่ไม่ได้ชนะการเลือกตั้ง เลยให้ดูแลฐานเสียง จ.สุราษฎร์ธานีต่อ ซึ่งตนมีทีมงานลักษณะดังกล่าว 30 คน
โดยจากการสอบถาม พบว่า นายพิตตินันท์ ได้พบ นายศรสุวีร์ ที่โรงแรมแห่งหนึ่งใน กทม. ด้วยเหตุผลว่า จะเอาหน้ากากไปแจกในพื้นที่
แต่ข้อเท็จจริง ไม่ได้มีการซื้อขายกัน โดยให้นายพิตตินันท์ ได้ไปร้องทุกข์กล่าวโทษ ว่า ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับวงจรอุบาท์นี้ และได้แจ้งความนายศรสุวีร์ ที่สภ.สุราษฎร์ธานี เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
"ผมไม่มีความเกี่ยวข้องกับการขายหน้ากาก โดยได้ประสาน สภ.หนองปรือแล้วให้ตรวจสอบข้อเท็จจริง ถ้ามีการกักตุนจริงผมจะไปทลายเอง
และตอนนี้ผมให้มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบ นายพิตตินันท์ หากเกี่ยวข้องกับการค้าขาย กักตุน ผมจะไม่เลี้ยงเลยคนพวกนี้
แต่ส่วนตัวเชื่อว่าเขาไม่ได้มีหน้ากากจริงน่าจะเป็นพวกอยากดัง โดยประเด็นนี้เป็นประเด็นที่สังคมให้ความสนใจ อยากให้นำเสนอข่าวโดยตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อน
คนที่ลงข่าวบิดเบือนไปได้ให้ฝ่ายกฎหมายดูแลและร้องทุกข์กล่าวโทษแล้ว ซึ่งพบว่าเฟสบุ๊คของนายศรสุวีร์ โพสต์ด่ารัฐบาลมาโดยตลอด
ต้องไปตรวจสอบว่ามีเจตนาอะไรที่โพสต์หน้ากากแบบนั้น ซึ่งพบเอาจริง วันนี้จะได้รู้ว่ามีโรงงานจริงหรือไม่"
10 มีนาคม 2563
ผู้ชม 1517 ครั้ง