เปิดแผน "ยุทธศาสตร์แห่งชาติยุติปัญหาเอดส์" "UNAIDS" จับมือ กระทรวงสาธารณสุขไทย ยุติ HIV ภายในปี 2573  เว็บไซต์สุขภาพ medhubnews.com ข่าวการแพทย์ บทความสุขภาพ ระบบสาธารณสุข

บทความ

เปิดแผน "ยุทธศาสตร์แห่งชาติยุติปัญหาเอดส์" "UNAIDS" จับมือ กระทรวงสาธารณสุขไทย ยุติ HIV ภายในปี 2573 

เปิดแผนการแก้ไขปัญหาโรคเอดส์ ครั้งประวัติศาสตร์ UNAIDS ร่วม แสดงความยินดีกับ สำนักโรคเอดส์ วัณโรค และ โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข กับการเปิดตัวยุทธศาสตร์แห่งชาติว่าด้วยการยุติปัญหาเอดส์ฉบับใหม่ 

ผู้สื่อข่าวเว็บไซต์เมดฮับนิวส์ดอทคอม และ เพจ sasook รายงานว่า ยุทธศาสตร์นี้เป็นความก้าวหน้าที่สำคัญยิ่งที่จะนำพาประเทศไปสู่การยุติปัญหาเอดส์ ภายในปี พ.ศ. 2573 

ประธานคณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยการป้องกันและแก้ไขปัญหาเอดส์ เปิดตัวยุทธศาสตร์แห่งชาติว่าด้วยการยุติปัญหาเอดส์ ปี พ.ศ. 2560-2573 ณ ศูนย์ราชการ แจ้งวัฒนะ

ยุทธศาสตร์ 13 ปีฉบับนี้มีเป้าประสงค์ที่สอดคล้องกับนานาชาติ ที่มุ่งเน้นการดำเนินงานที่มีประสิทธิผลและประสิทธิภาพสูงสุด มีความคุ้มค่าในการลงทุน  จากรายงานล่าสุดของ UNAIDS เกี่ยวกับสถานการณ์เอดส์โลก

พบว่าผู้ติดเชื้อเอชไอวีรายใหม่ในประเทศไทยลดลงร้อยละ 50 ระหว่างปีพ. ศ. 2553 ถึง ปี พ.ศ.2560 ซึ่งเป็นอัตราการลดลงสูงที่สุดในภูมิภาค

“ประเทศไทยโดดเด่นมากในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกในการทำงานเพื่อเอาชนะเอดส์” กล่าวโดย พัชรา เบญจรัตนาภรณ์ ผู้อำนวยการโครงการเอดส์แห่งสหประชาชาติ ประจำประเทศไทย ( UNAIDS ) 

“ในเวลาเพียงหนึ่งช่วงอายุคนจากประเทศที่มีการระบาดมากที่สุดในภูมิภาค เปลี่ยนเป็นประเทศที่มีการระบาดลดลงมากที่สุดและอย่างต่อเนื่อง

ปรากฎการณ์นี้ไม่ได้เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ แต่เป็นผลจากความมุ่งมั่น จากทรัพยากรและจากนวัตกรรมต่างๆ ที่ประเทศไทยลงทุนลงแรงไป แสดงผลเป็นที่ประจักษ์”

ช่วง 4 ปีแรกของยุทธศาสตร์ฉบับใหม่กำหนดเป็นแผนการดำเนินงานแบบเร่งรัด ( Fast Track ) โดยประเทศไทยประกาศเจตนารมณ์ ร่วมกับนานาชาติเพื่อบรรลุเป้าหมาย 90-90--90 ภายในปี 2563

โดย 90 แรก คือร้อยละ 90 ของผู้ติดเชื้อเอชไอวีรู้สถานะการติดเชื้อฯ ของตน  90 ที่สอง คือร้อยละ 90 ของผู้ที่รู้สถานะการติดเชื้อเอชไอวีของตนเข้าถึงการรักษา

และ 90 ที่สาม คือร้อยละ 90 ของผู้ที่ได้รับการรักษาควบคุมไวรัสได้สำเร็จ เมื่อสิ้นปี 2559 ประเทศไทยบรรลุเป้าหมาย 90 แรกแล้ว และอีกสองเป้าหมายคงไม่ไกลเกินเอื้อม

การระบาดของเอชไอวีในประเทศไทยส่วนใหญ่เกิดจากประชากรหลักที่มีพฤติกรรมเสี่ยงสูงได้แก่ ผู้ชายที่มีเพศสัมพันธ์กับผู้ชาย สาวประเภทสอง ผู้ให้บริการทางเพศ และเยาวชน พวกเขาเหล่านี้มีอุปสรรคในการเข้าถึงบริการที่ต้องการ มักเผชิญกับการถูกตีตรา และการเลือกปฏิบัติ

ยุทธศาสตร์ใหม่ฉบับนี้แสดงให้เห็นว่ารัฐบาลมีความมุ่งมั่นในการสนับสนุนการป้องกันแบบผสมผสาน สนับสนุนการจัดบริการที่เหมาะสม มีความจำเพาะกับประชากรและชุมชน

สนับสนุนการจัดบริการโดยองค์กรชุมชน เพื่อสามารถเข้าถึงคนที่มีความเสี่ยงสูงมาก ให้ความสำคัญของการทำงานระดับจังหวัดและท้องถิ่น  นอกจากนี้ ยังวางแผนการบูรณาการการจัดบริการสุขภาพด้านเอชไอวีควบคู่กับการตรวจรักษาไวรัสตับอักเสบซี วัณโรคและโรคติดต่ออื่น ๆ

ประเทศไทยเป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศในเอเชียที่ดำเนินการด้านเอดส์โดยใช้งบประมาณเกือบทั้งหมด หรือร้อยละ 90 จากงบประมาณของประเทศเอง สองปีที่ผ่านมา

รัฐบาลไทยได้เพิ่มงบประมาณด้านการป้องกันสำหรับกลุ่มประชากรหลักเป็นจำนวนเงินปีละ 200 ล้านบาท ( ประมาณ 6 ล้านเหรียญสหรัฐ )  คาดว่ารัฐบาลจะเพิ่มการลงทุนด้านนี้มากขึ้นภายใต้ยุทธศาสตร์ใหม่นี้เพื่อบรรลุเป้าประสงค์ตามยุทธศาสตร์แห่งชาตินี้

โฉมหน้าผู้บริหาร ในยุค 2560 ภายใต้รัฐบาล พลเอกประยุทธ์ ใช้เงินบริจาคปีละ 200 ล้านบาท

เมดฮับ นิวส์ medhubnews.com

เว็บไซต์ข่าวสุขภาพ  สาธารณสุข การท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพ วาไรตี้ 

Thailand Health and Wellness News  

ติดตามข่าวสารจาก medhubnews.com ได้จาก Facebook : sasook ของเรา 

05 มกราคม 2564

ผู้ชม 4124 ครั้ง

Engine by shopup.com