มดดำ คชาภา และ ดีเจบุ๊กโกะเตือนภัย เกย์ นัด เกย์ เกือบเป็นศพ ใบ้ชื่อ แป๊ะซะ พิชัยภูษิต นักข่าวบันเทิง และ อดีตมือถ่ายคลิปแตงโม นิดา ฆ่าตัวตาย
มดดำ คชาภา และ ดีเจบุ๊กโกะเตือนภัย เกย์ นัด เกย์ เกือบเป็นศพ ใบ้ชื่อ แป๊ะซะ พิชัยภูษิต นักข่าวบันเทิง และ อดีตมือถ่ายคลิปแตงโม นิดา ฆ่าตัวตาย
เว็บไซต์สุขภาพ วาไรตี้ สังคม - เรื่องสยองคนชอบนัดเย มดดำ คชาภา ดีเจบุ๊กโกะ เตือนภัย เกย์ นัด เกย์ เกือบเป็นศพ ใบ้ชื่อ แป๊ะซะ พิชัยภูษิต นักข่าวบันเทิง อดีตมือถ่ายคลิปแตงโมฆ่าตัวตาย
News Update วันศุกร์ที่ 31 กรกฎาคม 2563 - ข่าวล่าสุดวันนี้ เรื่องสยองคนชอบนัดเย มดดำ คชาภา ดีเจบุ๊กโกะ
เตือนภัย เกย์ นัด เกย์ เกือบเป็นศพ ใบ้ชื่อ แป๊ะซะ พิชัยภูษิต นักข่าวบันเทิง อดีตมือถ่ายคลิปแตงโมฆ่าตัวตาย
จากกรณี เรื่องที่ราวสุดน่ากลัว ชาวเน็ตแชร์กันในโลกออนไลน์ ออกมาเตือนภัยคนที่ชอบใช้แอพพลิเคชั่นนัดบอร์ด หรือ ที่เรียกกันว่า แอพนัดเย้... ประเภท แอพ jack'd , Hornet , Grindr
สืบเนื่องจากข่าวนี้ สร้างความหวาดกลัวให้ประชาชนจำนวนมาก ดังนั้นผู้ที่โดนกระทำ และ ผู้กระทำ ควรออกมาแจ้งความ และอธิบายต่อสังคม เพื่อประโยชน์ในทางอาชญากรรม
หากปล่อยไปแบบผ่านไป ผ่านมา โดยไม่รู้ว่าใครเป็นใคร จะเกิดอันตรายต่อสังคม และ สาธารณชนได้
กรณีเฟสบุ๊คชื่อว่า "HAREMz" นำเรื่องราวของผู้ใช้ทวิตเตอร์ ออกมาเตือนภัยสำหรับคนนัดหาความสนุกผ่านโลกออนไลน์ เพราะเหตุการณ์ที่เจอนั้น เสี่ยงต่อชีวิตอย่างมาก
แถมผู้โพสต์ ทิ้งท้ายว่า คนที่ไปเจอนั้นยังเป็นคนในวงการบันเทิงอีกต่างหาก แม้ว่าจากเหตุการณ์นี้โยงมาที่พิธีกรบันเทิงจากรายการครอบครัวบันเทิงออนไลน์ แป๊ะซะ ซึ่งเจ้าตัวก็ออกมาปฏิเสธแล้วว่าไม่ใช่คนในข่าวอย่างแน่นอน
โดยล่าสุด เว็บไซต์ medhubnews.com ข่าวสังคม สุขภาพ ท่องเที่ยว วาไรตี้ และ เพจ sasook ทวิตเตอร์ @medhub_news รายงานว่าทาง มดดำ คชาภา และ ดีเจบุ๊กโกะ ธนัชพันธ์ ได้ระบุว่า จากข่าว นักล่าแต้มจงระวัง "เกย์หนุ่ม" เตือนภัยเกือบเป็นศพ หลังนัดมีกิจกรรม ทางเพศกับ เกย์อีกคนที่อยู่ในวงการบันเทิง
มดดำ คชาภา และ บุ๊คโก๊ะ ได้ใบ้ ในรายการแฉ Gmm25 พร้อมระบุชื่อว่า แป๊ะซะ ทำให้คนในวงการบันเทิง และ ผู้ที่เคยมีประสบการณ์ เจอพฤติกรรมความรุนแรงเดียวกัน ออกมาแฉมากมายหลายคน
แป๊ะซะ ที่ มดดำ คชาภา และ ดีเจบุ๊กโกะ ธนัชพันธ์ ระบุในรายการแฉ หมายถึง แป๊ะซะ นายพิชัยภูษิต บุตรเนียม เป็นนักข่าวสายบันเทิง และ อดีตผู้ดำเนินรายการเล่าข่าวบันเทิงของ ทีวีพูล มายาแชนแนล ดาราเดลี่ และสื่อบันเทิงชื่อดังอีกหลายสื่อ
ซึ่งกรณีนี้ แป๊ะซะ พิชัยภูษิต ควรออกมาแสดงความรับผิดชอบด้วยการแถลงข่าว ถึงเจตนาของตนเองว่า จริงหรือไม่ ? อย่างไร ? หากไม่จริง ควรอธิบายให้สังคมเข้าใจ
ขณะเดียวกัน แป๊ะซะ พิชัยภูษิต เคยตกเป็นข่าวฉาว กรณี แตงโม ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์ ( ชื่อในตอนนั้น ) กินยาเกินขนาด และ อัดคลิปเผยแพร่ลงในโซเชียลมีดีย
โดย แตงโม ภัทรธิดาระบุว่า อาจด้วยความเป็นคนข่าวนักข่าวอยู่แล้ว อาจจะเคยชินกับการเล่นประเด็นข่าว จึงเผยแพร่ออกมา ตั้งแต่ตอน แตงโม ถูกหามส่งโรงพยาบาลเกษมราษฎร์ ประชาชื่น เพื่อเข้ารับการรักษาด้วยการล้างท้อง
ตอนนั้น แป๊ะซะ พิชัยภูษิต เกือบโดนดำเนินคดี เกี่ยวข้องกับความลับของผู้ป่วย กรณีเผยแพร่คลิป ซึ่งกระทรวงสาธารณสุข ระบุว่า ถ้าเอามาเปิดเผยโดยไม่ได้รับอนุญาตหรือทำให้ได้รับความเสียหาย ถือว่าผิดกฎหมาย
เป็นความลับส่วนบุคคล ผู้ใดจะนำไปเปิดเผยไม่ได้ เว้นแต่เป็นไปตามความประสงค์ของบุคคลนั้นโดยตรง หรือมีกฎหมายเฉพาะบัญญัติให้ต้องเปิดเผย หากฝ่าฝืนต้องโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
แต่ตามปกติแล้วสถานพยาบาลจะมีมาตรการดูแลไม่ให้มีการถ่ายภาพ กรณีที่เกิดขึ้น ทาง รพ.ต้องชี้แจงว่าปล่อยให้มีการถ่ายคลิปขณะทำการรักษาได้อย่างไร
สถานพยาบาลมีส่วนรู้เห็นหรือไม่ หรือว่าเป็นการแอบถ่าย ซึ่งหากเป็นการแอบถ่าย รพ.อาจจะเป็นผู้เสียหายโดยตรง
แต่หาก รพ.มีส่วนรู้เห็นเป็นใจก็ถือว่ามีความผิดตามมาตรา 323 ประมวลกฎหมายอาญา ซึ่งผู้เสียหายสามารถฟ้องได้
ส่วนเรื่องล่าสุด ตามประเด็นข่าวที่เล่ากันดังนี้ สำหรับอุทาหรณ์ สอนใจ เรื่องคนที่ชอบใช้แอพพลิเคชั่นนัดหาความสุข เพราะไม่มีใครทราบเลยว่าผู้ที่เราไปเจอนั่นจะเป็นตัวจริง หรือ บุคคลิก ลักษณะเขาคนนั้นเป็นอย่างไร
ซึ่งส่งผลต่อความเสี่ยงในชีวิต เหมือนเคสนี้ที่นำมาบอกเล่าผ่านโลกออนไลน์ และเพจ"HAREMz" ได้นำเรื่องราวเหล่านี้มาเล่าต่อว่า
#เรื่องสยองสำหรับคนชอบนัดเยผ่านแอพ
#เตือนภัย ขอบอกกับทุกคนว่า ใครที่เล่น App นัดยิ้ม ต่างๆ หรือจะดีลกันผ่านทางไหนก็ตาม อยากให้ทวิตนี้เป็นอุทาหรณ์นะครับ
จะนัดใคร นัดให้ดี คุยให้ดี อย่าคิดสนุกแค่ชั่วคราวนะครับ เพราะอาจจะเจอเรื่องหวิดดับแบบผมก็เป็นได้ ติดตามอ่านกันได้ครับ #ช่วยรีทวิตด้วยนะครับ
เรื่องของเรื่องคือว่า ตัวเราเองไปพักผ่อนที่ออนเซนแห่งหนึ่งย่านรามอินทรา ไปมาตั้งแต่วันจันทร์ ก็พักผ่อน และใช้เวลาอยู่ที่นั้นยันเข้าเช้าวันอังคาร พอตี 5 ได้เวลาที่ร้านจะต้องแจ้งว่า ร้านใกล้เวลาปิด เราเลยจึงเตรียมตัวขับรถกลับบ้าน
ระหว่างนั้น แอปสีส้มก็มีแจ้งเตือนขึ้นมา ว่า "สวัสดีครับ อยู่แถวนี้เหรอ มาหาเรามั้ย อยู่ใกล้ๆกันนี่เอง ไม่ไกลหรอก" ส่วนตัว ถามว่าตัวเราเหนื่อยมั้ย ง่วงมั้ย เพลียมั้ย ตอบเลยว่ามาก
แต่คิดอะไรก็ไม่รู้ สรุปว่าเออ ไปก็ไปว่ะ อยู่ตรงนี้เอง เลยตัดสินใจขับรถไป ก่อนไป เราก็นั่งพิมแชทบนรถบลาๆๆ เราก็ถามว่า เป็นแบบไหน
เค้าก็บอกว่าเป็นรุก ถามว่าพักอยู่กับใคร เค้าบอกอยู่คนเดียว เค้าก็พูดจาคุยดีเป็นปกติทุกอย่าง แต่เรารู้สึกแปลกๆใจอย่างบอกไม่ถูก
จากร้านออนเซน ไปยังจุดหมายที่ "พหลโยธิน 53 แยก 13" มันไม่ได้ไกลมาก แล้วคนที่ทักมา หน้าตาก็ค่อนข้างดีเลยครับ จึงคิดว่า อ่ะ ขับรถไป พอเราไปถึง ที่หมาย ปรากฏว่าซอยนั้น มันแคบ แคบมาก ขับรถเข้าไปได้ยากพอสมควร
เราจึงตัดสินใจติดต่อเค้าไปว่า มันมีที่จอดที่อื่นอีกมั้ย คนที่นัดเค้าเลยแนะนำว่า ให้จอดรถที่วัดสิ แล้วนั่งมอไซค์มา เราก็เลยวนรถไปจอดที่วัดแห่งนั้น แต่ไม่นั่งมอไซค์นะ "เดินเอา" เพราะมันไม่ได้ไกลมาก แล้วเค้าก็ถามขี้นมาว่า " อยู่ไหนแล้ว " เราก็ตอบไปว่า " เดินเข้าซอยอยู่ "
แต่คำตอบที่ได้กลับมาจากเค้า คือคำว่า "ทำมาเป็นรู้ดี" !!! เอ้า !!! ก็งงดิ ทำไมมาพูดจาแบบนี้ แต่เราก็มองโลกในแง่ดีไง
คิดไว้ว่า เออ พูดผ่านตัวอักษร มันก็ตีได้หลากหลายอารมณ์ เค้าคงพูดแนวขำขำแหละมั้งว่า แหม เดินมานี่รู้ใช่มั้ย ไม่กลัวหลงใช่มั้ย นี่คือคิดเองล้วนๆ
และแล้ว เราก็ถึงที่หมายในช่วงประมาณเกือบๆ 6 โมงเช้า ซึ่งที่หมายคือเป็นหอพัหแห่งนึง ย้ำ!! ว่าหอพักจริงๆ ตัวตึกสีขาว
แล้วบรรยากาศทุกอย่างรอบๆคือเงียบ เงียบมากจริงๆ วังเวงจนรู้สึกแปลกๆ แต่ก็คิดในแง่ดีอีกแหละครับ ว่ามันยังคงเช้ามากๆ เลยไม่ค่อยมีคนแถบนั้น
ไม่นาน ก็มีผู้ชายคนที่นัดเรา ติ๊ดการ์ดเปิดประตูออกมาจากหน้าอพาร์ทเม้นท์ เดินตรงมารับทักทายกันตามปกติ แล้วเราก็เดินตามเค้าเข้าไป โดยที่เราก็คอยสังเกตสถานที่อยู่ตลอดเวลา ว่าทางเข้าทางออกเป็นยังไง สรุปคือ ถ้าจะออกจากที่นี้ได้ ต้องมีการ์ดติ๊ดออกเท่านั้น
บรรยากาศทางเดิน วังเวงมาก มันเงียบไปหมด ไม่มีคนจริงๆ ตามหน้าห้องชั้น1 บริเวณทางเดินมีตู้ใหญ่ๆตั้งอยู่ครับ แบบตั้งติดพื้นเลย เค้าบอกเราเค้าอยู่ชั้น3 เค้าก็พาเราเดินขึ้นชั้น 3 จนถึงหน้าห้องเค้า เราชอคแบบชอคขั้นสุดจริงๆ
สิ่งที่ต้องเจอ คือ... เค้าเปิดประตูห้องเข้าไป เรามองผ่านช่องประตู เราเจอคนอีกคนอยู่ในห้องด้วย เป็นสิ่งที่ไม่ได้เตรียมตัวเตรียมใจมาก่อน เพราะเค้าก็บอกว่าอยู่คนเดียวแต่เปิดมางี้แล้วคืออะไรอ่ะ
จะหมู่หรืออะไรหรอ ถ้าจะหมู่มันต้องตกลงกันตั้งแต่แรกแล้วว่ามีกี่คนๆ ไม่ใช่มาเซอร์ไพรส์แบบนี้ หลังจากที่เราสตั้นไปแบบพักนึง
ก็ได้ยินเสียงว่า "มาสิครับ เข้ามาในห้องก่อน" เราก็เดินเข้าไปแบบรู้สึกยังไม่ปลอดภัยแต่ให้หนี ก็ชิ่งไม่ได้ ก็เข้าไปในห้อง เราหยุดยืนที่หลังประตู มองไปบนพื้นเห็นมาม่าสองชามวางบนพื้นข้างเตียง ซึ่งแบบ มันแปลกๆมั้ยอ่ะ นัดเย็ด แต่มาถึงมีมาม่า มีคนสองคน
แม่งมานั่งกินมาม่ากันเวลานี้คืออะไรว่ะ ตอนนั้นคำถามมากมายเกิดขึ้นในหัว จนรู้สึกไม่ปลอดภัยแล้วจริงๆ มันผิดปกติไปหมด
จนเราตัดสินใจแอบกดโทรหาเพื่อน ส่งโลเคชั่นให้ แล้วทิ้งข้อความให้โทรกลับหน่อย เพื่อจะได้ออกไปคุยข้างนอก แต่เพราะเช้ามากเพื่อนก็น่าจะหลับจนไม่ได้รับสายหรือตอบเรา ก็แอบกดโทรหาเพื่อนเป็นระยะ แต่เพื่อนก็ยังคงไม่รับสาย
ระหว่างนั้นเค้าสองคนยังคงนั่งกินมาม่า เราอึดอัดมากจนตัดสินใจลุกขึ้นแล้วบอกเค้าว่าขอโทรหาเพื่อนแปปนึงได้มั้ยครับ .... และแล้ว จุดพีคก็มาถึง
ไอ้คนที่นัดเรามันเงยหน้าตะโกนขึ้นมาเหมือนคนบ้าว่า " มึงเป็นเหี้ยอะไร !!!!!!! " เราชอคมาก มันตะโกนดังมาก และพูดว่า
"กูเห็นมึงมองเหยียดตั้งแต่ข้างล่างตั้งแต่กูไปรับมึงละ มึงเป็นเหี้ยไร มองกูแบบนั้นมึงเป็นเหี้ยอะไร สายตามึงแม่ง โคตรเหยียดเลยห่า "
จนเราเริ่มรู้สึกกลัวมาก งงมาก มากจริงๆ เราเลยบอกไปว่าเรายังไม่ได้นอน ไม่ได้มองเหยียดหรืออะไรเลย
ตอนนั้นคือสติเราหลุดล่ะ เรารีบเดินไปที่หน้าประตูห้อง สรุปมันลุกขึ้มาแล้วกระชากหัวเราจากด้านหลังเลย กระชากแรงมาก แล้วก็ด่าอะไรไม่รู้เวลานั้นหูเราดับไปหมด มันกระชากยื้อกันไปมา
อีกคนก็พูดแค่ พี่ใจเย็นนนน ยื้อสักพัก เราก็เปิดประตูห้องได้ มันผลักเราออกนอกประตูห้องพร้อมตะโกนด่าไล่หลังตามมาว่า เมิงออกไปไม่ได้หรอกอีเหี้ย มันต้องมีคีย์การ์ด....คือตอนนั้นคิดในใจกูตายแน่ๆ
เราวิ่งลงบันไดมาชั้น1 พอมาถึงประตูดันปิดและออกไม่ได้เพราะไม่มีการ์ด ไม่มีคนเข้าออกด้วยเวลานั้น สักพักมีเสียงคนเดินตามลงมาจากด้านบน
ปรากฎว่า "ประตูแม่งเปิดไม่ออกจริงๆ " ก็เลย ทำไงดีวะ !! นึกขึ้นได้ว่าชั้นล่าง มันมีตู้ใหญ่ให้แอบได้อยู่ แต่ไม่ได้เข้าไปแอบในตู้นะครับ
เราวิ่งไปแอบข้างตู้หน้าห้องใครไม่รู้ ด้านในสุดของชั้น1 ตอนนั้นบรรยากาศเงียบมาก แม่งบีบคั้นหัวใจมาก กลัวไปหมด
พอเราเข้าไปหลบ ขอบอกเลยว่า อารมณ์นี้คือหนังสยองขวัญไล่เชือดดีดีเลยครับ นึกได้ก็รีบปิดเสียงโทรศัพท์ กลัวมันดัง พยายามกลั้นหายใจสุดชีวิตกลัวมันได้ยินเสียงหอบ ไม่นาน
เราเริ่มได้ยินเสียงฝีเท้าคนเดินเบาๆ ตามบันได เสียงหยุดแถบหน้าประตู แล้วก็เงียบไปเรารออยู่พักนึงจนมั่นใจล่ะว่าเสียงฝีเท้ามันเงียบไป
เลยชะโงกหน้ามาดูที่ประตูปรากฎว่าไม่มีคนแล้ว ทำไงต่อไปหล่ะที่นี้ ยืนสั่นเปนลูกนกเลย กลัวจังหวะเดินออกไปแล้วมันโผล่ลงมา
คราวนี้ไม่รู้ว่าจะโดนอะไรอีก ก็เลยพยายามเงี่ยหูฟัง ว่ามีห้องไหนตื่นบ้างรึยัง จะได้ขอความช่วยเหลือ เราค่อยๆเดินออกมาแล้วยืนหน้าประตูห้องทีละห้อง
แล้วเหมือนมีเสียงแว่วๆในห้องไหนสักหักเปิดทีวีอยู่ มีเสียงคนคุยกันแต่ประเด็นคือไม่รู้ห้องไหนเพราะมันติดๆกันไปหมด
เราไปหยุดหน้าห้องนึง เอาหูแนบดูสรุปมีคนคุยจากห้องนี้ เราตัดสินใจเคาะประตูแบบเบาๆ เราเคาะอยู่สองสามรอบ สักพักมีเสียงผู้หญิงพูดขึ้นมาว่า เมิงเหมือนมีคนเคาะประตูเลย แล้วก็มีคนมาส่องที่ตาแมวหน้าประตู แต่ก็ไม่ได้เปิดประตู
เรานึกขึ้นได้เลยถอดแมสออกแล้วเคาะอีกที สักพักก็มีคนส่องอีกรอบแต่คราวนี้เปิดประตู เค้ามองมาที่เรา เรายืนสั่นหน้าซีด เค้าก็งงๆ ว่ามีอะไร
เราบอกเค้าว่า ช่วยหน่อยครับ ผมถูกนัดมาแล้วพอมาถึงโดนทำร้ายร่างกาย ผมเปิดประตูออกไปไม่ได้ ช่วยเปิดให้หน่อยได้มั้ยครับ
ตอนแรกเค้าเหมือนงงๆ อาจจะคิดว่าเราเป็นโจรรึเปล่าหรือเมายามา จนสักพักเค้าตั้งสติ เค้าเดินไปหยิบการ์ด เดินมาแล้วพาเราไปที่ประตู
ระหว่างเดินเค้าก็ถามว่าเกิดอะไรขึ้น เราก็เล่าแค่คร่าวๆ รีบไปที่ประตู พอประตูเปิดออกคือเราวิ่งแบบไม่คิดชีวิตเลย จากหอพัก ไปที่จอดรถคือประมาณกิโลนึง
เราเลยวิ่งไปหาวินแถวนั้น แล้วนั่งวินไปที่รถ เราดูมือถือปรากฎว่ามันบล็อคเราจากแอพนั้น ข้อความที่คุยทั้งหมดหายไป และไม่กี่นาที
มีน้องคนนึงทักเรามาจากแอพนั้น พิมถามเราว่า หายไปไหนแล้ว มาส่งของหรอ เราไม่รู้ว่าของที่ว่าคืออะไร ตอนนั้นหกโมงเช้า เราเลยบอกปัดไปว่า เรามาวัด ตามในแชทเลย
สักพักวินก็มาส่งเราถึงที่วัดในย่านนั้นที่เราจอดรถอยู่ น้องคนนั้นก็ยังคงทักมา เราขึ้นรถรีบขับออกจากจุดนั้น ออกมาได้สักพักน้องคนนั้นก็แบบพยายามชวนคุย ทักมาถามนั่นนี่ ถามเรามาทำไรแถวนี้ เราเลยบอกว่าเราหนีตายมา
มันก็แบบเหมือนพยายามให้เราเล่า เราก็คลั่งอยู่คือกลัวมันขับตามมา สักพักพีคอีกรอบนึงคือ อิน้องคนนั้นมันก็ชวนคุยพูดจาแปลกๆ เราเลยถามว่าอยู่แถวนั้นหรอ
น้องตอบมาว่า ผมอยู่ "พหลโยธิน53" เรารีบถามต่อ แยกไหนครับ น้องตอบ "ผมอยู่แยก13ครับ" เหี้ยแล้วไงคือซอยเดียวกัน แยกเดียวกันเด๊ะ เราเลยชิ่งถามต่อ พักตึกขาวในสุดรึเปล่า ?
น้องตอบว่าแถวๆนั้นครับ เราเริ่มหลอน อารมณ์เหมือนโดนตามพิกัดจากแอพอีกครั้ง ก่อนจะกดปุ่มบล็อกน้องทิ้ง น้องก็พิมมาตามรูปที่แนบ
เราเลยนึกขึ้นได้ มันคืออีกคนนึงที่อยู่ในห้องตอนนั้นแน่นอน เพราะถ้าคนอื่นคงไม่รู้รายละเอียด แต่ที่สำคัญคือมันตามทักมาทำไมอีกหลังออกจากห้อง
เราตัดสินใจบล็อคทุกอย่างของมันทั้งหมด แต่น่าเสียดายที่ลืมแคปข้อความในไลน์ที่มันคุย พอบล็อคข้อความเลยหายไป เราก็เลยรีบแคปรูปของมันทั้งหมดไว้
จนเราขับรถถึงบ้าน เราก็พยายามเสิร์ชหาจากชื่อที่ใช้ในไลน์ แล้วเราก็เจอทั้งไอจี ทั้งเฟสบุ๊ค ของคนที่นัดเรา
สรุปที่พีคไปอีกคือ เราว่าเค้าค่อนข้างมีคนติดตามเยอะจากไอจี คนฟอล 40 k และดูจากโพรไฟล์ ที่เขียนไว้ว่าเป็นพิธีกร นักแสดง
ทำงานสายบันเทิงคือเรายิ่งงงไปอีก ว่าคนที่ดูว่ามาจากสายสว่างแบบนี้จะมีพฤติกรรมที่น่ากลัวขนาดนี้ คือรู้หน้าไม่รู้ใจจริงๆ
ตอนนี้โดยรวมคือเรายังแพนิคกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด ว่ามันเกิดเพราะอะไร จะนัดเย็ดก็ไม่ใช่ จะปล้นทรัพย์ก็ไม่ใช่ เค้าก็ดูมีฐานะ หน้าตาทางสังคม คือเราไม่รู้เลยจนบัดนี้
เราตัดสินใจเล่าเป็นอุทาหรณ์คนที่เล่นแอพนัดยิ้ม หรืออะไรก็แล้วแต่ ทั้งที่ตอนนี้เราก็กลัวมากนะว่าเค้าจะมาอ่านเจอ หรือเพื่อนเค้าอ่านเจอ แล้วยิ่งรู้ว่าเป็นคนที่มีคนติดตามเยอะเรายิ่งรู้สึกไม่ปลอดภัย
แต่เราก็ต้องเล่า เพราะไม่รู้มีใครเคยโดนรึเปล่า หรือป้องกันคนที่จะโดนต่อจากเรา สุดท้ายนี้คืออยากให้ได้อ่านเป็นบทเรียน
การที่จะนัดเจอคนแปลกหน้าทั้งที่พาเค้ามาในที่ของเราหรือเราไปหาเค้าถึงที่ คืออันตรายรอบด้านจริงๆไม่ว่าจะโดนปล้นหรือทำร้ายร่างกายต้องระวังกันด้วย
ตอนนี้เราปลอดภัยดีเหลืออาการแพนิคนิดหน่อย ขอบคุณทุก dm ที่เป็นห่วงนะครับ (ตอนจบ) ป.ล. ตอนนี้คนทวิตเยอะจนเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยมาก
เพราะที่หลอนกว่าเดิมคือมีคนเดิมมาแล้วพูดชื่อมาเลยว่าคนนี้รึเปล่าพี่ผมโดนมาเหมือนกัน สรุปแม่งคือคนเดียวกันจริงๆ อันนี้ต้องระวังจริงจังแล้วนะ เป็นบุคคลอันตรายจริงๆ
#ข้อมูลเพิ่มเติมที่ได้มา เค้าอาจจะเป็นเจ้าของตึก ที่ พหลโยธิน 53 แยก13 แต่บ้านจริงๆไม่ได้อยู่แถวนั้นครับ เพราะมีน้องคนที่โดนเหมือนกัน
โดนคนเดียวกันแต่ น้องเค้าไปหาที่บ้านย่านรัตนาธิเบศร์ ใครเล่นแอพย่านนั้นก็เล่นด้วยความไม่ประมาทนะครับ
#เพิ่มเติมอีก ตอนนี้มีคนที่โดนเหมือนกัน ใกล้เคียงกันจำนวนหลายคนพอสมควรจากที่ดีเอ็มมาแล้วพูดชื่อขึ้นมาเลย
แล้วคือคนเดียวกัน แต่โดนต่างสถานที่กันหมด
ข้อมูลเพิ่มเติมที่น้องเค้าพูดคือ คนนี้ชอบเด็ก นัดเด็ก แล้วก็มีพฤติกรรมเกรี้ยวกราด ทำร้ายร่างกายเหมือนกันหมด ทุกคนเล่าตรงกันใบหน้าตกใจเหงื่อตก
เจ้าของหอพักตัวจริง ติดต่อมาแล้ว สรุปทั้งคนนัดและน้องคนนั้นเป็นคนแอบอ้างว่าเค้าเป็นเจ้าของหอ ซึ่งไม่ใช่ ตอนนี้เจ้าของหอจึงเปิดภาพจากกล้องวงจรปิดสถานที่เกิดเหตุ"
#เรื่องสยองสำหรับคนชอบนัดเยผ่านแอพ ถือเป็นอุทาหรณ์ที่ดี และ เตือนภัยสำหรับคนที่ชอบนัดคนไม่รู้จักกันด้วย !
ภาพ และ ข้อมูล แป๊ะซะ ig @paezaa_pb , รายการแฉ , ทวิตเตอร์
แท็ก : แป๊ะซะนักข่าว , แป๊ะซะ เกย์ , แป๊ะซะ ดารา , ดาราแป๊ะซะ , แปะซะนักข่าว , นักข่าวชื่อแป๊ะซะ , นักข่าว แป๊ะซะ , แป๊ะซะพิธีกร ig , เพื่อนแตงโมที่เป็นเกย์ , แป๊ะซะ พิชัยภูษิต , แป๊ะซะ นักข่าว , เกย์เพื่อนแตงโม , แป๊ะซะ เพื่อนแตงโม , พิชัยภูษิต บุตรเนียม , แป๊ะซะ พิธีกร , ดีเจแป๊ะซะ , แปะซะพิธีกร , พิชัยภูษิตบุตรเนียม , ข่าวแป๊ะซะ , พิธีกรแป๊ะซะ , เพื่อนแตงโมพิธีกร
03 สิงหาคม 2563
ผู้ชม 10137 ครั้ง