เชื่อไหมว่า สถิติผู้ป่วยโรคเบาหวานทั่วโลก มีผู้ป่วยโรคเบาหวาน 415 ล้านคน ทุก ๆ 6 วินาที ตาย 1 ราย
เชื่อไหมว่า สถิติผู้ป่วยโรคเบาหวานทั่วโลก มีผู้ป่วยโรคเบาหวาน 415 ล้านคน ทุก ๆ 6 วินาที ตาย 1 ราย
News Update วันศุกร์ที่ 21 มิถุนายน 2562 : สมาพันธ์เบาหวานนานาชาติได้เปิดเผยสถิติผู้ป่วยโรคเบาหวาน พบว่าปี 2558 ทั่วโลกมีผู้ป่วยโรคเบาหวาน 415 ล้านคน
ทุก ๆ 6 วินาที มีผู้เสียชีวิตจากโรคเบาหวาน 1 ราย และคาดการณ์ว่าในปี 2588 จำนวนผู้ป่วยโรคเบาหวานจะเพิ่มสูงขึ้นถึง 642 ล้านคน
เว็บไซต์เมดฮับนิวส์ดอทคอม ( MEDHUBNEWS.COM ) และ เพจ sasook รายงานว่า แม้จำนวนผู้ป่วยโรคเบาหวานมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น
แต่ผู้เป็นโรคนี้ส่วนหนึ่งเกิดจากพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะกลุ่มวัยทำงานอายุ 35 ปีขึ้นไป ซึ่งสามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อลดความเสี่ยงที่จะเป็นโรคเบาหวานให้น้อยลงได้
แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่า ร่างกายกำลังส่งสัญญาณอันตรายว่าอาจจะเป็นเบาหวาน การสังเกตอาการว่า ผู้ป่วยโรคเบาหวานจะมีอาการกระหายน้ำบ่อย ปัสสาวะบ่อยและปัสสาวะปริมาณมาก
ทำให้ร่างกายสูญเสียน้ำและเกลือแร่ ส่งผลให้อ่อนเพลียและน้ำหนักลดลง บางรายถึงขั้นไตวายและเสียชีวิต ผู้ป่วยบางรายจะมีผื่นอับชื้นที่เกิดจากเชื้อราตามซอกพับ มีตกขาว ตาพร่ามัว และชาตามปลายมือปลายเท้า
สิ่งที่น่าวิตกและเป็นสาเหตุการเสียชีวิตของผู้ป่วยเบาหวานคือ โรคแทรกซ้อนเรื้อรัง ที่พบได้บ่อยคือ โรคแทรกซ้อนเรื้อรังของเบาหวานในจอประสาทตา
ทำให้จอประสาทตาเสื่อม มีเลือดออกในดวงตา ส่งผลให้ตาบอด ซึ่งหากมีการตรวจคัดกรองพบภาวะเบาหวาน จะช่วยป้องกันภาวะตาบอดได้
โรคแทรกซ้อนเรื้อรังของเบาหวานที่ไต พบโปรตีนปะปนออกมากับปัสสาวะ หากปล่อยไว้ไม่รักษา ไตจะทำงานได้น้อยลงและเกิดภาวะไตวายในที่สุด ซึ่งสามารถตรวจคัดกรองได้จากการตรวจปัสสาวะ
โรคเส้นประสาทชา คนไข้จะไม่มีความรู้สึก เมื่อเกิดการกระทบกระแทกทางร่างกายจึงไม่รู้สึกเจ็บ ทำให้เกิดบาดแผลได้ง่าย และบาดแผลรักษาได้ยาก
เนื่องจากการหมุนเวียนของโลหิตไม่ดี ในบางรายแม้ไม่มีบาดแผลก็พบอาการเลือดไม่ไหลเวียน จึงมีคนไข้ที่ต้องสูญเสียอวัยวะไปจำนวนมาก
นอกจากนี้ยังพบอาการอัมพาตและโรคหัวใจได้บ่อยในคนไข้เบาหวาน ซึ่งคนไข้เบาหวานที่เป็นโรคหัวใจจะไม่มีอาการเจ็บเตือน ทำให้เกิดอาการหัวใจวายฉับพลัน รวมถึงมีความเสี่ยงจะเกิดโรคหลอดเลือดสมองอีกด้วย
ส่วนผู้ที่ถือว่าเป็นกลุ่มเสี่ยงที่เป็นโรคเบาหวานคือ ผู้ที่มีอายุ 35 ปีขึ้นไป มีภาวะอ้วนลงพุง (ผู้ชายรอบเอวเกิน 90 เซนติเมตร และผู้หญิงเกิน 80 เซนติเมตร)
ผู้ที่ไม่ออกกำลังกายหรือมีกิจกรรมเคลื่อนไหวน้อย ซึ่งพนักงานออฟฟิศก็ถือว่ามีภาวะเสี่ยงเช่นกัน รวมถึงผู้ป่วยที่ใช้ยาเสตียรอยด์ และผู้ที่เคยมีประวัติเป็นโรคเบาหวาน
หรือคนในครอบครัวมีประวัติป่วยเป็นโรคเบาหวาน เนื่องจากปัจจัยเสี่ยงหลักของเบาหวานคือพันธุกรรม ทั้งหมดที่กล่าวมาถือเป็นกลุ่มเสี่ยงที่ต้องควรตรวจคัดกรองเบาหวาน ปรับพฤติกรรมเลี่ยงเบาหวาน
หากไม่อยากเกี่ยวข้องกับโรคเบาหวาน ทุกคนสามารถปรับพฤติกรรมเพื่อหลีกเลี่ยงภาวะเบาหวานได้โดย ออกกำลังกายแบบแอโรบิก ให้กล้ามเนื้อเคลื่อนไหวต่อเนื่องจนมีเหงื่อซึม หัวใจเต้นแรง อย่างน้อย 30 นาทีขึ้นไป
สัปดาห์ละ 5 วัน ซึ่งการออกกำลังกายช่วยลดความเสี่ยงการเป็นเบาหวาน หรือชะลอการเป็นเบาหวานออกไปได้
ระมัดระวังการบริโภคอาหาร โดยเฉพาะประเภทแป้งและน้ำตาลเพื่อไม่ให้เกิดภาวะอ้วนลงพุง และสำหรับผู้ป่วยจำเป็นต้องอยู่ในการดูแลของโภชนากรเพื่อการรักษาที่ได้ผล
ล่าสุด เนเจอร์ไบโอเทค มอบเงินบริจาค 914,530 บาท ให้กับโรงพยาบาลเสาไห้เฉลิมพระเกียรติ ๘๐ พรรษา ภายใต้โครงการ “เติมน้ำใจ กับหลินจือมิน”
หลังจากที่ “หลินจือมิน” ภายใต้ บริษัท เนเจอร์ ไบโอเทค จำกัด ได้จัดโครงการ “เติมน้ำใจ กับ หลินจือมิน” โดยได้เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์-เดือนเมษายน ที่ผ่านมา
โดยทุกกล่องของการสั่งซื้อผลิตภัณฑ์หลินจือมิน จะบริจาคเงิน 30 บาทต่อกล่อง โดยไม่หักค่าใช้จ่ายใดๆ ร่วมสมทบทุนให้กับคลินิกผู้ป่วยโรคเบาหวานและความดันโลหิต โรงพยาบาลเสาไห้เฉลิมพระเกียรติ ๘๐ พรรษา จังหวัดสระบุรี
เพื่อเป็นการสนับสนุนโรงพยาบาลให้นำเงินบริจาคที่ได้รับไปพัฒนาโรงพยาบาลเพื่อการรองรับผู้ป่วยที่ดีที่สุดต่อไป
และเมื่อเร็วๆ นี้ ทางบริษัทฯ ได้ดำเนินโครงการ “เติมน้ำใจ กับ หลินจือมิน เสร็จสิ้น และได้มีการมอบเงินบริจาคทั้งหมด
หลังจบโครงการฯ โดยมี นายแพทย์ดำรงค์ เลาหะพรสวรรค์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เนเจอร์ไบโอเทค จำกัด และคุณอรธิชา คชพงษ์ธนาดุล ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กร บริษัท 1577 โฮมชอปปิ้ง จำกัด
เป็นตัวเทนมอบเงินบริจาคจำนวน 914,530 บาท ให้กับคลินิกผู้ป่วยโรคเบาหวานและความดันโลหิต โรงพยาบาลเสาไห้เฉลิมพระเกียรติ ๘๐ พรรษา จังหวัดสระบุรี
โดยมี นายแพทย์สมชาติ สุจริตรังษี ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเสาไห้เฉลิมพระเกียรติ ๘๐ พรรษา และคณะกรรมการ รพ.เสาไห้เฉลิมพระเกียรติ ๘๐ พรรษา เป็นผู้รับมอบเงิน
เพื่อนำไปพัฒนาระบบ OPD Smart Digital สำหรับรองรับการบริการผู้ป่วย คลินิกโรคเบาหวาน และความดันโลหิต โรงพยาบาลเสาไห้เฉลิมพระเกียรติ ๘๐ พรรษา จังหวัดสระบุรี ต่อไป
ปัจจุบันโรงพยาบาลเสาไห้ฯ มีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยหนึ่งในโรคที่มีผู้ป่วยเข้ามาใช้บริการเป็นจำนวนมาก ได้แก่ โรคเบาหวาน และความดันโลหิต
ซึ่งมีแนวโน้มจะขยายจำนวนผู้ป่วยด้วยโรคเหล่านี้เพิ่มมากขึ้น ในขณะเดียวกันจำนวนบุคลากร อุปกรณ์เครื่องมือทางการแพทย์ และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ
สำหรับคลินิกผู้ป่วยโรคเบาหวานและความดันโลหิต เริ่มไม่เพียงพอต่อปริมาณผู้ป่วยที่เพิ่มมากขึ้น ดังนั้นการจัดโครงการฯ ดังกล่าว ถือเป็นการสานต่อความตั้งใจในการดำเนินกิจกรรมเพื่อตอบแทนสังคมอย่างต่อเนื่องของบริษัทฯ
สำหรับผู้ที่พลาดเข้าร่วมกิจกรรมดีๆ แบบนี้ สามารถติดตามข่าวสารและความเคลื่อนไหวต่างๆ ได้ผ่านทาง www.naturebiotec.com หรือสอบถามเพิ่มเติมได้ที่โทร 02-501-1515
27 มิถุนายน 2562
ผู้ชม 10135 ครั้ง